24th Dec 2017


อาจเป็นทริปที่เป็นของขวัญคริสตมาสให้ตัวเองและครอบครัวก็เป็นได้สำหรับที่พักในบ้านเกิด
สำหรับ จขบ.แล้ว ชีวิตผูกพันกับสายน้ำมาแต่เด็ก (แม้จะว่ายน้ำได้ห่วยแตกที่สุด)
ต่อจากเชียงรายในสายลมหนาวในรอบเช้า ๆ ที่ขับรถไล่กับเพื่อนร่วมงานข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่าปานหนังอินเดียไงงั้น... เราแวะแช่น้ำร้อนที่ล้านนาออนเซนกัน แล้วแยกย้ายกันอีกทีเพื่อนัดเจอกันที่เชียงของ ปลายทางแห่งสายน้ำ ที่ ๆ สองครอบครัวจะนั่งเรือเข้าไปที่พักบ้าน ๆ เพื่อเก็บบรรยากาศหลักล้านกันที่นั่น "ม่อนเจ้าน่านฟ้าโฮมสเตย์" เชียงของค่ะ



ม่อนเจ้าน่านฟ้า โฮมสเตย์

100 หมู่ที่ 4 ตำบล ริมโขง อำเภอ เชียงของ จังหวัด เชียงราย 57140

ติอต่อและสอบถามราคาห้องพัก คุณอุษา0806512959

การเดินทางไปยังม่อนเจ้าฟ้าน่าน ฯ นั้นมีสองวิธี คือ

1. ขับรถส่วนตัวไปที่เชียงของ แล้วขับต่อไปยังหมู่บ้านเมืองกาญจน์ อาศัยจอดรถไว้ที่วัดเมืองกาญจน์ แล้วนั่งเรือระยะใกล้เข้าที่พัก

2. โดยรถยนต์ส่วนตัว หรือขนส่งประจำทางก็ได้ค่ะแล้วลงที่ท่าเรือผาถ่าน จุดนี้ที่เราเลือกจอดฝากไว้ในบริเวณวัดหลวงใกล้ท่าเรือซึ่งถือว่าปลอดภัยค่ะ


เรือจากโฮมสเตย์จะมารับที่ท่านี้ จากท่าผาถ่านนั่งเรือไปอีกประมาณ 40 นาทีสำหรับวิธีที่สองนี้... "ฟิน" ตัวบักเอ่บค่ะ

เพราะถือเป็นการนั่งเรือชมวิว แลวิถีชีวิตของชาวเชียงของสองข้างทางไปเรื่อย ๆ ได้ของแถมเป็นวิวเพื่อนบ้านด้วยเนาะ

ฟินเฟ่อร์ เว่อร์วัง !!!


.
.

.





จุดพีคสุดของการเดินทางคงอยู่ที่นี่.... การเดินทางเข้าที่พักด้วยเรือเป็นเวลา 40 นาทีในวันที่เดินทางไปนั้นเราทวนกระแสของน้ำ

เด็ก ๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะสำหรับโมเสสแล้วเจ้าตัวออกปากเองว่า "นี่คือการนั่งเรือครั้งแรกของโม" สีหน้าจะนิ่งมากไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะตั้งใจนั่งเรือเอามาก ๆ ต่างหาก

อากาศในบ่ายดี ๆ ของหน้าหนาว ลมตีหน้าเย็น ๆ และละอองน้ำที่กระเซ็นเป็นเม็ดเล็ก ๆ เป็นระยะ มันก็ดีไปอย่าง สองอย่าง

ลุงนาค พ่อของเจ้าของม่อนเจ้าน่านฟ้า ภาษิตผ้าขี้ริ้วห่อทองคงเข้ากับแกได้ดี

แกขับเรือมาหลายปี ด้วยวัยเจ็ดสิบกว่า ๆ ความชำนาญคงไม่้ต้องพูดถึง เรียกว่ารู้ทุกจุดที่ควรหลีก



ชมวิว แลวิถีชีวิต


เราเห็นวังน้ำวนในสายน้ำโขงอยู่หลายที่ คิดไปพลางเสียวสันหลังวาบ ๆ ว่านี่ถ้าตกลงไปทำไงดี

แม้จะมีเสื้อแล้วก็เหอะ... แต่ด้วยความโปรของลุงนาค เราหมดความกังวล

ราว 40 นาทีได้จากท่าผาถ่าน อ.เชียงของ ลุงนาคบอกที่พักอยู่เลยโขดหินนี่ไป มันก็ใช่ของแกนะ เลยโขดหินสีดำไปแล้ว เราได้วิวนี้กัน..

ที่พักในคืนคริสตมาสอีฟของครอบครัวเรา


.

.

.


ภาพแรกที่เรือหยุด และภาพแรกของก้าวแรกที่โฮมสเตย์

ก้าวแรก แล้วเริ่มย่ำ




บ้านพัก3 หลัง แต่ละหลังจะมีชื่อของบ้านติดไว้ ชื่อของบ้านมาจากชื่อของสมาชิกในครอบครัวเช่นหลังนี้
ชื่อบ้านลุงอาจ

จขบ.เลือกห้องพักหลังบ้านลุงนาคค่ะ ห้องน้ำในตัว

ปล.ที่พักที่นี่ไม่มีน้ำอุ่นนะคะเพราะต้องประหยัดพลังงาน ที่นี่ไม่มีไฟฟ้ามีแต่เครื่องปั่นไฟค่ะ

ราคาเข้าพักมี 2 ประเภท

อย่างแรกหัวละ 500 บาท ไม่รวมอาหารเช้า และเย็น
หากเลือกอย่างแรกสามารถซื้อของสดมาทำกินกันเองในห้องครัวของโฮมสเตย์ได้

อย่างที่สองหัวละ 800 รวมอาหารเช้า และเย็น และเรือรับส่งที่พักทั้งไปและกลับค่ะ




วิวจากห้องพักเรือนหลังใหญ่ มองโขงกันไปไม่มีเบื่อเนาะ

........................


เก็บของเสร็จแล้ว เย็นนั้นก่อนมื้อค่ำของเรา

การนั่งมองสายน้ำเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยว่าป่ะ


โฮมสเตย์และอาหารบ้าน ๆ แต่ความฟินหลักล้าน
มันโอมากอ่ะ
กับความหนาวใต้แสงจันทร์ กับแสงดาว กับการพูดคุยเฮฮา




.

.

.







ผ่านค่ำคืนอันเหน็บหนาว.. จขบ.ตื่นเช้าเพราะอยากเก็บแสงแรกของวันคริสตมาสหนาว ๆ ริมโขง

เช้านั้น 14 องศาได้ หนาวได้ใจไอออกปาก หนาวจนสาแก่ใจยัดเสื้อให้อุ่นเต็มที่แล้วได้เวลาลากขาออกจากห้องพักไปเก็บรูปกันเนาะ



แสงไม่ค่อยมี มันก็จะมืด ๆ หน่อย


เก็บรูปตามลำพังสักพัก คนตัวเล็ก ๆ ก็วิ่งตามมา

มาทำลายความเงียบ

ความเหงา

และความอะไรอีกดี



กระดานสีเขียว

แหล่งเรียนรู้ที่ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น








.....................

กับสายหมอกที่หยอกเขาอยู่ต่อหน้า


ลายมือโมเสส

......

ซานต้าตัวน้อย ๆ หรือ elf กันแน่นะ






............

กับแสงที่เริ่มสาดส่อง และอีกหลายชีวิตที่ตื่นมาใช้ชีวิต




พอได้ยังฟีลเหงา ๆ เนี่ย ?????

ครบหรือยังนะเช้านี้

น้ำค้าง ความหนาว ขุนเขา สายหมอก และสายน้ำ

ยังสิ แสงแดดอ่อน ๆ ก็ต้องมาด้วยนะ

ป่าเขาที่หลับไหลถูกปลุกให้ตื่นด้วยแสง

หรือเสียงจากกลุ่มเรากันแน่นะ


......................


.

.

.

เดินเล่น และเก็บรูปกันพักใหญ่

ใหญ่พอที่ท้องจะร้องเป็นเพลงหิว เราหาเครื่องดื่มอุ่น ๆ รองท้องก่อนข้าวเช้ากัน


เครื่องดื่มอุ่น ๆ กับความหนาว ช่างเข้ากัน


มะหมาก็มากะเขาด้วยล่ะ อยู่นิ่ง ๆ อยู่เงียบ ๆ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร



ซากแมลงแห้งตาย รับประกันความหนาว




ดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ รองท้องเพื่อรอสิ่งนี้

............

เช้านั้น

พี่ที่มาด้วยกันนั้นเตรียมของใส่บาตรมาด้วย ทางโฮมสเตย์ติดต่อสงฆ์ให้พี่เขาด้วยค่ะ

และแน่นอนค่ะ นั่งเรือมา

หลังใส่บาตรเช้าให้พระฉัน เสร็จแล้วก็ตามขั้นตอนเนาะ

คนธรรมดากินข้าวได้

โฮมสเตย์

บ้าน ๆ พื้นเพ เรียบง่าย แต่ดี

อาหารบ้าน ๆ จากลำนำโขง ลาบปลาน้ำโขง อร่อยดีนะคะ ติดใจ

เด็ก ๆ ก็ข้าวต้มกันวนไปค่ะ อุ่น ๆ อร่อยดี

...............






หลังมื้อเช้า จขบ.ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่อุษา น้องสาวของคุณขาวเจ้าของม่อนเจ้าน่านฟ้าโฮมสเตย์

เธอเป็นคนอัธยาศัยไมตรีดี เล่าเรื่องออกรสออกชาด เธอบอกว่า "ที่นี่เปิดมาแล้วได้ 6 ปีโดยพี่ขาวได้เริ่มทำ แต่ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลเพราะทำงานประจำที่สนามบิน สตาฟส่วนใหญ่ก็เป็นระบบเครือญาติ พ่อแม่ พี่น้องช่วยกันทำให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ตัวของพี่อุษาเองก็ออกบ้านไปอยู่ราชบุรีตั้งแต่วัยรุ่น เพิ่งจะมีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมที่นี่ อยู่สักพักติดใจในเสน่ห์ของเชียงของ สายน้ำโขง ความเงียบเรียบง่าย สงบไม่วุ่นวาย เธอจึงตัดสินใจทำงานเสียที่นี่เพื่อช่วยครอบครัวและหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่" พี่อุษากล่าว









ห้องนอนคุณแม่พิน



ด้วยความสมาธิสั้นหรือไง อยู่กับที่กับใครเขาได้ไม่ค่อยนาน

แบกกล้องล่าวิวรอบ ๆ ที่พัก

คล้าย ๆ บอกตัวเองว่า อีกไม่นานก็ต้องละที่นี่เพื่อเดินทางแล้ว



............





ทิปเล็ก ๆ

ของที่นี่หากมีโอกาสแวะมาพัก สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ การเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านที่อิงอาศัยธรรมชาติค่ะ

พี่อุษาฝากกระซิบว่าหากได้แวะมาอยากจะล่องเรือไปหาดทรายขาว หรือตลาดปลาขอเพียงคนเข้าพักบอกมาทางโฮมสเตย์จัดให้ได้ตามความต้องการของลูกค้าค่ะ หรือกิจกรรมอื่น ๆ อย่างปลูกผัก เก็บผักก็มีนะคะ














.............











ชีวิต กับ สายน้ำ

วิถีที่แยกกันไม่ขาดของชาวเชียงของ







ปิดยาว 10 วัน การเลือกพักที่นี่เพียงหนึ่งคืนผ่านก็เหมือนการให้รางวัลกับตัวเอง

เหนื่อย และล้ากับทั้งเรื่องร้าย และดีมาตลอดทั้งปี

เยือนเชียงของ นั่งมองน้ำโขง เพื่อตั้งสติ

แล้วยิ้มรับปีใหม่ด้วยกัน

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

.......

ขอบคุณที่แวะมา

ความคิดเห็น