สวัสดีค่าา วันนี้เที่ยวซิคะจะมารีวิวทริปเที่ยวโตเกียวแบบชิวๆ เที่ยวแบบไม่ต้องรีบ อยากทำอะไรก็ทำ อยากกินอะไรก็กิน อยากไปตรงไหนก็ไปค๊าา สำหรับใครที่ไปแล้วไม่รู้จะทำอะไรดี ยังไงลองอ่านรีวิวกันดูได้นะค่ะ
- Omotesando -
วันแรกขอประเดิมด้วยย่าน Omotesando กันก่อนเลยนะค่ะ ย่านนี้เป็นหนึ่งในย่านที่ส่วนตัวแล้วชอบมากๆ เพราะผู้คนจะไม่ค่อยพลุกพล่านซักเท่าไหร่ แถมบรรยากาศก็ยังดีอีกด้วย ในย่านนี้เราสามารถแวะมากิน Luke's Lobster ได้ด้วยนะค่ะ ซึ่งชื่อร้านก็บอกตรงตัวอยู่แล้วเนอะ ว่าจะได้กินอะไร ร้านจะเป็นร้านเล็กๆ ไม่มีโต๊ะให้เราได้นั่งทานแบบจริงจัง พอไปถึงเราจะต้องต่อคิว ซึ่งใช้เวลาไม่นานมากนักกว่าจะไปถึงจุดสั่งอาหารค่ะ เนื่องจากเมนูเด็ดที่นี่คือ Lobster Roll ซึ่งมาในรูปแบบคล้ายๆฮ็อทดอก เราจึงจะใช้เวลาเพียงแปปเดียวในการกินค่ะ เค้าจะมีโซนเก้าอี้ไม้ให้เราได้นั่งใกล้ๆกับจุดที่เราสั่งอาหารเลย พอกินของคาวเสร็จจากจุดนี้เราสามารถเดินไปกินของหวานต่อที่ร้าน Dominique Ansel Bakery ได้เลย ร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่ขนมหวานร้านดังอีกร้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมนูยอดฮิตก็คือ Frozen S'more หรือมาร์ชเมลโล่วปิ้งที่ด้านในจะมีไอศครีมอยู่ค่ะ หรืออีกเมนูก็จะเป็น Cookie Shot หรือแก้วคุ้กกี้นั่นเอง สำหรับใครที่ไม่ยังอิ่มท้อง อยากจะ Cafe Hopping ต่อ ย่านนี้ยังมี Cafe Kitsune, Blue Bottle Coffee, Clinton St. Baking Company, Cafe & Meal MUJI และอื่นๆอีกมากมายอีกด้วยนะค่ะ ส่วนใครที่อิ่มท้องแล้วอยากจะเดินเล่นต่อ ย่านนี้ก็จะมีโซนช้อปปิ้งร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆให้เราแวะเข้าไปเลือกซื้อได้เช่นกันค่ะ ห้างที่แนะนำจะเป็นห้างชื่อ Omotesando hills ยังไงลองแวะไปดูกันได้นะค่ะ
ร้าน Luke's Lobster ตั้งอยู่ในย่าน Omotesando นะค๊าา
ด้านหน้าร้านจะมีแค่นี้เลยค่ะ เราจะต้องสั่งอาหารผ่านช่อง
อันนี้จะเป็นที่นั่งหน้าร้า
ใครที่อิ่มท้องกันแล้วก็สาม
อันนี้จะเป็นโซนช้อป brandname ค่าา
- Daikanyama -
มาต่อกันที่ย่าน Daikanyama ซึ่งเป็นอีกย่านสำหรับสาวก hipster (เคยได้ยินแว่วๆมาว่าสาวๆฮาราจูกุพอโตขึ้นมาหน่อย ก็จะมาแฮงเอ๊ากันอยู่ที่นี่แทน 555 แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงรึป่าวนะ) สำหรับย่านนี้สถานที่ที่จะต้องไปเลยในย่านนี้คือ T-Site Garden ซึ่งจะเป็นเวิ้งคล้ายกับ J-avenue อะไรอย่างงั้น แต่จะสวยกว่าแล้วก็ชิคกว่าด้วยค่าาา ที่นี่เราจะเห็นน้องหมาออกมาเดินเล่นอยู่หลายตัวเลย เนื่องจากเค้าอนุญาตให้น้องหมาเข้ามาในพื้นที่ได้ค่ะ ที่นี่จะมีร้านอาหารชื่อ The Ivy Place, ร้านหนังสือ, เครื่องเขียน, ร้านกล้อง และอื่นๆอีกมากมาย ใครที่ชอบของแนวๆสวยๆ จะต้องเดินกันเพลินเลยแหละค่ะ นอกจากนี้ในย่านนี้เรายังสามารถไปกินร้าน Midori Sushi ซูชิสุดคุ้มแถมอร่อยอีกต่างหาก ซึ่งสำหรับเราแล้ว ถึงเมนูจะไม่เยอะแต่ เราว่าอร่อยกว่าร้านที่ตั้งอยู่ใน Shibuya แถมไม่ต้องรอต่อคิวนานๆอีกด้วยค่ะ
ภายในตกแต่งสวยมากๆ ชิคสุดๆ
ร้าน A.P.C จะตั้งอยู่ห่างจาก Daikanyama T-site นิดหนึง ใครอยากได้กางเกงลอง ตาม google map มาที่ร้านนี่ได้นะค่ะ
- Shibuya & Shinjuku -
Shibuya หนึ่งในแลนด์มาร์กและถือว่าเป็นเซ็นเตอร์ของโตเกียวเลยก็ว่าได้ จะมาญี่ปุ่นทีไรจะต้องแวะชิบูย่าทุกรอบ 555 สิ่งที่คนส่วนมากจะทำคือการไปถ่ายรูปกับสี่แยกไฟแดงที่คนเดินกันพลุกพล่านสุดๆ ขอแนะนำว่าอย่ายืนหยุดถ่ายรูปตรงจุดนี้เป็นเวลานานนะค่ะ ถ้าใครจะถ่ายขอแนะนำให้เดินไปถ่ายไปเร็วๆจะดีกว่า เนื่องจากถ้าเรายืนหยุดถ่ายรูปเป็นเวลานานจะเป็นการรบกวนผู้คนที่เค้าต้องการจะเดินข้ามถนนนะค่ะ และด้วยความที่ที่นี้จะมีครบทุกอย่างเรื่องช้อปปิ้งและของกินเราสามารถเสียเวลาอยู่ในย่านนี้ได้ทั้งวันเลย หากเราเดินช้อปปิ้งเสื้อผ้ารองเท้าเสร็จ ถ้าไม่มีอะไรทำก็แวะร้านกาแฟ หาของหวานทาน หรือจะนั่งจิบเบียร์ชิวๆก็ได้เช่นกันนะค่า ยิ่งถ้าไปช่วงน่าหนาวอากาศที่นี่จะเดินกันสบายเลยทีเดียวค่ะ ส่วนใครที่ยังอยากจะลองหาร้านอร่อยๆทานเพิ่มเติม เราสามารถนั่งรถไฟไปต่อที่ ชินจูกุ ได้เลย ย่านนี้ก็จะครบครันคล้ายๆชิบูย่าเลยค่าา
Ichiran Ramen ในตำนานนน 555
- Tsukiji Fish Market -
ตลาดปลาที่มากี่รอบแล้วก็ต้องมาอีก 555 เนื่องจากเป็นคนที่ไม่ได้ตื่นเช้ามาก พอไปถึงทีไรก็จะคนเยอะทุกที แล้วก็ไม่เคยจะได้กินร้านเดิมซักครั้ง ซึ่งสำหรับทริปนี้ก็ได้ลองร้านใหม่อีกแล้วค่ะ ชื่อร้าน Marukita Seafood Restaurant รอบนี้จัดข้าวหน้าปลาดิบต่างๆเช่นเคยค่ะ พอออกมาจากร้านข้าว เราก็จะเห็นร้านข้างทางเต็มไปหมดซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มักจะมาโดนร้านปลาไหลเสียบไม้ดัก เนื่องจากจะมีพนักงานที่ชอบใช้ภาษาไทยชักจูงให้คนเข้าร้านค่ะ 555 แถวนี้เรายังสามารถหาผลไม้สตอเบอรี่ลูกใหญ่ๆทานได้อีกด้วยนะค่ะ รอบนี้จัดไปสองถาด สตอเบอรี่สีขาวกับสตอเบอรี่ยักษ์ ก็ถือว่ากินล้างปากละกันเนอะ
มาช่วงสายๆคนก็จะเยอะๆหน่อย
ฟินนนนนนนน ชามเดียวก็อิ่มแล้ววว
แต่ก็ยังไม่พออ 5555
- Disneyland & Disneysea Tokyo -
ใครที่มีเวลาว่างอยู่ที่โตเกียวหลายวัน อยากจะแนะนำให้ลองแบ่งเวลาหนึ่งวันไปดิสนีย์แลนด์ดูได้นะค่ะ ไปย้อนวัยเด็กกันซักหน่อย ซึ่งสำหรับที่ตปทแล้ว บางคนเน้นไปหาของกินในดิสนีย์แลนด์โดยเฉพาะ เนื่องจากอาหารนั้นจะค่อนข้างอร่อยและถูกปากผู้คนทุกวัย ของกินด้านในก็จะมี วัฟเฟิลรูปมิกกี้ ชูโรสเคลือบน้ำตาล น่องไก่ยักษ์ ป๊อปคอร์นและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งพอเราเข้าไปแล้ว เราก็จะเห็นทุกคนสวมหมวกหรือที่คาดผมต่างๆลายการ์ตูน ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ด้านหน้าทางเข้าเลยและตามทางเดินภายในงานค่ะ จะมีหลายๆคนที่สงสัยว่าสองที่นี้นั้นแตกต่างกันยังไง ขอแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง Disneyland กับ Disneysea หลักๆแล้วคือ Disneyland นั้นจะเน้นธีมการ์ตูนของดิสนีย์มากกว่า เครื่องเล่นด้านในก็จะเหมาะสำหรับเด็กๆหน่อย แต่ถ้าเป็นฝั่ง Disneysea อันนี้จะไม่ค่อยได้เห็นธีมการ์ตูนสักเท่าไหร่นะค่ะ และเครื่องเล่นก็จะเหมาะกับเด็กโตหรือวัยรุ่นหน่อยค่ะ ส่วนใหญ่เราจะใช้เวลาหนึ่งวันใน Disneyland และอีกหนึ่งวันใน Disneysea เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเร่งรีบเก็บสิ่งที่อยากทำให้ครบภายในวันเดียว ใครที่สนใจลองวางแผนมาเที่ยวที่นี่ได้นะค่ะ
ไอติมมิกกี้เม้าส์น่ารักมุ้
น้องโอลาฟฟฟก็มาาาา
ไม่คิดว่าจะได้มากินซาลาเปา
- Womb Nightclub -
วันนี้ขอทิ้งท้ายกันที่ไนท์คลับสักหน่อย ซึ่งที่นี้มีเพื่อนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นแนะนำมาค่ะ ที่นี่จะมีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่างสุดจะเปิดเพลงบีทแนวๆ ชั้นนี้จะอาร์ทมากๆ ไม่มีการฉายจอทีวีอะไรทั้งนั้น แต่เค้าจะใช้เครื่องปิ้งสไลด์ใสในการโปรเจคภาพต่างๆให้เข้ากับเพลง ดีเจจะเอาสายต่างๆ มาซูมเข้าซูมออก พอดูไปนานๆก็เพลินไปอีกแบบค่ะ 55555 ส่วนชั้นสองก็จะมีดีเจกับแสงเลเซอร์เหมือนคลับทั่วไปและชั้นสามก็จะเป็นโซนเล็กๆ ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นเหมือน private zone ซึ่งโดยรวมที่ womb เราว่าก็ดีในระดับหนึ่ง จะมีชาวต่างชาติเยอะหน่อย แถมไม่ค่อยมีคนน่ากลัวด้วย เราว่าที่นี่ค่อนข้างเซฟเลยทีเดียวค่ะ ใครว่างดึกๆลองแวะไปเอาบรรยากาศชั้น 1 ดูได้นะค่ะ 5555
ดีงาม
สำหรับวันนี้ขอรีวิวทริปโตเกียวเท่านี้ก่อนนะค่ะ ใครที่ชอบรีวิว ก็ฝาก Like & Share หรือจะแท็กเพื่อนๆให้มาปักหมุดไว้สำหรับทริปต่อไปก็ได้เช่นเดียวกันนะค่าา
เที่ยวซิคะ
วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 10.28 น.