แม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี มีลำธารใสเย็นไหลพาดผ่าน ความสุขของการมาท่องเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปอง คือ การได้มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ ลำธารและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ยังคงอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ถนนหนทางสะดวกสบาย การเดินทางไปแม่กำปองก็ง่ายแสนง่าย คนไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้โดยรถตู้โดยสารที่มีขึ้นไปแม่กำปอง ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านแม่กำปองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตของผู้คน และยังเป็นที่ๆหลายคนมักจะปักหมุดอยากมาเที่ยวให้ได้ซักครั้ง การเที่ยวแม่กำปองสามารถเที่ยวแบบค้างคืนพักผ่อนนอนโฮมสเตย์ริมธาร ในบรรยากาศเรียบง่าย ที่มีให้เลือกหลายเจ้า หรือจะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็สามารถเที่ยวได้แบบสบายๆ การมาเที่ยวครั้งนี้ เป็นอะไรที่พิเศษมากกว่าทุกครั้ง เพราะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ฟรี กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ 2 ที่นั่ง จากการเล่นเกมผ่านเพจต่างๆ ครั้งแรกที่รู้ว่าได้รับรางวัล คือดีใจมาก เพราะตั้งใจว่าจะขึ้นเชียงใหม่ ไปแม่กำปองอยู่แล้ว ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับตั๋วเครื่องบินฟรี สายบางกอกแอร์เวย์ จาก บริษัท Mono29 ด้วยนะคะ ที่ทำให้ได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ได้รู้จักผู้คนที่ Backpack ในช่วงเวลาไม่กี่วัน มันเป็นอะไรที่ดีมาก

วันแรกของการเดินทาง โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ คือที่เริ่ดที่สุด คือ Bangkok Airway Lounge ที่มีข้าวต้มมัดที่ขึ้นชื่อ ใครๆที่นั่งสายการบินนี้ ต้องได้กิน

เดินทางโดยสายการบิน บางกอกแอร์เวย์

ออกเดินทางเหินฟ้าสู่เชียงใหม่

หลังจากที่เราลงเครื่อง พวกเรา 2 สาว ก็เดินทางไปขึ้นรถตู้ไปแม่กำปองที่เราจองไว้ ในรอบ 11.40 น. โดยรถตู้ไปแม่กำปองเราต้องจองล่วงหน้าก่อนนะคะ ซึ่งรถตู้นี้ไปน้ำพุสันกำแพง – แม่กำปอง การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย อีกทั้งยังราคาถูก คุ้มกับสถานที่ที่จะไปมาก ขาละ 150 บาท / ท่าน การเดินทางไปแม่กำปอง สำหรับ 2 สาว ทั้งหมด 600 บาท / 2 ท่าน ขาไปน้ำพุสันกำแพง – แม่กำปอง สามารถมาขึ้นได้ 2 ที่ คือ ที่ช้างเผือก และ กาดหลวง หรือ ตลาดวโรรส แต่พวกเราไปขึ้นวินรถตู้ที่กาดหลวง ตรงข้ามตลาดดอกไม้ จะมีคิวรถตู้เชียงใหม่-ลำพูน ส่วนขากลับรถจะจอดอยู่ที่จอดจุดรับ-ส่งตรงหมู่บ้านแม่กำปอง เวลาที่พวกเราจอง คือ 13.20 น. ที่จองบ่าย เผื่อมีเวลาเก็บเกี่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวแม่กำปอง สามารถจองรถตู้ไปแม่กำปอง หรือ น้ำพุร้อนสันกำแพง ได้ที่ https://www.facebook.com/Van.Hotsprings/ การบริการรถตู้ประทับใจมาก ตั้งแต่การจอง จนวันกลับ ให้ 10 เต็ม 10 คะ บริการได้เป็นกันเองมากคะ

เวลา 13.20 น. พวกเราถึงที่หมายที่แม่กำปอง หลังจากที่เราลงจากรถตู้ ระหว่างทางเราก็ถ่ายรูปเล่น เก็บบรรยากาศ อากาศเย็นสบาย

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเท้าไปยังบ้านสายชลโฮมสเตย์ โดยจะมีน้องไอซ์ที่ดูแลบ้านหลังนี้มาคอยต้อนรับ เพื่อพาพวกเราไปบ้านสายชลโฮมสเตย์ ซึ่งตัวบ้านพักโอบล้อมไปด้วยลำธาร น้ำตก ตอนเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน จะได้ยินเสียงน้ำตก อากาศเย็นตลอดทั้งวัน ถ้าคนที่ชอบธรรมชาติแบบนี้แนะนำที่นี่ ถึงจะเดินไกล แต่ได้เข้าถึงธรรมชาติสุดๆบอกเลย บรรยากาศโดยรวม ให้ 10/10 เจ้าของบ้านบริการดีมาก ใส่ใจลูกค้า น้องไอซ์ เป็นคนดูแล และป้าแม่บ้าน ใจดีมาก การบริการดีเริศ ที่นี่มีทั้งแบบห้องพัก คนละ 600 บาท พร้อมอาหารเย็นและเช้า ส่วนเต็นท์ คนละ 500 บาท พร้อมอาหารเย็นและเช้าแนะนำใครอยากสัมผัสแบบนี้ ต้องมาที่นี่ คะ สามารถติดต่อ ป้าต้อย 062-2989556 ได้คะ

หลังจากที่เราเก็บกระเป๋าเสร็จ เราก็เตรียมตัวไปเดินเล่นกัน ก่อนเราจะออกเดินทางเก็บบรรยากาศ พวกเราก็ได้เพื่อนร่วมเดินทางไปน้ำตกแม่กำปอง ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกัน แต่สนิทไวอย่างกับมาด้วยกัน ขอบคุณมิตรภาพ พวกเรา 3 คน เดินลัดเลาะไปตามลำธาร จนไปเจอน้ำตก เพราะใช้เวลาเดินน้อยกว่าเส้นหลักที่เป็นถนน ระหว่างทางเราจะเหมือนอยู่ในป่า มีเสียงน้ำตก มาดูภาพระหว่างทางกันเลยดีกว่า ก่อนจะถึงน้ำตกแม่กำปองจุดหมายของเรา

ถึงแล้วน้ำตกแม่กำปอง เป็นน้ำตกที่มีความสูงกันถึง 7 ชั้น น้ำตกใสสะอาดเย็นชื่นใจ มีต้นเฟิร์น และตะไคร่น้ำขึ้นอยู่ทั่วไป ซึ่งมีต้นน้ำเป็นแหล่งกำเนิดของประปา หมู่บ้านแม่กำปองที่ชาวบ้านร่วมกันสร้าง ทางขึ้นไปจุดสูงสุดของน้ำตก ต้องระมัดระวัง เพราะตามขั้นบันไดจะมีตะไคร่น้ำ มันจะลื่น แต่พอขึ้นไป แล้วบอกได้คำเดียวว่าสมองโล่ง บรรยากาศเย็น อากาศบริสุทธิ์มาก มองลงไปถึงกับตกใจว่าเดินขึ้นมาได้ไง สูงมาก

หลังจากนั้นเราก็เดินลงจากน้ำตกเพื่อเดินกลับไปรอกินอาหารเย็นที่บ้านสายชลโฮมสเตย์ ระหว่างนั้นเราก็แวะกินรองท้อง มาที่นี่ก็ต้องกิน ขนมจีนน้ำเงี้ยวสิ รอไร

วันที่สอง ตื่นเช้ามารับบรรยากาศ ออกเดินทางเดินไปร้านกาแฟชมนกชมไม้ สุดยอดร้านกาแฟที่มีริมระเบียงมองเห็นวิวหมู่บ้านแม่กำปองสวยงามที่สุด ร้านกาแฟสวยๆ นี้อยู่ในหุบเขา เป็นร้านเล็ก ที่อยู่ในป่าใหญ่ มีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ มีความเย็นสบาย กาแฟชมนกชมไม้เป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมมากร้านหนึ่ง ที่ใครๆ มาเที่ยวแม่กำปองก็จะนิยมมาแวะกัน เป็นจุดที่ทุกคนต้องมาเช็คอิน ปักหมุดที่นี่ พอดีพวกเราเดินทางมาถึงร้านกาแฟ ก่อน 8 โมง ก็ต้องรอร้านเปิด เพราะร้านเปิด 8.00 – 17.00 น. ซึ่งถ้าใครมาก่อน ก็ต้องรอนะ แต่จะได้ถ่ายรูปบรรยากาศ เพราะคนยังไม่มากัน ที่นี่สวย ขนมเค้กที่นี่ เจ้าของร้านทำเอง อร่อยแล้ว ยังได้วิว คือดีมาก และการมาร้านนี้ก็ได้เพื่อนอีก ตามสไตล์คน Backpack ได้เพื่อนระหว่างทาง ได้แชร์ประสบการณ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่แต่ละคนไปมา

จุดแลนด์มาร์คสำคัญที่ทุกคนมาเยือนต้องมาถ่ายรูปมุมนี้ แต่ต้องระวังกันด้วยนะ ค่อนข้างอันตราย

หลังจากนั้นเราก็เดินกลับไปทานอาหารเช้าที่ทางบ้านพักตระเตรียมให้ และนั่งชิวที่บ้านพัก จิบดริปกาแฟ เคล้าเสียงน้ำตก อยู่กับธรรมชาติ ซึมซับความสุข เวลาดีๆมีได้ไม่บ่อย

ก่อนจะถึงเวลาขึ้นรถตู้กลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ พวกเราก็ออกจากที่พักประมาณ 11.00 น. หลังจากนั้นพวกเราเดินชมบรรยากาศ ทักทายชาวบ้านก่อนกลับ และ ไปแวะร้านกาแฟ The After Taste กาแฟดริปที่นี่อร่อย

เวลา 12.00 น. ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน เพราะหิวข้าว พวกเราก็แวะทานอาหารที่ ร้านข้าวซอยกลอยใจ ในแม่กำปอง ราคาไม่แพง อร่อย น้ำพริกอ่อง แหนม ไส้ทอด คอหมูย่าง

ในระหว่างที่รอรถมารับ พวกเราก็หาร้านนั่งฆ่าเวลา ที่ ร้านกาแฟ เปิ้ลกะตั๋ว ตอนแรกจะไปนั่งลุงปุ๊ดกับป้าเป็ง แต่คนแน่นนมากไม่มีที่นั่ง

เรื่องราว 2 วัน 1 คืน จากกรุงเทพ-สู่แม่กำปอง ขอจบภาพความทรงจำดีๆ ประสบการณ์ใหม่ๆที่หาไม่ได้ มิตรภาพระหว่างการเดินทาง มันดีมาก และจะไม่มีวันลืม

ฝากกดไลค์ กดแชร์ เพจ trip2getherwithmary ไว้ในอ้อมอก ทุกคนด้วยคะ