มาตามคำที่บอกว่า
เรา จะ มา พบ กัน ใหม่
รูปทุกรูปถ่ายจากโทรศัพท์
สวัสดีครับ สำหรับรีวิวนี้ก็เป็นภาคต่อจากปีที่เเล้วที่ผมมีโอกาสได้มาน่าน แต่มันมีเหตุที่ทำให้ต้องกลับก่อนกำหนด เลยไปไม่ครบตามที่วางไว้ ปีนี้เลยกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง เช่นเคยครับ ไปกับมอไซค์คู่ใจ เป้หนึ่งใบ เต็นท์เล็กๆผูกไว้ท้ายรถ และเสื้อผ้าอีกเยอะเเยะใต้เบาะรถ
ขับไปเรื่อยๆเหนื่อก็พัก ออกจากจังหวัดเลยประมาณ 8 โมง ถึงน่านก็ประมาณ 4 โมงครับ เก็บของเข้าที่พัก ขอตัวนอนซักงีบก่อน
////////////////
ประมาณ 6 โมงครึ่งก็ออกมาเดินเล่นหาไรกินใกล้กับวัดภูมินทร์ เลยเเวะถ่ายรูปซะหน่อย
- วัดภูมินทร์
มาค่ำไปหน่อยเขาปิดประตูแล้วครับ เข้าไปข้างในโบสถ์ไม่ได้ เดินเลยมาตรงศูนย์ OTOP จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่ 3 4 ร้านเเล้วก็มีจัดโต๊ะไว้ให้ซื้อกับข้าวมานั่งกิน มีโฟคซองด้วยนะครับ
- ศูนย์ OTOP
หาอะไรง่ายๆกินก็ว่าจะกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ขับรถไกล ก่อนกลับที่พัก ผ่านวัดช้างค้ำเห็นประตูเปิดอยู่เลยเเวะเข้าไปข้างใน
- วัดช้างค้ำวรวิหาร
วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนครับ เหนื่อยๆ ไว้พรุ่งนี้ลุยต่อ
///////////////////////
ตื่นๆๆ...
วันนี้เเพลนที่วางไว้คือขับรถไปอ.สันติสุข เข้าบ่อเกลือ ลงมาปัว เเล้วกลับเข้ามานอนในเมืองอีกคืน
ดูจากที่ google map คำนวณระยะทางกับเวลาเเล้วใช่ย่อยเลยนะครับ 88 กิโล ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ลุยครับ.......
ขับออกจากตัวเมืองเเค่ 10 กิโลก็เจอวิวสวยๆแล้วครับ
ขับเล่นไปเรื่อยครับที่ไหนสวยก็จอด ขับรถอยู่บนสันเขา
ยอมรับครับว่าระหว่างทางสวยมากๆ
สมกับคำพูดที่ว่า นี่คือถนนลอยฟ้า
ขับไปได้นิดเดียวก็จอด จากที่ความเป็นจริงใช้เวลา 2 ชั่วโมงก็ถึงบ่อเกลือ
กลายเป็น 3 ชั่วโมงเลยฮ่าๆ
- ถนนลอยฟ้า
โค้งเลข 3 ใครเห็นเป็นต้องจอด
รูปทุกรูปข้างบนนี้ คือเส้นทางจากอ.สันติสุข-อ.บ่อเกลือ
แต่หลายคนที่ไปบ่อเกลือไม่ค่อยจะได้เห็นวิวพวกนี้
เพราะส่วนมากเเล้วจะไปขึ้นทางเส้น 1256 กัน
////////////////////////////////
ถึงแล้วครับบ่อเกลือ
ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่านี่คือตัวอำเภอ เล็กมากครับ แต่ผมก็อิจฉาคนที่นี่นะครับ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขา มองไปทางไหนก็เจอเเต่สีเขียว อากาศคงเย็นตลอดทั้งปี
นี่คงเป็นที่มาของชื่ออำเภอครับ เป็นบ่อน้ำที่ชาวบ้านตักขึ้นมา แล้วก็เอาไปต้ม
ให้น้ำระเหยออกเหลือไว้แค่เกลือ มาตั้งไกล เปิดดูรูปแล้วเจออยู่ 2 รูป คงเพราะหิวมากเลยไม่ได้ถ่ายรูป ฮ่าๆๆ
อีกอย่างนะครับ ที่นี่ไม่มีปั๊มน้ำมัน มีเเค่น้ำมันหลอด
ใครที่จะไปก็เตรียมตัวให้พร้อมครับ
ขากลับผมลงอีกทางหนึ่ง ไม่ได้กลับทางเดิม
ทางนี้จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่หนึ่งคือดอยภูคาครับ
ตรงนี้เป็นจุดชมวิว เป็นจุดที่สูงที่สุดของอุทยานเเห่งชาติดอยภูคาครับ แต่ยังไม่ใช่ที่ทำการอุทยาน ที่ทำการอุทยานต้องลงไปอีก ขับลงมาอีกประมาณ 4 กิโลจะมีที่กางเต็นท์ครับ อยู่ระหว่างจุดชมวิวกับที่ทำการอุทยาน
ทางลงจากบ่อเกลือมาปัวทางนี้ต้องขับระวังๆหน่อยนะครับ ทางค่อนข้างแคบแล้วก็ลื่นด้วยครับ
ลงมาถึงปัวที่เเรกที่ผมจะไปแวะคือร้านกาแฟบ้านไทลื้อ เป็นร้านที่ทำด้วยไม้ไผ่ มีกระท่อมให้ไปนั่ง หรือจะนอนก็ได้ครับ เชื่อมกันด้วยสะพานไม้ บรรยากาศรอบๆเป็นทุ่งนาสวยมากครับ กาแฟก็ไม่เเพง เเก้วละ 30 เอง
- กาแฟบ้านไทลื้อ
จากนั้นก็มาเเวะที่ วัดภูเก็ต เป็นวัดที่อยู่บนเนินเขา มองไปข้างหลังจะเป็นทุ่งนา
สามารถลงไปถ่ายรูปข้างล่างได้ครับ
- วัดภูเก็ต
ทั้งร้านกาแฟบ้านไทลื้อเเละวัดภูเก็ต ใครที่วางแผนจะไปน่านต้องมีอยู่ในโปรแกรมแน่นอน
สำหรับช่วงที่น่าเที่ยวผมเเนะนำให้ไปช่วงเดือนกันยา-ตุลาครับ
ช่วงนี้นาข้าวจะเขียว ข้าวโพดกำลังโต มองไปทางไหนก็คงเจอเเต่สีเขียว
ได้เวลากลับเข้าในเมืองเเล้วครับ
ใช้เวลาเดินทางจากปัวถึงตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง
ยังไม่ค่ำเลยเเวะไปวัดพระธาตุเขาน้อย จุดชมวิวของวัดนี้ มองลงมาจะเห็นตัวเมืองน่านครับ
หลังจากลงมาก็มาเเวะที่ถนนคนเดิน ข้างวัดภูมินทร์
หากเป็นวันหยุดจะมีการจัดขันโตกไว้ให้ซื้อกับข้าวจากถนนคนเดินมานั่งทานกัน
เเล้วก็จะมีการเเสดงพื้นเมืองให้ชมครับ
จากที่เคยไปมา 20 กว่าจังหวัด จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ที่สุดแล้วสำหรับผม เมืองเขาสะอาด ไม่วุ่นวาย อากาศดี ผู้คนก็อัชฌาสัยดี ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปดู ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
_____________________________________
นั่งอ่านรีวิวเป็นสิบๆ
เปิดดูรูปเป็นร้อยๆ
ก็ไม่เท่าได้ไปสัมผัสของจริง
เพียงครั้งเดียวหรอกครับ
_____________________________________
ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า
HairBatt
HairBatt
วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.20 น.