รีวิวตอน 1. แชร์ประสบการณ์ตกเครื่อง กระเป๋าหาย แถมรีวิวพร้อมที่พัก 1 คืน ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย

รีวิวตอน 2. ขอบฟ้านั้นอยู่หนใด เอ๊ะนั่นไงที่ "ลียง"

*** รีวิวนี้ ผมเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายและบริการเองทั้งหมด และเพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางของหลายๆท่าน ผมเลยนำประสบการณ์ที่ผมได้รับมา รีวิว ครับ สำหรับรีวิวเต็มๆ ผมจะค่อยๆทยอยเขียนรีวิวให้ชมกันครับ

หากท่านต้องการสอบถาม พูดคุย กับผมมีอีกช่องทางนึงครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog inbox message มาคุยกับผมได้เลยครับ

มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ผมนั่งรถไฟจากลียงโดยรถไฟ TER ค่าโดยสาร 28.2 e ที่สถานีรถไฟ Gare de Lyon เลยครับ การซื้อตั๋วก็สามารถซื้อได้ที่ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติได้เลยครับ ซื้อแล้วอย่าลืม validate ตั๋วที่เครื่อง validate ตั๋วสีเหลืองสูงประมาณเอว ซึ่งมีอยู่ทั่วสถานีครับ ผมเดินทางมาถึงสถานีรถไฟ Lyon มาถึง Geneva ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหน่อยๆครับ มาถึงก็หิวแล้วจร้า อาหารที่นี่ค่อนข้างแพงครับ ผมเลยเข้า Supermarket Migros ดูจะเป็นอะไรที่ถูกหน่อย จริงๆแล้วมีร้านสะดวกซื้ออยู่ประมาณ 2-3 แห่งในบริเวณนั้นครับ ส่วนด้านล่างชั้นใต้ดินก็จะมีร้านพวกแฟชั่น สินค้า เสื้อผ้า รองเท้า อะไรประมาณนั้น และเป็นทางที่ข้ามไปอีกฟากนึงของถนน เพื่อที่จะไปโรงแรมผมได้เลยครับ ผมจองโรงแรมไว้ที่ Hotel Cristal Design ครับ โรงแรมที่ยุโรปส่วนใหญ่จะให้เช็คอินบ่ายสามนะครับ เราก็จัดแจงเอากระเป๋าไปฝากแล้ว แล้วออกไปเที่ยวกันเลยครับ

อ้อลืมบอกอีกอย่างครับ ถ้าท่านจองโรงแรมที่นี่แล้ว ท่านจะได้ตั๋ว Transportation ใน Geneva ในแต่ละวัน ท่านสามารถใช้ตั๋วนี้ใช้ในการคมนาคมใน Geneva ได้เลยครับ ไม่รอช้าจุดมุ่งหมายแรกที่ผมจะพาไปคือ United Nation ครับ หรือองค์กรสหประชาชาตินั่นเองครับ จากหน้าสถานี Geneva ผมนั่ง Tram ที่จะไปสถานี Nation นะครับ นั่งไปสุดสายเลย ไม่นานครับ

Tram จะมาจอดที่สถานี Nation ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายคือที่นี่ครับ

บริเวณที่เด่นๆสำหรับจุดๆนี้คือ ท้องฟ้า มันฟ้ามากๆ มีธงของเหล่าสมาชิกใน UN ดูสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ดีครับ ที่ขาดไม่ได้คือเก้าอี้สามขา เข้าใจประมาณว่า เก้าอี้ถึงขาจะหักไปข้างนึงแต่มันก็ยังตั้งอยู่ได้ เปรียบกับสมาชิกในกลุ่มอะไรประมาณนั้น (ถ้าผิดขออภัยครับ) อ่านผ่านๆเลยไม่ค่อยได้สนใจความหมายมาก ฮ่าๆๆ

หลังจากอยู่ที่ UN ได้ซักพัก มีน้องสาวในกลุ่มเราสังเกตุตอนนั่งอยู่บน Tram สาย 15 ก่อนที่จะถึง Nation ว่าบริเวณนี้มี University of Geneve เลยจัดซักหน่อย น้องเค้าสนใจเรื่องการศึกษาอยู่แล้ว เลยขอเดินเข้าไปชมซักหน่อยครับ เดินย้อนจาก UN มาทางรถไฟ Tram ซัก 100 - 200 เมตรเองครับ

อยากย้อนกลับไปวัยเด็ก เรียนที่นี่คงจะฟินน่าดู อิอิ ชอบบรรยากาศมากๆเลยอ่ะครับ

เดินเล่นซักพักนึงใช้เวลาไม่นานครับ ผมจะพาทุกท่านเป็นเดินเที่ยวตลาดท้องถิ่นกันครับ บอกไว้ก่อนว่าตลาดนี้ผมมาสองครั้งแล้วล่ะ และผมก็มาวันเสาร์ตลอด เลยไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเปิดวันไหนบ้าง ถ้าชัวร์ก็ให้มาวันเสาร์นะครับ เป็นประมาณขับรถมาเปิดท้ายขายของอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ

สินค้าที่นี่มีทุกประเภทครับ เสื้อ ผ้า กระเป๋า หนังสือ ของเล่น ของเล็กๆน้อยๆ ยันจานดาวเทียม เสาป้ายบอกทางบนถนนก็ยังมี การมาที่นี่ไม่ยากครับ ก็นั่งสาย Tram สาย15 สายเดิมแหละครับ ผ่านหน้าสถานี Geneva แล้วให้เลยไปลงที่สถานี Cirque ตรงนั้นเป็นบริเวณกว้างมากๆ พอๆกับสนามหลวงได้ ประมาณเอานะครับ ซึ่งเค้าจะวางสินค้าริมขอบทางเดินครับ

เดินตลาดได้พักใหญ่ๆครับ ตรงสถานี Cirque อ่ะครับ ท่านจะเห็นแยกเดินขึ้นไปซัก 200 - 300 เมตรครับจะเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ Bastion

ด้านหน้าจะมีกระดานหมากรุกฝรั่งหลายกระดาน เอาจริงๆแล้วดูเคร่งเครียดกันมากกว่าจะคลายเครียดนะครับ ฮ่าๆๆ

เดินเข้ามาด้านในก็สวยงามไม่แพ้ด้านนอกครับ

หลังจากดื่มด่ำกับดอกไม้ใบหญ้ากันพอใจแล้ว เรากลับมาตั้งต้นกันใหม่ที่โรมแรมของเราครับ เราเดินตามถนนที่ใกล้ๆโรงแรมไปเรื่อยๆ แน่นอนครับผมจะพาทุกท่านไป Jet'D Eau น้ำพุที่เป็นเอกลักษณ์ของเจนีวาครับ เห็นไกลๆนู่น ใกล้ถึงละ

เขยิบเข้ามาใกล้ๆล่ะครับ

อีกซักรูป ท่านสามารถนั่งเรือนี้ข้ามฟากไปชม Flower Clock (ซึ่งช่วงที่ผมไปปิดซ่อมแซมครับ) หรือจะเดินไปก็ได้ครับ ส่วนผมเลือกเดินผม

สุดท้ายคือภาพในตัวเมืองในแหล่ง Shoping ครับ ไม่ค่อยได้อะไรมากครับ เพราะแพง ฮ่าๆๆ ท่านใดผ่านสวิตเซอร์แลนด์มาได้ ประเทศอื่นหายห่วงล่ะคับ (มีหลายท่านได้กล่าวไว้)

สุดท้ายนี้ หากข้อมูลใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ก่อนด้วยนะครับ หากสนใจหรือสอบถามอะไร สอบถามผมได้เลยครับ inbox หรือ like Fan Page ผมมาคุยกันได้ครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog ครับ