2v9mbrgjrpv9
ezmgo60qyqy4

สวัสดีครับ วันนี้ ผม นาย tummengTravel / แบกเป้เท่ห์ทั่วโลก มีทริปแบกเป้เท่ห์ๆ มาฝากอีกครั้ง ครับ

เนื่องจาก สองสามปีก่อน ผม หลงเข้าไปอ่านกระทู้ เที่ยวนาขั้นบันได ที่ ซาปา – มูกางจ๋าย ทำให้ ผมหาโอกาส ที่จะไปเยือนสักครั้ง เพราะ จากรูปที่เห็น ทั้งในรีวิวต่างๆ และ ใน FB ที่ เพื่อนๆเอามาอวดแล้วรู้สึกว่ามันช่างสวยงามเหลือเกิน



ครั้งนี้ เลย ลอง แย๊ปๆ ชวนเพื่อนสองสามคน ที่สนิทๆกัน ว่าไปมั้ย มูกางจ๋าย ซาปา เพื่อนๆก็ตอบตกลงว่าไป ตอนแรกๆ ก็มีคนไปแค่ สี่คน ตอนหลังๆ มี 7 คน แต่สุดท้าย ไปจริงๆ เหลือ 6 คน เพราะ

ตกเครื่องไป 1 คน

แต่ ใน 6 นั้น ไม่มีใครรู้เลยว่า มูกางจ๋ายที่จะไปนั้น มันอยู่ส่วนใหน ของเวียดนาม จะเดินทางไปยังไง มีที่พักไหม รู้แต่ว่ามันสวยมากๆ แค่นั้นเอง และก้ไม่มีใครหาข้อมุลจริงๆจัง เพราะทุกคนคิดว่าผม ที่เป็นชวนคงเตรียมข้อมุลมาดีพอแล้ว ซึ่งผิดถนัด ปรากฏว่าผมงานเยอะจนไม่มีเวลา เตรียมตัว จนก่อนเดินทางแค่ อาทิตย์เดียว เพิ่งจะจองที่พักที่ จองรถ วางโปรแกรมเที่ยว ต่างๆ ทำให้ทริปนี้ กลายเป็นทริปที่ ฉุกละหุก มั่ว งง หลงทิศ ผิดแผน ที่สนุกสนานมากๆครับ



และ ผมจะสรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้ ไว้ ตอนท้ายรีวิว นะครับ



ลองติดตาม ได้ครับ ใน รีวิวนี้ครับ



หาหต้องการติดตาม หรือ สอบถาม พูดคุย สามารถเข้าไปได้ที่

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/TummengMagazine

ตั้งแต่ เริ่มย่างเข้าหน้าฝน เดือน กค ผมก็ชวนเพื่อน ว่าไปซาปา มูกางจ๋ายกันมั้ย จึงเริ่มหาโปร จองตั๋วไปฮานอย จนมาได้โปร 490 บาท ของ แอร์เอเชีย จึงจองตั๋วในช่วง ต้นเดือน กย. เพราะ อยากไปช่วงนาข้าวเป็นสีเหลือง ดังนั้น จริงๆแล้ว ผมมีเวลา อีกเกือบสองเดือน สำหรับทริปนี้ แต่อย่างที่บอกไป สุดท้าย ผมแทบ จะไม่มีแพลนอะไร เลย เพราะ ชล่าใจเกินไป

เราออกเดินทางจาก ดอนเมือง ไปยัง สนามบิน นอยไบ ฮานอย ประเทศเวียดนาม ในเวลา เช้าตรู 6.30 น. ด้วยสมาชิก 6 คน ชาย 5 หญิง 1

28xt02oro60i

ใช้เวลา บิน ประมาณ 1.30 ชั่วโมง จาก ดอนเมือง เราก็มาถึง ฮานอย เมืองหลวง ของ ประเทศเวียดนาม

dm54rtznk826

หากใครขี้เกียจอ่าน รีวิวยาวๆ สามารถ เข้าไปดู คลิปวีดีโอ สั้น ของทริปนี้ ที่ผม ตัดมาให้ชม จากกล้อง Action cam ที่ผมได้ไปใช้ ตลอดทริปครับ

bl5ytuobm7mv
yliszdy4jazi
kq4b6pxgmggv

ตามโปรแกรม ตอนแรก เราจะเดินทางไปยัง มูกางจ๋าย โดยรถตู้ส่วนตัว แบบ 16 ที่นั่ง (ซึ่งนั่งจริงๆได้เต็มที่ 12 คน) ที่เหลือ วางกระเป๋า แต่ปรากกว่า ช่วงที่ไปนั้น เป็นช่วง หยุดยาว ฉลอง วัน ได้รับเอกราช จากฝรั่งเศส ทำให้ ที่พัก ที่มูกางจ๋าย นั้นเต็ม หมด รู้ก่อนเดินทางแค่ 3 วัน ทาง จนท.บริษัททัวร์ ที่ประสานงาน เรื่องรถ และที่พักให้ผม ผมเลยต้อง เปลี่ยนแผนไป ซาปา ก่อน

j7ll3o6go5ne

การเดินทางไปซาปา นั้น จริงๆ เดินทางได้ หลากหลายวิธี เช่น นั่งรถไฟตู้นอน ซึ่งออกเวลา 21.00 น. ไปลงจังหวัดลาวไก แล้วต่อรถบัสท้องถิ่นไปยังซาปา ในเช้าวันรุ่งขึ้น

หรือ นั่งรถทัวร์ ที่มีทั้งกลางวันและกลางคืน โดยรถทัวร์จะวิ่ง บนทางด่วนพิเศษ ระยะทางประมาณ 250 กม ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง

แต่ที่ผมเลือกใช้รถมินิบัส ส่วนตัว เพราะ ผมลองเทียบราคา ดูแล้ว ถึงแม้จะแพงกว่า แต่สะดวกกว่า ครับ สามารถ จอดแวะ ถ่ายภาพ กินข้าว ซื้อของได้ตลอดทาง และ ยังใช้เวลาเดินทาง น้อยกว่า ทำให้สามารถไปถึง ซาปา ในวันแรกที่ ไปถึงเวียดนาม ไม่ต้องมัวเสียเวลา ที่ ฮานอย 1 วัน

nxxkxzvtdqhu

นี่คือร้านค้า จุดแวะพัก บนทางด่วนของเวียดนาม ระหว่างทาง ฮานอย ไป ซาปา ครับ สภาพห้องน้ำ เรียกว่า ฉี่ได้อย่างเดียว ครับ ดังนั้น ใครจะนั่งรถยาวๆ ควรจัดการธุระ ให้เรียบร้อย ก่อนออกเดินทางนะครับ

วิวระหว่างทาง ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรครับ นอกจากเจอรถบัส วิ่งสวนไปมา

mzjnkm5k2vdr
uzsv6e7f7dur

ระหว่างทางก็มีการ ลอดอุโมงค์ ยาวๆ ด้วย สองครั้ง ถ้าจำไม่ผิด

ea9lx18vc3fh
t75v9j6gahd9

แต่เมื่อรถมาถึงยัง ลาวไก แล้ว เลี้ยวเข้าทางที่จะไป ซาปาเท่านั้น แหละ ความงาม บวกกับความหวาดเสียวก็บังเกิด

ก็นั่งกัน หัวสั่นหัวคอน ประมาณ 30 กม ครับ กับถนนที่ แคบ และ โค้งเยอะ

71ok1n16hxev
7kc6k06tqsik

กลุ่มเราเดินทางมาถึงที่พัก ในเมือง ซาปา เวลา ประมาณ 15.00 น. ครับ เนื่องจาก อย่างที่บอก กลุ่มผม แทบไม่มีข้อมูลอะไรเลยในทริปนี้ จึง ออกมาเดินเซอร์เวย์ เมือง ซาปา กันก่อน ว่า มีอะไร ที่ไหน ยังไงบ้าง

r6cnx76wfc3f
j8ps0l6gjqpw

เราพักที่ Eden sapa hotel เดินออกมา เล็กน้อยก็เจอ ลานเอนกประสงค์ และ ข้างๆ กัน ก้เป้นคล้ายๆ ตลาดนัด ที่มีชาวเขา เอาสินค้า มาวางขาย

orrd9588vase
yfx1fkhzo7hj

เราเดินสำรวจ ต่อ ไป ยัง ทะเลสาบ เพราะ ตอนที่นั่งรถมา เห็นแล้ว ว่า มันน่าจะสวย มาเก็บภาพได้

jthtbk8qzl3f
euf8chspp5fc
592l1ek6ghok

เมืองซาปา นั้นเป็นเมืองที่ โอบล้อมไปด้วยภูเขา และตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1600 เมตร อากาศ จึงเย็นสบายตลอดปี บางที ฤดูหนาว ก็มี หิมะตก อีกด้วย

h18vzgrjt4sk

ซาปา แห่งนี้ ผู้คนท้องถิ่น จะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว ดี จึงไม่ค่อย ขี้อายเท่าไหร่ และ สามารถพูดคุย กัน ด้วย ภาษาอังกฤษ ได้ ตั้งแต่ เด็ก ถึง ผู้ใหญ่ ทำให้ง่าย ต่อการ หาอาหารกิน ตลอดการอาศัยอยู่ที่นี่

ผมก็ถือ กล้อง เดินๆไปเก็บภาพไป พูดคุยทักทาย คนแถวนั้น ได้ โอกาส ก็เก็บภาพ เด็กๆ มาฝาก

y38ue4pqk8y6
edam2wo7cj6m

ในตอนค่ำ วันแรกที่ซาปา เราโดนต้อนรับ ด้วย เมฆฝน ก้อนมหึมา จึงพากันมานั่งเก็บภาพ แสงเย็น ที่ ระเบียงของโรงแรม

8swtx3ju041c

คืนแรกเรา ไป ทานอาหาร ที่ร้าน ใกล้ๆ โรงแรม ตามคำแนะนำ ของ พนักงานโรงแรม ตอนที่เราไปทำเรื่อง เช้ามอไซค์ในวันรุ่งขึ้น โดยค่าเช่า คิดวันละ 150000 VND ประมาณ 180 บาท

8glvquzjp436

ตอนเช้า เราออกจาก โรงแรมแต่เช้า โดยที่ไม่ยอมทานข้าวเช้า เพราะ อยากออกไปเก็บแสงยามเช้าที่ นาขั้นบันได หมู่บ้าตาฟาน Ta Van ตามข้อมูลที่หาได้ ใน อินเตอร์เน็ท เมื่อคืนนี้

phd8w10wasxt

หมู่บ้านตาฟาน อยู่ห่างจาก ซาปา ประมาณ 12 กม. แต่ระหว่างทางไปนั้น ก็มี นาขั้นบันได ให้ จอดเก็บภาพ ได้เรื่อย ครับ

44sey4wh20dz
er8cx68c067z

ขี่มอไซค์มาสักพัก มา เจอ หนูน้อย สองคนนี้ ยืนอยู่นะจุดที่ ชมวิว นาขั้นบันได สวยมากๆ จุดหนึ่งครับ

7kwmaalckg5g

เราก็ไม่ รอช้า เข้าไปเก็บภาพทั้ง เด็ก ทั้ง นาขันบันได

0oe3v9klu21c
2zkradxhytc8
lp0vtn88vykf

เก็บภาพได้ สักพัก เราก็เดินทางไปยัง หมู่บ้าน ตาฟาน กันต่อ ครับ

3echcpnekqll

ถึงแล้ว หมู่บ้าน ตาฟาน สัญลักษณ์ คือ จะมี สะพาน เหล็ก ที่เป็นสะพาน แขวนอยู่ แต่ ตอนมาถึง ฝนกำลัง ตั้งเค้า ว่า จะตก พวกผมเลย แวะ หาอะไร กิน ในร้านเล็กๆ ในหมู่บ้าน ที่ทำเป็น โฮมสเตย์ รับนักท่องเที่ยว ฝรั่ง ที่อยากมาพักกับ ชาวเขาเผ่า ม้ง จริงๆ ครับ

1zaomeb1k6tv

เซ็ตนี้ 40000VND ครับ นั่งกันชิลล์ๆ รอฝนหยุด ประมาณ ชั่วโมงนึง

หลังจากฝนหยุดเราก็ออกเดินทาง ขี่มอไซค์ กันต่อเพื่อไปตามเก็บภาพ นาขันบันได ที่ มากมาย ก่ายกอง เป็นภูเขา สีเหลือง สลับเขียว เต็มไปหมด

bkhircgts0pl
9ley3yz1rbjg
ebhhxb3f8s3y

ถ่ายนาขันบันไดเบื่อ ก็หันไปถ่ายผู้คน ถ่ายเด็กๆ ในหมู่บ้าน ที่ตามตื้อมาขายสินค้า พื้นเมืองต่างๆ เลยช่วยอุดหนุนขายรัดข้อมือไป สามเส้น แล้ว จับเด็กๆ มาเป็น แบบ ซะเลย

vqhnlx5b66gc
yj2w551culo6

ที่หมู่บ้านตาฟาน นั้น ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยว ฝรั่ง มักจะใช้ วิธี เดินเล่นชมหมู่บ้าน โดยมีไกค์ เป็นชาวเขา ที่เป็นอาสาสมัคร

p4uetuwbci0v
cvkbff9fr57k

พวกผม ยังคง ขับมอไซต์ ตะลุย ไปเรื่อย จาก ตาฟาน เจอตรงใหน สวยถูกใจ ก็พากันแวะจอดถ่ายรูป

b3xs7tsmocs3
wmd6lxtzgj80

การขี่ มอไซค์ ที่นี่ต้องใส่หมวกกันน็อคตลอดนะครับ เพราะ ไม่งั้นตำรวจจับ อีกอย่างก้คือ ทางอันตราย ก็เซฟตัวเองไปด้วย

az6y5s79v33u
9snz1w0j6cmh
o4n82nstl63x

ระหว่างทางกลับ เราก็แวะ จุดชมวิว อีหลายๆจุด เก็บภาพ นาขั้นบันได และผู้คน ไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน ครับ เพราะ ไปกันเอง อยากแวะตรงใหน จอดเลย เดี๋ยวเพื่อนก็จะจอดตาม

ia6wtmtclxl6
6nt0hbj5dsq9
xj7v6rug5n4y
ero7okft1ytb
pla1e3xmj5kw
dg70vj7ith2t

หลังจากนั้น เราก็กลับไปทานข้าวเที่ยง ที่ร้านเดิน เมื่อคืน และ พักผ่อน เล็กน้อย ชาร์ตแบตกล้อง ต่างๆก่อนจะออกไป ยังหมู่บ้าน กั๊ตกั๊ต Cat Cat village

oj5xaycnmaax

ก่อนไปหมุบ้านกัต กัต เราแวะกันที่ ร้าน coffee view กันก่อน เพราะเห็นว่า น่าจะ มีจุดชมวิวสวยๆ ถ้ามองจากตรงนี้

9if9ysnv9uvr

แล้ว วิว ที่ที่เห็น ก็สวยงาม อลังการ จริงๆ ครับ

7q3bdekv2di8
s92nsq1lwza4
wzvjwf0s3u76

หลังจาก ชิมกาแฟ แล้ว ก้ลงไปเดิน ยังหมู้บ้าน กัต กัต ซึ่งต้องเสียค่าเข้า 40000 VND แล้ว ผมก็เดิน ไปตามทาง ที่ เขาจัดไว้ ซึ่งมีแต่ ร้านขายของ ที่ระลึกต่าง

dg0qytcmwwvu

เดินไปเรื่อย จนถึง น้ำตก ก็หยุดถ่ายภาพ ที่นี่ สักพัก ก่อนจะ กลับไปยังซาปา เพราะ ผมไม่ค่อยประทับใจ หมู่บ้านนี้เท่าไหร่นัก จริงๆ พก เลนส์เทเล ยาวๆ แล้ว ส่งจาก ร้านกาแฟ ก็เก็บ นาขั้นบันได สวยๆได้แล้ว

iv2kniw3sufb
qj9f4xo1ucms

คืนที่สองนี้ เรายังอาศัย ร้านอาหารร้านเดิม ซึ่งเมนู ที่สั่งก็ไม่มีอะไรมาก ข้าวผัดบ้าง ข้าวหมุทอด ข้าว เนื้อทอด สปาเก็ตตี้ ราคา ประมาณ 70000 – 120000 VND

หลังจาก ทานเสร็จแล้ว ก็ออกไปหาเก็บ บรรยากาศ ตอนกลางคืน ของเมืองซาปากัน เพราะ เป็นคืนสุดท้ายของที่นี่แล้ว พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปยัง มูกางจ๋าย ตำบลเล็กๆ แต่เขาว่านาขั้นบันไดสวยกว่าที่นี่

ja1rj12h0zzj

กลับมายังที่พัก ก็ไปสอบถาม ว่า พรุ่งนี้พวกผมจะไป มูกางจ๋ายได้ ยังไง เพราะก่อนมา ได้ สอบถาม เพื่อน ที่เป็นไกค์ ในเวียดนาม ว่า มีรถ โดยสาร วิ่งไปได้

คำตอบที่ พนักงานโรงแรมบอก ก็คือ ไม่คิดว่าชาวต่างชาติ จะเดินทางไปยัง มูกางจ๋าย ด้วย รถโดยสาร ปกติ ได้ เพราะ อย่างน้อย ต้องต่อรถ ถึง 3 ต่อ เลยแนะนำให้ เหมา รถมินิ บัสส่วนตัวไป ใน ราคา 170 usd

เอาละสิ ที่นี้ ก้งานเข้า ละสิ เป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย สำหรับ ทริปนี้ ทางเราก็ลองไปคุยกัน ว่า จะเอายังไงดู ละทิ้งค่าที่พัก มูกางจ๋าย แล้ว นอนที่นี่ เพิ่มอีกคืน แล้วกลับ ไปเดินเล่น ที่ฮานอย ไหม หรือ จะยังไป มูกางจ๋าย ต่อ

ทุกคนในทริป ลงความเห็นว่า ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ก็ต้องไปไห้ถึง มูกางจ๋าย จึง ตกลงกันว่า ยอมเช่ารถ ไป เสียเงินเพิ่ม

ก็ถือว่าเป็นทริป ที่ทุกคน มีอุดมการณ์คล้ายๆกัน ดังนั้น พรุ่งนี้ พบกัน ที่มูกางจ๋าย ครับ

ตอนเช้า ตื่นมาเก็บ ภาพบรรยากาศยามเช้ากันอีกรอบ เพราะ เมื่อคืน ฝนตก เลยมีหมอกไหลๆ มาให้ถ่าย

j5kmkc7uhbet
zdw6sqb21qgh

ก่อนทานอาหารเช้า เราก็ได้ รับ ข่าวไม่ค่อยดีนักคือ ในตอนแรก ที่คุย กับ พนักงาน โรงแรม นั้น เราจะ เหมารถไปยัง มูกางจ๋าย ในราคา 170 usd โดยให้รถไปส่งเรา ที่ ทูเล่ ลาปาตอน และ มูกางจ๋าย เพราะ เข้าใจว่าเป็นการเหมาแบบ ทั้งวัน แต่ พนักงาน โรงแรม แจ้งว่า รถ จะไป ส่ง แค่ มูกางจ๋าย เท่านั้น ไม่แวะที่ไหน เลย เพราะ ต้องใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ในระยะทาง 156 กม พวกผมเลย ตัดสินใจ ไม่เอารถ ที่ ทาง โรงแรมจัดให้ แต่ ผม ได้โทร ให้ เพื่อนผมที่เป็นไกค์ จัดหารถ ที่สามารถ แวะจอดให้พวกผม ถ่ายรูปได้ แต่ก็ไม่สามารถ ไป ทูเล่ และลาปาตอนได้

เรานั่งรอรถ สักพัก เก้าโมง กว่าๆ รถก้มารับเรา โชคดี วันนี้ เราได้ รถใหม่ แอร์เย้น และคนขับ หนุ่ม ใจดี พาเราแวะตลอดทาง

x9pfdmpfb3kj

ระทาง 156 km จาก ซาปา มา มูกางจ๋าย นั้น นั่งรถกัน 5-6 ชั่วโมง ครับ แต่เชื่อมั้ย ว่า สาม ชั่วโมงแรก นั้น ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะ วิว ระหว่างทาง นั้น สวยมากๆ พวกเราจอดบ่อย จนเกรงใจ คนขับรถเลยครับ

uhyhq8vg2dtp
ymjwuxnteauj

มีทั้ง ภูเขาใหญ่ๆสูงๆ ที่หาบ้านเรา ไม่ค่อยมี แม่น้ำสายเล็กๆ ที่มีโขดหิน หรือแม้แต่ น้ำตกขนาดใหญ่ ก็มีให้เห็นตลอดทาง

hdtib2p5j0uv
c6o1c46wy5d6
21uozo1zex5r

นั่งๆ อยู่ เลยเที่ยงมาหน่อย พวกเรา ก็หิวข้าวกันครับ เพราะ บางคนไม่ได้ ทานข้าวเช้า เพราะ มัวแต่ ไป เคลียร์ เรื่องรถ จนลืม กินข้าว เลยบอกคนขับว่า มา จอดกินข้าวหน่อย คือ จริงๆ คนขับ นี่ไม่รู้ ภาษาอังกฤษ เลยครับ ใช้ ภาษามือ กันมาตลอด ครั้ง พี่แก ไม่เข้าใจ เลย กด โทรศัพท์ ให้ผม คุยกับใครสักคน นี่แหละ ว่าต้องการอะไร ผม ก็บอกไปว่า ให้จอดกินข้าว ก่อน ก็เลย รอดตัวไป

คนขับพาเรามาจอด ที่บ้านหลังหนึง ลักษณะ เป้น บ้านไม้ ยกพื่น ดูแล้ว ไม่น่าเหมือน ร้านอาหาร แต่ ผมเห้นมี คนเวียดนาม ที่ใส่ชุด เจ้าหน้าที่ ของเขา นั่งกันอยู่ หลายคน ปรากฏว่า ที่นี่เป้นร้านอาหาร แบบ บ้านๆ ครับ เจ้าของร้าน น่าจะเป้นคนไทพวน หรือ ไทอะไรสักอย่าง พี่ก พูดไทย สำเนียงไทลื้อ ผสมอีสาน สื่อสารกับพวกเราได้

นั่งรอสักพัก เมนู ก็ไม่มีให้สั่ง นั่งจิบชาไป พี่แกก็มาเรียกให้ไปกินข้าว ครับ

ขึ้นไป ก็เจอ สำหรับ แบบนี้ ตั้งรออยู่แล้ว เราก้ตกใจ เอ้ยย แล้ว แบบนี้ มันจะกี่บาท วะนี่ แต่ไม่เป็นไร ก้นั่งกินกันไป มีนู หลายอย่าง ปลาแดดเดียว ลาบหมูแบบทางเหนือ แกงหน่อไม้ ผัดหน่อไม้ แกงผัก ยำหุหมู ที่เด็ดสุด คือ กินๆอยู่ มีอาหารมาเพอ่มอีกหนึ่ง จาน นั่นคือ เนื้อควายย่าง ไอ้ผม นะไม่เท่าไหร่ เพราะ เคยกินแล้ว แต่ หลายคนไม่เคยกิน ใหนๆ ก็มาแล้ว ก้ต้องลอง กันละครับ 555 ไม่กินที่นี่ ก็ไม่รู้จะกินที่ไหน แล้ว

gwfcd6p5p2pd

พร้อมกับ เหล้าขาว กลั่นเอง สามขวด ที่ เพื่อนผม ต้องเข้าพรรษาแตก ที่นี่ เพราะ เจ้าของบ้านมาชวนชนแก้ว จะไม่กิน ก็เกรงจะเสียมารยาท

iblx566vyk2y

หลังจาก ที่อิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทาง ต่อ จุดหมาย ที่เดิม ครับ มูกางจ๋าย ซึ่ง ตลอดทาง ที่ผ่านมา เรายังไม่เห้นป้าย หลักกิโล ที่เขียน ว่า มูกางจ๋าย กันเลยครับ เห้นแต่คำว่า Mc chai ทำให้รู้สึกว่า มันไกล๊ไกล ซึ่งมานึกได้ตอนหลังว่า mc chai ย่อมาจากคำว่า Mu cang chai นั่นเอง

วิวระหว่างทาง ยังเทพเหมือนเดิม แต่ เริ่ม มีเรื่องราวมากขึ้น เพราะ เริ่มมีหมู่บ้าน หรือ เมือง ให้เห้นบ้างแล้ว นอกจากภูเขา ทุ่งนา และสายน้ำ

bzlnj1dc5uyu
rmrujo29a3f8
skqnjn2ye06u

เจอมุมไหน สวยๆ จอดหมด คนขับรถไม่บ่น เพราะ เรา ใช้เงินฟาดหัวไป 100000 VND เรียบร้อยแล้ว 555

koaslbqb63ln
0m926ctk1y9o

ประมาณ เกือบๆ 16.00 น เราก็มาถึง ยัง โรแรม Moon hotel ที่มูกางจ๋าย โดยไม่รู้ตัว เพราะคิดว่า ยังไม่ถึง555 ตอนแรก เห้นหลักกิโล บอกว่า mc chai นึกว่าไม่ใช่

เข้าไป โรงแรม ปรากฏว่า ห้อง ที่จองไว้ ยัง ทำความสะอาดไม่เสร็จ เนื่อง จาก แขกที่พัก วันก่อนหน้า นี้ เช้คเอ้าท์เลท เลย เช่า มอไซค์ จาก ดรงแรม ออกไป แว้นซ์ กันก่อน ใน ราคา 200000 VND ต่อวัน

m988500jhucq

ขับไปได้ 500 เมตร ปากฏว่า รถที่ผมเช่า น้ำมันหมด คือแบบว่า การเช่ารถที่นี่ เขาจะดุดน้ำมันออกจากถัง เกือบหมด เราต้องไปเติม เอาเอง เลยต้องเข็นไป ที่ปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน เติมเสร็จ ฝนดันตกลงมา เลยนั่งรอ เกือบครึ่งชั่วโมง กว่าฝนจะหยุด

gqfe45zb66jf

และ นี่คือ จุดชมวิวจุดแรก ที่ ออกจาก ตัวหมู้บ้าน มูกางจ๋าย มุมนี้ ถ้ามาช่วงอากาศดี จะเห้น พระอาทิตย์ตก พร้อมกับ บรรยากาศในหมู่บ้าน เล็กๆ

te8kvayiq4mg

เราก็ ขับมอไซค์ไปเรื่อยๆ เจอตรงใหน ก้ จอดถ่ายไว้ หมายตาไว้ กะว่า พรุ่งนี้ จะมา ซ้ำรอยอีกที ถ้า อากาศดีๆ

lc7jmqqdpwc2
fqtlp9mbqc8o

ถ้าที่ ซาปา ว่าสวยแล้ว ที่ มูกางจ๋าย ยิ่ง สวยมากๆ เลยครับ

ijfwm72epijp
96gtkyjygvm6
x9yvl255afnd
uw8pefribpmz

ตามคำบอกของ เจ้าของ โรงแรม บอกว่า ที่ สวยๆ บริเวณนี้ ก็จะมี Tule ,lapaton และหมู่บ้าน ไกล้ๆ มูกางจ๋าย แต่ ทริปนี้ เราไม่ได้ ไปตูเล เพราะ มันไกลจากมูกางจ๋าย ประมาณ 50 โล ครับ

ขับไปเรื่อย จอดถ่ายรูป ไปสักพัก รถของเพื่อนอีกคัน ก็เสีย มีเสียงดัง ที่ โซ่ คล้ายๆ โซ่หย่อน เลย แวะ ซ่อม พร้อมกับ นั่งพัก สอบถามทาง และ พูดคุย กับคนท้องถิ่ง ด้วยภาษามือ ครับ เพราะ ที่ มูกางจ๋าย ไม่เหมือน ซาปา ที่ คนท้องถิ่นที่นี่ พูดอังกฤษ แทบไม่ได้ เลยครับ เพราะ นักท่องเที่ยว ไม่ได้ มาที่เยอะเหมือนซาปา ดังนั้น การสื่อสาร ที่นี่ค่อนข้างลำบาก นิดนึง นะครับ เรียกว่าเมื่อยมือกันเลย

เมื่อซ่อมรถเสร็จแล้ว ก็ใกล้ จะค่ำ เลย ชวนกันกลับ ที่พักก่อน พรุ่งนี้ ค่อยว่ากันใหม่ ครับ

bzdr8b4qrkfm
v46dg0ax7ix1

วันที่สองในมูกางจ๋าย เป้าหมาย ของเราคือ La pan ton และ ลานฮอฯ ในตำนาน

เราขับมอไซค์ ไป เรื่อยแวะถามทาง ไปเรื่อย ก็ยัง ไม่สามารถ ระบุได้ ว่า ลานฮอ นั้นอยู่ตรงใหน

แต่ เราเจอมุมสวยๆ ก้จอดเก็บภาพ กัน อย่างสนุกสนาม แม้ แสง จะไม่ค่อเป้นใจ ฟ้า ครึ้มสลับแดดออกตลอด วัน

3hu7urol9tjv

คือ ขับไป ทุกๆ 200-300 เมตร นี่ ต้องจอด เก็บภาพ กันเลย

gg3l921l31ce

ตรงจุดนี้ เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่ มุมสวยมากๆ ครับ นาข้าว สีเหลือง สลับเขียว กำลังดี และนี่เป็นเหตุผล หลัก ที่พวกผมเลือกที่จะมา มูกางจ๋ายในช่วงนี้ เพราะ ก่อนมา เช็คข้อมุล กับ ไกค์ท้องถ่นตลอดว่า ข้าว เหลืองหรือเขียว

qmgv88xgnrml
ytur48shbkda
7ecrivrt5f3f
yzmubi6env5t

ขอแนะนำเลยครับ ว่ามาที่นี่ ให้ใส่เสื้อผ้าสีสดๆ มา แล้ว จะได้รูปเท่ๆแบบนี้

zqjkno5e0o22
ca9q5bnei9ci

เราใช้เวลา ประมาณครึ่งวัน ในการตระเวน เก็บภาพ มุมต่างๆ ของนาขั้นบันได ที่นี่

0w9rkb60ff74
s30dl3xy1efv

ช่วง เกือบ เที่ยง เราไปถึง ยัง ทางแยก เข้าไป La pan ton ก็เลย แวะ หาอะไร ทานกันก่อน เพราะ ที่ โรงแรม ไม่มีอาหารเช้าให้ จัดเฝอ ไป หนึ่งชาม 40000 VND

s1nagzddxnkp

ช่วงบ่าย เราจะ ลอง เข้าไป ยัง La pa ton

แค่เลี้ยวเข้าไป ไม่ถึง โล เจอทางแบบนี้ แทบ ถอดใจ แต่ ดีที่ มีไม่เยอะ แค่ ประมาณ 200 เมตร เท่านั้นเอง

7vvaxokla0fu
j0orwbw8ptn0

ยังคงลุยกันต่อไป

เก็บภาพนาขั้นบันได ไป เรื่อย

cawt9u0g4q00
irgg832zgofh
6yahubunc0uy
net3iltha8uj

แอบเก็บภาพเพื่อนร่วมทริปบ้าง เพราะ สีเสื้อ จริงๆ นะ

vfsxobys0b01
5a9lmzeh4267

ทริป ซาปา - มูกางจ๋าย เป็นทริป ที่ ปลดปล่อย มาก เพราะ เป็นทริป ที่จัดกันเอง มาเอง กับเพื่อนๆ อยากไปใหน ทำอะไรได้หมด เปลี่ยนแปลงแผนกระทันหัน เจอที่สวยๆ อยู่นานถ่ายรูปรอแสงสวย



หรือแม้แต่ จะนั่งดูเฉยๆ เพราะ ภาพที่เห็น งาม จนไม่สามารถถ่ายออกมาให้สวยแบบที่ตาเห็นได้ ก็เลยยืนดูเฉยๆ ก็มี บางครั้ง ทำอะไร อยู่ในกรอบนานๆ แล้ว ได้ออกมา ปลดปล่อย พักผ่อนบ้าง ก็เป้นการ กระตุ้นจินตนาการ ได้ดีเหมือนกันนะครับ

2oj1cx2k1bfe

ขับขึ้นไปเรื่อย เจอเด็กๆ กลุ่มหนึ่งกำลัง เล่น แข่งรถกันอยู่ใน ร่องน้ำ เลย กะจะเอา Action cam ไปตั้ง ถ่าย ซะหน่อย ปรากฏว่าเด็กๆ เลิกเล่น

เลยไปเจรจา ให้เด็กๆ เล่นอีกครั้ง บนถนน

y8csjxcv4iuy
6ol7ppduw902

หลังจาก ปรึกษากันว่า ถ้าจะไปต่อ เราคงจะหา ลานฮอ ในตำนาน ไม่เจอ เลย ชวนกัน กลับ เข้าไปยังหมู่บ้าน และ เข้าไป สอบถามเส้นทาง จาก คุณครู ในโรงเรียน ได้ ความว่า การจะไปลานฮอ นั้นไปยาก มาก เดินไกล และ ต้องเป็นรถ กะบะ4WD ถึงจะขึ้นไปได้

e7ti0m2ie524

โดย คุณครู ได้ บอกทางคร่าวๆ ให้เราแล้ว ว่าต้องย้อนกลับไปยัง ทาง มูกางจ๋าย โดยลานฮอ จะอยู่ห่างจาก มูกางจ๋าย ประมาณ 5 โล และห่างจากจุดที่เราอยู่ ปนะมาณ 4 โล เราจึง ตกลงกันว่าจะไป ยังลานฮอ แต่ระหว่างทาง จำได้ ว่าในแผนที่ บอกว่า มี อีกหมู่บ้านนึง ที่ ควรแวะไป และ เป็นทาง ที่เราต้องผ่านไปยังลานฮอ เลยลองแวะไปครับ

ii471l5gh17j
kop46lk3e675

เมื่อแวะ ก็จะเห็น นาขั้นบันได้ อีกมากมาย และ เรามีโอกาส ได้ เข้าไปถ่าย การ เกี่ยวข้าว และ การทุบเข้าแบบเวียดนาม ครับ


การเกี่ยวข้าว และทุบข้าว ที่นี่ ไม่เหมือนบ้านเรา นะครับ เขาจะเกี่ยว และ ทุบข้าว ใส่ถัง ไม้ โดยผุ้ชายมีหน้าที่เกี่ยว และ ผู้หญิง ก็เอาข้าวที่เกี่ยวไว้ มาทุบ ในถังไม้ เพื่อให้ เมล็ดข้าว หลุดออกจาก รวงข้าว แล้ว ก็เก็บข้าวใส่กระสอบ ไปกินที่บ้าน



3x4jji41bri5
g0zm9k6surfq
29suns5xeh8u
dfgb386u1tkx

พี่ที่อาวุโสที่สุดที่ร่วมทริปผมเลย ขออาสา ทุบข้าว ดุสักที โดยมี แม่ และเด็กน้อย คอยลุ้นว่าจะทำข้าว เขา กระเด็นหายไปมากแค่ใหน

xjgb2qh5wj1y

ก่อนที่จะพากันเก็บภาพเป็นที่พอใจแล้ว ก็ขอตัวออกมาก โดยอาศัย ภาษา มือ ทั้งหมด แต่ก็เข้าใจกัน เพื่อนผม ป๋าหน่อย เลย เอาเงินให้ ตีปเด็กไป 5000 VND

589rz9jybz5k
g4yhlx8qjoty
ah560d324kjm

จุดหมายต่อไป เรายังคง มุ่งหน้าไปตามหา ลานฮอ ในตำนาน โดยการถามทาง และ วัดระยะ จับไมลืรถไปเรื่อยๆ ประมาณ 4 โล เราเลยจอด ในจุดที่เราสงสัย ว่าจะใช่ ไปสอบถามทางปรากฏ ว่าเรามาถูกที่แล้ว ครับ

0du81pgmqi1q

แต่ปัญหาคือ ทางขึ้นนั้น เรียกว่า เหมาะกับรถ มอไซค์วิบากมากกว่า ไม่สามารถ ซ้อนกันขึ้นไปได้ เราเลย จ้างให้ วัยรุ่นท้องถิ่นที่นั่น ขึ้นไปส่ง เพื่อน ที่ซ้อนมอไซค์ ส่วนเราก้ขับกันขึ้นไปแบบ ทุลักทุเลมาก เกือบ จะตกเขา อยู่หลายครั้ง ไม่มีโอกาส ได้ จอดถ่ายภาพระหว่างทางเลย เพราะ พื้นลื่นมากจากการที่ฝนตก ทางเป้นดินลูกรังอัดผสมหิน ถ้าใครขับมอไซค์ไม่แข็งจริง อย่าเสี่ยงนะครับ เดินขึ้นไปดีกว่า ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที ได้

แต่เมื่อขึ้นไปได้ วิวเทพๆ ที่เราตามหากันมา ตลอดสองวันที่ อยู่ที่นี่ก้รอเราอยู่จริงๆ ครับ

opy35adii7at
an7f319ojvdm
jrtdquqoj454

ความรู้สึกเหมือน กับว่า เราได้ ค้นหาสิ่งหนึ่ง ที่เราอยากเจอมานานมาก แล้วเราก็เจอจนได้ ทำให้บางครั้ง เราสามารถใช้เวลา ที่จะอยู่กับมันตรงนั้น นานแค่ใหน ก้ไม่รู้สึกเบื่อ ยืนกดชัตเตอร์ไปเรื่อย ก็มี ชาวบ้านแถวๆ นั้นเดินผ่านมาผ่านไป ส่งเสียงให้กำลังใจ พวกเรา เพราะ บนนั้น ตอนนี้ มีแต่พวกเราแค่ 6 เท่านั้นครับ

sxbuchb0tqqc
hpvw0ebvcc26
fkbt3xj9rstu
yivvexe2ejk5

บริเวณนี้ จะมี บ้านของชาวเขาเผ่าม้ง อยู่ไกล้ๆ จึงทำให้ เราหานางแบบได้ไม่ยาก

kr13c4ljlsbx
fsf7izw8pnoy
1qux1hta4lkf

การสื่อสาร ลำบาก บางที ก็ไม่ได้ เป็นอุปสรรค ในการเดินทางนะครับ การใช้ภาษามือบ้าง ก็สนุกดี ทำให้เราได้ มิตรภาพ จากคนท้องถิ่น

j50qg4nd4r3n
ulnxw1fynh38
x4b9g11qj5ah
eyb23105il4s
ty0ly3ckqir5
90v5x9tyyigo
ia7t1v8rx2yz

เราใช้เวลา รออยู่ที่นั่น เกือบ สามชั่วโมง เพราะ รอแสงสวยๆ ตอนเย็น ที่อาจจะ ส่องลงมา ซึ่งในที่สุด ก็มีช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องลอดลงมา ไม่กี่นาที ก็รีบกดชัตเตอร์ กัน แต่ เราไม่สามารถ รอจนค่ำได้ เพราะ ต้องลงเขา

โดย มอไซค์ ซึ่ง อันตราย มากๆ

qu0kxoy887sz
ofi7jlmvqnyx
b71qphp705x5
3g9af8npl9pk

ขาลง ง่ายกว่าขึ้นนิดนึง แต่ ความหวาดเสียว นั้นมากกว่า เพราะ ลื่นกว่า และ ความเร็วรถที่ลงไปนั้นเร็ว อาจจะ หลุดโค้ง ตกเหวได้ ต้องบอกว่าโชคดีมาก ที่ ไม่มีใคร ได้รับบาดเจ็บ เลยสักคน ถึงแม้ ผมจะ ทำมอไซค์ล้ม ตอนขาลง

หลังจากลงมาถึง แล้ว ก็ทักทาย กับครอบครัว ของ คนที่พาเราขึ้นไป และ ถ่ายภาพหมูกัน เป็นที่เรียบร้อย ก็ พากันกลับ ที่พัก อย่างอ่อนแรงครับ

7guesf74imkk

ระหว่างทางกลับ ก็เจอวิวสวยๆ อีก อดไม่ได้ ที่ต้องจอด เก็บภาพกันอีกครั้ง

f0ma6omve51w
azpalsxx79j3
ns2xbzxq2ppe
6195nx6m6gcy

มาถึงที่พักก็ยัง มิวาย แบก ขาตั้งกล้อง ไปเก็บภาพยาม เย็น ที่ริมน้ำกันอีก

uliquua6xcmy
kw7nyfth7ou8

เป็นอันจบทริปถ่ายภาพ ที่มูกางจ๋าย ครับ เพราะ พรุ่งนี้ เรานัดรถ มารับเรา จากฮานอย เพื่อพาเรากลับไปฮานอย

ในเวลา 9 โมงเช้า เพราะ จากการที่คุยกับ ไกค์ เราต้องนั่งรถ ระยะทาง ประมาณ 250 โล โดยใช้เวลา ประมาณ 6-7 ชั่วโมง เพราะไม่ได้วิ่งเส้นทางด่วน เหมือนตอน ขามา จากฮานอยไปซาปา

ก่อนรถจะมารับ กลุ่มเราก้พากันออกไปหา อะไรกิน ที่ ตลาด มูกางจ๋าย และเก็บภาพบ้านเมืองเขาสักหน่อย เพราะ ตั้งแต่มา ก้ถ่ายแต่นาขั้นบันได

xhq58um457e1
aryc473kstxv
htw84ilnv9gi

หลังจากนั้น ก็ ขึ้นรถ บัส ที่มารับ โดยการโทรติดต่อจาก ไกค์คนเดิม เพราะ ไม่สามารถ นั่งรถโดยสาร ออกไปได้ เนื่องจาก เสียเวลามาก ๆ และ พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เลยไม่ได้แวะ ตูเล่ (Tule)

09qqtiahz9cu
686rq2f6q2t5

ก็นั่งกันยาวๆ ไปถึง ฮานอย ระหว่างทาง มีการจอดถ่ายภาพ และ อ้วกกันบ้างเล็กน้อย และ แวะทานข้าวกลางวัน ก่อนจะมาถึง ฮานอย ในเวลา เกือบ 17.00 น.

zyw5f4esoxbe

น. เรารีบเช็คอิน ที่โรงแรม ที่จองไว้

เป้นโรงแรม ที่เพิ่งเปิดใหม่ และ สวยน่ารักมาก ที่เลือกจาก เพราะ ไกค์แนะนำ ว่า อยู่ไล้แหล่ง ช๊อปปิ้ง และ ทะเลสาบ Hoa gium lake แบบเดินไปได้

แต่อยู่ในซอย ลึกนิดนึง เป็น โรงแรมเล็กๆ มี 6 ชั้น พนักงานน่ารัก และ อัธยาศัย ดีมาก พูดอังกฤษ ได้ดี

qxl8v0n6hncm
n1am8rcc77yk
xa177o65gsq7

หลังจากวางกระเป๋า แล้ว ก็รีบเดินออกไปยัง ทะเลสาบ เพื่อเก็บภาพ ยามเย็น ของเมือง ฮานอย

on7282s9ct69
ggydplxeztgu

ผู้คนมากมาย เพราะ ยังอยู่ในช่วง วันหยุดฉลองเอกราช ของเวียดนาม ครับ

40mgs6yp2qp8
b1mb1nyzjx2b
ubfcjdm4aa6j
ch7dzqvlpte6

สรุปค่าใช้จ่าย

- sim Vietnam 10usd

- car to Sapa 250 usd

- room Sapa 230 usd

- motorbike sapa 32 usd

- car to mu cang chai. 170usd

- room mu cang chai 120 usd

- room Hanoi 110

- car to Hanoi 150 us

- motorbike mu Chang chai. 50 us

- taxi to airport 22 us



Total = 1144 usd / 6 person



เฉลี่ย คนละ 190 usd หรือ ประมาณ 6700 บาท

ไม่รวมอาหาร ที่ทานแต่ละมื้อเฉลี่ย ที่ มื้อละ 100 บาท

และตั๋วเครื่องบิน ที่แต่ละคนจองมาไม่เท่ากัน ซึ่งราคา อยู่ประมาณที่ 2500 - 4500 บาท

ae9rrpn6tk8i
8kzrl3u3of0c

วันสุดท้ายเราต้องออกจาก โรงแรม แต่เช้าตรู่เพื่อขึ้นเครื่อง แอร์เอเชีย กลับไทย ไฟล์ตเช้า

เป็นการปิดทริป 6 วัน 5 คืน ตามล่านาขั้นบันได ซาปา – มูกางจ๋าย แบบ งง หลงทิศ ผิดแผน ที่ประทับใจมากๆ

ขอบคุณ เพื่อร่วมทริปทุกคน ที่มาร่วมสุข ด้วยกัน



สุดท้ายฝากไว้

46ldnchc8wgl

ในการเดินทางแต่ละครั้ง นอกจากจุดหมายปลายทาง และเรื่องราวระหว่างทางจะสำคัญแล้ว



" เพื่อนร่วมทาง " ก็เป็นอีกปัจจัย ที่สำคัญที่ทำให้แต่ละทริป มีความสนุกสนาน มากน้อยแค่ใหน



ในทริป ซาปา - มูกางจ๋าย นี้ เพื่อนร่วมทริปของผม ทุกคน ทำให้การเดินทางครั้งนี้ เป็นทริปที่ประทับใจมากทริปหนึ่ง ถึงแม้เราจะเจอปัญหา ต่างๆ แต่ก็ช่วยกันแก้ปัญหา เฉพาะหน้าผ่านไปด้วยดีครับ



แล้วพบกันใหม่ ในการเดินทางครั้งต่อไปของผม TummengTravel / แบกเป้เท่ห์ทั่วโลก ได้ต่อไปครับ ครั้งหน้าครับ

และสามารถติดตามการเดินทางของผมได้ที่ เพจ https://www.facebook.com/Tummengtravel

ความคิดเห็น