สวัสดีครับเพื่อนๆ กับมากันอีกหนึ่งรีวิว ที่การท่องเที่ยว หนึ่งสถานที่สวยๆ กับ PareAekTrip นะครับ วันนี้ผมจะพาเดินทางไกลจาก กรุงเทพ เมืองฟ้าอมร กว่า 600 กิโล สู่เมืองท่องเที่ยว ริมฝั่งโขง เมืองที่มีความงดงามทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งวัฒนธรรม ช่างเป็นสิ่งดึงดูดให้ผมนั้นขับรถเดินทางไกลไปถึงยังจุดหมายนี้ได้ ดังคำที่บอกว่า รฤก ถึงเขมราษฏ์ธานี ฉะนั้นจะรู้เลยว่า เมืองเขมราฐ อุบลราชธานีนั้นไกลแค่ไหน

การเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางกันสองคนเช่นเคยครับ โดยมีน้องออส ( TOYOTA VIOS ) เป็นพาหนะคู่ใจ เราวางแผนออกเดินทางจากกรุงเทพ 22.00 น. เพื่อให้ไปถึง ณ จุดหมายแรกในตอนเช้า (ต้องบอกก่อนนะครับผมเป็นคนชอบขับรถไกลตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน เพราะรถน้อยสามารถทำเวลาได้ และสายตาไม่ต้องสู้แดดแรงๆ แต่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ) เปิดแผนที่ดูแล้ว ต้องเดินทางด้วยระยะทาง 600 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง แบบไม่รีบ เส้นทางก็จะขับสบายๆ มุ่งหน้าสู่สระบุรี เข้านครราชสีมา ต่อด้วยยโสธร อำนาจเจริญ และเข้าสู่เขตจังหวัดอุบลราชธานี (ในช่วงอำนาจเจริญถนนจะเป็นช่วงสองเลนสวนกันแบบยาวๆ ในบางช่วง ต้องระวังนิดนึงครับเพราะ มืดมาก)

เมื่อดูแผนที่เห็นว่าเข้าเขตอุบลและไม่ไกลจากจุดหมายมากนักก็แวะปั๊มสิครับ (ล้างหน้า แปรงฟัน ทำธุระส่วนตัว) ให้พอรู้สึกสดชื่น ก็เดินทางต่อครับ โดยจุดหมายแรกของเรานั่นคือ

หาดทรายสูง สถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้เราไม่ต้องเดินทางไกลไปถึง ต่างประเทศ (มุยเน่ เวียดนาม)

บริเวณด้านหลังหลักกิโลนี้ก็มีที่จอดรถได้อยู่พอสมควรครับ

เดินชมไปเรื่อยๆ

แต่ต้องบอกก่อนนะครับสถานที่นี้เข้ามาจากถนนหลักพอสมควรเหมือนกัน มาถึงที่แรกก็มองดู ไม่เห็นมีอะไรมากมาย แต่ก็ต้องเดินไปเรื่อยๆ ครับ เพราะมาแล้ว

ก็จะมีทรายแบบประมาณนี้

รูปทรงของทรายก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับลมเป็นผู้กระทำ สาเหตุที่ทำให้เห็นทรายแบบนี้ก็เพราะน้ำในลำน้ำนั้นลดลง ำให้โผล่ขึ้นเป็นหาดทราย

ก็เดินชมบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ ครับ

นั้นส่วนของวันที่ไปนั้นแดดจะแรงนิดนึง แต่โชคดีที่เลือกมาในช่วงเช้า แดดยังเป็นแดดอ่อน และมีลมแรงงงงงงมากเลยทำให้ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่

ในเมื่อแดดมันแรงก็ใช้แสงแดดช่วยทำให้ภาพสวยเลยก็แล้วกัน

ดูเหมือนเขาจะสนุกมากเลยนะ (สนุกได้เต็มที่เลยครับ เพราะมีกันอยู่สองคน ไม่ต้องอายใคร 555)

ใครที่ชอบถ่ายภาพก็หามุม หาตำแหน่งกันเอานะครับ

ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้สักพักก็เดินทางต่อเพื่อไปยังจุดหมายต่อไปของตามโปรแกรม

ก็มาแวะไหว้พระกันนิดนึงครับ ถือโอกาสผ่านมาแล้ว

จุดหมายที่สองของเราคือวัดพระโต อุบลราชธานี ที่วัดนี้มีสถานที่กว้างใหญ่ เงียบสงบ น่าศรัทธา มีความศักดิ์สิทธิ์ ของคนเขมราฐ ใครผ่านมาแล้วก็อย่าได้พลาดผ่านไปเฉยๆ นะครับ แวะเข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองนะครับ

ในวัดก็มีจุดทำบุญได้อย่างตามแต่ศรัทธา เลยครับ

ไหว้พระให้จิตใจเป็นสุขแล้วก็เดินทางกันต่อครับ

ที่นี่เรียกว่า หาดชมดาว หรือ แก่งชมดาว นะครับ

บางคนอาจคิดว่านี่คือสามพันโบก ไม่ใช่นะครับแค่เหมือนกัน

หาดชมดาวนั้นมีพื้นที่กว้างกว่าสามพันโบก เมื่อมาถึงศาลาซึ่งเป็นจุดจอดรถต้องเดินไปอีกเกือบ 1 ก.ม. จึงจะถึงจุดไฮไลต์หรือหินสวยๆ ซึ่งจะแตกต่างกับสามพันโบกที่เดินไปนิดเดียวก็ถึงแก่ง ใครอยากหาไกด์นำทางสามารถติดต่อบริเวณจุดจอดรถได้นะครับ(แต่ผมเดินกันเอง เดินตามๆเขาไป555)และที่สำคัญควรเตรียมน้ำดื่มมาให้พร้อมด้วยครับ

ที่นี่ก็สวยดีครับ ท้องฟ้ากว้างใหญ่ สวยงามหามุมเอาตามใจชอบเลยครับ

เดินไปเรื่อยๆ อาจจะร้อนสักหน่อยนะครั

สวยงามแปลกตาไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต

ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่กันจนถึงช่วงบ่ายๆ เดินชมกันจนเพลิน เพลินไปกับความสวยงามยิ่งใหญ่มากๆ

ได้เวลาครับต้องไปต่อกันแล้ว เดินทางกันมาจนใกล้ที่พักขึ้นเรื่อยๆ ครับ แต่ยังไม่ได้เข้าที่พักนะ 555

มีเวลาเหลืออยู่พอสมควร เพราะตั้งใจจะมาเดินถนนคนเดินเขมราฐ แต่มาถึงเร็วเลยยังไม่มีของขาย ก็เลยขับรถวนเล่นมาเจอจุดชมวิวใกล้ๆ ถนนคนเดิน เลยใช้เวลาที่นี่ในการผ่อนคลาย นั่งพักกินลมชมวิว ไปเรื่อยๆ ก่อนครับ

ซ้ายไทย ขวาลาว กลางน้ำโขง สวยงามมาก

เดินทางมาไกลไม่ไกลให้ป้ายเป็นคนบอก

บอกรักข้ามโขง ให้ไกลไปถึงใจเทอ อิอิอิ

เก็บบรรยากาศอยู่พักนึงก็เห็นว่าตลาดเริ่มตั้งขายของกันแล้วก็เคลื่อนย้ายร่างกายเข้าสู่ตลาดได้แล้วครับผม

ตามป้ายเลยนะครับ ที่นี่คือ เขมราษฏ์ธานี ถนนคนเดินเขมราฐ

เดินชมไปเรื่อยๆ นะครับ ตลาดก็ยาวพอสมควร

ของฝาก ของเด่นชุมชน ของกิน มีให้เลือกเยอะครับ

เก่าๆ แต่คลาสสิคมากครับ ดูแล้วได้บรรยากาศ ชอบมากครับ

ในโรงแรมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้นะครับ ไปดูกันเอาเองนะครับข้างในเขามีอะไร ผมไม่ได้เอามาฝาก 555

ทุกอย่างล้วนมีความเก่าแก่ให้เห็น ซึ่งเรานั้นควรมองเห็นซึ่งเป็นสิ่งล้วนมีค่า ควรแก่การรักษาไว้

พอเริ่มมืด คนเริ่มเยอะ ครึกครื้นดีครับ

ในคืนที่ผมไปถือว่าโชคดี มีงานกิจกรรมพอดี เลยมีโอกาสได้ชมขบวนแห่ ในตลาด และซื้ออาหารมานั่งกินได้ในบริเวณนี้ ในลานนี้จะปูเสื่อให้มีโตกใส่อาหาร ให้นั่งกิน นั่งชมการแสดง กิจกรรมต่างๆ ได้ ถือว่าโขคดีมากๆ ครับ ได้เห็นวัฒนธรรมของท้องถิ่นด้วยในครั้งนี้

และก่อนจากกันในค่ำคืนนี้ ผมได้บอกให้คนเขมราฐ บอกให้คนอุบล บอกให้คนไทย บอกให้นักท่องเที่ยว ได้เห็นและรู้แล้วว่า ผมได้มาถึงแล้ว @เขมราฐ 24 ธ.ค. 2559 #PareAekTrip

คืนนี้ฝันดีราตีสวัสครับ

สุดท้ายก่อนจากกันไปจากเขมราฐ มีอีกหนึ่งสถานที่ ที่ผมได้แวะไปในตอนเช้าหลังจากเช็คเอ้าออกจากที่พัก ผมได้แวะไปชมความสวยงามของ วัดบุ้งขี้เหล็ก อีกสถานที่หนึ่ง

ที่วัดนี้มีพระสีขาวเหมือนที่เห็นในรูปอยู่เยอะมาก เรียงรายกันอย่างสวยงาม อีกสถานที่หนึ่งที่ผมแนะนำให้ไปครับ

ถึงเวลาต้องจากกันไปจริงๆ แล้ว สำหรับการเดินทางมาไกล รฤก ถึงเขมราษฏ์ธานี (เขมราฐ) เป็นการเดินทางที่สุดพิเศษมาก ผมจึงขอแนะนำนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งหลายว่าไม่ควรพลาดสักครั้งในการไปให้ถึง เขมราฐ เมืองริมโขง อุบลราชธานี ครับ

หมายเหตุ*** สถานที่พัก ร้านอาหารระหว่างทริป ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่าย ทำไมผมไม่พูดถึง อันนี้ไม่สามารถแนะนำพูดถึงกันได้จริงๆ ครับ ต้องแล้วแต่ความชอบและเส้นทางของแต่ละคนครับ สวัสดีครับ

เพื่อนๆ สามารถติดตามเราต่อได้ที่
https://www.facebook.com/PareAekTrip/ นะครับ ขอบคุณครับ

บ้าย...บาย...สวัสดี...ครับ