เกาะหมากจ๋า..พี่มาแล้ว
กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ...วันนี้เราจะยกพล.....พากันไปติดเกาะ
เนื่องด้วยว่าแฟนอยากพาครอบครัวไปเที่ยวสงกรานต์
แต่เบื่อเล่นน้ำปะแป้งในเมือง เลยลงความเห็นว่า เราไปเที่ยวทะเลกัน....
ผมก็เลยชวนเพื่อนๆพากันติดสอยห้อยตามไปด้วย
จึงเกิดทริปเล็กๆ ทริปนี้ขึ้นมา...
เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวครับ...ออกจากสมุทรปราการ ตั้งแต่เช่าตรู่
พิกัดของเราคือ ท่าเรือแหลมศอก จุดขึ้นสปีดโบ็ทนั้นเองครับ
เราเดินทางถึงท่าเรือแหลมศอก ประมาน 9 โมง ที่นี่มีบริการรับฝากรถนะครับ คืนละ 50 บาท/คัน
โดยเรามาส่งสมาชิกที่ท่าเรือแหลมศอกก่อน เอาสัมภาระลงเรียบร้อย ก็จะมีพี่วินมอ'ไซค์พาเราไปจอด
เสียค่าวิน20บาท รถปลอดภัยหายห่วง...
พร้อมแล้วออกเดินทางได้เลย.........
ค่าสปีดโบ็ทคนละ 900 บาทครับ ราคารวมขาไปและขากลับ
ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือไปเกาะหมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง
นั้งเพลินๆ หน้าเหนียวๆ พอให้สัมผัสไอทะเล....
1 ชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก....
และแล้วเราก็มาถึง....
อ่าว!!! ลืมบอกไปครับ เราพักที่ "เกาะหมาก โคโค่เคป" ที่พักสุดชิคชื่อดังแห่งเกาะหมาก
ที่เลือกที่นี่ก็เพราะบาร์กลางน้ำ อยากมาลองดื่มด่ำสัมผัสด้วยตาตัวเอง..
และแล้วรถของที่พักก็มาถึง...
เป็นสองแถวที่มีระดับความวินเทจ 99 %
เรื่องโช็คนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ เจอหลุมที กระเด้งกระดอนกันไปคนละทิศคนะละทาง
แต่ก็สนุกครับ มีความRealดี ฮ่าๆ
และแล้วก็มาถึง เกาะสวาท หาดสวรรค์ ที่เราตามหา...
เราได้จองห้องพักไว้ทั้งหมด 3 หลัง
ห้องวิวภูเขา 2 หลัง(ห้องละ2ท่าน) และบ้านเรือลำโตอีก 1 หลัง(นอนรวมกัน6ท่าน)
เราเก็บค่าทริปนี้คนละ5000บาทครับ
(ที่พัก+อาหาร+เครื่องดื่ม+ค่าเรือสปีดโบ็ท+ค่าดำน้ำ+ค่าเรือไปเกาะขาม)
ทางรีสอร์ทก็มีการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ไว้ด้วยเช่นกัน...
มีก่อกองทรายและทำซุ้มสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคล ให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
แถมยังมีSoft Drink ไว้รอตอนรับพวกเราด้วยน้ำใบเตยสุดแสนจะชื่นใจ พอคลายร้อน...
มีโซนทานอาหารสุดชิววิวทะเล จัดไว้ให้ด้วยครับ...
บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงครับ.....ได้หมดถ้าสดชื่น
แอบไปดูห้องพักติดทะเล จำราคาไม่ได้ครับ แต่รู้สึกว่าจะไม่แพง...
สังเกตุดีๆครับ...ว่าจะมีบ้านพักแฝงตัวิยู่กับต้นไม้
ว่ากันว่าข้างบนนั้น วิวดีมากครับ...แต่ก็อย่างว่า ความสวยขึ้นอยู่กับราคา..ฮ่าๆ
ส่วนห้องพักของเราหรอครับ....ไม่ได้ถ่าย ฮ่าๆ
เหตุผลก็เพราะว่า.....มัวแต่เดินถ่ายรูปกัน จนลืมไปว่า...เราต้องนั้งเรือข้ามไปเกาะขาม..
ความเร่งรีบจึงเกิดขึ้น เก็บกระเป๋าเสร็จ ทุกคนมุ่งตรงไปยังท่าขึ้นเรือทันที....
จะกลับมาถ่ายอีกที ห้องก็เละซะแล้ว....
ถือว่าเป็นจุดเด่นของ เกาะหมาก โคโค่เคป เลยก็ว่าได้ครับ....
สะพานไม้ที่ทอดยาวไปกลางทะเล แถมมีบาร์เครื่องดื่มไว้ค่อยให้บริการ เป็นอะไรที่คูลมากๆครับ
ไปเกาะขามกันเถอะ....ถ้าไม่ไปเหมือนมาไม่ถึง
ค่าเรือรับ-ส่ง รวมกับค่าดูแลเกาะ คนละ 250 บาทครับ
พร้อมแล้วลงเรือกันเลย....
มาถึงก็ไทยสไตล์เลยครับ...ถ่ายรูปกับป้าย
หาดทรายขาวสวย..ละเอียดเนียนตา พาหลงใหล
น้ำสวยใสดั่งแก้ว...ต้นมะพร้าวเรียงแถว เป็นแนวให้ได้ยล...
ใสในใส...จริงๆครับ น้ำจะใสไปไหน!!!!
เล่นน้ำเสร็จมานั้งชิว..บนหาดทราย
ในค่าบริการ 250 บาทนั้น เราได้น้ำคนละกระป๋องด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำสี..
แถมยังมีมาม่าไว้คอยบริการเผื่อมีใครหิวอีกต่างหาก..
เล่นน้ำจนหมดแรงก็ถึงเวลากลับฝั่ง.....โทรให้เรือมารับที่หาด แล้วไปส่งเราที่บาร์เหมือนเดิม
สังเกตุได้เลยครับว่า....ขนาดกลับมาที่เกาะหมาก น้ำก็ยังใส
ตรงบริเวณบาร์ มีเปลไม้ไว้ให้บริการ ใครอยากจะอาบแดด นั้งชิว หรือจิบเบียร์ก็แล้วแต่จะสะดวกเลยครับ
ลาวันแรกตรงบาร์เครื่องดื่ม ไปด้วยภาพนี้ละกันนะครับ....
เพราะหลังจากนี้ ท่านคงจะนึกภาพออก ฮ่าๆ
ดื่มได้...ก็ต้องตื่นมาถ่ายรูปได้ แฮงค์ก็แฮงค์
ตื่นแต่เช้าครับ....เพราะอยากได้รูปที่ไม่มีคนอื่นพลุกผล่าน
หน้าห้องพัก ซึ่งเป็นวิวบ่อน้ำ ก็มีที่พักให้บริการอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยเช่นกัน
รับแสงอรุณรุ่งในยามเช้า...มันช่างสดชื่นแจ่มใสจริงๆ
สะพานไม้ในยามไร้คนมัน ช่างเงียบสงบจนน่าหลงใหล....
โอกาสเป็นของเราแล้ว...
ศาลานี้พี่จอง....
บริเวณนี้ถ้าในช่วงปลายฝนต้นหนาวปลาหมึกจะเยอะมากครับ ตกกินกันสดๆได้เลย...
กิจกรรมก็จะหลากหลายครับ มีพายเรือคายัค ล่องเรือใบ ดำน้ำ แล้วแต่ว่าท่านจะชอบแบบไหน...
อีกซักมุมละกัน...
ตื่น...ตื่น!!! ไปว่ายน้ำได้แล้ว
หลังจากเสร็จภาระกิจถ่ายรูป ก็ได้เวลาปลุกทีมงานมาเล่นน้ำ....
แต่ก่อนเล่นน้ำ เราก็รับประทานอาหารเช้ากันก่อนครับ โดยทางรีสอร์ทได้จัดบุฟเฟห์ไว้ให้ ชุดใหญ่คุ้มค่าเลยครับ มีทั้งไทยและเทศ กินกันอย่างบ้าคลั้ง..อย่าถามถึงภาพถ่ายไลน์อาหารครับ ชั่วโมงนั้นกินไม่สนใจโลก...
สระกว้าง..ใหญ่โต โอ้โห้..สะอาด
วิวดี...เหมาะแก่การเก็กท่า
เล่นน้ำเสร็จก็พักกินข้าวเที่ยงครับ ฝากท้องไว้กับครัวที่รีสอร์ท
แนะนำผัดกระเพรารวมมิตรคลุกข้าวจานใหญ่ ทีเด็ดรสเผ็ดจัดจ้านมากครับ....
ได้เวลาที่เรารอคอยไปดำน้ำ ดูปลา ชมปะการัง กันแล้วคร้าบบบบบบบ.......
รถสองแถวของทางรีสอร์ทมาส่งที่ท่าเรื....เราจะไปดำน้ำชมปะการังที่เกาะกระ, เกาะยักษ์, เกาะรัง
แต่ก่อนจะขึ้นเรือก็แอบหวั่นใจเรื่องลมเรื่องพายุนิดหน่อยครับ..เพราะก่อนขึ้นเรือมีฝนตกกระหน่ำลงมา..
แต่ก็อย่างที่โบราณว่าแหละครับ..."ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ"
จากร้ายกลายเป็นดี คนที่มาดำน้ำในช่วงเช้าก็กลับกันหมดเพราะกลัวพายุ ทำให้ช่วงบ่ายอย่างเราปลอดโปร่ง แทบจะไม่มีคนจากทัวส์กรุ๊ปอื่นมารบกวนเลยครับ เป็นส่วนตัวมากๆ น้ำก็ใส มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน...
ปล่อยให้ภาพมันบรรยายแล้วกันนะครับ เพราะถ้าถามผม ผมก็จำไม่ได้หรอกครับ
ว่าถ่ายภาพมาจากเกาะไหนบ้าง....
พี่เจ้าหน้าที่.....ก็น่ารักมากครับ ใครว่ายน้ำไม่เป็นแกก็พาลาก แถมคอยเคลียร์หอยเม่นให้อีกต่างหาก
ปลิงทะเลครับ...พอดีอยู่ใกล้โขดหิน เจ้าหน้าที่กลัวพวกเราจะไปเหยียบเข้า เลยหยิบออกให้
แต่เราก็ขอถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วปล่อยเค้าสู่ธรรมชาติดังเดิม
ปะการังสวยมากและอุดมสมบูรณ์มากครับ..แต่ต้องระวังหอยเม่นกันด้วยนะครับ
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัณที่สุดของการดำน้ำก็คือความปลอดภัยครับ เสื้อชูชีพต้องใส่ทุกครั้ง อุปกรณ์ต้องพร้อม ฝึกการใช้สน็อกเกิ้ล ซึ่งใครใช้ไม่เป็นพี่เจ้าหน้าที่เค้าก็จะสอนพื้นฐานให้...และที่สำคัญไม่ควรเมาสุรา คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเพราะอะไร ถ้าทำได้ตามนี่ท่านจะปลอดภัย และดำน้ำได้อย่างสบายใจแน่นอน...
ดำน้ำเสร็จก็กลับเข้าที่พักครับ....ใช้เวลาในการล่องเรือ+ดำน้ำ ประมาน2-3ชั่วโมงครับ
กลับมาถึงก็อาบน้ำ กินข้าวเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องทิ้งท้ายค่ำคืนนี้ที่บาร์กลางน้ำของเรา...
เอาเป็นว่าให้ภาพมันเล่าเรื่องแล้วกันนะครับ
ความรู้สึกเหมือนอยู่มัลดีฟ (ถามว่าเคยไปมัลดีฟไม๊...อ๋อ!!!ไม่ครับ เคยเห็นแต่ในเว็ป ฮ่าๆ)
มีชาวต่างชาติใจดีตกปลาหมึกมาให้ เราก็กินกันสดๆเลยครับ จิ้มกับซอสวาซาบิ
อย่าถามหาภาพอีกเช่นเคยครับ เรื่องกินไวกว่าแสง ฮ่าๆ
กีตาร์หนึ่งตัวก็เพียงพอแล้ว...
ถ้าถามผมว่า...ผมชอบอะไรของเกาะหมาก.....หรอครับ
ผมชอบน้ำที่โคตรจะใส ผมชอบความสงบ ซึ่งขนาดผมไปช่วงสงกรานต์...
ที่พักเต็มหมดนะครับ แต่คนเงียบมาก
ผมชอบเกาะหมาก โคโค่เคป ที่สวยงามเหมือน สวรรค์บนเกาะ...
ผมชอบบาร์กลางน้ำ ที่มันดูโคตรคูลมากๆ
ผมชอบความสมบูรณ์ของแนวปะการังและเหล่าปลาน้อยใหญ่ต่างๆ
มันสมบูรณ์ซะจนไม่อยาก.....ให้คนมาเที่ยวที่นี่เยอะๆ เพราะกลัวว่าจะไปรบกวน กลัวว่าจะไปทำลายเค้า
และที่สำคัญที่สุด ที่ขาดไม่ได้ครับ.....ก็คือ
"ผู้ร่วมทริปของผม...ถ้าไม่มีพวกเค้า ผมก็คงจะไม่มีเรื่องราวให้มานั้งเขียนแบบนี้หรอกครับ"
ขอขอบคุณทุกท่านที่รับชม
แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่.....
-ฟรีแลนซ์อารมณ์ดี-
ฟรีแลนซ์อารมณ์ดี
วันพฤหัสที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.17 น.