ตุ้งแช่ ตุ้งแช่!!! Aurora กำลังเต้นระบำไปตามจังหวะดนตรี
ในช่วงเวลาที่ได้ยืนมองแสงเหนือวาร์ปไป วาร์ปมา
มันเป็นอะไรที่แบบ ..สุข.. จนไม่รู้จะบรรยายออกมายังไงเลยจริงๆ

แสงเหนือ..คงเป็นเป้าหมายหนึ่งในชีวิต ของใครหลายๆ คน

ที่ตั้งใจว่าสักครั้งนึงต้องไปสัมผัสกับมันให้ได้

เป้าหมาย..อย่าตั้งไว้เฉยๆ มันต้องออกไป เผชิญ และ พิชิต มาให้ได้ ชีวิตจะได้มีสีสัน

สีสัน..แห่งความสุข ที่ทำ Mission ให้ Complete ยังไงหละ

ฟิ้วววววววววววววววววว..ปั๊ก โอ้โห!! เข้าเป้าเด๊ะๆ แสงเหนือครั้งนึงในชีวิต เราพิชิตมันได้แล้ว

แสงเหนือของเราในครั้งนี้..ก็คงหนีไม่พ้นประเทศฮอตฮิต Iceland land of Aurora

วิธีการพิชิตแสงเหนือของแต่ละคนก็คงแตกต่างกันออกไป

ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นการขับรถบ้าน ตระเวนไปเรื่อย ๆ มืดไหนนอนนั่น

แต่วิธีของเราคือการเช่ารถขับ รถมาสด้าธรรมดาๆ นี่แหละ

ตกกลางคืนก็นอน Gusethouse ที่ทำการจองล่วงหน้าเอาไว้แล้วทุกคืน

เรียกว่าเป็นการพิชิตแสงเหนือแบบขี้เกียจๆ ก็ได้นะ วันนึงขับรถไม่เกิน 300 กิโลเมตร

รถบ้านไม่ได้ขับ แสงเหนือไม่ได้ออกตามล่า..เพราะเราเชื่อว่าเรามีดวง

และแล้ว..แสงเหนือก็มาให้เห็น ในระดับที่รุนแรงมาก

รีวิวนี้เลยอยากมาแนะนำ Guest house ใน Iceland

ที่เราใช้เป็นฐานทัพในการทำภารกิจล่าแสงเหนือครั้งนี้ ให้ Compete

ที่พักส่วนใหญ่ที่เราเลือก ก็จะเป็นแบบอยู่กลางทุ่งกว้าง ห่างไกลผู้คน

เราว่ามันเข้าถึงธรรมชาติดีนะ ฮาาาาาาาา

My plan

Day 1 : Guesthouse Bitra B&B เมือง Selfoss

http://www.guesthousebitra.is/

ขับรถจากสนามบิน 1ชั่วโมงครึ่ง เลยเมือง Selfoss ไป 20 กม.

Day 2 : Skyrhúsid Guesthouse เมือง Hali

https://www.facebook.com/skyrhusid/

เลยธารน้ำแข็ง Jökulsárlón ไป 9 กม.

Day 3 : Skógar Guesthouse เมือง Skogar

http://www.skogarguesthouse.is/

อยู่ติดน้ำตก Skógafoss

Day 4 : Úthlíd Cottages เมือง Úthlíd

https://goo.gl/KfaWpz

ใกล้น้ำพุร้อน Geysir

Day 5 : Grund í Grundarfirdi เมือง Grundarfjordur

https://goo.gl/mjfeB9

อยู่ใกล้เมือง Grundarfjörður ดูแสงเหนือได้จากเตียงนอนเลย ชอบที่นี่ที่สุด

Day 6 : Hótel Á เมือง Gilsbakki

http://www.hotela.is/

อยู่ใกล้น้ำตก Hraunfossar

Day 7 : Svitan Guesthouse เมือง Reykjanesbær

https://goo.gl/4bGGDq

ห่างจากสนามบิน 6 นาที

มาเริ่มกันเลยดีกว่าาาาาาาา

สงสัยอะไร ยังไง ก็ทักเข้ามากันได้เลยน๊าาา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Facebook Page : Travel Together / คนเดินทาง
Click Here >> http://on.fb.me/1RhXIGk
IG : https://instagram.com/yaiifai/
email : [email protected]

Puffin Coral ถ่ายภาพ & เล่าให้ฟัง
Facebook : Puffin Coral

รีวิวนี้จะเน้นการแนะนำที่พักใน Iceland นะคะ
รายละเอียดอื่นๆ มีคนรีวิวไว้เยอะแล้ว
หากไม่ชอบอ่าน เลื่อนดูภาพไปเพลินๆ ก็พอ
ความฟินมันอยู่ที่ภาพนี่แหละ ^^

**ภาพทั้งหมดถ่ายเมื่อเดือนตุลาคม 2559**

พร้อมที่จะออกเดินทางกันรึยัง

หากถูกใจช่วยกดโหวดให้ด้วยนะจ๊ะ

Guesthouse Bitra B&B

ขับรถออกจากสนามบินประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงแล้ว

เลยเมือง Selfoss ไปอีก 20 กิโลเมตร

ตัวบ้านตั้งอยู่แบบโดดเดี่ยวบนเนินเขา ถูกใจเรามาก เพื่อนบ้านนี้มองออกไปไม่เห็นเลย ฮาา

ห้องนอนอยู่ใต้ดิน ห้องนั่งเล่นน่ารัก

อาหารเช้าที่นี่ เป็นแบบ homemade ชอบๆ ชอบแบบนี้

และนี่คือบรรยากาศระหว่างทางที่ขับรถมาก่อนถึง Guesthouse Bitra B&B

เริ่มกันที่ Vik i Myrdal Church ,Víkurkirkja จุดชมวิวเมือง VIK

น้ำตกข้างทาง มีชื่อรึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน

งั้นเราขอตั้งชื่อให้เอง ที่นี่คือ "น้ำตกสมหมาย" เรียกแบบนี้แล้วกันนะ ^^

Svínafellsjökull Glacier ที่นี่สวยเว่อร์ๆ เลยแกเอ้ยยย

ขนาดเห็นในภาพยังสวยขนาดนี้ แล้วถ้าได้เป็นด้วยตา มันจะสวยงาม so Amazing ขนาดไหน

Hofskirkja เมือง Hof

เป็นโบสถ์ที่มีหลังคาปกคลุมด้วยมอส เห็นแบบนี้แล้วชื่นตา ชื่นใจ จริงๆ

Jökulsárlón - Glacier Lagoon

ที่นี่เป็นผ่านที่ใครมาก็ต้อแวะ แต่อย่างว่าาละ จะเอาแน่เอานอนกับฟ้าฝนไม่ได้

เมื่อฟ้าไม่เป็นใจ ภาพที่ได้มาก็ประมาณนี้ ไม่รู้ฟ้าจะอึมครึมอะไรนัหหนา

ช่วยทำตัวให้สดในหน่อยสิ ฟ้าแบบนี้คืนนี้จะได้เห็นแสงเหนือมั๊ยเนี่ย เฮ้อออ

Diamond Beach #1

หาดทรายสีดำ กับก้อนน้ำแข็งที่เหมือนเพชร

วันนี้ฟ้าดูเศร้า เดี๋ยวพรุ่งจะลองกลับมาซ้ำอีก เพื่อเธอจะสดใสขึ้นบ้าง

สุดท้ายคืนนี้แสงเหนือก็ไม่ยอมตามนัด งื้ออออออ นอนกินแห้วกันไปค่ะ

Skyrhúsid Guesthouse

ที่นี่จะอยู่ใกล้ทะเล ติดภูเขาลูกใหญ่ เลยธารน้ำแข็ง Jökulsárlón ไป 9 กม.

คืนที่สองนี้ จะได้เห็นแสงเหนือรึเปล่า มาคอยลุ้นกัน

แต่ระหว่างนี้ ไปชมวิวระหว่างทาง ระหว่างวันกันก่อนกว่า

Jökulsárlón - Glacier Lagoon อีกครั้ง

ก็เมื่อวานฟ้าเค้าเศร้านี่หน่า เลยต้องกลับมาอีกครั้ง

เผื่อฟ้าจะสดใสขึ้นบ้าง และก็ดูสดใสขึ้นมานิสสนึง

Diamond Beach อีกครั้ง

ดีที่วันนี้ยังพอให้เห็นแสงบ้าง

Fjallsárlón Glacial Lagoon

ที่นี่สวยมากกกกกกกก สวยมากกกกกก แถมโรแมนติกอีกต่างหาก

วิวระหว่างทาง

น้ำตกในซอย

บางทีก็อยากเข้ารถออกนอกเส้นทางบ้าง ก็เลยลองเลี้ยวเข้าซอยไปมั่วๆ

แล้วก็ได้พบกับ "น้ำตกสมทรง" ที่อยู่ในซอย ชื่อสมทรงนี่เราตั้งให้เองหละ ^^

และก็พบกับทุ่งมอสที่สวยที่สุดในซอย

Reynisfjara Black Sand Beach

หาดทรายสีดำสนิท ดูแล้วคลาสสิคนี่

คลื่นซัดมาแรงมาก

Skógafoss Waterfalls

น้ำตกแห่งนี้อยู่ใกล้ที่พักมากๆๆ

วิวระหว่างอื่นๆ ที่เจอก็ธรรมดาๆ

แค่ม้าเท่ห์ โต๊ะกินข้าววิวสวย และก็สายรุ้งเอง

และแสงเหนือก็ผิดนัดเป็นครั้งที่สอง ตกกลางคืนก็เปิดแห้วกระป๋องที่สองนอนกินกัน

แห้วที่เตรียมมาจะหมดแล้วนะ แสงเหนือจ๋าออกมาหาสักทีสิ

Skógar Guesthouse

อยู่ติดน้ำตก Skógafoss ห้องพัก ที่นี่น่ารักมากๆๆ

มีสวนหลังบ้านด้วย บรรยากาศโรแมนติกเบาๆ น่ารักที่สุด

ครัวมีทุกสิ่งให้ใช้ ครบครันมากๆ

คืนนี้แสงเหนือจะมามั๊ยน้อ จะมามั๊ยน้อๆๆๆ

ใช้เวลาเที่ยวตอนกลางวันมันคุ้มค่าก่อนละกัน

กลางคืนค่อยมาลุ้นกันว่าแห้วที่เตรียมมาจะหมดมั๊ย

Seljalandsfoss

"สู้ สู้" เสียงของน้ำตกใหญ่ยักษ์คอยให้กำลังเรา

บอกให้เราสู้ๆ เดี๋ยวแสงเหนือก็มาตามนัดเองหละ

น้ำตกระหว่างทาง "น้ำตกสมปอง" ชื่อนี้เราตั้งให้อีกเช่นเคย

"สมปอง" เป็นระหว่างทางที่อลังการมากๆ

Geysir น้ำพุร้อนที่นี่คนไปดูเยอะจัง

Gullfoss ยิ่งใหญ่เวอร์มาก

ดึกแล้ว แห้วจะหมดแล้วนะ มาซะทีเถอะแสงเหนือ

รอฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด

เอ๊ะ!! นั่นอะไรห่ะ นั่นอะไร มองบนไปที่บนฟ้านั่น

ใช่ไม่นะ.. เฮ้ย!! ใช่จริงๆ ด้วย คืนนี้ไม่ต้องกินแห้วแล้ว

แสงเหนือมาแล้ววววววววววววว

เธอจ๋า..อย่าขี้อายนักสิ ออกมาเยอะๆ หน่อยได้มั๊ย

นี่จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งไกล เพื่อที่จะมาหาเธอนะ

และสำหรับคืนนั้น แม่ Aurora จอมเล่นตัว ก็โผล่มาให้เห็นแบบวับๆ แวบๆๆ

แต่ก็ยังดีที่คืนไม่ต้องกินแห้วววแล้วว ^__^

Úthlíd Cottages

เป็นบ้านไม้สไตล์ log home ตั้งอยู่บนเนินเขา ไม่มีเพื่อนบ้าน ห่างไกลผู้คน

พื้นที่ในบ้านออกแบบได้อย่างลงตัว ดูอบอุ่นน่ารัก

ครัว ห้องนั่งเล่นก็พร้อมสรรพ เหมาะแก่การเป็นฐานที่มั่นในการคอยแสงเหนือเป็นที่สุด

และนี่คือบรรยากาศรอบๆ ดีมากๆ อยู่ใกล้น้ำพุร้อน Geysir ด้วยหละ

โบสถ์กลางทุ่ง ที่อยู่แถวๆบ้านพัก

Þingvellir National Park ที่เที่ยวระหว่างทาง

และอาหารการกินสำหรับคืนนี้นั้น..แห้วกระป๋อง..ที่เตรียมมาจ้า

ไม่ยอมมาตามนัดอีกแล้วนะ แม่นาง Aurora เชอะ!!!

Grund í Grundarfirdi

ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Grundarfjörður

ทำเลดีมากกกกก ตั้งอยู่บนเนินเขา

อยากนั่งมองแสงเหนือจากมุมนี้

กินข้าวไปมองแสงเหนือไป คงฟินน่าดู

หรือจะเป็นมุมนี้ก็ดีนะ มองแสงเหนือจากสวนหลังบ้าน

หวังคืนนี้คงจะได้เจอกันนะ แม่นาง Aurora

มองออกมาจากบ้านพักก็จะเห็น ภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้า ลำธาร

ชอบที่นี่มากที่สุดแล้วจ้า

เมือง Grundarfjörður

ขับรถเข้าเมือง เพื่อแวะมาเติมน้ำมัน

Kirkjufell

Landmark สุดฮิต ที่ใครๆ ก็ต้องมา

และเมื่อถึงเวลาฟ้ามืด ระหว่างที่นั่งกินข้าวกันอยู่นั้นนนนนน

ก็รู้สึกว่าฟ้ามันแปลกๆๆ เหมือนมีอะไรวาร์ปไปวาร์ปมา

"ก๊อกๆๆๆ ฉันมาแล้วนะ ออกมาเจอกันหน่อยเร็ว เดี๋ยวฉันจะเต้นระบำให้ดู"

นี่คือคำทักทายของแม่นาง Aurora ที่ส่องลงมาถึงหน้าบ้าน

พอเปิดประตูออกไปเท่านั้นแหละ...

ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ ตุ้งตะลุ้ง ตุ้งแช่!!!

แม่นาง Aurora ก็ร่ายรำ เป็นจังหวะกับกลองเชิดสิงโตเลยจ้า

และแล้ว..วันนี้เธอก็มา มาหาเราตามนัด

และแล้ว..วันนี้เธอก็เลิกเขินขาย กล้าแสดงออก เธอคงไว้ใจเราแล้วสินะ ^^

และแล้ว..วันนี้เธอกล้า กล้าที่จะเปิดเผยความงามของเธอให้พวกเราได้ชมกันอย่างชื่นใจ

และแล้ว..วันนนี้ ก็เป็นวันที่เราสามารถพิชิตอีกหนึ่งเป้าหมายของชีวิตมาได้

เธอส่องแสงลงมาในระดับที่รุนแรงมากกกกกก

ค่า KP ระดับ 6 เต็ม 8

ขอบคุณนะ..แม่นาง Aorura

ที่ทำให้ภารกิจพิชโช่ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือโยนแห้วกระป๋องทิ้งไปได้ ไปต่อกินอีกแล้ว เย่ๆๆๆ

Hótel Á

เป็นอาคารไม้สองชั้นบนตีนเขา โดดเดี่ยว คนน้อยตามสไตล์เราเช่นเคย ฮาาา

ที่นี่อยู่ใกล้น้ำตก Hraunfossar แถบนี้มีฟาร์มแกะ ม้า วัว เต็มไปหมด

อาหารเช้าที่นี่ดีมากกก

วิวก็งาม วันนั้นหิมะตกด้วยหละ

น้ำตก Hraunfossar

บรรยากาศระหว่างทาง

คือ Iceland เป็นประเทศที่สวยทุกซอก ทุกมุม ทุกฤดู จริงๆ เล้ยย

วันนี้แม่นาง Aurora ก็แวะมาเยี่ยมพวกเราแบบแปปๆ ด้วยละ

น่ารักจังเลย

Svitan Guesthouse

คืนนี้เป็นคืนสุดท้าย สำหรับภารกิจฟิชโช่ของเราแล้วหละ

ยังไม่อยากกลับเลย งื้ออออออออออ

บ้านพักที่นี่น่ารัก สีสันสวยงาม อยู่ในเมือง Reykjanesbær

และที่สำคัญ ห่างจากสนามบินแค่ 6 นาที

มีครัว มีห้องนั่งเล่น อาหารเช้าเปิดตู้เย็นหยิบกินเอง

ทะเลแถวๆ ที่พัก

แสงเขียวๆ นั่น จนบัดนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นแม่นาง Aurora หรือ ว่าแสงไฟจากเรือตกหมึก

แต่เราว่าต้องเป็นแม่นาง Aurora แน่ๆๆ (ข้างเองตัวเองมากๆๆๆ)

วิวระหว่างทางขับรถกลับเข้าเมือง

เจอม้าลาย เฟรนลี่ด้วย น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ

Blue Lagoon

เมือง Reykjavík

วันสุดท้าย วันก่อนกลับ ฟ้าก็มักจะใสเสมอออ

คืนอยู่มา 7 วัน ฟ้าตุ่นมากจ้า ทามมายยยยยยยยย

และก่อนจากลา Iceland land of Aurora อย่างเป็นทางการ

แสงเหนือสุดท้ายก็ออกมาให้เราได้เห็นกันอีกครั้ง

นั่นก็คือแสงไฟในเครื่องบินที่ทำออกมาให้เหมือนกับแสงเหนือนั่นเอง ฮาาาา

Hints

ที่พักทุกแห่งจองล่วงหน้าผ่าน booking.com

http://en.vedur.is/weather/forecasts/aurora/

website นี้ ใช้สำหรับพยากรณ์แสงเหนือและดูเมฆนะคะ แสงเหนือ KP สูงสุดคือระดับ 8 (เราเจอในระดับ 6)

เสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล และสภาพอากาศ

วางแผนการเดินทางให้พร้อม ศึกษาให้ดี

ข้อมูลสถานทูตที่ใกล้ที่สุด เผื่อกรณีฉุกเฉิน

ซื้อประกันเดินทาง

โหลด maps.me แผนที่ offline ช่วยเราได้เยอะ เพราะมันจะทำให้เรารู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณก็ใช้เปิดดูได้

Check เที่ยวบินอยู่เรื่อยๆ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงได้วางแผนถูก

เผื่อใจไว้บ้าง เพราะเราเอาแน่เอานอนกับธรรมชาติไม่ได้

รอยยิ้มคือใบเบิกทาง สู่มิตรภาพ และความประทับใจ ยิ้มเยอะๆ นะ ^___^

สุดท้ายล่ะ
ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกันค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนถึงตอนนี้ ขอบคุณจากใจจริงๆ