สวัสดีค่ะ กิ๊บจาก www.fallenforadventure.com นะคะ (www.facebook.com/fallenforadventure) ยังอยู่กันที่โบลิเวียนะคะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ทะเลเกลือที่ดังและใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีชื่อว่า Salar De Uyuni หรือ Uyuni Salt Falts หรือบางคนก็เรียกสั้นๆว่า Uyuni 🙂
การเดินทางไปเที่ยวที่นี่จากเมืองหลวงของโบลิเวีย La Paz ก็สามารถทำได้ 2 วิธีค่ะ ก็คือนั่งเครื่องมาลงที่ Uyuni เพียงแค่ 45 นาที เค้ามีบินทุกวัน วันละ 2-3 ไฟล์ สะดวกดี ราคาไม่แพงมาก Round Trip อยู่หลักพันค่ะ (ประมาณ $130) แต่ถ้าใครเที่ยวแบบ Budget ก็สามารถนั่งรถทัวร์แบบ Overnight ไปได้ 8 ชั่วโมง ออกจากลาปาซประมาณ 3 ทุ่ม ถึงอูยูนิเช้าตรู่ 6 โมงเช้า ค่าใช้จ่ายก็ประมาณ $15-25 ค่ะ สำหรับกิ๊บ กิ๊บแวะเที่ยวที่ Sajama National Park ก่อน เลยจ้างทัวร์ขับรถไปจากลาปาซ แวะเที่ยวซาฮาม่า แล้วค่อยขับลงต่อมา Salt falts อ่านรายละเอียดได้ในโพสที่แล้วนะคะ
ทะเลเกลืออูยูนินั้น เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1 หมื่นกว่าตร.ม. การเกิดของทะเลเกลือนั้นเชื่อกันว่าเมื่อหลายๆศตวรรษก่อน ที่ตรงนี้เคยเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม ซึ่งน้ำมันแห้งเหือดไปหมดแล้ว จึงเหลือไว้เป็นทะเลเกลืออย่างที่เห็นค่ะ ทะเลเกลือนี้มีส่วนประกอบของ Lithium ด้วย ซึ่งที่นี่เลยเป็นแหล่งของ Lithium 50-70% ของ Lithium ในโลกอยู่ที่นี่เองค่ะ (Lithium นั่นก็คือ element ที่ทำให้เกิด power ในมือถือ แล็บท็อป และพวกรถ electric นั่นเองค่ะ)
ทะเลเกลือนี้ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,656 เมตร เพราะฉะนั้นเพื่อนๆต้องระวังเรื่อง Altitude sickness ด้วย เพราะอากาศมันบาง มันจะหายใจลำบาก เหนื่อยง่ายมากกกก บางคนถ้าเป็นเยอะๆอาจเวียนหัว คลื่นไส้ ได้เลยค่ะ ตอนกิ๊บกิ๊บติดยาแก้ไปด้วย เท่าที่รู้ซื้อตาม counter ไม่ได้ ต้องไปหาหมอให้เค้าสั่งยาให้ ยาชื่อ Diamox ค่ะ ช่วยได้มากเลย เพื่อนๆติดไปเผื่อก็ดีนะคะ
ปกติคนจะใช้เวลาอยู่ในบริเวณ Salt flats และพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 3 วัน การเที่ยวเท่าที่รู้ก็ต้องไปกับทัวร์ด้วย (นอกจากจะเช่ารถขับเอง) ทัวร์นั้นมีให้เลือก 2 แบบคือแบบไป shared กับคนอื่น ส่วนใหญ่ก็จะประมาณไม่เกิน 6 คน ราคาแบบแชร์ก็จะถูกกว่าแบบไป Private (ถ้าไปกันไม่กี่คน) ค่ะ ราคาทัวร์ก็จะต่างกัน แต่ไม่อยากให้เพื่อนๆเลือกทัวร์ที่ราคาถูกกว่าบริษัทอื่นเยอะๆ เพราะที่นี่มีพวกทัวร์ที่ไม่ได้มาตรฐานเยอะ เช่น รถเก่า ไม่ได้รับการตรวงเช็ค คนขับไม่รู้จักเส้นทาง หรือเมามาขับก็มี เพราะฉะนั้นต้องดูดีๆนิดนึงค่ะ
เมื่อเรามาถึง Salt Falts แล้ว อย่างนึงที่ต้องทำเลยก็คือการถ่ายรูปเล่นกับ Perspective วิธีก็คือให้คนนึงยืนใกล้ๆกล้อง อีกคนยืนไกลๆ (คนที่ยืนไกลนี่ต้องทำงานหนักหน่อยนะคะ เพราะต้องกระโดดหลายรอบ ในพื้นที่ที่อากาศบางมากกกก) แล้วเอากล้องไว้ใกล้ๆพื้นจะได้ภาพสมจริงมากค่ะ ส่วนท่าโพสนั้นก็แล้วแต่สไตล์และความ creative ของแต่ละคนเลย! มาดูภาพเรากัน 🙂
หลายคนถามว่าควรไปช่วงไหน จริงๆแล้วช่วงที่เหมาะแก่การเที่ยวคือตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนเมษายน เพราะไม่มีฝน แต่หลายๆคนอยากไปเที่ยวอูยูนิตอนหน้าฝน เพื่อที่จะไปรูปแบบสะท้อน Reflective สวยๆ ซึ่งก็คือช่วงเดือนที่เหลือ (เดือน 5-6) แต่การไปเที่ยวหน้าฝนก็มีข้อเสีย คือ ฝนตก! เพราะฉะนั้นก็เที่ยวที่อื่นไม่ค่อยได้เลย ได้ที่นี่ที่เดียว แถมหลายๆคนไม่รู้ว่าแม้ด้านบนของทะเลเกลือแห้งนั้น ด้านล่างมันมีน้ำอยู่ เพราะฉะนั้นเวลาฝนตก เกลือมันก็จะละลายๆ เพราะฉะนั้นคุณก็จะนั่งรถขับข้ามทะเลเกลือไม่ได้ เพราะมันอันตราย ก็จะอยู่ได้แค่ขอบๆเท่านั้น
และที่หลายๆคนไม่รู้อีกก็คือ ไปหน้าแห้งถ่ายภาพ Reflective ได้นะจ๊ะ! เพราะที่บอกว่าด้านล่างมันยังเป็นน้ำอยู่ เพราะฉะนั้นตามขอบๆทะเลเกลือมันจะมีที่ที่เกลือบางกว่าตรงกลาง มันเลยจะมีน้ำซึมขึ้นมา ถ้าคนขับรถหรือไกด์คุณมีประสบการณ์พอ เค้าจะรู้ว่าอยู่ตรงไหนนนน เราไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่นั่น บอกเลยว่าสวยที่สุดในโลกกกกกก ดูกันเอาเองดีกว่า 🙂
อีกที่นึงที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงอูยูนิก็คือ Isla Incahuasi เป็นเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลางทะเลเกลือเลยค่ะ เกาะนี้จะมีต้นตะบองเพรชเต็มไปหมด แล้วจะเป็นตะบองเพรชที่ใหญ่ที่สุดที่เพื่อนๆเคยเห็นเลยด้วย มันใหญ่มากๆๆ เมื่อมาถึงเพื่อนไก็สามารถ Hike ขึ้นไปจุด Viewpoint ได้เพื่อไปดูวิวจากด้านบน ระยะทางไม่ไกล แต่เหนื่อยมากกกก ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที เพราะพักตลอดทาง 🙂
ทางเดินขึ้น ค่อยๆไต่กันไปอย่างช้าๆ
ธงชาติโบลิเวียบนยอดค่ะ
ต้นตะบองเพรชยักษ์
บางทัวร์ก็จัดให้มาปิกนิคกันที่นี่ REQUEST ได้ค่ะ
เป็นไงคะ ไปเองยังฟินเองเลยยย :p ถ้าชอบ ช่วยกด Like Page www.facebook.com/fallenforadventure ด้วยนะคะ
Fallen For Adventure
วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.50 น.