สวัสดีครับ once-a-month ครั้งนี้ เราขับรถไปดูทะเลหมอกที่ " เขาค้อ - ภูทับเบิก " กันครับ

พวกผมอยากไปนานแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดทริปไปกันสักที

ครั้งนี้วันหยุดยาว เลยจัดไปสักสองคืน

ได้แนวร่วมมาอีก 2 คน กับรถอีก 1 คัน ก็เข้าทาง 4 คน พอดีคันครับผม

ช่วงที่เราไปคือ วันที่ 8 - 10 ก.ค. 2560 เป็นวันหยุด 3 วัน


พิเศษของทริปนี้ ผมมีของเล่นใหม่ #DjiSpark โดรนน้อยๆ ของเราครับ

ลองไปดู VDO ในเพจของเราได้ครับ ตามลิ้งไปเลยครับ

มาดูวิวมุมสูง จากเขาค้อ-ภูทับเบิก กันครับ


แพลนคร่าวๆ คือ คืนแรกจะไปกางนอนเต็นท์ที่ ไปรษณีย์เขาค้อ กัน ไปเช่าเต็นท์เอาข้างหน้า น่าจะมี

แล้วก็เถลถไลเที่ยวแถวๆนั้น เช่น ผาซ่อนแก้ว หาร้านกาแฟนั่งชิวๆ อะไรพวกนี้

คืนที่สอง เราก็เปลี่ยนไปนอนที่ภูทับเบิก แล้วก็เถลไถล ชมวิวไป ชมไร่กระหล่ำกันไป

ที่พักเราก็จองไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วครับ ได้ที่ ภูสายหมอก เป็นบ้าน 1 หลัง 2 เตียง

มีดาดฟ้าให้ กินลม กินหมูกระทะ ชมวิวกันไป


พวกเราตั้งใจจะเดินทางกันตอนเที่ยงคืน จะได้ไปถึงตอนเช้าพอดี

ผมกับเพื่อนก็ผลัดกันขับไป เหนื่อยก็พักกันไป

เปิดวาร์ปมาก็ถึงเขาค้อตอน 6 โมงพอดี

เราปักหมด Google map มาที่ไปรษณีย์เขาค้อ ก็แวะขึ้นไปชมวิวกันก่อน

หมอกไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็พอดีให้ชื่นชมกันไป แต่เนื่องจากหกโมง ทางไปรษรีย์ยังไม่เปิด

เราก็เลยไปชมวิวอีกที ตามที่ดูรีวิวมา เขาตะเคียนโงะ


เราขับออกมาประมา 25 นาที ก็ถึงที่ เขาตะเคียนโงะเป็นยอดเขาเล็กๆ ที่จะได้เห็นวิวอีกมุมของเขาค้อ

เราก็ได้ชื่นชมวิว รับอากาศเย็นๆ กันพอหอมปากหอมคอ น่าเสียดายที่ไม่มีทะเลหมอกอย่างที่คิดเอาไว้

แล้วก็เดินทางกลับมาที่ไปรษณีย์ เพื่อเช่าเต็นท์นอนกันในคืนนี้

กลับมาถึง ก็ 8 โมงกว่า ไปรษณีย์มีเจ้าหน้าที่มาแล้ว

เจอเซอร์ไพร์ครับ เต๊นท์เต็มแล้วครับ ที่หาข้อมูลมาคือมาก่อนได้ก่อน

แต่เราดันไม่รู้ว่ามีการจองล่วงหน้าได้ ช็อคไปเลยครับโผม


ก่อนจะออกไปหาที่นอนคืนนี้ เราก็มาหาข้าวเช้ากิน เห็นด้านล่างหน้าไปรษณีย์มีร้านโจ๊กอยู่

เราก็จัดหนักกันไปด้วยความหิว บอกเลยอร่อย มีทั้งโจ๊ก ปลาท่องโก๋ หมูปิ้ง จัดมันทุกอย่างไปเลยจ้า

หลังจากกินเสร็จก็ไปหาที่นอนกันต่อ พวกเราก็ขับรถวนหากันแถวๆ นั้น

แล้วก็มาแวะที่ #รีสอร์ทฟ้าใสหมอกสวย ผมกับแฟนมีเต๊นท์กันอยู่แล้ว แต่เพื่อนอีก 2 คนต้องหาเช่าเต๊นท์

สรุป เราก็นอนที่นี่ ด้วยค่ากางเต๊นท์ 100 บาท และค่าเช่าเต็นท์ หัวละ 100 เป็น 200

สรุปคืนนี้ เสียค่าที่พักไป 300 บาท (ที่จริงมีอาหารเช้าด้วย แต่เราไม่เอา)


ได้ที่พักแล้ว ได้เวลาเถลไถล จุดหมายแรก กินอีกแล้ว ฮ่าๆ

เราไปกินข้าวเที่ยงกันที่ #ร้านโบราณนิยม เป็นร้านอาหารเล็กๆ

แต่อยู่ในอันดับต้นๆของ #Wongnai เราก็เลยไปกัน

สั่งไปตามที่เขาแนะนำกันไปเลย แล้วก็อร่อยอีกไปตามระเบียบครับ



กินของคาวแล้ว ก็ต้องไปต่อไปนั่งชิวๆ ที่ร้าน #Pigney

กาแฟอร่อย วิวงาม ได้ชมทิวเขาแบบใกล้ชิด พร้อมได้ไหว้พระ วัดผาซ่อนแก้ว ด้านหลัง ฮ่าๆ


เสร็จแล้ว ระหว่างทางมา เราเห็นกังหันเพียบไปหมด

เลยลองหาใน Google เห็นว่ามีทุ่งกังหัน ก็เลยเปิด Map แล้วไปกันเลย

แต่ระหว่างทางที่ออกจากวัดผาซ่อนแก้ว เราก็เจอแบบนี้เลยแวะลงไปถ่ายรูปกันซะหน่อย

ถ่ายรูปกันเสร็จก็ไปกันต่อ ทุ่งกันหันอันเบ่อเร่อ อยู่ไกลๆ พร้อมวิวทิวเขา ก็ดูเพลินๆดีครับ

ตรงนี้เค้ามีกิจกรรมให้ทำด้วยนะ ทั้งขี่รถฟอร์มูล่าม้ง นั่งชิงช้า แล้วก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ

พลบค่ำ ก็ได้เวลากินอีกแล้ว เราก็พึ่ง #Wongnai อีกแล้ว เจอร้าน ครัวเขาค้อ



อิ่มแล้วก็กลับที่พักกันกว่าครับ ที่นอนเราคืนนี้สุดสงบ ไม่มีคนเลย 555

คืนนี้อากาศเย็นสบาย แยกย้ายกันอาบน้ำเสร็จก็ สลบสไลกันหมด เหนื่อยจริงๆ


เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน ... ไม่อยากจะตื่นเลยครับ อากาศเย็นสบายอยากจะนอนต่อ

ตอนเช้าเราก็ขึ้นมาบนอาคาร ชมวิวนิดนึง แล้วก็ไปกินอาหารเช้าร้านเดิมกับเมื่อวาน

แต่วันนี้คนเพียบ เต็มร้านไปหมด เต๊นท์บริเวณไปรษณีย์ก็ล้นหลาม

เจอแบบนี้ดีแล้วที่ตัดสินใจนอนรีสอร์ท ไม่งั้นคงวุ่นวายแน่ๆ

สุดท้ายเราก็ได้กินโจ้ก ปลาท่องโก๋ หมูปิ้ง สบายท้องกันไป


เราเดินทางออกจากเขาค้อ เพื่อไปภูทับเบิกกัน

ก่อนไป เราก็ไปแวะดู #pinoLatte กันก่อน เพราะเมื่อวานไม่ได้ขึ้นไป

คนเป็นล้านครับ เต็มร้าน เต็มที่ถ่ายรูป ที่จอดรถเต็มไปหมด

เราแวะไปดูแปบเดียว แล้วก็ลงหนีคน มาพึ่ง #Pigney กันอีกรอบ ฮ่าๆ

แล้วเราก็เดินทางต่อไปยังภูทับเบิก

เส้นทางก็สวยงามตามท้องเรื่อง ทั้งหมอก ทั้งชัน ทั้งโค้ง ครบรสครับ

เรามาถึงก่อนเวลาที่จะเช็คอินเข้าที่พัก พวกเราเลยคุยกันว่าไปเที่ยวลานหินปุ่มกันก่อนดีกว่า

ก็ขับรถมาทางเดียวกับที่จะขึ้นภูทับเบิกแหละครับ แต่จะมีทางแยกเข้า อทช.ภูหินร่องกล้าก่อน

จ่ายเงินค่าผ่านทางเสร็จก็ขับไปเรื่อยๆ เลยครับ

ถึงแล้วขับมานานพอสมควรเลยครับ จอดรถเสร็จแล้วลงไปดูดีว่าว่าข้างในจะเป็นยังไง

เราเดินตามเส้นทางเลยระยะทางก็ประมาณ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางก็มีก้อนหินรูปทรงต่างๆ

เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็เริ่มเจอหินตะปุ่มตะป่ำแล้ว คงอีกไม่นานเราก็จะเจอลานจุดที่ถ่ายรูปกันแล้ว

และแล้วก็ถึงแล้ว ลานหินปุ่ม คนเยอะมากจริงๆ



แล้วเราก็เดินต่อมายัง ผาชูธง

เสร็จแล้วก็เดินกลับ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง 555 ไม่น่าเชื่อเลย สงสัยแวะโน่นนี่บ่อยไปหน่อย

ถึงเวลากลับไปเช็คอินเข้าที่พักแล้ว ที่พักของเราคืนนี้ #ภูหมอกสวย

เป็นบ้าน 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เล็กๆ ได้ใจความ คืนละ 1500 บาท มีดาดฟ้า

เช็คอิน เก็บของเสร็จ ก็ออกมากินข้าวเที่ยง #ไร่สุวิทย์

ได้ยินว่า ต้องลองขาหมูยูนาน ก็จัดไปขาใหญ่ไป

สั่งโน้นนี่ ไปเรื่อย อร่อยทุกอย่างจริงๆ เกือบกินไม่หมด ฮ่าๆ


กินเสร็จแล้ว ก็ขอนอนพักสักชั่วโมงนึง ZZzzz..

ตื่นมา เราก็ไปดูวิวกันต่อ ที่หน้า #ไร่ริมผา เห็นว่าวิวโหด 360 องศา

พอไปถึง วิวก็โหดจริงๆ ถึงจะไม่ถึง 360 องศา แต่ก็สวยมากครับ

พร้อมกับเป็นวันเดือนเพ็ญ ก็ได้ดูพระจันทร์เต็มดวง ขึ้นแหวกหมอกมาให้ชมกัน

มืดแล้ว เราก็กลับที่พัก ละได้เวลากิน #หมูกระทะ กันครับ

ที่พักเรา มีดาดฟ้า สามารถไปนั่งรับลมกันได้

เราก็ไม่รอช้า สั่งหมูกระทะ ผักไม่อั้น มาชุดใหญ่

กินกันอย่างเมามัน สั่งผักเพิ่มรัวๆ จนอิ่มแปร่

ตอนแรกว่าจะนั่งกินลม ชมวิวกันแต่ข้างบน

แต่สุดท้าย ไม่ไหวครับ หนาวจัด ลมแรงมาก ต้องถอยทัพกลับเข้าห้องนอน


คืนนี้ได้นอนเตียงดีๆ แต่พายุเข้าครับ ลมแรงมาก นึกว่าบ้านจะพังซะละ

ตื่นเช้ามา บรรยากาศคนละเรื่องกันกับเมื่อวานเลย ชุ่มช่ำไปหมด

เราก็ไป #ไร่ริมผา กันอีกรอบ ทีนี้หละ ทีเด็ด หลังฝนตก หมอกจะจัดมาก

แล้วก็จริงครับ หมอกจับตัวหน้า ลงต่ำ ได้เห็นทะเลหมอก อย่างที่ตั้งใจครับ


เราเห็นเหมือนพระธาตุอยู่ไกลๆ เราก็เลยลองไปดูกัน

เป็น #วัดป่าภูทับเบิก เป็นวัดที่สงบมากครับ

ส่วนพระธาตุที่เราเห็น ยังสร้างไปเสร็จครับ เราก็เข้าไปกราบพระในโบทถ์


ไหว้พระเสร็จก็กลับมาเก็บของ กลับกรุงเทพครับ อ้อ ... ที่พักมีอาหารเช้าให้นะครับ เป็นข้าวต้ม + กาแฟ

ก่อนกลับขออีกหน่อยละกัน มาภูทับเบิกต้องมีกะหล่ำปลีสิ

แถมๆ


เราเดินทางออกจากภูทับเบิกประมาณ 10 โมง ถึงกรุงเทพ ประมาณ 1 ทุ่ม

สรุปทริปครับ เป็นทริป กินหลักๆ ชมวิวหมอก รองลงมา ฮ่าๆ

ทริปขับรถกันหนักหน่อย แนะนำว่า ถ้าจะขับรถมาเอง ให้คนขับคล่องนิดนึง

เพราะเส้นทางค่อนข้างมีโค้งเยอะ ประกอบกับหมอกจัด


สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าเช่าเต็นท์ #รีสอร์ทฟ้าใสหมอกสวย 300 บาท

ค่าที่พัก #ภูสายหมอก 1500 บาท

ค่าน้ำมัน(Masda desel 2 ถังกว่าๆ) 2400 บาท

จิปาถะ บลา บลา บลา

รวมทั้งหมด แล้วหาร 4 ก็ได้หัวละ 2000 บาทแบบอิ่มจนร้องขอชีวิต

ก็เป็นอันจบทริปครับผม


ทริปอื่นๆของพวกเรา ส่วนใหญ่จะไปทริปลำบากๆตลอด ไปติดตามกันได้นะครับ

" ดอยหลวงเชียงดาว " การรวมตัวของ 19 ชีวิต เพื่อพิชิตจุดสุดยอด

++ ทริปเสาร์อาทิตย์ - ดอยหลวงตาก - ด้วยงบ 1500 ++

" เขาหลวงสุโขทัย " ถึงโหดก็จะไป

และฝากแฟนเพจของพวกเราด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/wetraveleverymonth/

Natcha Arunchay

เที่ยวแบบเรา : Once-a-month

 วันพฤหัสที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.51 น.

ความคิดเห็น