วิถีชีวิตในชนบทอีสานมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เสมอ ยิ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่โบราณ เช่นที่บ้านภู อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร หมู่บ้านภูไทที่ห้อมล้อมโดยภูเขาสมชื่อ "บ้านภู" ใครได้ไปเยือน ต้องหลงเสน่ห์ความน่ารักของผู้คน วัฒนธรรมภูไทที่เรียบง่ายงดงาม และธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมที่ยังบริสุทธิ์
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนหมู่บ้านคือช่วงฤดูหนาว เราไปที่นี่เดือนพฤศจิกายน อากาศเย็น ๆ ชิว ๆ สบ๊ายสบาย เรื่องค่าใช้จ่ายและการเดินทางไม่เป็นปัญหา เพราะเราจัดทัวร์กรุ๊ปใหญ่ไปเยือนหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เกือบ 200 คนแห่งนี้
ค่าใช้จ่ายต่อคน สำหรับการกินอยู่หลับนอนครบเซ็ต พร้อมชมกิจกรรมและการแสดงทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มเรา (ประมาณเกือบ 150 คน) อยู่ที่คนละ 600 บาทเท่านั้น (สองวัน หนึ่งคืน + รวมอาหารทุกมื้อ นับจากอาหารเที่ยงวันที่เดินทางไปถึง อาหารเย็น อาหารเช้า และอาหารเที่ยงของอีกวัน) ราคาอาจต่อรองให้สูงหรือต่ำกว่านี้ได้ ลองสอบถามกับผู้ประสานงานโฮมสเตย์ที่บ้านภูได้เลย
หมู่บ้านนี้มีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศหลายรางวัล ใครผ่านไปแถวมุกดาหารลองแวะไปสัมผัสวิถีชีวิตภูไทแท้ ๆ ฝึกทักษะการฟังและการใช้ภาษาภูไท (สำเนียงเพราะ ภาษาน่ารักมาก) และชิมอาหารพื้นบ้านที่อร่อยล้ำ ลองดูภาพบรรยากาศกันได้เลย
ตื่นเช้ามาเดินเล่นในหมู่บ้านก็จะเจอวิวและบรรยากาศประมาณนี้
วิวทุ่งนาทั่วไปขอบหรือปลายหมู่บ้าน
อาหารบ้านที่เราพักอยู่อร่อยทุกอย่าง สดใหม่ ขอบรั้วริบบ้านแท้ ๆ แน่นอน
อีกฟากหนึ่งของหมู่บ้าน มีบ่อน้ำและทุ่งนา และภูเขาเล็ก ๆ เช่นกัน
คนที่นี่เขายังทอผ้าใช้เองและเพื่อหารายได้กันอยู่นะ
เขาอยู่กินแบบพึ่งพาธรรมชาติจริง ๆ หาปู หาปลา ตกเบ็ดกันเป็นเรื่องปรกติ
จะทอผ้าให้เป็นผืน เขาก็ผลิตเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกต้นฝ้าย จนกระทั่งถึงย้อมสีด้ายอย่างที่เห็น
วิวมุมสูงจากจุดชมวิวบนภูเขาไม่ใกล้ไม่ไกลจากหมู่บ้าน
ต้นไม้ ดอกไม้ ผักพื้นบ้านมีให้เห็นมากมาย
ลักษณะหมู่บ้านโดยรวม มีทั้งบ้านใหม่ บ้านเก่า ปะปนกันไป
บ้านเรือนสะอาดสะอ้าน พร้อมรับแขกดีมาก แต่ก็ไม่ได้ตกแต่งหรือเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนรีสอร์ตหรือโรงแรมในเมืองใหญ่
ลานวัฒนธรรมกลางหมู่บ้าน
บางบ้านก็มีห้องน้ำที่ห้อมล้อมด้วยวิวสวย ๆ ประมาณนี้เลย
เรือนนี้ไม่รกร้างนะ ใช้เป็นที่ย้อมผ้าของกลุ่มแม่บ้าน
ประตูไม้บานเฟี้ยมสวยเก๋ดีมาก
ผักอะไรกันบ้างนะนี่
งานตกแต่งหน้าต่างประตูที่เก๋ไก๋ไม่แพ้ใคร
ผักสวนครัวริมรั้วบ้านเยอะจริง ๆ เขาแทบไม่ต้องออกไปซื้อผักมาประกอบอาหารอะไรเลย บางบ้านมีครบทุกชนิด แค่เดินออกไปหยิบและปรุงเป็นอาหารได้เลย เรื่องสารเคมี ปลอดภัยแน่ เพราะเขาขยันหมั่นดูแลกันเป็นอย่างดี
คุณแม่สาธิตและอธิบายเรื่องการทอผ้า
ลวดลายเท่ ๆ เยอะนะ ดูคลาสสิกดี
ลายนี้ก็งาม สีสันและจังหวะลายพอเหมาะพอดี
เตาย้อมผ้า
ใช้เปลือกไม้ชนิดต่าง ๆ เป็นวัตถุดิบผลิตสีย้อม ซึ่งให้สีไม่จัดจ้านมากและดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ
ลักษณะสีที่ได้
เด็ก ๆ ไปหาปูปลา... อาหารสด
ทางเดินริมคันนา... วิวประมาณนี้ ทางเดินประมาณนี้ เดินแบบ/ ถ่ายรูปสวย ๆ ได้เยอะเลยนะนี่
ดอกไม้เมืองหนาว หรือที่ต้องปลูกในอากาศเย็น ๆ บางชนิดก็เกิดและเจริญดีเมื่ออยู่ที่นี่
อาหารมื้อเช้า
Unseen ของบ้านภูอีกแห่งคือสำนักสงฆ์บนภูเขา ทางไปไปไม่ยาก แต่เดินไปไม่ได้แน่ ๆ เพราะอยู่ไกลพอสมควร ทางขึ้นเขาสะดวกสบาย ถนนดี แต่สูงชันมากอยู่ แต่พอขึ้นไปถึงจุดชมวิวเท่านั้นแหล่ะ เหมือนโลกทั้งใบเป็นของเรา มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ทิวเขาแถบนี้ สลับซับซ้อน เป็นแถวเป็นแนวน่าดู
สูงกว่ายอดไม้สูงทั้งหมดทั้งมวล จะต้นไม้ใหญ่แค่ไหน จุดที่เรายืนอยู่นี้ สูงกว่าทุกต้นบนภูเขาสูง
สบายตาจริง ๆ แม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ป่ารกทึบ แต่มีพื้นที่สีเขียว (เขียวจริง ๆ) ของท้องนาและต้นไม้เล็กน้อยที่หมู่บ้านใกล้เคียงต่าง ๆ ปลูก ไม่มีตึกสูง ไม่มีอาคารแปลก ๆ
ลานชมวิวที่ยื่นจากภูเขาและบางส่วนที่เป็นผาสูง ลานนี้กว้างพอควร
หน้าผาหินนี้ มีผู้แกะสลักเป็นรูปพระพุทธรูปและเรื่องราวในพุทธศาสนาไว้ยาวพอควร
แสงแดดส่องไม่ทั่ว เห็นสว่างเป็นหย่อม ๆ สวยดีไปอีกแบบ
บางจุดดูเหมือนภูเขาอยู่ ๆ ก็ผุดพรายขึ้นมากจากพื้นดิน แปลกตาดีเหมือนกันนะ
หน้าผาพระพุทธรูป
โค้งสุดท้ายก่อนขึ้นถึงลานและอาคารสำนักสงฆ์ที่เป็นจุดชมวิว โค้งหักศอกที่สูงชันมาก ขนาดเดินช้า ๆ ยังต้องค่อยประคองตัวและระวังทุกฝีก้าว กลัวจะกลิ้งลงไปตามทางถนน
ต้นไม้ใหญ่น้อยมากมายบนเขานี้ เป็นเครื่องรับประกันความบริสุทธิ์สะอาดของอากาศบริเวณนี้
อาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าแล้ว แสงที่กระทบสะท้อนก้อนเมฆเปลี่ยนไปทั่วทุกวินาที
วันที่แดดออกจัด ๆ สีเขียวของข้าวและสีฟ้าสดของท้องฟ้าตัดกันดีนักเชียว
ภูเขาทั่วทุกมุม
ทางเดินจากหลังบ้านที่เราอยู่ไปที่ท้องนาและเถียงนาน้อย
ผู้รีวิวขอถ่ายภาพกับประตูบ้านที่ชอบมาก ๆ บนชั้นสองซะหน่อย
จากลา และขอบคุณกันด้วยพิธีบายศรี กิจกรรมการแสดงและการสาธิตกรรมวิธีการทอผ้าและผลิตเส้นด้ายจากฝ้ายของชาวบ้านและเด็กตัวเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน
Suttipong Best Dior Permpoon
วันพฤหัสที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.21 น.