เราออกเดินทางด้วยความปุบปับ รวดเร็ว กะทันหัน บลาๆๆ …นี่คือคำที่พอจะนึกได้สำหรับการเดินทางครั้งนี้ ไม่มีแพลน และไม่มีการเตรียมตัวเตรียมใจใดๆทั้งสิ้น นึกอยากไป หาที่ เก็บของ ออกเดินทาง อาจเป็นเพราะการเดินทางมันอยู่ในกระแสเลือดของเราอยู่แล้ว
ก่อนอื่น ขอฝากเพจน้อยของเรา Journey Gallery (http://www.facebook.com/journeygallery) ไว้ด้วยนะ เข้าไปกดไลค์และติดตามการเดินทางของเราในนี้ได้เลย
ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 4ชม. จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดกาญนะจ๊ะบุรี เห้ย! กาญนะจุบุรี เห้ย! กาญจนบุรี เห้ย!! ไม่ถูก เอ้ย ถูกแล้ว!!!
มาถึงแล้ว กาญจนบุรี เอ้า ทำไม ครึ้มๆอีกแล้วล่ะ อ่อลืมไป ก็มาน่าฝนนี่นา ก็จะเสี่ยงๆหน่อย แต่อาจจะไม่ตกก็ได้มั้ง
การเดินทางก็ไม่มีออะไรซับซ้อน จากรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยนให้ขับไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 ตัดไปออกเขื่อนท่าทุ่งนา ผ่านทางเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ วิ่งไปทางน้ำตกเอราวัณ ตรงยาวๆไปเรื่อยๆเลยจากทางไปเขื่อนฯ ตรงยาวๆมา เป็นทางเดียวกับทางไปน้ำตกเอราวัณเลยค่ะ สำหรับคนที่เคยไปก็น่าจะรู้จักกัน แต่น้ำตกเอราวัณเลี้ยวซ้าย ห้วยแม่ขมิ้น ตรงต่อไปเลย.... แล้วก็จะมาเจอป้ายบอกทาง ตามนี้ ก็ตรงเข้าไปเลย
พอผ่านเข้ามาแล้วก็ต้องมาชำระค่าบำรุงสถานที่กันสะก่อน โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆดังนี้เลย
เนื่องจากเราเอาเต็นท์มาเอง เราก็ชำระแค่ค่าบำรุงสถานที่ 30บาท/คน ส่วนใครที่ไม่ได้นำเต็นท์หรืออุปกรณ์การนอนมาด้วย ทางอุทยานเค้าก็มีไว้ให้เช่า แถมเรื่องอาหารการกิน ที่นี่เค้าก็มีร้านอาหารและร้านค้าสวัสดิการคอยให้บริการ เรื่องห้องน้ำก็ไม่ต้องห่วง มีไว้รองรับอย่างเพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว…มาแต่ตัวยังเที่ยวได้เลย
เพิ่มข้อมูลให้ดูมีสาระกันนิดนึง…น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตามข้อมูลแล้ว น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น มีต้นน้ำไหลลงมาจากเทือกเขากะลา ผ่านชั้นต่างๆของน้ำตกลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่นี่เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะความสวยงาม การเดินทางง่าย ความสะดวกสบายในการท่องเที่ยวอีกด้วย
มาถึงแล้ว เราก็เดินสำรวจพื้นที่เพื่อจะกางเต็นท์ แล้วก็มาเจอตรงนี้ ร้องหูยยย ดังมาก โหยยๆๆ ยอยักยาวๆเลย ได้ที่วีไอพีมากๆ อิจฉาแบบอยากกลิ้งลงไปทับเต็นท์เลยแหละ แต่ก็ได้แต่เก็บความอิจฉาเอาไว้ แล้วเก็บภาพมาแทน น่าจะมาเร็วกว่านี้เนอะเรา เฮ้อ....
แต่ที่นี่ก็ยังมีพื้นที่กางเต็นท์เยอะพอสมควร จุกกางเต็นท์หลักๆจะอยู่จุดเดียวกับจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเลยค่ะ แต่เราไปถึงก็เย็นซะแล้ว อากาศครึ้มหน่อยๆ ถ้ามาตอนเช้าๆคงได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยงาม
หันหลังไปฝั่งลานกางเต็นท์ ได้เห็นทไวไลท์แบบนี้แทน และนี่คือลานกางเต็นท์ ของเราวันนี้ เห็นเต็นท์เรามั้ย เล็กๆอยู่ไกลๆ ไกลมาก มาช้าไปหน่อย ประกอบกับติดช่วงวันหยุดยาวด้วย ยังดีที่มีที่ว่าง แต่แหม่… อดเป็นนักท่องเที่ยวแถวหน้าเลย
ตัดภาพมาที่เช้าวันต่อมา หลังจากกางเต็นท์ ต้มมาม่ากิน เข้านอน ด้วยหวั่นๆฝนจะตกนิดๆ แต่โชคดีบุญเก่ายังพอเหลือบ้างฝนเลยไม่ตกลงมาท่วมเต็นท์น้อยๆของเรา กราบขอบพระคุณงามๆ … เช้านี้ก็ เมฆยังหนาๆอยู่หน่อย เดินๆหาที่นั่งชิลๆ ชมวิวภูเขา ไกลๆลิปๆ ทำชีวิตให้ช้าๆยามเช้า มันก็ดีนะ
ก่อนจะเริ่มสาย ตลาดจะวาย น้ำตกจะขุ่น คนจะเยอะ เรารีบเดินมาสำรวจน้ำตกก่อนเลย เพราะสายกว่านี้แดดออกร้อนๆ คนเยอะแน่ๆ บอกกันก่อนเลยว่า น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น แบ่งเป็น 2 เส้นทาง ซ้าย ขวา หรือจะบนล่างก็ได้จากจุดที่กางเต็นท์ เราจะเรียก ซ้ายขวาละกันนะ ตรงขึ้นไปทางซ้ายก็จะเป็น ชั้น 5,6,7 ส่วนขวาจะไล่เป็น 4,3,2,1 โดยเราจะเริ่มที่ฝั่งขวาก่อน เพราะเดินลงไปเรื่อยๆ ดี เหมาะแก่การเดินออกกำลังยามเช้า (ก็ไม่ได้นับตอนเดินกลับขึ้นมาหรอกนะ) แต่ระยะทางก็ไม่ไกลมากค่ะเดินเรื่อยๆชิลๆไป สบายๆ
ตามจริงอย่างที่บอกข้างต้นค่ะ น้ำตกจะไล่จากชึ้นที่ 4 ซึ่งจะอยู่ชั้นเดียวกับลานกางเต็นท์เลย ไล่ลงไปเรื่อยๆ แต่เราจะไล่จากชั้นล่างสุดขึ้นมาตามลำดับนะคะ จะได้ไล่ต่อเนื่องไปจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งในแต่ละชั้นก็จะประกอบด้วยน้ำตกชั้นย่อยๆ ที่สวยงามไม่แพ้ชั้นหลักๆเลย บางจุดก็หลายชั้นเหมือนกันค่ะ เริ่มจากตรงนี้ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย
เราเดินลงมาจนถึงชั้นล่างสุดก่อน เดินตามทางที่ทำไว้อย่างดี เดินเรื่อยๆชิลๆ มาจนสุดทาง (เลยชั้นที่ 1 มาอีกนะ) จะเจอกับป้ายนี้ เราถือว่านี่คือจุดเริ่มตนการเดินทางสำรวจน้ำตกแห่งนี้ละกัน
เดินย้อนกลับขึ้นไปด้านบนตามลำดับชั้นตามป้าย ไปกันเลย!!!
นี่เป็นชั้นย่อยๆ ก่อนจะถึงชั้นที 1 นี่ขนาดชั้นย่อยนะ ยังรู้สึกได้ถึงความสวยงามขนาดนี้ (ที่จริงแล้ว ตลอดทางเดินลงมาก็เห็นชั้น 1 , 2 , 3 , 4 มาเรียบร้อยแล้วแหละ)
เดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ ชั้น1 ดงว่าน
เป็นน้ำตกชั้นไม่สูงมาก เป็นชั้นเล็กซ้อนๆกันตามภาพ น้ำใสแบบไม่ต้องบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ้งเลย ประกอบกับบรรยากาศยามเช้า อากาศดีดีที่น้ำตกสวยๆแบบนี้ ยิ่งฟินไปอีก
เดินขึ้นมาอีกนิดเดียว ก็มาถึงชั้นที่ 2 แล้ว ชั้นนี้ชื่อว่า “ ม่านขมิ้น“
ชั้นนี้ก็เป็นน้ำตกชั้นที่ไม่สูงเหมือนกัน แต่จะเด่นตรงที่ความกว้าง นี่ขนาดใช้เลนส์ 12 มม ยังเก็บมาไม่หมดเลย ชั้นนี้ก็มีจุดให้ลงไปเล่นน้ำได้ บวกกับน้ำใสๆแบบนี้ ใครๆก็อยากลงเล่น
เดินขึ้นมาจากชั้นที่ 2 เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 3 ระหว่างสองชั้นนี้จะมีชั้นย่อยๆที่สวยงามอีกมากมาย เรก็แวะถ่ายรูปกันซะจนคิดว่าจะขึ้นไปไม่ถึงข้างบนซะแล้ว แหม่…ก็มันสวยจริงๆนี่นา
หลงเสน่ห์น้ำตกชั้นย่อยๆ ระหว่างชั้น 2-3 ซะตั้งนาน และแล้วก็ข้นมาถึงชั้นที่ 3 จนได้ ชั้นนี้ชื่อว่า “วังหน้าผา”
ชั้นนี้ก็สมชือ วังหน้าผา เพราะด้วยลักษณะของน้ำตกที่เป็นหน้าผา ไหลลงมาที่แอ่งข้างล่าง ชั้นนี้ก็เป้นอีกชั้นที่เราคิดว่าสวยมากๆ
แวะถ่ายรูปที่ชั้น 3 กันเรียบร้อย เดินขึ้นมานิดเดียวก็มาถึงชั้นที่ 4 “ฉัตรแก้ว”
ชั้นนี้อย่างที่เราบอกไปคืออยู่ชั้นเดียวกับจุดกางเต็นท์ เป็นชั้นที่ค่อนข้างกว้าง ใหญ่ และสวยงามที่สุดจากทั้ง 7 ชั้นของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แต่ชั้นนี้ ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้นะจ๊ะ ทำได้แค่เพียงชื่นชมความสวยงามเท่านั้น ไม่ว่าใครที่เพิ่งจะตื่นนอน หรือเพิ่งมาถึง ก็จะมาชมน้ำตกชั้นนี้ก่อนเป็นชั้นแรก
ชื่นชมความสวยงามของน้ำตกตั้งแต่ชั้นที่ 1-4 กันแล้ว ถ้ใครรู้สึกเหนื่อย จะพักดื่มน้ำหรือกินข้าวก่อนเลยก็ได้ แต่ถ้าใครยังไหว ก็ไปต่อชั้นที่ชั้น 5 , 6 , 7 กันเลย เริ่มจากเดินข้ามสะพานนี้ไป
เส้นทางการเดินสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 5 , 6 , 7 จะเป็นคนละทางกับชั้น 1 , 2 , 3 8 คราวนี้จะเป็นการเดินเข้าป่า ที่ก็ไม่ได้ถือว่าโหด ค่อนข้างจะเดินสบายด้วยซ้ำ เพียงแค่ไม่ได้มีทางเดินทำไว้ให้เหมือนชั้นล่างๆ
เดินเข้ามาสักพัก เราเจอกับป้ายน้ำตกชั้นที่ 5 “ไหลจนหลง”
พอเห็นป้าย เราเองก็พยายามมองหาน้ำตกกัน แต่… เอิ่ม… ก็นั่นแหละครับ ไม่รู้จะบรรยายยังไง นี่ขนาดว่าชั้นอื่นๆที่เราเห็นมา น้าไหลแรงมากนะเนี่ยะ
เอาล่ะ เราอย่าไปท้อใจกับน้ำตกชั้นนี้ เดินต่อไปที่ชั้น 6 กับ 7 กันดีกว่า ระหว่าง ก็ชื่นชมธรรมชาติกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้กันไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลเป็นระยะๆ
เดินเข้ามาสักระยะนึง ก็ถึงน้ำตกชั้นที่ 6 “ดงผีเสื้อ”
ชั้นนี้เป็นน้ำตกขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ลักษณะก็จะเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านชั้นหินที่ซ้อนๆกันลงมาอย่างสวยงาม ชั้นนี้สามารถลงไปเล่นน้ำได้ และขอบอกว่เราเองก็ใช้เวลาอยู่กับชั้นนี้นานพอสมควรเหมือนกั
เราถือคติ จะทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ เพราะที่แบบนี้ไม่ได้มีอยู่หลังบ้าน
หลังจากที่ใช้เวลาไปกับน้ำชั้นที่ 6 กันไปพักใหญ่ มาต่อกันที่ ชั้นที่ 7 “ร่มเกล้า”
ชั้นนี้ถือว่าเป็นอีกชั้นที่มีความสวยงามมากๆ และคนก็มาเล่นที่ชั้นนี้กันเยอะมากๆ เพราะด้วยความที่ว่าเป็นชั้นบนสุด ความใสของน้ำที่ไหลมานี่เดินคำบรรยาย หลายๆคนก็ปีนขึ้นไปข้างบน อันนี้ต้องฝากให้ดูแลตัวเองกันด้วยนะ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล
ครบแล้ว น้ำตกทั้ง 7 ชั้นของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น บอกได้เลยว่าที่นี่เป็นน้ำตกอีกแห่งนึงที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆเลย แถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯและก็ยังเทียวได้อย่งสะดวกสบายสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคครบอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาแหล่งพักผ่อนที่ง่าย สะดวกสบาย เดินไม่ไกล แถมยังใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นอีกที่ที่เราอยากจะแนะนำ
สำหรับใครที่อยากจะติดตามกรเดินทงของเรา เข้ามาชมรูปถ่ายจากการเดินทาง หรือจะเข้ามาพูดคุย สอบถามรายละเอียดต่างๆในการเดินทาง ก็เข้ามาได้ที่เพจ Journey Gallery (http://www.facebook.com/journeygallery) เข้ามากดไลค์เป็นกำลังใจให้เราหน่อยนะ
ถ้ามีทริปไหนที่เราได้เดินทางไปเที่ยวและคิดว่าน่าสนใจ จะเก็บเอามาเล่าให้ได้อ่านกันใหม่นะ ขอบคุณทุกที่อ่านและทุกๆการติดตาม…บายจร้า
Journey Gallery
วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.30 น.