หลายคนอาจจะพอเคยได้ยินร้านกาแฟคาเฟแบบ specialty ชั้นดีที่อารีย์ ซ.2 (พหลโยธิน 7) ที่ชื่อว่า TOKYOBIKE กันมาบ้าง ซึ่ง LaLiart เป็นร้านกาแฟที่อยู่คู่กับร้าน TOKYO BIKE ร้านที่หลายคนรู้จักกันดี และเป็นร้านที่สิงห์นักปั่นทุกคนต้องรู้จักแวะมาทดลองเยี่ยมเยียนกันเป็นระยะ
การเดินทาง - BTS สถานีอารีย์ ฝั่งซอย พหลโยธิน 7 เข้าไปจะเจอคอนโด NOBLE REFORM แล้วเดินเข้ามาจะสังเกตเห็นป้ายว่า "อารีย์ 2" ซึ่งร้านจะอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานเขตพญาไทพอดี
แผนที่ร้าน TOKYOBIKE
ภาพจากเพจ TOKYOBIKE THAILAND
หน้าร้าน La Liart ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Tokyo Bike
ภาพจากเพจ TOKYOBIKE THAILAND
เอสเปรสโซที่เสิร์ฟพร้อมน้ำดื่มในขวดแม่โขง เอ๊ยไม่ใช่!!!
สังเกตว่าเครมา (Crema) สีนี้ ลักษณะนี้คือโอเคครับ Redish
ถ้ามาร้านนี้แล้วสั่งเลยว่าเอาเอสเปรสโซ จะเป็นเมล็ดจากแม่แจ่มครับ เป็น single origin
ซึ่งตอนแรกคั่วอบเองโดยคุณลุงของคุณต้น (เจ้าของร้าน)
เดี๋ยวนี้คุณต้นคั่วอบเองแล้วครับ ช่วงนี้เลยจะมีกาแฟใหม่ ๆ มาให้ชืมมากขึ้น
กาแฟแม่แจ่มนี่ถ้าจำไม่ผิดคุณอาของคุณต้นปลูกเองอีกต่างหาก
ในเชิงธุรกิจเรียกเก็บตั้งแต่ต้นน้ำ (ปลูก) กลางน้ำ (คั่วขาย) ปลายน้ำ (ร้านกาแฟ) เลยทีเดียว
นี่คือที่ผมกินไปทั้งหมดใน 1 วัน
ดริป - แม่แจ่ม
มีกลิ่นเปรี้ยว แต่ไม่ใช่รสเปรี้ยว งงมะ 55 ไม่เปรี้ยวเลย ออกแนวมีผลไม้ ๆ กลมดี ละก็รู้สึกว่าดื่มได้เรื่อย ๆ
เอสเปรสโซ #1 - แม่แจ่ม
Balance ดี เป็นแบบถ้าจะบอกว่านี่คือกาแฟไทยคือรู้ มันเฉพาะตัว บอกไม่ถูก 5555 แต่รู้สึกแบบ clear
เอสเปรสโซ #2 - โครเชร์ (เอธิโอเปีย) - อันนี้คุณต้น (เจ้าของร้าน) เอามาให้ชิม เพราะเขาเพิ่งหัดคั่วตัวนี้
ออกแนว spice อมเปรี้ยว lemon, lime กลิ่นดอกไม้น่าจะเป็นพวกเปรี้ยวหวานบ๊วย ๆ (ไม่ plum ก็ apricot ปะ) ละก็มีโกโก้นิดนึง และก็แนวยาเส้น (ปะวะ tobacco อะ) รุนแรงดีร์
Sea-Salted Caramel Brownie (ชื่อนี้ปะ!?) - อร่อยมากกกก เนื้อหนึบหนับช็อกโกแลตไม่หวานเกินไป มีแมคคาดีเมียด้วย สำหรับขนม ถ้าเรากินคนเดียวหมดถือว่าผ่าน เพราะไม่เลี่ยน ดีร์ นี่รสช็อกโกแลตยังติดปาก อาจเป็นเพราะความหนึบของเนื้อบราวนี่ยังติดร่องฟัน 555
ร้านนี้กาแฟเป็น single origin หมด อารมณ์คล้าย ๆ ร้าน Roots แต่จะมีทางเลือกด้านเมนูให้อีก
ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ตามใจบาริสตาละกันครับ อิ_อิ
ร้านนี้คั่วกาแฟเองทั้งหมดโดยคุณต้นเจ้าของร้าน ทำไมถึงรู้? เพราะผมไปเรียนคั่วกาแฟมาพร้อม ๆ กับพี่ต้นนั่นแหละครับ พี่ต้นขยันมาก ไปคั่วเองบ่อยมาก เอา single origin ใหม่ ๆ มาให้ลองเรื่อย ๆ อย่างที่บอก ผมจะรู้จักคนในวงการกาแฟเยอะมาก เพราะผมเคยเป็นบาริสตาอยู่ร้าน Casa Lapin (เดี๋ยวจะมาละเลงให้อ่านในบล็อกหน้า) และกำลังจะเปิดร้านเองชื่อ #FrancoCafe #FrancoBKK อยู่บริเวณเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณฝั่งเดียวกับโรงเรียนนานาชาติเลิศหล้า #พื้นที่โฆษณา ถ้า La Liart คือร้านกาแฟคู่จักรยาน Franco จะเป็นร้านกาแฟคู่ซูเปอร์คาร์!!!
เคยคุยกับคุณต้น บอกว่าเวลาคุณต้นไปคั่วจะมีโปรไฟล์กับคั่วอบว่าอุณภูมิที่วินาทีที่ 0 จนถึง นาทีที่หยุดก่อนคั่วและ develop-time เท่าไร คุณต้นจะบันทึกไว้ละเอียดมากที่ทุก ๆ 30 วินาที แล้วกลับมา plot กราฟเป็นโปรไฟล์การคั่วทุกครั้ง
ผมเลยถามว่า "พี่จบคณะอะไรมาครับ สายวิทย์ใช่มั้ย? เพราะผมจบวิทยาศาสตร์มา ตอนทำ spectrophotometry ก็แบบนี้ละ"
คุณต้นตอบว่า "พี่จบนิเทศ ศิลป์ครับ" #ผมนี่อึ้งไปเลย
บรรยากาศร้าน outdoor เป็นมุมโปรดของใครหลายคน ไม่ร้อนเลย เย็นสบายไม่ต่างกับนั่งในห้องแอร์
**โปรดโฟกัสที่บรรยากาศร้าน**
นอกจากนี้ยังมีสินค้า HANDMADE ทืี่ทางร้านทำเองอย่างชุดดริปกาแฟแบบ pour over ที่มาพร้อมช้อนไม้สัก
ได้ยินมาว่าส่งให้ห้าง Emquartier (เอ็มควอเทียร์ หรือ เอ็มกัตติเย ที่พยายามเหลือเกิน) ชุดละ 7,000 บาท
ผมไปสัมผัสมาแล้วครับ งานดี งานพรีเมียม เหมาะกับการเป็นของฝาก
แค่วางหน้าร้านก็หล่อแล้ว!!
ผ้ากันเปื้อน handmade จากทางร้าน
ภาพจากเพจ La Liart
ขนมแนะนำที่ผมว่าผมชอบมากกกก คือ sea-salted caramel brownie บราวนี่ช็อคโกแลตที่แมงรสเค็มจากเกลือทะเล ท็อปด้วยถั่วแมคคาดีเมีย จัดว่าเด็ดมาก เนื้อบราวนีเด้งหนับหนับ กินเสร็จแล้วยังมีรสช็อคโกแลตติดปากนานมาก (หรือมันติดร่องฟันผมก็ไม่รู้ 55+) ภาพจากเพจ La Liart
Sarun Asawanuchit
วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.35 น.