เช้านี้ตื่นมารอนาฬิกาปลุก.... ไม่ใช่เพราะนอนไม่หลับ แต่เช้านี้เราจะเปลี่ยนเมือง จากที่Munich ,Germany ไปที่ Innsbruck,Austria เวลาเที่ยวใน Munich เรามีน้อยเหลือเกิน เราPlan ไว้วันเดียวเพราะตั้งใจจะใช้แวะเพื่อต่อไปยัง Innsbruck,Austria
Munich ต้อนรับเราด้วยความชุ่มฉ่ำ ทั้งวัน และ ทั้งคืน เราถามไถ่ท้องฟ้าว่าไปเสียใจอะไรมาถึงได้ปล่อยโฮ....ขนานใหญ่ใส่เรา แต่เงียบ...ไม่ได้คำตอบจากคนข้างบน การร้องไห้ยังคงดำเนินต่อไป คงยังเสียใจอยู่ไม่น้อย...เอาเลยปล่อยให้เต็มที่ไม่ต้องห่วงเรา เราโอเค เราเลยปล่อยให้วัน และ คืนผ่านไปโดยที่ไม่ได้ออกไปไหน
หลังจากการชาร์จแบตตัวเองแบบข้ามวัน ข้ามคืน เลยทำให้มีแรงขาเหลือเฟือ ที่จะออกไปผจญโลกกว้าง เราวิ่งจากโรงแรมที่เราพักไม่ไกล เราก็เจอ Karl Platz
มองเห็นร้านขายกระเป๋า ตรงนั้นไหม ชื่อร้าน "LEDERWAREN" เป็นร้านที่ขายกระเป๋าสารพัดยี่ห้อ มีทั้งยี่ห้อ RIMOWA, SAMSONITE และอื่น ๆ ที่ถูกกว่าเมืองไทยมากอยู่ (ถ้าใครมาVienna และจะเลยมา Munich ด้วย ขอร้องอย่าเพิ่งซื้อที่ร้านที่ Vienna ให้มาซื้อที่นี่ ที่ Munich ถูกกว่าเยอะ) มีทั้งกระเป๋าเดินทาง มีทั้งกระเป๋าสะพาย ขนาด Clush ที่สาว ๆ เอาไว้ถือเกร๋ ๆ ก็มีกันอีกด้วย
รูปในร้านประมาณนี้ ฝ่าฝนไปมาเมื่อวาน...
กลับมาที่ Karl Platz ที่นี่ คือถนนShopping ที่เชื่อมต่อกับ Marian platz ที่ซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับขา Shop ทั้งหลาย - ย้ำอีกทีนะ มันถูกว่าที่อื่นมาก ถ้ามีเวลา แวะมาละลายทรัพย์ที่ Munich ได้จร้า
ได้แต่มอง ...
เราค้นพบว่าการวิ่งในแหล่ง Shopping นั้น ไม่ได้ประโยชน์อันใด วิ่งแล้วก็หยุด แล้วก็วิ่งแล้วก็หยุด เราจึงตัดสินใจกันว่า วิ่งกลับโรงแรมเหอะ แล้วกลับมาใหม่ ตอนที่ร้านรวงเปิดแล้ว... อยากละลายทรัพย์บ้าง..ว่างั้น
พวกเรากลับมาแล้ว สารพัดร้านรวงเพิ่งจะเปิด ผู้คนเริ่มเดินกันขวักไขว่ แต่ร้านที่ดูจะเบี่ยงเบนความสนใจและดึงดูดเงินออกจากกระเป๋าตังค์เราได้เร็วกว่าเพื่อน คงไม่พ้นร้านผลไม้ที่ขายกันริมถนน ถ้าเปรียบเทียบคงเป็นรถขายผลไม้บ้านเรา ที่มีทั้งแตงโม มะละกอ ฝรั่ง สัปปะรด แต่ผลไม้ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น สำหรับที่นี่หาได้ใน Supermarket เท่านั้น ส่วนสตรอเบอรี่มีเกลื่อนกลาดดาษดา ไม่มีใครตื่นเต้นตาโตกับ ความแดง และ ความใหญ่ของมัน คงมีแต่... พวกเรา
สรุปด้วยเวลาที่มี เลยได้แต่เดินดูของหน้าร้าน ไม่ได้ซื้ออะไร ไม่ใช่เพราะตังค์ไม่มีนะ แต่ด้วยเพราะความเร่งรีบและข้อจำกัดด้านเวลาต่างหากทำให้เราไม่มีอะไรกลับไปฝากใครเลยยกเว้นรูปถ่าย (จริง ๆ แล้ว คุณ ๆก็รู้ใช่ไหม ว่าอะไรคือสาเหตุหลักที่เราได้แต่เดินดู ฮา ....
เรารีบออกจากแหล่ง Shopping ชื่อดังของเมืองโดยไม่มีความอาลัยอาวรณ์ให้กับร้านรวงที่ส่งสายตาอ้อนวอนให้ ที่จากไปไม่ใช่เพราะต้องตัดใจ แต่เราไม่รู้จะซื้ออะไรจริงๆ รองเท้าก็มีแล้ว เสื้อผ้าก็มีล้นตู้ เพียงแค่เรารู้จักว่า "พอ" เราว่าการเดินทางก็สนุกได้ไม่แพ้กัน
ทั้ง 8 เท้ารีบจ้ำอ้าวกลับโรงแรม รีบไปให้ทันรถไฟรอบเที่ยงเพื่อไป Innsbruck เราขึ้นรถไฟมาด้วยความทุลักทุเล น่าจะปน ๆ ทุเรศนิด ๆ เราเหนื่อย เราหอบ เราของเยอะ แต่เรายังยิ้มให้กัน อะไรทำให้เราเหนื่อย เพราะเรากะเวลาน้อยไป เพราะไปผิดชานชลา เพราะเราขึ้นรถไฟผิดโบกี้.... แต่เรายังหัวเราะกับมัน
การเดินทางที่สนุก อย่าไปยึดติดกับมันมาก การเดินทางเราอาจจะไม่ถึงปลายทางแต่ระหว่างทางยังไงเราก็ต้องผ่านแน่ ๆ ปล่อยใจ แล้วสนุกไปกับมัน...
อย่างที่บอกขึ้นรถไฟด้วยความทุลักทุเล จนตำรวจต้องเข้ามาดู Passport พอรู้ว่ามาจาก Thailand นางก็สวัสดีครับใส่เลย ..... อยู่เป็นนะเราน่ะ
ได้ที่นั่งแล้ว หยิบอะไรขึ้นมาทานนิโหน่ย ... มีคุณลุงชาวเยอรมัน (ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้) เดินเข้ามาทักทาย(ด้วยภาษาบ้านเค้า) เราต่างยิ้มให้กันแทนคำตอบ เราแลกเปลี่ยนที่มา และ จุดหมายที่จะไปด้วยชื่อเมืองสั้น ๆ ก่อนแยกย้ายเราแลกเปลี่ยนรูปถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก.... มิตรภาพ เกิดขึ้นง่ายๆ แค่นี้
ถึงแล้วจ้า Innsbruck
เมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขา
แต่วันนี้เรามาถึงค่อยข้างเย็นแล้ว ไปเช็คอินก่อนดีกว่า คืนนี้นอนที่โรงแรม Hotel Zach Innsbruck เป็นโรงแรมขนาด 3 ดาว ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานี
เราเลือก Hotel Zach Innsbruck ไม่ใช่เพราะด้วยราคา แต่ด้วยเพราะการ Design และ เป็นโรงแรมใหม่ (เพิ่ง Renovate เสร็จไปเมื่อ ปลายปี 2015) ภายใน Design สวยมาก Counter ผนัง และ โคมไฟ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร พนักงานอธิบายทุกอย่างที่เราควรรู้ ไม่ใช่แค่เรื่องภายในโรงแรม รวมไปถึง การขึ้นรถบัส การซื้อบัตร Innsbruck Card หรือแม้แต่สถานที่ ที่ควรไปเยี่ยมชม
ประตูด้านหน้า จะเปิด 7 โมงเช้า และ ปิด 4 ทุ่ม ถ้าจะเที่ยวจนผิดเวลา (ไม่มีร้านเปิดให้ผิดเวลาอ่ะค่ะคุณ) ให้เข้าทางประตูลานจอดรถ Security ดีมากกกก
ทางเดินเข้า และ ที่นั่งบริเวณ Lobby Design ได้ เรียบ ง่าย แม้แต่ต้นไม้และดอกไม้ที่ประดับยังไม่ฟุ่มเฟือย แต่ดูลงตัวเข้ากันไปหมด
ขึ้นมาบนห้อง ห้องใหญ่ทีดียว สามารถนอนได้ 4 คน มีประตูกั้นทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างห้อง วันนี้ได้วิวสวนของโรงแรม เย็นแล้วรีบ ออกไปหาอะไรทานดีกว่าค่ะ
การฉลองไม่ต้องมีความสำเร็จที่ิยิ่งใหญ่ เราดื่มขอบคุณให้กับทุกมิตรภาพที่เราได้พบเจอระหว่างทางค่ะ ..... แด่ทุกรอยยิ้ม แด่ทุกเสียงหัวเราะ และ แด่นักเดินทางทุกคนที่ทำให้ระหว่างทางมีความหมายขึ้นมากขึ้น
Habitat PoM
วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.55 น.