Full Option at Veranda Resort Pattaya MGallery by Sofitel วีรันดา รีสอร์ท พัทยา เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล

ทางเข้าโรงแรมค่ะ

กลับมาอีกครั้ืงกับ วีรันดา รีสอร์ท พัทยา เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล ค่ะ กับคราวที่แล้วเล่าค้างไว้แถว ๆ ห้องประชุม วันนี้จะพาขึ้นห้องกันเสียที

วีรันดา รีสอร์ท พัทยา เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล นี่ตั้งอยู่ที่หาดจอมเทียน พัทยานะคะ ทางเข้าค่อนข้างหายากนิดนึง พอดีมาจากทางข้างหลัง แถมทางเข้ายังเป็นซอยที่มีคนงานกำลังก่อสร้างอะไรกันอย่างสนุกสนานเลยเชียวค่ะ

บริเวณหน้าห้องอาหาร

ตอนเดินเข้ามาก็ไมได้ประทับใจอะไรเท่าไหร่ ตั้งแต่ทางเข้ายันล๊อบบี้ เรียกว่าไม่มีอะไรดึงดูดใจเลย ก็เลยไม่ได้เดินดูอะไร เข้าห้องสัมนากันไปซะ แล้วก็เตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้

ห้องจัดเลี้ยงเราอยู่ชั้นบนของอีกอาคารหนึ่งค่ะ ไม่ใช่อาคารที่เราพัก ข้างบนนี้วิวถือว่าดีใช้ได้เลยค่ะ มองเห็นทะเล และสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ก็อยู่ต่ำกว่าเราทำให้ได้มุมมองที่สวยใช้ได้

ห้องจัดเลี้ยงก็ธรรมดาค่ะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ทางเราว่าจ้างนักดนตรีไปเอง เรียกว่าบรรเลงบันเทิง เถิดเทิงทิงนองนอยกันเลยหละค่ะ แต่ที่ดีที่สุดของห้องจัดเลี้ยงนี่ ต้องบอกเลยค่ะ คือ "อาหาร"

อาหารที่มีมาบริการในห้องจัดเลี้ยง

อาหารที่นำมาจัดไลน์บุฟเฟห์วันนี้เป็นอาหารไทยและ International ที่อร่อยมาก เรียกได้ว่าเรานี่กินกันมาอย่างอิ่มจนถึงอกแล้วมาเจออาหารของโรงแรมนี้เข้าไป ยังต้องขอกระเดือกอีกซักหน่อย แล้วก็เสียดายว่า เราไม่น่ากินอะไรไร้สาระ จนทำให้ไม่สามารถกินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้ได้เลย (((แอบไปร้องไห้ กระซิก กระซิก)))

หลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงก็เดินก้มหน้าก้มตามายังห้องพัก โอ้ว !!! ห้องพักใหญ่มากค่ะ แถมดีไซน์ได้เก๋ไก๋สไลเดอร์มากมาย ใช้โทนสีน้ำตาลและทองได้อย่างหรูหราลงตัว มีผลไม้จานน้อยตั้งไว้ให้หน้าทีวี เป็นเวลคัมป์ ตู้ที่เห็นอยู่ข้างทีวีนั้นก็คือ มินิบาร์ค่ะ ข้างในมีหมดทั้งเครื่องดื่มร้อน เครื่องดื่มเย็น แถมมีบริการน้ำเปล่าฟรีตั้ง 4 ขวด

ถัดจากทีวีจอแบนขนาดใหญ่เป็นโต๊ะสำหรับนั่งทำงานค่ะ ตรงนี้มีสายแลนด์สำหรับให้บริการอินเตอร์เนต แต่ถ้าเราไม่ใช่แลนด์ ก็มีไวไฟไว้ให้บริการเหมือนกัน

สำหรับเตียงนอนนี่เก๋มากค่ะ เป็นเตียงนอนขนาดใหญ่แต่สำหรับนอนคนเดียว แต่เอาเข้าจริง ๆ สองคนก็นอนได้ค่ะ โรงแรมกลัวเราจะเหงามังคะ เอาปลาหมึกมานอนเป็นเพื่อนเราเตียงละตัว ส่วนเรื่องหมอนเรื่องผ้าห่มนี่ไม่ต้องห่วงนะค่ะเหลือเฟือทีเดียว

เราเห็นปลาหมึกน่ารัก ก็โทรลงไปถามรูมเซอร์วิส อยากซื้อกลับบ้าน พอรูมเซอร์วิสตอบมาเท่านั้นหละค่ะ ความอยากหายไปโดยฉับพลัน 4,000 บาทถ้วนค่ะ คราวนี้ถ้าใครถามว่า ปลาหมึกแถวไหนแพงสุด คงได้คำตอบแล้วหละค่ะ ว่าแถวนี้หละ ตัวละสี่พัน ขุ่นพระ !!!

คืนนี้ นอนฝันดี มีปลาหมึกตัวละสี่พันนอนเป็นเพื่อน

เอาเข้าจริง ๆ โรงแรมที่ดูธรรมดา กลับดูสดใสสวยงามขึ้นมาในยามเช้าค่ะ โดยเฉพาะยามอาหารเช้าที่กำลังมาถึง อาหารเยอะมากจริง ๆ แล้วอร่อยมากด้วย นอกจากอาหารแบบ ABF แล้ว ยังมีอาหารไทย จีน ญี่ปุ่นครบเลยทีเดียว เสียแต่ว่าเรานั่งด้านใน (ด้านนอกเต็ม) แมลงวันเยอะไปหน่อย

โต๊ะอาหารจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ชอบผ้าเช็ดปากจัง พับเป็นรูปเสื้อ

ไลน์สลัด

นี่ค่ะ มื้อเช้าอันอลังการณ์งานสร้าง

มีร้านก๋วยเตี๋ยวด้วยนะเอ้อ

พอกินอิ่มก็ออกเดินสำรวจสิค่ะ เมื่อคืนนอนอุตุอยู่แต่ในห้อง พอออกเดินเท่านั้นหละค่ะ แม่เจ้า สวยนะเนี่ย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มองไปเหมือนจะขนานกับทะเล เป็นสระระบบเกลือและมีระบบจากุสซี่ที่ริมของสระ การจัดวางอย่างลงตัวของสระหลัก และสระรอง ความลึกไม่ลึกนักแค่ 1.20 เมตรเรียกว่าคนว่ายน้ำไม่เป็นก็เล่นได้สบาย ๆ

บรรยากาศขอบน้ำ ขอบฟ้า ขอบสระ

จากกุสซี่บริเวณริมสระ

ทำเป็นเตียงซุ้มสำหรับนั่งพัก

วิรันดา รีสอร์ท พัทยา วิวที่มองจากชายหาดขึ้นมา

นอกจากสระว่ายน้ำจะสวยแล้ว ยังมีระเบียงหินริมสระที่ทำเป็นระเบียงน้อย ๆ ยื่นลงไปที่ชายหาดให้นั่งเล่น นั่งพัก หรือจะนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกก็ยังได้ สอดรับเข้ากันดีกับวิวทะเลที่ตอนนี้มีคลื่นซัดเข้าฝั่งเป็นระวิง

มุมชมทะเล

น่าเสียดายที่เรามีเวลาไม่มาก เพียงแค่ 1 วันกับอีก 1 คืน แถมยังต้องเอาเวลาไปใช้ในงานเลี้ยงเลยไม่มีเวลาได้เดินดูรอบบริเวณเท่าไหร่นัก ที่นี่มีห้องฟิสเนส มีร้านอาหาร The Deck ค๊อฟฟี่ช๊อปเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่มีฝีมือการชงกาแฟได้ไม่แพ้ใครอย่าง The Glass Room ที่เราจะเอามาเล่าให้ฟังครั้งหน้านะคะ

ครั้งนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ