สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผม Number6 นี่เป็น การเขียนรีวิวครั้งแรก ตั้งแต่เริ่มชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว

รีวิวนี้ ผมจะเริ่มด้วย ทริป 2 วัน 1 คืน สั้นๆ ใกล้ๆ ในจังหวัด พิษณุโลก เหตุเกิดขึ้นช่วงก่อนปีใหม่ ปี 2560

ผมได้มีความคิดขึ้นว่า อยากลองเดินทางท่องเที่ยว คนเดียว เน้นนะครับว่า คนเดียว โดยการใช้รถยนต์ส่วนตัว ECO Car คันเก่งของผมขับลุยไปทุกที่ ด้วยความอยากรู้ว่า . . . .

"ตัวเองจะมีความกล้าแค่ไหน และหากไปคนเดียว จะรู้สึกอย่างไร จะน่ากลัวไหม จะไปได้ไกลแค่ไหน"

ปล. ขอออกตัวก่อนนะครับ ผมเขียนรีวิวไม่ค่อยเก่ง และบรรยายไม่ค่อยเป็น เน้นรูปสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง เอามาให้ชมกันนะครับ


เริ่มกันเลยครับ

ผมออกเดินทางวันที่ 23 ธันวาคม 60 มุ่งหน้าไปยัง จังหวัด พิษณุโลก ตามเส้นทางสายเหนือ

เมื่อเริ่มออกเดินทาง สิ่งต่างๆ ก็เริ่มเข้ามาก่อกวนในใจ ไหนจะเรื่องที่พัก ไหนจะเรื่องอาหาร และไหนจะเรื่องการถ่ายรูป คิดวนไปวนมาว่า เราจะทำสิ่งต่างๆ ยังไง เราจะคุยกับใคร แล้วเวลาเราถ่ายรูป หรือ เดินคนเดียว สายตาที่มองมาที่เรา เขาจะคิดอะไรกับเรา หน้อ . . .

คิดวนไปวนมา จะเหมือนได้สกิลกดวาร์ปมาถึง จังหวัด พิษณุโลก เลยที่เดียว และสถานที่แรกที่จะแวะก็คือ . . . .

วัดครับ ใช่ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมจะแวะ วัดพระพุทธชินราช (ผมสาบยบุญนะครัช ฮ่าๆ) ก็ไม่มีอะไรมากครับ ไหว้พระ ทำบุญ ขอพรเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ แล้วก็ กดซัตเตอร์มาให้ชมกันนิดหน่อย !!

เมื่อผมเดินเข้ามาในวัดได้ไม่นาน ยังไม่จะเข้าไปถึงในอุโบสถ ผมก็เริ่มร้อนและอึดอัด เป็นอย่างมาก ก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่า ผมไม่ถูกกับวัดหรืออย่างไร ฮ่าๆๆ มุขน่ะครับ จะบอกว่า คนเยอะมากกกกกกกกกก ก และแสงแดดก็แรงมาก ฮ่าๆๆ ปะๆ ดูรูปกันยาวๆ เลยครับ

เอาล่ะ เมื่ออิ่มบุญ ขอพร และเสี่ยงเซียมซีทำนายดวง เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อกันเลย มุ่งหน้า สู่ที่นอนคืนนี้ นั้นก็คือ
อุทยานแห่งชาติ

ใช่ครับ อุทยานแห่งชาติ คือนี้ผมจะไป กางเต๊นท์ดูดาว และตื่นเช้ามานั่งหาว ดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ อุทยานแห่งชาติ ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย นั้นก็คือ

นั้นก็คือ

.

.

.

.

.

และนั้นก็คือ ฮ่าๆๆ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีเนื้อที่ใหญ่มาก ทำให้มีสำนักงานที่ทำการอุทยาน มีหลายจุด และแต่ละจุดสามารถพักค้างได้ โดยที่ วิวทิวทัศน์ จะแตกต่างกันออกไป แต่ครั้งนี้ ผมเลือกจะไปกางเต๊นท์ ที่ ทุ่งนางพญา ณ. ตำบล หนองแม่นา อำเภอ เขาค้อ เพชรบูรณ์ ซึ่งจุดนี้ ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นทุ่งหญ้าสะวันนา แห่งประเทศไทยเลย ที่เดียว

เมื่อเข้าใกล้จุดหมายเส้นทางก็เริ่มเปลี่ยนไป จากถนน ลาดยาง ก็เปลี่ยนเป็นเส้นทางลูกรังสีแดง ฮ่าๆๆ แต่ผมก็ดังทุรังไปต่อ ทั้งๆ ที่รถเป็นแค่ ECO Car คันน้อยๆ เมื่อถึงสำนักงานที่ทำกานอุทยาน ก็ดำเนินการแจ้งเพื่อจะเข้าพักค้าง โดนการกางเต๊นท์ และบทสนทนาที่เจ็บปวดก็เกิดขึ้น.....

จนท : กี่คนค่ะ กี่คืนค่ะ รถกี่คันค่ะ

ผม : คนเดียว ครับ สามารถกางเต๊นท์ตรงไหนได้บ้างครับ ที่เต็มรึยัง

จนท : เลือกเลยค่ะ ตามสะดวก สามารถทำอาหารได้นะค่ะ ติดขัดอะไร ติดต่อได้นะค่ะ

และหลังจากชำระเงิน ลงทะเบียนเสร็จสิ้น (ค่าลงทะเบียนไม่แพงครับ แต่ผมคงไม่ต้องเขียนลงก็ได้มั้ง คิดเอง !!)

ผม : เอ่อ !! . . พรุ้งนี้ ดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงไหนครับ แล้วไกลมั้ย

จนท : ห่างจากที่นี่ 10 กม. แต่จุดใกล้ ประมาณ 6 กม. ค่ะ คุณขับรถอะไรมาค่ะ

ผม : ECO Car คันน้อยๆ ไม่แต่ง ครับ มาตรฐานจากโรงงานเลย !!

จนท : อืมมมม ! . . งั้นไม่แนะนำนะค่ะ เส้นทางเป็นดิน และเมื่อวานฝนตก ไม่เหมาะให้ขับไปนะค่ะ

ผม : แล้วมีรถเช่า หรือ กลุ่มไหน ไปมั้ยครับ ขอแจม ได้มั้ย !! (อยากไปโว้ยยยยยยย)

จนท : ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวขับเข้าไปเอง นะค่ะ ถ้าคุณไม่กลัว ช่วงล่างมีปัญหา หรือเส้นทางเละ ทางเราก็ไม่ห้ามค่ะ

ผม : ยิ้ม (คิดในใจ .... ใครจะกล้าไปว่ะ พูดขนาดนี้)

สรุปได้เพียงแค่ดูดาว มิอาจเอื่อมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ แอบเสียใจแต่ ช่วยไม่ได้ ไหนๆ ก็มาแล้ว จัดแจงหาที่นอน กางเต๊นท์ แล้วไปเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆ สถานที่อุทยาน


พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าสน ร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนมาก อากาศดี ไม่ร้อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมีอายุ และเด็กน้อย เพราะมีพื้นที่วิ่งเล่น (ผมแนะนำนะครับ สำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว น่าสนุกมาก)

และแล้วท้องฟ้าก็มืด ความหวังของผมก็มาแล้วครับ การดูดาวและหัดล่าช้างเผือก ที่ช่างภาพในตำนานเขาทำกัน แต่ติดตรงที่ว่า มาคนเดียว และผมกลัวผี และมันน่ากลัวมากกกกกก ผมนั่งมองอยู่ในเต๊นท์ตัวเอง นานมาก เพื่อใช้เวลาคิดและทำใจ จนตัดสินใจว่า ถ้าเจอ ตูก็วิ่งมาเข้าเต๊นท์ นอนในถุงนอน รูดซิบ และอยู่จนเช้าเลย ฮ่าๆๆๆ และแล้วผมก็ออกมาจนได้ และข่มความกลัวตัวเองไว้ด้วยความหนาวเย็นของอากาศ

ถ่ายมาหลายรูปครับ แต่ไม่สวยเท่าไหร่ ภาพเบลอ เพราะลมแรงมาก และแสงไฟจากนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ๆ ส่งเพิ่งเข้ามา รวมถึงแสงไฟจากรถยนต์ที่เพิ่งขับเข้ามากันได้ครับ

ผมจึงกลับเข้าเต๊นท์นอน เพื่อพักผ่อน และรอชมหมอกตอนเช้าครับ จนท.บอกว่า น่าจะมีหมอกหนา เพราะฝนเพิ่งตกไป

ผมใช้เวลาในการข่มตานอนนานมา ด้วยความกลัว ด้วยความระแวง และการที่ไม่มีเพื่อนนอนในที่แปลกๆ แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ หลับยาวจนได้ยินเสียง วิ่งเล่นของเด็กๆ และเสียงนักท่องเที่ยวเดินถ่ายรูปเล่นกัน ทำให้ผมตื่นเช้ามา และรู้ว่า ตอนนี้เวลา 9 โมงเช้า ใช่ครับ 9 โมง หมอกที่ไหนจะเหลือให้ดู ฮ่าๆๆๆ ก็เลยถ่ายมาได้ประมาณนี้เองครับ ลองชมดู


เอาล่ะครับ ภาพสวยๆ หมดคลังแค่นี้ ผมของลาไปด้วย สองภาพที่ผมชอบที่ในการออกทริปครั้งนี้ ละกันนะครับ

การออกทริปครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ตัวเองในหลายๆอย่างที่เกิดขึ้น ผมได้ประสบการณ์หลายๆอย่าง และเพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง หากเพื่อนๆ อยากออกไปเที่ยว แต่ชวนแล้วไม่มีใครไปด้วย ลองเลยครับ ลองไปด้วยตัวเอง แล้วคุณจะไม่ง้อใครอีกเลย !!


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน่ะครับ โอกาสหน้า ผมจะมาเขียนให้ได้อ่านกันอีก !! (หากผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ)

ความคิดเห็น