"ลองคิดดูแล้วกันว่าถ้าไม่ไปนราธิวาสรอบนี้

แล้วจะมีใครชวนไปนราธิวาสอีก หาโอกาสยากนะเออ"

นี่เป็นคำชวนของเรา ทำให้ปกติจากที่ช่วงหลังที่ต้องออกทริปลุยเดี่ยว กลายเป็นว่าทริปไปเที่ยว จ. นราธิวาส ครั้งแรกของแต่ละคนนี้ ได้สมาชิกมาทั้งหมด 4 คน

เริ่มต้นวางแผนก็ไม่ยาก เพราะทุกคนไม่ได้มีความต้องการพิเศษใด ๆ เลย เราเลยจัดการทั้งโรงแรม หาเช่ารถพร้อมคนขับ วางสถานที่ที่จะไป ส่วนตั๋วเครื่องบินแยกกันจอง

เฝ้ารอเพียงแค่ถึงวันเดินทางเท่านั้น Let's go

Day 1 สุดปลายด้ามขวานที่สุไหงโกลก

ติดตามการเดินทางตอนอื่น ๆ ได้ที่

"นราธิวาส" ยินดีที่ได้รู้จัก Day 2: ทดสอบความฟิตล่องแก่งภูเขาทอง

"นราธิวาส" ยินดีที่ได้รู้จัก Day 3: เที่ยวไปในบางนรา


ออกเดินทางโดยเครื่องบินตอนสาย ๆ ไปลงที่สนามบิน จ. นราธิวาส ถึงแม้ว่าจะดูเป็นจังหวัดที่คนไม่น่าจะไปกันมากเท่าไร แต่คนก็เต็มลำนะเออ เราได้มีโอกาสนั่งติดกับคน อ.ตากใบ พอดี เลยได้หาโอกาสพูดคุยถามถึงสถานที่เที่ยว และปลากุเลา (ที่เราอยากซื้อกลับมา)


ถึงสนามบินก็ได้เวลาเที่ยงวันพอดี ให้พี่คนขับรถชื่อ พี่ซัน พาไปหาร้านขนมจีนเด็ด ๆ กินสักร้าน พี่ซันแนะนำร้านขนมจีน/ขนมหวาน เจ้มล (คนระโนด) ขนมจีนร้านนี้ให้ตักน้ำยาราดเอง บรรยากาศสบายเหมือนแอบไปกินข้าวบ้านญาติเลย


มีทั้งน้ำยาป่า น้ำยาไตปลา น้ำยาปลา น้ำพริก กินคู่กับไข่ต้ม ผักสด ผักดอง แบบบุฟเฟ่ท์


ตบท้ายด้วยขนมหวานถ้วยละ 10 บาทซึ่งให้เยอะมากจนน่าตกใจหาไม่ได้ในกทม.


อิ่มท้องแล้วมุ่มหน้าสู่สุไหงโกลกกันเลย ระหว่างทางมีแวะเที่ยวกันที่ วัดเขากง ซึ่งเป็นหนึ่งในเก้าพุทธมณฑลภูมิภาค และเป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จุดเด่นของวัดนี้คือ เมื่อขับรถผ่านจะเห็น " พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล" ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา เสียดายตอนที่เราไปกำลังมีการปฏิสังขรณ์องค์พระอยู่พอดี จึงทำให้ไม่ได้ภาพความงดงามแบบเต็ม ๆ มา


ระหว่างการเดินทางก็จะพบเจอทหาร บังเกอร์ รั้วลวดหนาม ด่านตรวจแบบที่ต้องขับผ่านแบบซิกแซก ป้ายประกาศจับ จนเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของจังหวัดนี้ ที่น่าสงสารสุดก็คงเป็นเหล่าทหารหน้าละอ่อนที่ต้องยืนตากแดดท่ามกลางอากาศร้อนจัด บางคนดูสีหน้าอ่อนแรงเหลือเกิน


ก่อนทางเข้าพรุโต๊ะแดง เราแวะซื้อเครื่องดื่มและ อาเก๊าะ ของหวานแบบอิสลามมาลองชิมดู เป็นขนมที่เค้าว่ามักจะทำช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีทำออกมาขายเป็นประจำแล้ว รสชาติเหมือนหม้อแกงผสมสังขยา อร่อยดี


แล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่ พรุโต๊ะแดง กันต่อ ทางเข้าพรุโต๊ะแดงจะต้องเลี้ยวจากถนนใหญ่เข้าไปอีกพอสมควรระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้าน จึงมีทั้งแพะและแกะเดินเล่นอยู่ข้างถนนเป็นเรื่องปกติ เราไปถึงพรุโต๊ะแดงตอนบ่ายสามกว่า ๆ ก่อนเวลาปิดบ่ายสามโมงครึ่งนิดนึง แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเมื่อวันก่อนเกิดเหตุระเบิดแถวนี้จึงสั่งให้ปิดเร็วกว่าปกติ พวกเราเลยอดเข้า ยืนคุยกับพี่เจ้าหน้าที่สักพักจึงกลับออกมา


พี่ซันก็พาไปแวะดู ด่านชายแดนสุไหงโกลก ไปชมบรรยากาศเฉย ๆ รถมาเลย์กำลังจะกลับออกจากด่านไทยแน่นขนัดเชียว พวกเราแวะลงดูรอบ ๆ ถ่ายรูปกับป้ายว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเคยมาถึงด่านชายแดนสุดปลายด้ามขวานทองของไทยแล้วนะ


หลังจากนั้นก็เช็คอินเข้าที่พัก โรงแรมกรีนวิว


ที่พักมีหลายห้อง และค่อนข้างใหม่


ห้องกว้างดี สบาย ไม่อึดอัด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ


ห้องน้ำก็กว้าง สะอาด น้ำไหลแรง


เปิดระเบียงออกมาจะเจอกับวิวเมืองสุไหงโกลก


นั่งเอ้อระเหยเล่นในห้องได้สักพัก ดูแผนที่เห็นว่ามี ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เลยชวนกันออกมาเดินไปศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ เดิมศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะนี้อยู่ในอ.สุคิริน แต่ได้มีการอัญเชิญมาตั้ง ณ ที่แห่งนี้เมื่อ พ.ศ.2485 มีตำนานเล่าขานกันว่า ท่านเป็นผู้มีบุญญาธิการและเฉลียวฉลาดกว่าเด็กทั่วไป ได้รับคัมภีร์จากเซียนตั้งแต่อายุ 16 ปี ทำให้เจ้าแม่เป็นที่พึ่งพาของผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนมีการสร้างศาลไว้เพื่อสักการะบูชา


อาหารเย็นเราแวะกินกินที่ ร้านวรรณะโภชนา อาหารก็รสชาติโอเค แต่ยำหอยนางรมรสแปลกไปหน่อย ยำแบบใส่ซอสพริก ไม่ค่อยชอบแนวนี้เท่าไร ออ...ใครจะมากินร้านนี้ต้องใจเย็น ห้ามหิวจัด เพราะพ่อครัวทำแบบเรื่อย ๆ สบาย ๆ จานต่อจาน รอนานสักหน่อย

ระหว่างนั่งกินมีไฟดับไปสักพักนึงให้พอได้ตื่นเต้น


ได้ยินมาว่าวันนี้มี ถนนคนเดินสุไหงโกลก ด้วย พวกเราเลยลองไปเดินชมกันว่ามีอะไรบ้าง หลังพระอาทิตย์ตกดินส่วนอื่นของเมืองจะค่อนข้างเงียบ ยกเวันตรงถนนคนเดินนี่ล่ะที่จะคึกคัก คนแน่นเชียว

ต้องผ่านเครื่องสแกนก่อนเข้าไปด้วยนะคะ แต่ว่า เอ...ทำไมทางเข้าด้านอื่น ไม่ต้องสแกน สรุปว่ามันปลอดภัยไหมนะ


ของที่ขายในถนนคนเดินก็จะมีหลากหลายทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของกิน ส่วนใหญ่เป็นของที่ขายโดยชาวมุสลิม


ของกินมีมากมาย แต่กินได้แค่นิดเดียวเพราะจัดหนักมื้อเย็นมาแล้ว

มะตะบะไส้ไก่ หวาน ๆ แบบพอคำ


ละแซ แผ่นแป้งม้วนราดแกงที่รสคล้าย ๆ แกงสายบัวปลาทู กินคู่กับผัก และดอกดาหลาซอย

ใจจริงอยากไปกินร้านน้ำชากับร้านน้ำแข็งใสอีก แต่ดึกแล้ว แน่นก็แน่นเลยตัดสินใจกลับดีกว่า

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ

หากเพื่อน ๆ มีคำถาม หรือข้อแนะนำ เข้าไปเจอกันได้ที่เพจ GoNeverStop นะคะ

ความคิดเห็น