เพื่อนๆ คนไหนอยากติดตาม ภาพวิวท่องเที่ยว ต่างประเทศสวยๆ ของผม

ได้ที่ https://www.facebook.com/pharmatraveller?ref=bookmarks

เรามาเริ่ม รีวิวกันเลยนะครับ

ทริปนี้พาคุณแม่แฟนและหลานตัวน้อยเที่ยวครับ

ออกเดินทางจาก กทม มุ่งหน้าอำเภอแกลง ระหว่างทางฝนตกปรอยๆ ไม่ค่อยร้อนครับ

จุดหมายแรกของเรา เดินทางไปสักการะเสด็จเตี่ยกันก่อนครับ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำประแส

สะอาด เรียบร้อย สงบ ร่มรื่น ลมเย็นสบาย บรรยากาศดีครับ นั่งชมวิวป่าชายเลนได้ มองเห็นเรือประมงที่จอดอยู่ในแม่น้ำประแส

จากนั้น เดินทางต่อไป อนุสาวรีย์สุนทรภู่ สมัยเด็ก โดนให้ท่องจำกลอน สุนทรภู่หลายกลอนเลยครับ

ในเมื่อมาจังหวัดที่ท่านเกิดก็ขอ แวะไปสักการะซักหน่อย ระหว่างขับรถไปก็ท่อง

“สุนทรภู่ ครูของฉัน เกิดวันจันทร์ ในปีม้า 26 มิถุนา ในเวลา แปดโมงเช้า" ฮ่าๆๆๆๆ

มีรูปปั้นท่านสุนทรภู่และตัวละครในวรรณคดีเอกเรื่องพระอภัยมณี

พระอภัยมณี

นางเงือกน้อย มีชั้นบน มีชั้นล่าง ^^ อ่ะ ไม่ใช้กลอนแหละ

ผีเสื้อสมุทร

ด้านหน้าเป็นรูปปั้น

สุดสาคร บุตรพระอภัยมณีกับนางเงือก (ไม่ได้ถ่ายมา ตอนแรกนึกว่าเป็นสินสมุทร)

สินสมุทร บุตรพระอภัยมณีกับนางผีเสื้อสมุทร

และชีเปลือย คนอะไรไม่ใส่เสื้อผ้า ช่วงนี้ก็มันร้อนก็พอเข้าใจอยู่

ต่อไป ไปทานมื้อเที่ยงที่ร้าน นายเคี๊ยม เกี๊ยวปลา สามย่าน

ร้านใหญ่โต เราไปถึงบ่ายโมงแล้ว แต่ก็ยังมีคนมานั่งเรื่อยๆครับ

เมนูใหญ่โตดีครับ แต่มีด้านเดียว พอดีผมนั่งไกลไปหน่อย จ้องเมนูตาเขม็งเลย

สั่งเกี๊ยวปลา สามรส

เกี๊ยวปลารวมมิตร

เกี๊ยวปลาเย็นตาโฟ

ลวกจิ้ม

พวกเกี๊ยว ผมว่าแป้งเยอะไป แต่น้ำซุปกระดูกหมูอร่อยดีครับ

เมนูแนะนำช่วงนี้ ไอศครีมทุเรียน อร่อยครับแม่กับแฟนบอกมีเนื้อทุเรียนด้วย ลูกละ25 บาท ผมไม่กินทุเรียน ก็มีไอศกรีมกะทิให้ลองครับ

มื้อนี้จ่ายไป ประมาณ 420 บาทครับ จำไม่ค่อยได้

จากนั้นขับรถเล่น ชมทะเล มาทางแหลมแม่พิมพ์ สวนสน บ้านเพ ครับ แวะซื้อทุเรียนทอด ที่ตลาดท่าเรือนวลทิพย์ บ้านเพ ไปกินเล่น อร่อยดีครับ สงสัยอร่อย เพราะเพิ่งทอดวันนั้น แม่ค้าบอกว่าจะใส่เกลือลงถุงไปน้อย เพราะถ้าใส่มากไปจะทำให้ ทุเรียนทอด มีกลิ่นหืน ได้

กลับมาบ้านนี่เสียดายเลย ซื้อมาน้อยไป อิ อิ

แล้วเดินทางไปหาเพื่อนที่อำเภอนิคมพัฒนาครับ คุยกับเพื่อนพักใหญ่ครับ แล้วก็ไปต่อที่

พระเจดีย์กลางน้ำ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง ก่อนถึงปากแม่น้ำ แต่รถเข้าถึงนะครับ ที่นี่จะปิดประมาณ 6 โมงเย็น (สอบถามเจ้าหน้าที่อีกทีก็ดี)แต่ผมไม่ทราบนั่งถ่ายรูปต่อไป จนถึง 1 ทุ่ม โดนปิดประตูไปแล้ว....ดีที่ พี่เค้ายังอยู่เลยเปิดประตู ออกมาได้ ไม่งั้นโดนขังนอนบนเกาะแน่เลย

หากเป็น ช่วงวันลอยกระทงจะมีงานห่มผ้าเจดีย์กลางน้ำ มีขบวนแห่มาทางแม่น้ำ เพื่อเป็นการสักการะ บูชาองค์พระเจดีย์

ตอนถ่ายรูปผมก็คิดว่า เอะ มันเป็นเกาะกลางแม่น้ำยังไง ต้องกลับมาหาข้อมูลเพิ่มกันเลยทีเดียว เป็นเกาะจริงๆด้วย

ภาพจาก Google map

มีศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลน ลมพัดเย็น เป็นระยะๆ เดินไม่ทันเหนื่อยก็ถึงทางออกครับ

สามารถเดินเล่นออกกำลังกายได้ครับ

นั่งเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินริมน้ำ ลมเย็นสบายครับ

ถ่ายรูปเสร็จก็ออกมาทานมื้อเย็นที่ร้าน ครัวแกงเผ็ด

เผ็ดสมชื่อใครไม่ทานเผ็ด ผ่านได้เลยนะครับ

สำหรับคนทานเผ็ดก็แนะนำเลย อร่อยเกือบทุกอย่าง

เมนู ที่ผม คิดว่าอร่อยสุด คือ ขนมจีน แกงเขียวหวานปลากราย

ยำเห็ดรวม

ยำสามไข่

หอยเชลล์อบเนย รสชาติธรรมดาครับ

หอยจ๋า คล้ายๆปูจ๋าอ่ะครับ

แล้วก็ข้าวผัดปูของหลาน หลานหิวมาก ถ่ายรูปไม่ทันครับ ทนเกือบหมดจาน

มื้อนี้ 855 บาทครับ

อิ่ม แสบไส้ กลับเข้าที่พักถึงแล้วววววBrookside valley resort

ผมซื้อห้องพักที่งาน ททท ครับ ได้ลดราคาลงนิดหน่อย ปกติห้องพัก พักได้ 2 คน ครับ แม่ผมไปด้วย เลยต้องจองเตียงเสริม เป็น 3 ที่ ราคา 800 บาท รวมอาหารเช้า

รีสอร์ทน่ารักท่ามกลางขุนเขา ตกแต่งธีมประเทศฮอลแลนด์ครับ มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างใน Strawberry town ใครชอบเล่น กิจกรรม Adventure

ในรีสอร์ทก็มีให้ทำนะครับ แต่ต้องซื้อบัตรเล่น เครื่องเล่นก่อน มาดูห้องนอนที่ผมพักที่กว่า

ห้องพักเรียบร้อยดี เสียอย่างเดียว แอร์ไม่เย็น นอนร้อนเลย (เป็นเพราะช่วงที่ไป อากาศร้อนมากหรือเปล่าไม่แน่ใจ)

มีสบู่ ยาสระผม อุปกรณ์ตามมาตรฐานครับ

เจอกรุ๊ปมาอบรม คนเต็มรีสอร์ทเลยครับ คึกคักมาก ตอนแรกนึกว่าจะเงียบ เพราะเป็นวันธรรมดา ช่วงโลว์ซีซัน

จากห้องพักมองไปเห็น Strawberry town น่ารักดีครับ พนักงานบอกว่า ถ้ามาหน้าหนาวนี่คนเยอะมาก แทบเหยียบกัน

ผมพักตรงตึกขวามือนู่นครับ เห็นลิบๆ

มาชมวิวในรีสอร์ทกันครับ ผมถ่ายภาพตอนใกล้ค่ำของรีสอร์ท แล้วตื่นมาถ่ายต่อตอนเช้า

รูปเยอะ นิดนะครับ สวยหลายมุม ฮ่าๆๆๆ

ข้ามสะพานข้ามทะเลสาบไป จะเป็นสระว่ายน้ำ Sun deck pool ว่ายได้ถึงหกโมงเย็น เท่านั้นนะครับ

ทานมื้อเช้าเสร็จ เดินเล่นใน Strawberry town ซักครู่

สายๆ เราออกเดินทางไป สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ระยองสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ระยอง ปกติจะหยุดวันจันทร์ กับอังคารครับ (จัดโปรแกรมระวัง ด้วยนะครับ)

มีฉลามด้วย ^^

อ่ะ ปลาอะไรนี่

อาคารเล็กครับ เดินแปปเดียวหมดแล้ว

เวลาเหลือ ก็เลย ขับรถย้อนมาวัดป่าประดู่ครับ ทีแรกจะมาตั้งแต่วันแรก แต่ไม่ทัน เลยมาเก็บตกวันที่สองครับ

พระนอนขนาดใหญ่ เป็นพระพุทธไสยาสน์ ประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้ายครับ ผมเคยเจอแต่ตะแคงขวา

อุโบสถหลังเก่า ให้ลอดใต้อุโบสถครับ

ต้องก้มๆลอดเอานะครับ

มาดูด้านบนครับ

อุโบสถหลังใหม่ สวยงาม

วัดสะอาด น่าเดินครับ ห้องน้ำก็สะอาด คุณแม่ผมสำรวจมาแล้ว ผ่าน

ไหว้พระเสร็จ ขับรถกลับไปที่ ร้านระเบียงไม้ อยู่ใกล้กับสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ครับ ย้อนไปย้อนมาหน่อย แต่ร้านนี้เพื่อนแนะนำมาต้องไปลองร้านระเบียงไม้ เดิมแพลนไว้ว่าจะมาทานตอนเย็น แต่ผมอยากถ่ายรูปรีสอร์ทตอนเย็นขึ้นมา เลยมาทานตอนกลางวันแทน ร้อนตับแลบ อาหารก็ไม่ได้เผ็ด แต่เหงื่อออกเหมือนวิ่งมาหลายกิโล ฮ่าๆๆๆ ดังนั้น แนะนำให้มาตอนเย็น ต้องฟินมากแน่ๆ เพราะอาหารอร่อยครับ ลมเย็นๆ คงเพลินไปเลย

มาเมนูอาหารกันครับ

กุ้งทอดราดซอสมะขาม อร่อยมาก ^^ หลานกินไปหลายตัวเลย

ทอดมันกุ้ง

ยำเอ็นหอย

ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว สดอร่อยครับ

ข้าวผัดปู รสชาติดีครับ เยอะด้วย ทานไม่หมด

และเมนู ไอศครีม หมูหยอง ไข่เค็ม ดูเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ แปลกดีครับ หลานบอกอร่อยมาก

ร้านนี้ถ่ายรูปถึงห้องน้ำเลย ขออภัยด้วยถ้าภาพไม่สุภาพ ^^

ทางเดินไปห้องน้ำครับ

ห้องน้ำชาย เก๋ๆครับ รูปหอยโข่ง

1570 บาท เหลือข้าวผัดกับทอดมันกุ้งกลับไปทานมื้อเย็นอีกทานกันอิ่ม ผมก็ขับรถไปส่งหลานกับแฟนที่รีสอร์ท

แล้วก็พาคุณแม่ไปซื้อของที่เซ็นทรัล ระยองครับ เปิดวันแรกพอดี ณเดชน์กับญาญ่ามา คนเต็มห้าง เลยมองไม่เห็นครับ จากนั้นก็แวะไปบ้านพี่ที่รู้จัก แล้วก็กลับรีสอร์ทครับ

หลานตื่นไปว่ายน้ำแล้ว สนุกสนาน ลมเย็นมากมีหนุ่มๆว่ายน้ำอยู่ 5-6 คน ฟิน แอร้ยยยย ไม่ใช่ละ

มื้อเย็นวันนี้งดครับ อิ่มตั้งแต่กลางวัน (ดูจากรูปน่าจะเดาได้นะครับ สั่งอาหาร ตาลายไปหน่อย เยอะเกิน ฮ่าๆๆๆ ) ทานข้าวผัดที่เหลือยังไม่หมดเลยครับ

แล้วก็สั่งผลไม้รวมที่รีสอร์ท มาทานครับ

เช้าวันที่สาม ถ่ายรูปเล่นที่ Strawberry town ซักพัก ก็ไปทานมื้อเช้าที่รีสอร์ท เหมือนเดิมครับ

Check out แล้วก็ออกเดินทางไป ตลาดผลไม้ ที่ตะพง ครับ

จากนั้นไปเดินเล่นที่ตลาดเกาะกลอย อยู่ใกล้ๆเซ็นทรัล ระยอง ครับ

คนเดินไม่เยอะครับ สบายๆ สมกับเป็นวันธรรมดา จริงๆ

รถหยอดเหรียญ ไม่ยอมรับเหรียญครับ อดเล่น เดินไปเรื่อยๆ เจออีกจุด ลองหยอดเหรียญใหม่ โดนกินเหรียญอีก #ร้องไห้หนักมาก เอาสิบบาทเค้าคืนมา

ได้ป๋องแป๋งแล้ว สบายใจละ เย่ ไปดูโลมาได้

แวะทานมื้อเที่ยงที่บางเสร่ครับ แฟนผมเคยไปทานแต่จำชื่อร้านไม่ได้ จำได้แต่โลเคชั่น

มาถึงร้านกลายเป็นร้านเจ๊จุก สาขา 4 บางเสร่ไปซะแล้ว สอบถามได้ความว่า เปลี่ยนเจ้าของแล้ว เมื่อก่อนชื่อริมหาด ซีฟู๊ด บางเสร่ เปลี่ยนมาซัก 6-7เดือนแล้ว

แนะนำให้ดู อาหารทะเลหน้าร้านเจ้เค้าหน่อยด็ดีครับ ว่ามีของสดอะไรบ้าง เสียดายวันที่ผมไปหอยก็น่ากิน แต่ไม่ได้ดู

วิวจากร้านก็สวยนะครับ

มาดูอาหาร ที่สั่งรับประทานกันครับ

ปูนึ่ง สองตัว ขีดละ 100 บาทหวาน อร่อย ฟินมาก ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มยังอร่อย

ข้าวผัดกุ้ง ผัดดีครับ แต่ผมว่าขาดเค็มไปนิด

หมึกทอดกระเทียม อร่อย ทานร้อนๆ กรอบๆ ทิ้งไว้นานจะเหี่ยว ต้องรีบทานหน่อย

ยำถั่วพู

ปลาอินทรีย์แดดเดียว

กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสดดีครับ

คือสั่งเยอะมาก ข้าวผัดเหลืออีกแล้ว ค่าใช้จ่ายมื้อนี้ 2295อิ่มแล้วก็ไปต่อที่Pattaya dolphin world ครับ ค่าเข้า 300 ครับ เด็กน้อยฟรี

มีโชว์คาวบอย ก่อนชมโลมาครับ อากาศร้อนมาก สงสารคาวบอย โชว์สนุกดีครับ

ช่วยพี่คาวบอยยกม้าครับ ฮึบๆ “ม้า ม้าลุกหน่อยสิ ผมยกไม่ไหวครับ"

จบแล้วไปให้อาหารแกะ ระหว่างรอเวลาชมโลมาครับ

มีโลมาหัวบาตร 2 ตัว กับโลมาปากขวดสีชมพู 1 ตัวครับน่ารักดี

โลมามีดื้อบ้าง โชว์น้อยไม่ค่อยสมใจกระผมเลยขอรับ

จบโชว์แล้วมีให้ถ่ายรูปกับโลมาครับ 300 บาท ถือปลา ให้โลมากระโดดมากินครับ ตื่นเต้นๆ

จบทริป กลับพระนครได้

ขอบคุณครับที่ติดตาม

หากเพื่อนๆชอบรีวิว กดไลค์ที่แฟนเพจผมได้ https://www.facebook.com/pharmatraveller?ref=bookmarks