วันแม่ปีนี้ (12 ส.ค. 2560) ขอพาวัยรุ่นที่บ้านไปเที่ยวที่ใหม่ๆ เปิดหูเปิดตา เปลี่ยนแนวจากห้าง ไปเจอแดด เจอลมธรรมชาติบ้างอะไรบ้างค่ะ โจทย์อยากให้มีช่างชุ่ยในโปรแกรมด้วย เพราะเพิ่งเปิดใหม่ ดูน่าสนใจ ขอลองไปเยือนสักครั้ง ก็เลยต้องหาที่เที่ยวอื่นบริเวณใกล้ๆ กันเพิ่มเติม หวยก็ออกที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน แต่เมื่อหาข้อมูลในรีวิว ส่วนมากจะเป็นข้อมูลเก่าที่ไม่อัพเดท อย่างเช่นตารางทัวร์คลอง ซึ่งเมื่อก่อนมีโปรแกรมให้เลือกหลายโปรแกรม หลายรอบ ปัจจุบันเหลือแค่ทัวร์ 2 เส้นทาง และเวลาก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่แมงน้อยอยากจะอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ อย่างน้อยคนที่อยากมาเที่ยว จะได้เผื่อใจและวางแผนเที่ยวได้ค่ะ

ตลาดน้ำตลิ่งชัน

• เปิดเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และบางวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาประมาณ 08.00 – 17.00 น.
• มีรถ ปอ. 79 ผ่านหน้าตลาด (ราชประสงค์ – ศาลายา พุทธมณฑล สาย 2) เห็นว่ามีสาย 83 ด้วย แต่ตอนที่ไป เห็นอยู่สายเดียวค่ะ
• กรณีมารถส่วนตัว มีลานจอดรถหน้าตลาด แต่ไม่ใหญ่มาก
• นักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างเยอะ
• เหมือนว่าร้านขายต้นไม้จะเยอะกว่าร้านขายของกิน
• ทัวร์คลองเหลือเฉพาะ 2 เส้นทาง คือ

1. ทัวร์ชั่วโมงเดียวเที่ยวรอบเกาะ (ตลาดน้ำตลิ่งชัน วัดเกาะ) โปรแกรม คลองชักพระ – แยกคลองมอญ – เข้าสู่คลองบางเชือกหนัง – ออกคลองบางน้อย – ชมวิถีชีวิตบ้านเรือนไทย วัดวาอาราม สมัยกรุงศรีอยุธยา และแวะให้อาหารปลา ราคา 69 บาท/คน

2. ทัวร์บ้านศิลปิน คลองบางหลวง ชมการแสดงหุ่นละครเล็ก ชมวิถีชีวิตบ้านเรือนไทย ตามเส้นทางที่ผ่าน ราคา 99 บาท/คน ใช้เวลา 3 ชั่วโมง

(ทั้งสองเส้นทาง รอบแต่ละวัน ไม่เหมือนกัน เปิดรอบตามจำนวนนักท่องเที่ยว คอยฟังจากประกาศหรือสอบถามได้ที่จุดขายทัวร์ค่ะ)

แมงน้อยเคยมาครั้งนึง แต่นานมากแล้ว มาลองกินอาหารบนเรือ ไม่ได้ล่องทัวร์ จำได้ว่ามีของกินขายเยอะ รอบนี้อ่านในเน็ตเรื่องโปรแกรมทัวร์ ตั้งใจจะพาวัยรุ่นที่บ้านมาทัวร์สวนกล้วยไม้ด้วย แต่ปรากฎว่า พอมาถึงทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีไปสวนกล้วยไม้อีกแล้ว ถามแล้วได้คำตอบว่า ติดไม้ทำสะพานเรือใหญ่เข้าไม่ได้ อะไรประมาณนี้ ก็มีเหลือแค่ 2 เส้นทาง ตามที่อธิบายไว้ด้านบนค่ะ

วันนี้ใช้บริการพี่แท็กซี่ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถทั้งสองที่ที่ไป เอกลักษณ์ของที่นี่ ด้านหน้าจะเป็นโซนขายต้นไม้ ซึ่งมีให้เลือกเยอะจนคิดว่ามาจตุจักรโซนขายต้นไม้เลยทีเดียว

ที่นี่ขายกระบองเพชรจิ๋วหลายร้านมากค่ะ มีทรงแปลกๆ ให้เลือกเยอะเลย

ผัก ผลไม้พื้นเมืองก็มีให้เลือกซื้อกลับบ้านเหมือนกันค่ะ

เดินเข้ามาเกือบสุด จะมีจุดขายทัวร์คลองอยู่ และเมื่อไม่มีทัวร์เดิมๆ ที่เราอยากไป วัยรุ่นที่บ้านก็เลยไม่อยากนั่งเรือแล้ว เปลี่ยนเป็นหาอะไรทาน แล้วไปเดินดูต้นไม้แทนดีกว่า ซึ่งช่วงที่ไปถึงเกือบเที่ยงพอดี แดดก็ร้อน นักท่องเที่ยวก็เยอะ ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลคนก็ยิ่งเยอะ จึงไม่มีโอกาสได้ลงเรือ เก็บภาพบรรยากาศมาฝากเลยค่ะ

ตรงนี้จะเป็นท่าเรือตลิ่งชัน คลองชักพระ ท่าเรือจะอยู่ใต้สะพานเหล็กข้ามคลองสำหรับรถไฟด้วยค่ะ

ภาพบรรยากาศตลาดที่นี่ จะมีเรือขายอาหารจอดเลียบริมแพ จะเลือกทานอาหารบนแพ หรือบนบกก็ได้ แต่มาถึงแล้วก็ต้องลองทานบนแพดูค่ะ แมงน้อยไม่แนะนำสำหรับคนที่เมาเรือ เวียนหัวง่ายนะ เพราะบนแพคนค่อนข้างเยอะ แออัด ยิ่งถ้าไปเลือกนั่งตรงช่วงที่เค้าใช้ป้ายไวนิลปิดบังแดดด้วย ยิ่งหายใจไม่สะดวก

ทางขึ้นแพ จะมีหลายทาง ทางนี้จะผ่านจุดรอขึ้นเรือ จราจรทางน้ำค่อนข้างคับคั่ง สังเกตุได้ว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมากจริงๆ

การสั่งอาหารที่นี่จะงงๆ นิดนึง ไม่ต้องตกใจค่ะ ถ้าได้ที่นั่งแล้วให้นั่งก่อนเลย ถ้ามาบ่อย แล้วทานไม่เยอะ จะเดินไปสั่งอาหารเองก็ได้ แต่ถ้าไม่เคยมา จะมีคนเอาเมนูรวมๆ มากมายมากองให้ ดูเสร็จแล้วเค้าจะรับออเดอร์ทีเดียว ไม่ต้องจด เค้าใช้วิธีตะโกนสั่งตามร้าน สักพักจะมาส่งให้และต้องจ่ายตังค์เลย เพราะป้องกันการสับสน ถ้าบริเวณที่นั่งไม่ใกล้ของที่อยากทาน หรือไม่มีในเมนู แต่เราไปเดินเจอ ก็เดินไปสั่ง จ่ายตังค์และรอรับกลับมาเลยค่ะ

แมงน้อยเลือกมุมที่ไม่อึดอัด มีลมผ่าน พัดลมลง แต่เป็นโซนต้องนั่งขัดสมาธิ ไม่มีเก้าอี้ ตอนนั่งแรกๆ ก็ไม่เท่าไร แต่วัยรุ่นที่บ้านนี่ตะคริวกินเลยอ่ะ กินเสร็จกว่าจะลุกกันได้ ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งทำใจต่ออีกแป็บ ปล.ควรถามวัยรุ่นก่อนว่า สะดวกนั่งแบบนี้ไหม จะได้เลือกนั่งโซนที่มีเก้าอี้แทน ท่านจะได้สบายตัวเวลานั่งทานด้วยค่ะ

วัยรุ่นได้ดอกไม้เต็มเลย อิอิ

เมนูที่ฮิตสุดๆ คงจะเป็นผัดไท หอยทอดมั้ง เวลามาตลาดน้ำ เห็นคนสั่งเกือบทุกโต๊ะเลย

แป้งมันจะเยอะๆ หน่อย

ผัดไทกุ้งสด กับผักใบบัวบก ใครชอบทานบ้างคะ

ข้าวสวยเสิร์ฟมาในกระทงนะจ๊ะ ต้มยำน้ำใสอร่อยดี

อิ่มแล้วก็มาทำบุญกัน

แอบจินตนาการว่า ถ้าปลาไปรวมตัวกันใต้ท้องเรือตรงนั้น มันจะเป็นอย่างไรน้า!!

ตรงศาลา มีการบรรเลงดนตรีไทยให้ฟังเพลินๆ ด้วยค่ะ

งานเสี่ยงดวงก็มา

หลังจากนั้นก็เดินเล่นรอบๆ ตลาดค่ะ ส่วนตัวมองว่า ของขายน้อยกว่าปีที่เคยมา เกือบ 6-7 ปีได้

บริเวณนี้มีศาลาให้นั่งพักด้วย

วิวด้านบนก็เป็นรางรถไฟกับฟ้าใสๆ

ช็อปต้นไม้ ของฝากเสร็จจากตรงนี้แล้ว ได้เวลาเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป “ช่างชุ่ย” จากหน้าตลาดน้ำใช้บริการพี่แท็กซี่มาส่ง อยู่ที่ประมาณ 60 บาท ถ้ามารถส่วนตัว จุดสังเกตุง่ายๆ ให้มองหาเครื่องบินลำใหญ่ๆ ไว้ค่ะ อยู่ติดถนนเลย หาไม่ยาก

ช่างชุ่ย
– ปิดทุกวันจันทร์ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 16.00 – 23.00 น. (กรีนโซนเปิด 11.00 น.)
– วันอังคาร – วันศุกร์ ค่าผ่านประตู 20 บาท / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ ค่าผ่านประตู 40 บาท / เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. ผู้ทุพพลภาพ พิการ พระสงฆ์ ฟรี

http://www.changchuibangkok.com

วันนี้วันแม่ ผู้หญิงเข้าฟรีจ้า

ด้วยวันพิเศษ ก็เลยมีกิจกรรมให้ปาลูกดอกฟรี สำหรับแลกของรางวัลด้วย

ช่างชุ่ย อาณาจักรรวมไอเดีย งานศิลป์ แฟชั่น ที่นี่ออกแบบสวยสมคำร่ำรือ มองไปทางไหนก็สวย แต่วันนี้แดดแรงร้อนใช้ได้จริงๆ แนะนำสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพก็ต้องมาถึงประมาณบ่ายกว่าๆ นี่แหละ คนยังไม่เยอะ ทนร้อนนิดนึง ซึ่งช่วงเย็นๆ จะเน้นคนมาเที่ยว มากินมากกว่าค่ะ

แอบแนบแผนผังไว้เผื่อวางแผนการเดินค่ะ ส่วนแมงน้อยก็เดินมั่วเลย

http://www.changchuibangkok.com

ร้านขายเสื้อผ้าฮิปๆ แนวๆ หลายร้าน ราคาก็ตามเนื้องาน ปล. บางร้านเค้าก็ติดป้ายห้ามถ่ายไว้ด้วย ฝากระวังกันนิดนึงค่ะนี่คงจะเป็น Mascot ของที่นี่

มีให้เสี่ยงเซียมซีด้วย

มีเหรอวัยรุ่นจะพลาด

เครื่องบินลำใหญ่ จุดไฮไลต์สำหรับที่นี่ ใต้เครื่องบิน มีเก้าอี้ให้นั่งพักหลบแดด ตอนกลางคืนจะแปลงร่างเป็นที่นั่ง Drink ด้านบนไม่ได้เปิดให้ขึ้นไปค่ะ

อยากเล่นสไลเดอร์

คูปองปาลูกดอกฟรี มาใช้กับตรงนี้ ต้องปาที่ปั๊มส้วมให้ตรงโถ ถึงจะได้รางวัล

มันก็จะติดยากๆ หน่อย

รางวัลไม่ใช่ตุ๊กตาอุนจินะคะ อย่าเข้าใจผิด

ร้านบางร้านก็ยังไม่เปิด ส่วนมากจะเปิดช่วงเวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป บ่ายกว่าๆ แบบนี้ มันก็จะร้อนไม่หน่อยเท่าไรเลย

วิวดีดีใต้ทางด่วน

ร้าน Flynow มาได้อย่างไร ก็ที่นี่เป็นของผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ค่ะ

เดินมาถึงโซนอาเหนกป้าสง เป็นโซนของขายที่เย็นสุดๆ มีของอาร์ตๆ ให้เลือกเพียบ แล้วก็น่านั่งที่สุดแล้วในช่วงเวลานี้

มันก็จะมีมุมแนวๆ ให้ถ่ายรูปเยอะแยะไปหมดเลย

ร้านชุ่ยเจริญ ขายของเก่าๆ โบราณ ให้ย้อนถึงความหลัง

งานสินค้าไอเดียเท่ห์ คลาสสิค หาได้ที่ร้านนี้

จุดนี้ก็น่าถ่ายรูปด้วย

สักพักก็จะมีควันพวยพุ่งออกมา

อยากมีภาพวัยรุ่นเก็บไว้เป็นที่ระทึกสักหน่อย

ช่างเชื่อม เป็นโซนจัดแสดงมินิคอนเสิร์ต และรวมภาพถ่ายดาราที่ต้องทำหน้าบูดเบี้ยว ให้ทายเล่นๆ ว่ามีใครบ้าง บางคนนี่เดาไม่ออกเลยทีเดียว

ตกเย็นร้านรวงต่างๆ ก็เริ่มเปิดหนาตามากขึ้น

ดูหนังกันไหม จุดนี้มีหนังให้ดู ต้องเสียตังค์ป่าวว้า ไม่ได้ถามเลยค่ะ

พอดีช่วงที่ไปเค้าจัดงาน ฌ ฟาร์ม แอนด์โฟล์ค ในวันที่่ 12-13 ส.ค. มันก็เลยมีอะไรมาเพิ่มเติมเยอะหน่อย

มีเวิร์คช้อปการทำผ้ามัดย้อมด้วยค่ะ

ร้านขายของจุ๊กจิ๊กน่ารัก

พูดเลยวันนี้กินน้ำไปหลายลิตร แวะแดกดิ้นนั่งตากแอร์เย็นๆ

วัยรุ่นอยากกินหนม

โซนเก๋ๆ เท่ห์ๆ ทั้งนั้น

สะดุดที่แพ็คเก็จ ต้องซื้อเพราะชอบไอเดีย น้ำมะพร้าวปั่นใส่ใบจากสาน

อุ๊ย! ตกใจ นึกว่าคนจริง เหมือนชะมัด

มีร้านให้เลือกช็อปมากมาย

นี่ร้านอาหารของบ๊วย เชษฐวุฒิ

โซนนี้ตอนเย็นๆ คงชิลน่าดู

เฟรนฟรายด์บาร์บีคิว ราดชีสเยิ้มๆ

“ลูกชิ้นน้ำแตก” อร่อยไหม ไม่ได้ลอง

ไอติมสัปปะรด เสิร์ฟเป็นลูก น่าร๊ากกกก

คนเริ่มเยอะแล้ว หนีกลับก่อนดีกว่า 555

ปิดทริปด้วยรอยยิ้มจากพี่ประชาสัมพันธ์ด้านหน้า ยิ้มแย้ม เต็มใจให้บริการสุดๆ ยกนิ้วให้เลย

วัยรุ่นเหนื่อยแล้ว ขอพาไปพัก นวดขากันต่อที่บ้าน สุขสันต์วันแม่ สุขสันต์วันครอบครัวทุกคนจ้า