สวัสดี เพื่อนๆผู้อ่านทุกท่านค่าาา :)
วันนี้จะมาชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวภูเก็ตเมืองเล็กๆ ที่เป็นสวรรค์ของคนรักทะเล ด้วยกันค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่
เมื่อเครื่องบินแตะพื้นปุ๊ป เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันปั๊ป
โดยจุดแรกที่เราจะไป ก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก ราวๆ 9 กิโลเมตร
"หาดไม้ขาว อุทยานแห่งชาติสิรินาถ"
จุดเด่นของที่นี่เลยก็คือ เพื่อนๆสามารถเห็นเครื่องบินแลนดิ้ง ได้ในระยะใกล้ๆ จนแทบกรีดร้อง ><"
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทิศทางลมด้วยนะคะ
ทิศทางลมจะต้องต้านกับจุดที่เครื่องจะลงจอด นั่นคือ ต้องพัดออกไปที่ทะเล
โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปเช็คทิศทางลมได้ที่
http://www.windguru.cz/int/index.php?sc=255651&sty=m_spot
หาดไม้ขาว ที่นี่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก อาบแดดไป มองเครื่องบินไป ก็ดีไม่น้อย
แต่หากเจอเครื่องบินลำใหญ่ ก็พัดทรายเข้าตาได้เหมือนกันนะคะ
หลังจากดูเครื่องบินกันจนจุใจ แวะทานอาหารพื้นเมือง
ด้วยกันที่ "ร้านหมอมูดง"
ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปพักกันที่
โรงแรม "Nook Dee Boutique Resort by Andacura" บนเนินเขาของหาดกะตะ
ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผู้เขียน เคยฝันอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศมากถึงมากที่สุด
แล้วเราว่าง ตรงกันพอดิบ พอดี :)
ซึ่งทางโรงแรมจะเน้นเอกลักษณ์คงความเป็นไทย ที่ผสมผสาน กับ ความเก๋ไก๋สมัยใหม่ อย่างลงตัว
อีกทั้งยังมีรางวัลการันตีด้วยนะ ไม่ธรรมดา!
วนเวียนถ่ายภาพ ชิคๆ ด้านหน้าโรงแรมกันแล้ว
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เข้าไปข้างในกันเลยดีกว่าเนอะ :)
เข้ามาถึงเราก็จะเจอกับ น้องตุ๊กตาช้างซึ่งเป็น Mascot ของที่นี่
ทางโรงแรมนำช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้าน คู่เมืองเรา มาเป็นส่วนนึงในการต้อนรับ :)
เก๋ไก๋เชียว
มาถึงล็อบบี้ปุ๊ป พนักงานต้อนรับสวัสดี ยิ้มแย้ม แจ่มใส เป็นกันเอง ด้วยความอบอุ่น
เรานี่รีบปรี่ เข้าไปเช็คอินก่อนเลย
ระหว่างที่รอพนักงานตรวจสอบข้อมูลห้องพัก
ก็จะมีน้ำมะตูมเย็นชื่นใจ ในขันเล็กๆ ให้ดื่มเพื่อดับกระหาย (น้ำเย็นชื่นใจจริงๆค่ะ)
หายเหนื่อยเลย
ดื่มน้ำเย็นๆ เดินดูบรรยากาศรอบๆ กันซักนิด
พี่ mascot ช้างพระเอกของเรา มีอยู่ทุกมุมจริงๆค่ะ
หูยยย วิวที่นี่ เค้าไม่ธรรมดาจริงๆ นะ สุดลูกหูลูกตา
จุดชมวิวของโรงแรม สามารถมองเห็นได้ 3 อ่าว นั่นก็คือ อ่าวกะตะน้อย อ่าวกะตะ และอ่าวกะรน
หากเราหันหน้าออกทะเล อ่าวจะเรียงจากซ้ายสุดมาขวาสุดค่ะ
คุ้มสุดคุ้ม ที่ได้มาพักโรงแรมบรรยากาศระดับพรีเมี่ยมขนาดนี้
ป้ายบอกทางไปแต่ละจุดของโรงแรม มีความน่ารัก
เช็คอินเรียบร้อย พนักงานก็ยังคงความน่ารัก ช่วยยกกระเป๋ามาเก็บให้ที่ห้อง
บรรยากาศภายในห้องพัก ก็จะออกแนวไทยๆ ผสมปูนเปลือย ของสมัยใหม่
กว้างขวาง สะดวกสบาย
หลงรักห้องพักบรรยากาศแบบนี้จัง
โดดลงใส่เตียงนุ่มๆ โดดไม่คิดเลยทีเดียว
สบายยยยยย∽∽
ชุดคลุมของโรงแรม ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นไทย แอบประทับใจมากๆ
นอกจากชุดคลุมที่เก๋ไก๋ไทยๆ ทางโรงแรมจะมีกระเป๋าสาน พร้อมผ้าเช็คตัว 2 ผืนในนั้น
สำหรับหิ้วไปว่ายน้ำ หรือ ออกเที่ยวทะเล แบบ One Day Trip
นั่นไง เก๋ไปอีก ไม่ต้องพกกระเป๋าสะพายมาด้วย
ในส่วนของห้องน้ำกว้างขวาง แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน
เอ๊ะ! ดูลายกระเบื้อง แล้วเหมือนลายกระโปรงตัวเองที่พกมาด้วยเลย
ทำการบ้านมาดี เลือกชุดเข้ากับพื้นกระเบื้องโรงแรมพอดิบ พอดี (555)
อ่างอาบน้ำกว้างขวาง แช่น้ำอุ่นๆ ผ่อนคลายจริงๆ
จากระเบียงห้องพัก มองเห็นวิวหาดกะตะ ลมพัดเย็นๆ
จุดไฮไลท์แรก ของที่นี่เลยก็คือ สระว่ายน้ำ
หากเราว่ายไปจนสุดสระ แล้วแช่น้ำรอชมพระอาทิตย์ตกดิน
คือเป็นอะไรที่หาคำบรรยายไม่ได้จริงๆ บอกเลยว่าต้องลองค่ะ
สู้แดด สู้ลม ศรีทนได้
ว่ายทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ
ไม่ต้องไปเหนื่อยแย่งหาจุดชมพระอาทิตย์ตกดินกับคนเยอะๆ
ที่นี่สวยมาก จริงจัง จริงใจ อยากให้ได้ลอง
เค้าเตอร์บาร์ ข้างสระว่ายน้ำ จิบไวน์เบาๆ แช่น้ำชิวๆ
สระนี้เป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว ฮ่าๆ (หัวเราะแบบผู้ชนะ และ มีความสุข)
จุดไฮไลต์ถัดมาที่เด็ดสุดๆ ของที่นี่
นั่นก็คือ ดาดฟ้าของโรงแรม จุดชมวิวและพระอาทิตย์ตกดิน แบบ360 องศา
วิวสวยๆ กับลมพัดเอื่อยๆ ถ้ามีเครื่องดื่มเย็นๆ ก็จะดีไม่น้อย
ที่นั่งสำหรับชมพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกไม่เบา(คิดเอาเอง)
มองไปข้างหน้า คือ ผืนท้องทะเลสีฟ้ากว้างใหญ่
บนท้องฟ้ามีแสงสีส้มของพระอาทิตย์แสมมานิดหน่อย
บรรยากาศทุกอย่างกำลังพอดี จนแทบอยากหยุดเวลา
ถ้าหากเบื่อมองทะเลนานๆ อยากมองสีเขียวให้สบายตาเพียงแค่หันคอไปด้านหลังเล็กน้อย
ก็จะเห็นภูเขาเล็กใหญ่ตะหง่านตา (ข้างหน้าทะเล ข้างหลังภูเขา ดีจริงๆเชียว)
และ อีกหนึ่งความพิเศษมากๆ ของวันนี้ (ทำไมรีวิวนี้ พิเศษใส่ไข่เยอะมากจริงๆ)
นั่นก็คือ 'วันลอยกระทง' ซึ่งทางโรงแรมได้จัดเตรียมสถานที่
เพื่อจัดงานลอยกระทงสำหรับค่ำคืนนี้ :)
จัดสถานที่แบบไทยๆ เปิดเพลงลอยกระทงวนไป
จนติดในหัวร้องเพลงคลอตามเบาๆ ตลอด
สำหรับอาหารคือเปรมมากกก ถูกจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ คิดราคาท่านละ 1,199 บาท
(ถือว่าไม่แพง หากเปรียบเทียบกับ ลองขับรถไปทานอาหารแถวๆหาดกะตะ)
ที่นั่งถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมเครื่องดื่ม
ไลน์อาหารยาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว
อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา ไม่อั้น
กุ้ง หรือ กั้งดี เลือกไม่ถูกกินทั้งคู่เลยแล้วกัน
ง่ายดี :)
หากชอบอาหารไทยๆ ก็เดินถัดมาอีกนิด
อิ่มจากของคาว ก็มาแวะทานของหวาน
ขนมปากหม้อ ทำกันสดๆ ร้อนๆ กลิ่นหอมลอยเตะจมูก
ทานหวานจนอิ่ม ก็ว่าจะไม่ต่อแล้วนะ จะไม่แล้วนะ
มาเจอหมูสะเต๊ะ ปิ้งกันร้อนๆ น่ากินขนาดนี้ ใครมันจะทนไหวกันเล่าาา T__T
อิ่มแน่นกันแล้ว มองหาเครื่องดื่ม มาดื่มให้ชื่นใจอีกซักนิด
ซึ่งก็นิดหลายรอบแล้ว
หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน
ไม่ได้การณ์แล้ว ต้องรีบลอยกระทง ก่อนที่ตาจะปิด
ทางโรงแรม ก็จัดให้เราลอยกันที่สระน้ำนั่นแหละ ไม่ต้องลำบากขับรถไปไหนไกล
กระทงแต่ละอัน ก็สวยไม่เบา ลอยไป สุขใจไป
บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ ♫ ♪
ราตรีสวัสดิ์ ไปด้วยค่ำคืนวันลอยกระทงที่แสนประทับใจนะคะ ❤
กึ๊ดมอนิ่ง เช้าวันใหม่ ค่ะ
ของเดิมเมื่อคืน ย่อยไปแล้ว เรามาทานอาหารเช้า เพิ่มพลังก่อนไปเที่ยวกัน
ห้องทานอาหาร จัดไว้เป็นสัดส่วน อย่างดี
ที่นั่งทานอาหาร จะมีทั้งแบบ In door และ Out door ก็ตามสบายพักกันได้เลย
แต่จะบอกว่า Out door นี่คือ วิวดีงามพระรามเก้ามากๆ
ห้องอาหาร การตกแต่งก็ยังคงไม่ทิ้งความเป็นไทย
แท่แดร๊นนนน จุดทานอาหารด้านนอก วิวสวยมาก ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ
ลมพัดเย็นๆ เย็นจริงๆ บางทีแรงไปซะนิดนึง ผมแทบกระเจิง
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะ วิวดีๆ บวกกับอาหารอร่อยๆ ของที่นี่
เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
ขอคนทำที่นึงค่ะ เอ้ยไม่ใช่ ออมเล็ตไข่ ที่นึงค่ะ :)
เกือบไปละ เกือบพูดผิดไปละ
ถ้าอยากทานก๋วยเตี๋ยวก็ลุยได้เลย เส้นมีแบบลวกมาให้เรียบร้อยแล้ว
เพียงแค่ใส่หมู หมึก กุ้ง ลูกชิน และน้ำซุป ลงไปเท่านั้นเอง
ไลน์ อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะแยะมากมาย
ถ้ากินครบทุกอย่างคงจุก ไปไหนไม่ได้แน่ๆ
มุมสำหรับคนรักสุขภาพ
มุมเบาๆ คอนเฟรค นมสด ซักแก้ว กำลังดี
รับน้ำอะไรดีคะ ?
อันนี้ จำชื่อเมนู ไม่ได้ แต่น่าจะประมาณ ข้าวตังกับน้ำพริกหมู
แต่รสชาติคือดีเข้ากันดีมากๆ ข้าวตังกรอบๆ จิ้มน้ำพริก รสชาติดีๆ
หากต้องการเที่ยว สถานที่สวยๆใกล้โรงแรม
เราขอแนะนำ
- วัดพระใหญ่ (พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด)
- หาดกะตะ
- จุดชมวิวสามอ่าว : หาดกะตะน้อย, กะตะ และ กะรน
- จุดชมวิวกังหัน
- หาดยะนุ้ย
- แหลมพรหมเทพ
- ร้านกาแฟ Margaret Rawai: บรรกาศดีมากๆ
- หาดในหาน
"วัดพระใหญ่" (พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด)
จากระเบียงที่พัก และชั้นดาดฟ้าของโรงแรมสามารถมองเห็นพระใหญ่ บนภูเขา
"หาดกะตะ" / "หาดกะรน"
"จุดชมวิวสามอ่าว" : หาดกะตะน้อย, กะตะ, กะรน
สามารถมองเป็นทั้งสามอ่าว เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
"จุดชมวิวกังหัน"
"หาดยะนุ้ย": หาดเล็กๆ บรรยากาศเงียบสงบ
มีเขาหินขนาดเล็กให้ปีนขึ้นไปดูวิวกว้างๆ ได้อีกด้วย
"แหลมพรหมเทพ" : จุดต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนภูเก็ต
เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์สำหรับชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุด
ร้านกาแฟ Margaret Rawai
กาแฟ หลักไม่ถึงร้อย แต่วิวนี่หลักล้านเลยค่ะ
"หาดในหาน"
ทรายละเอียด น้ำใส คือ สวยกว่าที่คิดไว้อีก
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่อ่านทริปแห่งความประทับใจ และคุ้มสุดคุ้มในครั้งนี้ จนจบ ...
หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ทริปดีๆ ถ้าหากได้มีโอกาสไปเที่ยวภูเก็ต
ไว้พบกันใหม่ทริปหน้านะคะ ❤
Double P Traveller + หนีนายมารีวิว
DoubleP Traveller
วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 18.40 น.