เราสองคนตกลงกันว่า จะขอกลับไปเยือนภูทับเบิกอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกไปพิชิตมาแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกเลย เพราะตลอดเวลาที่ไปภูทับเบิกครั้งแรกฝนตกตลอดสองวันเต็ม จึงไม่มีโอกาสได้เห็นความงดงามของทะเลหมอกเลยแม้แต่น้อย ทริปนี้เราสองคนตื่นกันแต่เช้าเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วออกเดินทางทันที การเดินทางไปภูทับเบิกครั้งที่สองเรายังคงใช้เส้นทางหล่มสัก แต่ดูเหมือนว่าฟ้าฝนไม่ค่อยจะเป็นใจมากนัก เพราะระหว่างทางที่ขับรถไปภูทับเบิก ฝนเจ้ากรรมก็เทลงมาไม่ขาดสาย หนักบ้าง เบาบ้าง สลับกันไป จนทำให้เราสองคนอดคิดไม่ได้ว่า ไปภูทับเบิกรอบนี้จะแห้วอีกไหม

การเดินทางขึ้นภูทับเบิกโดยใช้เส้นทางหล่มสักไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ยอมรับว่าเส้นทางคดเคี้ยวและสูงชันมาก แต่ถ้าคุณมีใจไปยังไงก็ถึงครับ เช่นเดียวกันการเดินทางมักให้ประสบการณ์แปลกใหม่กับชีวิตเสมอ เพราะกว่าจะมาถึงตีนเขาก็เกือบพลบค่ำ ผมเร่งเครื่องยนต์ขึ้นเขาเพื่อให้ถึงก่อนมืด พอไปถึงยอดเขาได้สักพักระยะหนึ่งก็เริ่มมองไม่เห็นทาง เพราะหมอกลงหนามาก แต่ยังไม่ถึงที่พักต้องขับรถอีกพักใหญ่ สร้างความตื่นเต้นให้เราสองคนได้จดจำได้เป็นอย่างดีทีเดียว แต่สุดท้ายเราสองคนก็มาถึงที่หมายโดยปลอดภัย เราพักกันที่ไร่ริมผาเหมือนครั้งแรกที่มาพัก ราคาห้องพักช่วงหน้าฝนไม่แพงคืนละ 1,500 บาท เราสองคนได้ห้องพักสุดชิวติดกับตีนเขา บอกเลยครับฟินมาก ๆ


เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในรุ่งเช้า เราสองคนลุกขึ้นจากเตียง เปิดผ้าม่านมองดูดวงอาทิตย์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า พร้อมเตรียมตัวจะออกไปดูทะเลหมอกหน้าฝนที่สวยไม่แพ้หน้าหนาวและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่ก็ต้องผิดหวังเล็กน้อย วันนี้ท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ หมอกยังคงลงหนาตา มองแทบไม่เห็นวิวทิวทัศน์ เราจึงชวนกันออกมาเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้อากาศดีขึ้น หวังว่าคงจะได้เห็นทะเลหมอกสมใจ

สำหรับอากาศที่ภูทับเบิกในช่วงเย็นย่ำค่ำมืดจนถึงเช้าตรูค่อนข้างหนาวมาก และที่สำคัญลมแรงตลอดทั้งคืนขนาดนอนในห้องพักยังได้ยินเสียงลม อากาศที่ภูทับเบิกในวันนั้นยังคงแปรปวน เราสองคนพยายามเก็บภาพทะเลหมอก ซึ่งอาจจะไม่งดงามเหมือนคนอื่นที่มาชมวิวทะเลหมอกช่วงหน้าฝนในแบบงดงาม


ทว่า! เราสองคนก็ไม่เสียดาย ถึงแม้สิ่งที่เราเห็นในวันนั้นจะแตกต่างจากคนอื่น แต่สิ่งที่เราสองคนได้รับกลับไป คือความประทับใจในสถานที่แห่งนี้ ความรัก ความผูกพัน และเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของเราสองคนตลอดไป


ความคิดเห็น