มาแว้ว!!! วันหยุด
ถึงเวลาวันหยุดของพวกเรา!! ชาวมนุษย์เงินเดือน+++
ก้อต้องออกเที่ยว ออกหาไรกินกันหน่อย พักผ่อนนั่งผ่อนคลายในกรุงเทพ
ทริปหนึ่งวัน เที่ยวใกล้กรุง ปล่อยอารมณ์ ปล่อยกาย ปล่อยใจ ไปกับเราเลย
มุ่งหน้าไปร้านกาแฟริมน้ำที่ไม่ไกลมาก อยู่แถว ถ.บางกรวย-จงถนอม ใกล้ๆกับวัดชลอ บางกรวย นนทบุรี
เพื่อได้พบกับร้านนี้ ตั้งร้านอยู่ตรงคอสะพานระหว่าง อำเภอ/โรงพยาบาลบางกรวย
อาลมดีคาเฟ่ เป็นร้านกาแฟริมน้ำเหมาะกับเป็นที่พักผ่อนทานอาหารชิลล์ๆ พร้อมชมวิถีชีวิตคนริมคลอง
ร้านนี้มีโต๊ะนั่ง 2 โซน คือ โซน Open ด้านนอก นั่งรับลมเย็น ๆ และโซนห้องแอร์
เรากันประมาณเกือบๆเที่ยง เลยสั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้วกับขนมหวานคนละนิดคนละหน่อย กินกันเล่นๆ
เมนูไอติมโฮมเมดประจำร้าน
เมนูเครื่องดื่ม
บรรยากาศโซน Open air
หน้าตาเครื่องดื่มที่เราสั่งมากินกันค่ะ
ปังติมเนยค่ะ
นมโอรีโอ น่ากินกันเลยทีเดียว+++
ถ้านั่งริมน้ำ มองออกไปจะเห็นเป็นแบบนี้ค่ะ เห็นเรือวิ่งไปมา
มาตอนเที่ยงๆ แดดค่อนข้างแรง แสงมันสว่างตามากๆ ควรมาสักเย็นๆหน่อย แดดเบาๆ
จากนั้นเราจึงไปกันต่อที่ตลาดคลองบางหลวง สวรรค์เล็กๆ ในเมืองกรุง
การเดินทางมาชุมชนคลองบางหลวงสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 หรือจะเข้าจากทางฝั่งเพชรเกษม ที่วัดคูหาสวรรค์ สุดซอยเพชรเกษม 28 แล้วจอดรถที่วัดแล้วเดินเรียบคลองมาก็ได้เช่นกัน หรือจะจอดรถ ที่วัดกำแพง (บางจาก) อยู่สุดซอยเพชรเกษม 20 ก็ได้จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย เดินเลียบคลอง เป็นทางเดินเล็กๆ ขึ้นสะพาน ฉันเข้ามาทางซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 ซึ่งจะสะดวกสุด
เราเดินทางไปจากร้านอาลมดีคาเฟ่ ก้ออยู่ไม่ไกลจากที่นี่มาก วิ่งจากเส้นบางกรวยออกลัดมาทางถนนบรมราชชนนีแล้ววนกลับรถ
ออกไปทางเส้นราชพฤกษ์ พิกัด 13°43'48. 100°27'50 เข้าทางซอยราชพฤกษ์ 6 มุ่งหน้าไปที่วัดกำแพง สามารถจอดรถได้ที่นี่ ที่วัดกำแพง (บางจาก) ทางเข้าไปเป็นซอยชุมชนค่อนข้างแคบ มีป้ายบอกทางเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหลง เมื่อถึงวัดกำแพง เดินลัดเลาะริมคลองไปหน่อยก็จะเจอบ้านศิลปิน
ที่นี่ ใครอยากพัก ปล่อยอารมณ์ อยากหาที่นั่งเล่นชมวิว ได้พักและได้เพลิดเพลินไปกับงานศิลป์
ลมเย็นพัดผ่านหน้า นั่งให้อาหารปลาริมน้ำ
ได้โอกาสชมการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยอย่างการแสดงเชิดหุ่นละครเล็ก ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบันโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
การแสดงจะแสดงเวลาบ่ายสองของทุกวัน มีตู้ให้ช่วยบริจาค บริจาคกันได้เลย มีกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาชมกันด้วย
วันนี้เราได้ชมตอน หนุมานกับมัจฉานุ ซึ่งเป็นลูกของหนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา
การแสดงค่อนข้างเป็นกันเอง มีแอบแฝงตลกๆนิดๆ เข้าไปด้วย
ตอนเล่นจบ ให้ทุกคนได้เข้าร่วมถ่ายภาพได้ด้วย ก้อเลยเอาสักหน่อยยยยยยย+++++
ชมการแสดงเสร็จก้อพักผ่อนชิวๆ
ภายในบ้านศิลปิน มีมุมหนังสือ โปสการ์ดสวยๆ ภาพพิมพ์ ของที่ระลึกงานศิลปะต่างๆ และกาแฟสด ข้าวแกง สาคูไส้หมูทำสดๆ
อร่อยดีค่ะ ราคาไม่แพง ราคาชาวบ้าน
บ้านศิลปินมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นมุมขายของที่ระลึกพักผ่อน จิบเครื่องดื่ม
มีมุมให้เด็กๆได้สร้างศิลปะกัน
ส่วนชั้น 2 จะเป็นที่แสดงผลงานแกลลอลี่ภาพถ่าย ซึ่งจำหน่ายด้วย
มุมโต๊ะทำงานชั้นบน
หุ่นละครเล็กตั้งโชว์ให้ชมค่ะ
มุมเด็ดของที่นี่เลย ใครมาต้องมาถ่ายกะพี่เค้า ใครนั่งเรือมาต้องสะดุดตาทันที
ที่แปลกมากๆ ภายในบ้าน มีเจดีย์เก่าๆตั้งอยู่กลางบ้านเลยทีเดียว
ในขณะที่เรานั่งอยู่ริมแม่น้ำ เรือหางยาวนำนักท่องเที่ยวแล่น ผ่านไปมาเกือบตลอดทั้งวัน ตลอดทุกๆนาทีเลยก้อว่าได้
และนี่ก็คือเสน่ห์และความน่าสนใจของที่นี่ คนบนเรือหลายคนยิ้มและโบกมือทักทายให้คนบนฝั่ง เป็นภาพที่น่ารักจริงๆ
เราใช้เวลาอยู่ที่นานพอสมควร เดินเที่ยวจนทั่ว นั่งชิวชมวิวริมน้ำ ให้อาหารปลาสุขสมใจ สูดธรรมชาติ ปลิดชีวิตคนกรุง เต็มอิ่มแล้ว
ถึงเวลากลับกันละชุมชนนี้เป็นเพียงชุมชนเล็กมีระยะเดินสายสั้นๆ ถือได้ว่าเป็นสวรรค์เล็กๆ ในเมืองกรุง อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
Justvisit for_once
วันพฤหัสที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.45 น.