เมื่อย่างเข้ากลางฤดูฝนพืชพันธ์ไม้ต่างชุ่มชื่น สดชื่นเขียวขจี ทั้งไม้เล็กไม้ใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้กลีบบางใสสีม่วงอ่อน ที่เรียกเค้าว่า "ดอกหงอนนาค" ออกดอกชูสะพั่งท้าทายสายฝน มีช่วงเวลาบานช่วงเช้า รับแสงและไอหมอกฝนที่ผัดผ่านไม่รู้จบ บนลานทุ่งสอยดาว ณ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อันได้ชื่อว่ามีทุ่งดอกหงอนนาคที่สวยที่สุดก็ว่าได้ ด้วยลานสนโล่งบนภูเขาระดับความสูง 1600เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์อันสวยงาม เสน่ห์ยามฝนพร่ำหมอกไหลลิ่งลอยผ่านทุ่งดอกไม้สีม่วงจางๆ ช่างเป็นสุดยอดวิวอันแสนโรแมนติก
เกริ่นนำมานาน ช่วงนี้ย่างเข้าสู่กลางหน้าฝน ดอกหงอนนาคเริ่มบานจึงเป้นช่วงน่าเที่ยวบนภูสอยดาวอีกช่วงหนึ่ง ผมขออนุญาตไม่รีวิววีธีการเดินทางน่ะครับเพราะข้อมูลในที่ต่างๆละเอียดมากๆอยู่แล้ว ขอเปิดมุมมองในฐานะช่างภาพคนหนึ่งที่พยายามดึงเอาความสวยงามมาให้ทุกท่านได้ชื่นชม เชื้อเชิญให้ได้ไปสัมผัสสวรรค์ทุ่งหงอนนาคแห่งนี้
การที่จะเข้าถึงลานสนภูสอยดาวเราต้องเดินเท้าขึ้นเขาระยะทาง 6 กม. ผ่านเนินสูงและทางลื่นจากสายฝนที่โปรยปรายได้ทุกเวลา แต่วิวระหว่างทางก็ช่างสวยงามจนลืมเหนื่อยได้เช่นกัน จนกระทั้งเราผ่านเนินมรณะ ไปได้ก็จะขึ้นสู่สวรงสวคค์ก็มิปาน
กางเต้นท์เรียบร้อยก็คล้อยบ่ายหรือบางคนอาจจะเย็นย่ำค่ำได้ ก็ถือว่าเป็นวันแรกที่แสนทรหด ทำอาหารเสร็จสองคนกับภรรยาก็นั่งฟังเสียงฝนตกมาเป็นระยะๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ลมตัวลงนอนพักเอาแรง ได้เครื่องดื่มร้อนๆอบอุ่นร่างกายคลายหนาวจากสายฝนและสายหมอกลงไปได้บ้าง
เช้าล้างหน้ายังไม่ทันเสร็จสายตามันก็สำรวจออกไปยังทุ่งกว้าง หมอกไหลจางๆ แสงยามเช้า จะช้าอยู่ใยคว้ากล้องออกไปเก็บภาพสวยๆ ในทันที
สายๆนักท่องเที่ยวเริ่มออกมาชมความงามถ่ายภาพกันอย่างมีความสุข ช่วงเช้าอันสดใสหมอกจางๆ และหนักเป็นช่วงๆให้ความสดชื่นสูดได้เต็มปอด
ช่วงบ่ายๆ เดินลงทางชันไปนั่งเล่นน้ำตกให้คลายร้อน แต่สักพักฝนก็พร่ำลงมาทางเริ่มลื่นจึงรีบเดินขึ้นจากน้ำตกสายทิพย์ มนต์เสน่ห์มอสตะไคร้สีเขียวขจีที่เกาะอยู่ตามโขดหิน กับสายน้ำเล็กๆ ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม
เต็มอิ่มกับวิวกลับมาเต้นท์ที่พัก เอนหลังทำอาหารเย็นทานสองคนกับภรรยา มีแอลกอฮอล์แก้เมื่อยล้าเล็กน้อยพออุ่นจากหมอกฝนและอากาศเย็นๆบนภูสูง คืนนี้เราโชคดีฟ้าเปิดส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้เราก่อนกลับ ฟ้าเปิดให้เห็น ทางช้างเผือก ช่างสวยงามบนภูสอยดาว อีกภาพถ่ายที่ผมฝันมานานที่จะได้ถ่ายเค้า เนื่องจากช่วงฟ้าเปิดในฤดูฝนนั้นค่อนข้างยากที่เดียว ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นงามจากภูสอยดาวจริงๆ นอนหลับฝันดีที่เดียว
เช้าวันที่สอง ได้เวลาเดินทางกลับลงจากภูสอยดาว ฝนกระหน่ำตั้งแต่เช้าเช่นเดิม ดอกหงอนนาคยังไม่ทันบานเราจำต้องเดินจากลามาก่อน ..... ยังมีมุมสวยๆที่ให้เราไปเก็บอีกเยอะ ปีนี้ 2560 อาจจะได้เจอกันอีกรอบน่ะภูสอยดาว
หมายเหตุ : ภาพที่นำมารีวิวเป็นภาพที่ถ่ายเมื่อปี 2559 น่ะครับ
Suwit Gamolglang
วันพฤหัสที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.37 น.