ตั้งใจจะมากว๊านพะเยานานมากแล้ว จนได้มาในวันสิ้นปี 2560 พอดี ทริปนี้เราลงมาจากเชียงรายด้วยรถตู้หนานคำ การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่ยาก รถทัวร์ลงสถานีขนส่งพะเยา นั่งเครื่องบินก็ลงเชียงรายต่อรถมาพะเยาอีกที จากสถานีขนส่งพะเยาเดินออกมาไม่ไกลก็จะถึงริมกว๊านพะเยาแล้ว
เดินต่ออีกนิดก็จะถึงอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ข้ามถนนริมกว๊านพะเยามาสักการะก่อน
ริมกว๊านพะเยาจะมีทางเดินกว้างๆ เลนจักรยาน และพื้นที่นั่งกินอาหารริมกว๊าน เดินต่อมาอีกไม่ไกลจะมีจุดบริการเรือถีบด้วย
ทางเดินริมกว๊านอากาศดีมาก มีลมเย็นๆ พัดกำลังสบาย ร้านอาหารที่ขายอยู่ตลอดทางจะมีเสื่อบริการให้นั่งด้วย เรายังไม่ได้แวะ เดินต่อไปเรื่อยๆ ที่พักที่เราจองไว้อยู่ใกล้ท่าเรือข้ามไปวัดติโลกอาราม ริมกว๊านพะเยามีหลายจุดให้ เดินไปแวะไปสนุกตลอดทาง
ไม่นานก็ถึงท่าเรือแล้ว ตรงข้ามจะเป็นซอยทางเข้าที่พัก "บ้านในซอยโฮมสเตย์" (ตามความหมายก็นอนบ้านหลังเดียวกับคุณป้าเจ้าของ แต่ไม่ได้มีกิจกรรมร่วมกันเท่านั้น) ห้องพักคืนละ 500 บาท เดิน 30 เมตรก็ถึงท่าเรือข้ามไปวัดติโลกอารามแล้ว
เข้าห้องได้ก็อาบน้ำและนอนพักก่อน วันนี้ตั้งใจจะนั่งเรือข้ามไปวัดกลางน้ำช่วง 5 โมงครึ่ง คิดว่าน่าจะไดแสงเย็นสวยๆ พอดี เราออกจากที่พักเดินมาท่าเรือแล้วก็จ่ายเงินค่าเรือพร้อมธูปเทียน 30 บาท (ปกติค่าเรือข้ามไปวัดกลางน้ำ 20 บาท ไม่มีธูปเทียน แต่นี่คงเป็นเทศกาลที่ทุกคนอยากไหว้พระท่าเรือเลยจัดชุดมาให้) ความปลอดภัยในการลงเรือพายข้ามไปวัดต้องใส่เสื้อชูชีพทุกคน แป๊บเดียวก็ลงเรือกันแล้ว
ได้แสงอย่างที่ชอบพอดีเลย ทริปนี้ฟินด้วยแสงมากๆ กะเวลาได้พอดี ต้องขอบคุณข้อมูลอาทิตย์ตกจากแอป ระหว่างนั่งเรือพาย (ย้ำว่าเรือพายไม่ได้ติดเครื่องยนต์) ไม่นานก็มาถึงวัดกลางน้ำ ทุกคนก็มุ่งหน้าไปกราบพระ ส่วนเราขอถ่ายรูปก่อน ชอบแสงแบบนี้มาก
บริเวณท่าเรือของวัดกลางน้ำก็จะมีเรือผูกอยู่ด้วย มุมนี้ก่อนลงเรือกลับ
ไม่นานก็ต้องกลับแล้วแต่เรายังไม่อยากอยู่ต่อแสงกำลังสวยมากๆ แต่ทุกคนลงเรือกันหมดแล้ว ก็ต้องกลับ
ระหว่างทางกลับฝั่งก็มีเรือสวนมาด้วย ลำนี้คงได้แสงที่สวยมาก บรรยากาศก่อนเข้าฝั่งก็ดีมาก จังหวะพายมาทันเรือที่ออกมาก่อนกับแสงจัดจ้านของท้องฟ้า จนเรากดมุมนี้ไป 20 กว่ารูป
พอถึงท่าเรือก่อนขึ้นฝั่งก็ได้มุมประมาณนี้
พอขึ้นฝั่งคืนเสื้อชูชีพถ่ายย้อนลงน้ำก็ได้มุมนี้
ฟ้ายังพอมีแสงเราก็เลยมานั่งด้านซ้ายของท่าเรือเพื่อรอแสงหมด และรอเรือที่กลับลำสุดท้ายด้วย
พอแสงหมดก็เดินไปด้านสนามเด็กเล่น และเดินย้อนกลับไปทางอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง เดินไปถนนคนเดินบริเวณศาลหลักเมือง เดินไปแวะซื้อของกินไปด้วย ก่อนถึงถนนคนเดินเราก็แวะเข้าวัดไชยอาวาสหรือวัดปักคำ
เดินจบครบคืนนี้พ่อค้า-แม่ค้ามาขายน้อยมาก แต่ก็มีของกินหลายอย่าอร่อย บางอย่างก็ธรรมดา พออิ่มก็เดินกลับที่พักรอเวลาออกมาอีกทีช่วง 5 ทุ่ม พะเยาเป็นอีกเมืองที่ปลอดภัย ออกมาเดินริมกว๊านก็จะได้ยินเสียงจากร้านอาหารที่มีดนตรีสดและเปิดแผ่น ร่วมกับเสียงสวดมนต์ข้ามปีของวัดที่อยู่ใกล้ๆ ให้ความรู้สึกหลากหลายดี ริมกว๊านพะเยาในคืนข้ามปีก็มีผู้คนมานั่งกันเยอะ ไม่ได้เงียบเหงาอะไร หลายคนปล่อยโคมลอย บางโคมลอยก็ติดประทัด ติดไฟสายๆ เราก็นั่งลุ้นไม่ให้หล่นใส่หัวก็พอ พอถึงเวลาข้ามปีก็มีจุดพลุเล็กๆ น้อยๆ แล้วผู้คนก็เริ่มกลับกัน เราเลยมีโอกาสถ่ายรูปนี้
เช้าวันปีใหม่ ตื่นสายหน่อยแต่ก็ออกมาทันอากาศดีๆ 16 องศาเซลเซียส เดินสบาย ได้ยืดเส้นยืดสายด้วย
เดินต่อมาที่อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง มีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งในวันขึ้นปีใหม่ด้วย ประธานเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
เราไม่ได้เตรียมอะไรมาก็เลยเดินถ่ายรูปและสูดอากาศยามเช้าต่อไป
เดินกลับที่พักมามีบริการกาแฟพร้อมขนมปังปิ้ง(เอง) เป็นมื้อเช้า พออิ่มก็ถึงเวลาเข้าวัดไหว้พระในวันขึ้นปีใหม่กัน เริ่มวัดแรกที่วัดศรีอุโมงค์คำ (วัดสูง) ที่นี่มีพระเจ้าทันใจ พระพุทธรูปหินทรายโบราณสกุลช่างพะเยาที่สมบูรณ์ที่สุดด้วย
เดินไปอีกไม่ไกลก็จะถึงศาลหลักเมืองพะเยา
ไม่ไกลจะเป็นวัดราชคฤห์
เดินต่อในเส้นทางที่เมื่อคืนมาถนนคนเดินไม่ไกลกันมากก็ถึงวัดหลวงราชสันฐาน
ถึงเวลาต้องคืนห้องพักแล้ว คุณป้าจะให้ลุงไปส่งที่สถานีขนส่งแต่เราบอกจะเดินไปเอง เพราะรอบรถเรา 13:00 เหลือเวลาชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางเจอร้านก๋วยเตี๋ยวโคขุนดอกคำใต้ ก็เลยแวะชิมก่อน ชามนี้เราสั่งพิเศษ 70 บาท เนื้อดี ลวกดี พริกเผ็ดมากตามคำเตือนที่เขียนติดไว้)
อิ่มแล้วก็เดินย่อยเลียบริมกว๊านพะเยาไปสถานีขนส่ง วันนี้ฟ้าใส ก็เลยเก็บบรรยากาศก่อนลา
กว๊านพะเยาบรรยากาศดีมาก คงต้องกลับมาอีกแน่นอน ยังคงอยากมาเวียนเทียนกลางน้ำที่นี่สักครั้ง
ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่
เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.53 น.