ไม่มีสัญาณโทรศัพท์ ไม่มี WiFi ไม่มีไฟฟ้าใช้ แล้วไปทำอะไรที่ Sweet home floating house

ที่นี่เราจะได้ปลดแอกจากพวกเทคโนโลยีทั้งหลาย และหวลกลับเข้าสู่ธรรมชาติ แบบโดดเดี่ยวไปติดเกาะไรแบบนี้นะคะ อิอิ

วันหยุดที่ผ่านมาเราไปพักกันที่แพบนเขื่อนศรีนรินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี แห่งนี้

ถามว่าที่นี่ต่างจากแพอื่นอย่างไร

นั่นคือเป็นเพียงแพเดียวที่อยู่โดดเดี่ยวบนเกาะเล็กๆ ด้วยการนั่งเรือแจวข้ามไปแค่ 2-3 นาทีเท่านั้นค่ะถึงเลย

ราคาที่พักมีแบบเป็นห้องและแบบเหมาๆ แพ ราคาห้องละ 890 บาทรวมอาหารเช้า (2 คน)

แบบนี้ล่ะคุ้มไหม ถามใจดู๊

เราไปช่วงนี้ฝนตก ฟ้าหม่น ไม่เห็นดวงอาทิตย์คนละฟิวส์กับหน้าหนาวและหน้าร้อนนะคะ

แต่ข้อดีคืออากาศเย็นสบายมากด้วย




สำหรับคนชอบตกปลา ที่นี่ให้ตกฟรี พร้อมทำกับข้าวให้ด้วย 555

สำหรับคนชอบพายเรือคายัค เล่นน้ำ มาปาร์ตี้ มาเฮฮา ที่นี่เค้าจะดูแลเหมือนญาติเหมือนเพื่อนบ้าน

ลองไปดูค่ะที่ Sweet home floating house

063-895-5753 , 084-879-4541

ส่วนใครอยากได้ความฟินเพิ่มขึ้น ตามเรามากันจ้าาาา




ดูจาก map แล้วก็จะเห็นได้ชัดนะคะว่าเป็นเกาะเล็กๆ แยกออกไปต่างหากในเขื่อนศรีนครินทร์

ซึ่งเขื่อนเองก็มีพื้นที่กว้างมากกกก และมีแพขนานยนต์หลายเจ้า

ที่ให้บริการข้ามในช่วงลัดเลี้ยวเคี้ยวคดเพื่อย่นระยะเวลาการเดินทางได้มากขึ้น

อย่างเรามาแพนี้ก็เลือกข้ามแพ เพียง 10 นาทีรถยนต์ 60 บาทค่ะ ย่นระยะทางได้ 30 กิโลเมตรเลยน่ะ

วิธีการเดินทางแนะนำให้หาพิกัดและพิมพ์ Sweet home floating house

ในสมาร์ทโฟนได้เลยค่ะ นำทางมาถูกแน่นอน เพราะจะให้เราอธิบายทางเป็นตัวอักษรมีมึนแน่ๆ 555

พอถึงแล้วทางเกาะจะมองเห็นรถเราที่จอดอยู่บนฝั่งด้วย เค้าจะเอาเรือมารับฟรีค่ะ



นั่งเรือเข้าไปแพ 2-3 นาทีเท่านั้นถึงแล้วๆ น้ำสีเขียวๆ สวยๆ พอเห็นแบบนี้ก็รู้เลยว่า ไฟฟ้าไม่มีอย่างแน่นอน

แต่คือแว๊ปแรกที่เห็นเนี่ย บ้านๆ มากเลยนะ ดูแบบ Slow Life ไรแบบนั้นเลยค่ะ อิอิ

แต่บอกเลยว่าที่นี่ เราไปดูภาพต่างๆ ในเพจเค้ามาแล้ว ช่วงพระอาทิตย์ตกกับพระอาทิตย์ขึ้น

ช่วง SunSet แสงสีส้มทองๆ จะสวยงามมากกกก เห็นแล้วอยากได้เวลานั้นมาเหมือนกัน

แต่ช่วงที่เราไปฝนตกเกือบทั้งวันค่ะ 555

เอาน่าาาาา ลองดู ลองมาพักผ่อนแบบปราศจากเทคโนโลยีตัดขาดจากโลกภายนอกดูบ้างเนอะ ^^



ในส่วนของที่พักจะแยกเป็นหลังๆ จากเจ้าของแพเองและของลูกค้า

ของลูกค้าก็จะมีหลายหลังหลังละ 4 ห้องนอนค่ะ ถ้าเหมารวมเป็นหลังๆ เลยราคา 3200-3500 บาทรวมอาหารเช้า

แต่ถ้าจ่ายแค่ห้องเดียวก็ราคา 890+ อ่าหารเช้า

เปิดประตุดูในห้องนอนกันบ้าง โอเคอยู่เนอะ



ภายในห้องนอนมีพัดลมให้ด้วยนะคะ แต่เป็นพัดลมพลังงานโซล่าเซลไรแบบนี้

ไฟฟ้าก็จะเป็นโซล่าเซลพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะเปิดเป็นช่วงเวลา

และมีตะเกียงเล็กๆ น่าจะเป็นตะเกียงแบบใช้ถ่านให้แสงทีพอสว่างบ้างให้ในห้องด้วย

เดินเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำนะคะ

ห้องน้ำใช้ร่วมกันของบ้านแต่ละหลังค่ะ



น้ำที่นี่ก็เปิดกันเป็นเวลาด้วย ปั้มน้ำเปิดปิดเป็นเวลากับกระแสไฟโซล่าเซล เราว่างั้นน่ะ 555

สิ่งอำนวยความสะดวกไม่มี เครื่องใชต่างๆ เราต้องเตรียมมาเอง เช่นสบู่ แชมพู ยาสีฟัน

และผ้าเช็ดตัว ต้องเตรียมมาเองทั้งสิ้นค่ะ

มีที่นั่งชิลๆ Relax กันที่ระเบียงแพแต่ละหลังด้วย

มุมนี้น่ะไว้นั่งชิล นั่งเฮฮา นั่งปาร์ตี้กันน่ะเหมาะมากกก



อุปกรณ์ตกปลา สำหรับคนที่ชอบตกปลาเอามากันเองพร้อมเหยื่อ แบบนี้ขาตกปลาต้องชอบแน่ๆ ค่ะ

กับช่วงบรรยากาศที่เหมาะกับการปลีกวิเวกจากเทคโนโลยีแบบนี้

ถ้าถามว่า คลื่นโทรศัพท์ไม่มีเหรอ เราเช็คมาแล้วค่ะ ดีแทคตายสนิท

ส่วนทรูก็มีขีดสองขีดอัพไรต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะอัพผ่าน 555

มีแต่ Ais เท่านั้นที่พอใช้ได้ แต่ถ้าฝนตกหนักๆ คลื่นก็ล่มได้เหมือนกันนะขอบอกๆ

ท่ามกลางฝนตกปรอยๆ ในเย็นวันนั้น เราก็ฝากท้องกันที Sweet home floating house กันเลยนะคะ

จะมีเมนูต่างๆ บนแพให้เราเลือกเยอะพอสมควร ทั้งอาหารจานเดียว อาหารเป็นชุดๆ เค้าจะทำให้ใหม่ๆ กันเลยค่ะ

ราคาเราทานมาแล้ว โอเค ราคาไม่แพง ไม่บวกเยอะมาก และปริมาณได้เยอะมากด้วย เพราะเรายังกินไม่หมดเลยน่ะ อิอิ



แสงกลางคืนท่ามกลางฝนปรอยๆ และแสงไฟที่กำลังจะหรี่ลง และดับลงเรื่อยๆ

ที่อยากให้ทุกคนมาพักผ่อนที่นี่ได้นอนกันเร็วๆ ตอนแรกเราก็คิดว่าคงได้นอนเร็วขึ้น แต่เอาเข้าจริงๆ

ก็กลายเป็นนอนเที่ยงคืนเหมือนเดิม 555 คงเพราะไม่ชินนั่นเอง


เช้ามาแล้ว ร่องรอยของสายฝนที่ยังตกเหมือนเดิม สรุปคือตกทั้งคืน เช้ามาสังเกตว่า อ้าวพัดลมหยุดตั้งแต่เมื่อไหร่

ก็ถึงบางอ้อในรายละเอียดของที่พักคือ กระแสไฟปั่นจะหยุดทำงานตอนเช้าตรู่ที่อากาศเย็นลงไปด้วย

ไม่เป็นไร อากาศตอนที่เรามา เย็นสบายตัวกันอยู่แล้ว

ตอนเช้าเรามาเดินสำรวจบนแพกันต่อ ในช่วงเวลาฝนโปรยสลับกันบ้าง

กระซังตรงนี้กั้นเป็นที่เล่นน้ำได้นะคะ แต่เราก็ไม่ได้มาลองว่าเป็นอย่างไรบ้าง



บางคนนอนสบายสุดๆ ไม่ต้องไปนอนในห้องนอนก็ได้นะนั่น ถ้าสังเกตดีดีจะเห็นคนนอนที่เก้าอี้ไม้นั่นด้วย จนถึงเช้า 555

ทำให้รู้ได้เลยว่า อากาศดี นอนสบายมากจริงๆ ค่ะ

เดินเล่นไปเรื่อยๆ เราตื่นมาประมาณ 6 โมงเช้า เวลานั้นแม่ครัวยังทำข้าวต้มยังไม่เสร็จอ่ะนะ

ส่วนคนอื่นๆ ยังคงนอนหลับสนิทกันหมด ก็บรรยากาศแบบนี้ ฝนโปรยแบบนี้

นอนต่อไปยังได้เล้ย โคตรสบาย ขอบอกๆ



เช้านี้มาลิ้มรสกาแฟในแก้วบนแพกันก่อนอาหารเช้า

หลังจากเดินสำรวจพื้นที่เล็กๆ ในแพมาแล้วก็ไม่มีไรทำอ่ะนะ เลยมาเดินคยกับแม่ครัวเล่นบ้าง

นั่งดูน้ำ ดูสิ่งมีชีวิตรอบๆ แพบ้าง ซึ่งสิ่งที่เราเห็นคือจะมีห่านหลายตัวมาก

ว่ายน้ำเล่นอย่างอิสระเสรีบนเขื่อนแห่งนี้

ซึ่งเวลานั้นเราหยุดนิ่งชั่วขณะมองไปเรือ่ยๆ ได้ตลอด โดยไม่คิดจับกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้เลย 555



ข้าวต้มยามเช้าของเราที่รวมราคาในห้องพักแล้ว เรามากินอีกทีตอน 8 โมงเช้าและจะเป็นคนแรกๆ ที่กินก่อนใครก็ว่าได้

ตอนแรกพอเห็นก็เห้ย ข้าวต้มจริงๆนะ หมูหลบหายไปไหนหมด 555 แต่พอคนๆ ไปก็เจอหมูขึ้นมาทักทายบ้างนะคะ แหมมมม

เอาจริงๆ ถ้วยเดียวเราก็ไม่อิ่มจ้า เลยถามไปว่าเติมได้ไหมคะ แม่ครัวบอกได้ค่า เช้าวันนั้นเราจึงเติมข้าวต้มหมดไป 2 ถ้วย อิอิ



ยอมรับวาเราเป็นคนที่ติดโซเชียลพอสมควรค่ะ เวลานั้นไม่รุ้จะทำไรต่อ ก็ยังเอามือถือมาดูรูปเขี่ยๆ ไรเล่นไปตามประสา

โดยไม่ได้อยากให้เวลาสุญเปล่าไป จริงๆ ถ้าพอมีแบตบ้าง เราก็อยากเอาคอมมาทำงานด้วยนะ

นี่ก็ยังละวางไม่วายคิดถึงเรื่องงานอีก

จะว่าไปมันก็ปลดแอกเรื่องงานได้ยากเหมือนกัน ละวางปล่อยไม่ได้ด้วยซ้ำมั้ง อิอิ




จะว่าไป Sweet home floating house

ที่นี่ทำให้เวลาเดินช้าลง ได้นั่งคิดไรนานๆ คนเดียวได้มากขึ้นนะคะ เหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อนจริงๆ

แบบไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล พะวงอะไร หรือไม่ต้องการรับรู้ขาวสารสังคมภายนอกเลยก็ได้

คนที่ต้องการมา Slow Life พักผ่อนให้เต็มที่ ที่นี่ตอบโจทย์ได้อย่างดี

ที่เหลือก็แล้วแต่ตัวเราเองนั่นแหละ ที่จะละวางลงได้หรือเปล่าหลังจากมาพักที่นี่




หลังทานข้าวต้มเสร็จแล้ว สายๆ นิดๆ บวกด้วยฝนหยุดแล้ว กับกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ทำให้น่าเบื่อ

นั่นคือพายเรือคายัค ที่เราเพิ่งเคยได้พายครั้งแรกเมือ 3 เดือนก่อนบนเขือนศรีฯ นี่แหละค่ะ

คราวนี้มาลองอีกแล้ว ไม่ใส่ชูชีพอีกล่ะ 555 ถือว่าสนุกดีเหมือนกันนะเออ



กับมุมสงบๆ ของการพักผ่อนที่ Sweet home floating house ถามเราว่าโอเคมั้ย

ก็โอเคนะ สำหรับคนที่ต้องการปลีกวิเวกมาพักผ่อนจริงๆ และต้องการความสุขสงบ เงียบๆ

ที่อยากให้พักผ่อนเยอะๆ มันเป็นผลดีกับตัวเอง

ที่เหลือนอกนั้นก็อยู่ที่ตัวคนพักเองแล้วล่ะค่ะ ว่าจะละวางปลดแอก

ความคิดที่ยุ่งเหยิงในหัวตัวเองออกไปให้ได้ในเวลาที่อยู่ที่นี่มั้ย ^^


ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ

ความคิดเห็น