แม้ในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา หลายๆครั้งที่เราจะเห็นการนำเสนอว่าเมืองราชบุรีเป็นเมืองอาร์ทๆ
แต่ที่จริงแล้วเมืองราชบุรีนั้นไม่ได้แต่ความอาร์ทๆหรอก
เมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความงดงามของวัฒธรรม
และความงดงามของธรรมชาติอยู่ไม่น้อย
ยกตัวอย่างเช่นวัดพระมหาธาตุเจดีย์ที่อยู่กลางเมืองราชบุรี
นั้นก็เป็นวัดเก่าแก่โบราณที่เชื่อว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13
ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ 18 วัฒนธรรมเขมรจากราชอาณาจักรกัมพูชา
ได้แพร่เข้าสู่ดินแดนราชบุรี จึงได้มีการก่อสร้างและดัดแปลงศาสนสถานกลางเมืองราชบุรีขึ้น
เป็นพระปรางค์ และสร้างกำแพงศิลาแลงล้อมรอบเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของเมืองตามคติความเชื่อ
เรื่องภูมิจักรวาลของเขมร
จากนั้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21
ได้มีการก่อสร้างพระปรางค์แบบอยุธยาขึ้นซ้อนทับ
และสร้างพระปรางค์บริวารขึ้น อีก 3 องค์บนฐานเดียวกัน
เจดีย์หลักตรงกลางเป็นที่ประดิษฐาน พระชัยพุทธมหานาค (หลวงพ่อพันปี)
เป็นพระปรางค์หินนาคปรก สะดุ้งมาร สร้างด้วยหินทรายสีขาว ศิลปะเขมร
หลังจากมาไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกันแล้วเราจะเดินทางไปที่ สวนสาธารณะเขาหินงูกันครับ
จากภูเขาหินปูนทิ้งร้าง...ถูกพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ แห่งใหม่ของชาวราชบุรี
การเดินทาง มายังสวนสาธารณะเขาหินงู ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3087 ถนนสายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 8 กิโลเมตร จะพบสี่แยกให้ขับตรงเข้าไปก็จะถึงสวนสาธารณะเขางู
ที่เข้าหินงูนั้น สวยงามไปด้วยสภาพภูมิประเทศของภูเขาหินสูง
ด้านล่างเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่
พร้อมกับสะพานแขวนและทางเดินทอดยาวเพื่อให้เราชมธรรมชาติของสถานที่ได้อย่างเต็มที่
ที่นี่มีทั้งปลาท้องถิ่นแบบเดิมๆ เช่นปลานิล ปลาช่อน และยังมีปลาคราฟ์ที่เพิ่งนำมาปล่อย
แต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างดี...
จากนั้นเราจะเขาสู่ที่พักของเราซึ่งเป็นที่พักอยู่ในตัวเมือง หาไม่ยาก ใกล้แหล่งของกิน
และที่สำคัญเป็นโรงแรมที่ตกแต่งได้สวยม๊ากกกกก นั่นก็คือ.....
โรงแรม เอส สวิส ราชบุรี ซึงเป็นโรงแรมที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ สวยงามตั้งแต่ตัวโรงแรมเลยครับ
บริเวณล็อบบี้ ประดับด้วยระย้าเชิงเทียน ผนังเป็นอิฐบล็อคสีขาว
อีกด้านหนึ่งมีเตาผิง ซึ่งจะติดอยู่ตลอดเวลา
นั่นเพราะเป็นเตาผิงแบบดิจิตอลนั่นเอง....แหมทำซะเหมือน
และบริเวณล็อบบี้ยังมีโซฟาหลายแบบให้เราเลือกนั่ง...เหมาะกับการถ่ายรูปมากกกก
เวลาเช็คอินจะมีค่ามัดจำคีย์การ์ด 200 บาทและจะคืนให้เมื่อเราเช็คเอ๊าท์ครับ
เช็คอินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะเดินผ่านอุโมงค์สีขาวเล็กๆนี้(น่าถ่ายรูปอีกล่ะ)
ไปยังห้องพักของเราครับ
โซฟาสำหรับนั่งรอลิฟท์ และป้ายบอกชั้นต่างๆดูหรูหราไฮโซมากกก
ห้องพักที่เรามาพักในวันนี้เป็นห้องพักแบบ Superior Room ราคาเริ่มต้น 1,050 บาท
อย่างที่บอกครับโรงแรมนี้ตกแต่งสไตล์วินเทจ เน้นสีขาวสบายตา
วอลเปเปอร์มีลวดลายเล็กๆ
หมอนและผ้าปูที่นอนมีลวดลายดอกกุหลาบเสริมสร้างความโรเเมนติก
วัสดุการตกแต่งห้อง โต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้ โทรศัพท์ ถูกเลือกมาให้เข้ากับคอนเซปของโรงแรม
ยกเว้นเคสมือถือ..อันนี้ของเค้าเอง
ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง TV LED ตู้เย็น น้ำดื่ม ไดร์เป่าผม
ห้องน้ำก็ใช้วัตถุที่ดูคลาสสิคอย่างก๊อกน้ำ และฝักบัวทองเหลือง
ยกเว้นชักโครกที่เป็นแบบดิจิตอลพร้อมระบบอุ่นตูด...^_^
(จริงๆอยากให้เป็นชักโครกที่เป็นเชือกดึงแบบสมัยก่อนมากกว่า)
บริเวณส่วนกลางของชั้นต่างๆ จะมีของตกแต่งที่ไม่ซ้ำกัน เหมาะกับการถ่ายรูปนะเออ
บนชั้นที่ 4 จะมีสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง มีทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่
ภาพบรรยากาศบริเวณโรงแรม
และนอกจากนี้หากใครชอบกิจกรรมปั่นจักรยานชมเมือง ทางโรงแรมก็มีจักรยานให้ยืมด้วยนะครับบ
ห้องพักทุกห้องพักราคารวมอาหารเช้าแล้วครับ โดยอาอาหารเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์
มีสลัดผัก ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ขนมปัง ข้าวสวย ผัดผัก คะน้าหมูกรอบ ชา กาแฟ น้ำส้ม
อาหารไทยนี่น่าจะมีเปลี่ยนแปลงในวันอื่นๆ
ในการเช็คเอาท์ เราสามารถเช็คเอ๊าท์เลทได้ถึงเวลา 13.00 น. แต่ต้องบอกที่น้องที่ล็อบบี้ก่อน
ถ้าใครอยากมาลองพักห้องพักสวยๆสไตล์ยุโรปสามารถติดต่อได้ที่
- ชื่อ : โรงแรม เอส สวิส ราชบุรี / S.SWiSS HOTEL RATCHABURI
- ที่ตั้ง : 18 ซ.แม้นรำลึก 1 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
- จำนวนห้อง : 77 ห้อง
- ราคา : เริ่มต้น 1050 บาท ./ คืน (รวมอาหารเช้า) สูงสุด 1,760 บาท ./ คืน (รวมอาหารเช้า)
- Facebook : www.facebook.com/S.swiss hotel
- โทรศัพท์ : 032-322160-2 / 088-5555-801
- โทรสาร : 032-322163
- E-mail : [email protected]
ก็เป็นอันจบทริป ราชบุรี..เมืองที่ไม่ได้มีแค่ความอาร์ท แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่น๊าาาาา
Wefoto
วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 07.56 น.