รีวิว เขาช้างเผือก 2561 _3D2N_1489B
+เนินช้างศึก+อีต่องปิล๊อค+เขาช้างเผือก+น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
รีวิว <<<<<< 5 ดาวคือ ง่าย,สะดวก และดี
★★★★ : การเดินทาง [รถ]
★★ : การเดินทาง [เท้า]
★★ : ที่พัก รวมห้องน้ำ
★★★★★ : ความสวย ความเจ๋ง
★★★★★ : ราคา
เส้นทางเท้าไม่ลำบากมากเพราะสามารถเดินแบบไม่หลง
มือใหม่มาอาจจะมีตะคริวได้และเดินระมัดระวังเป็นพิเศษ
ที่นอนโอเค แต่ห้องน้ำหลุม ที่เหลือคือคุ้มค่าาาา
เขียนรีวิวครั้งแรกกับการเที่ยวเขาช้างเผือกครับ
อ่านรีวิวมาก็เยอะ วันนี้เลยอยากแชร์ประสบการณ์
ท่องเที่ยวในแบบของตัวเองบ้าง
เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆพี่ๆได้ศึกษาก่อนไปลุยเอง
เที่ยวครั้งนี้มีแผนแค่ว่าจะไปเขาช้างเผือก
โดยที่ไม่ค่อยรู้รายละเอียดอื่นๆเท่าไหร่
ดังนั้นเลยมีครบทุกรสครับ มั่วซั่วตั่วเหลงไปเรื่อย
แต่ก็ไปได้ทุกทีเด้อ
สรุปทริป เที่ยว 3 วัน 2 คืน
ตั้งแต่วันที่ 1-3 มกราคม 2561
เดินทางด้วยรถยนต์
ผู้ร่วมทาง 2 คนถ้วน
นอนในเต๊นท์ทั้งสองคืน
งบประมาณ 1489 บาทต่อคน
1 การจองขึ้นเขา
สำหรับปี 2561 นี้เปิดให้ขึ้นเขาแค่เดือนกว่าๆเองครับ
20.12.2560 - 31.1.2561 เท่าที่ทราบจะมีการเปลี่ยนแปลง
เงื่อนไขในแต่ละปีนะครับให้ตามศึกษาข้อมูลทาง Page
https\://goo.gl/y3V5Fn
เปิดให้จองล่วงหน้าแค่ 7 วันครับไม่เว้นวันหยุดราชการ
ผมขึ้นเขาวันที่ 2.1.2561 เลยต้องจองวันที่ 26.12.2560
เรียกได้ว่าจองกันข้ามปี ฮ่าๆ
แต่ว่ากว่าจะจองได้นั้นกระหน่ำโทรตั้งแต่ 8:30 น.
จนถึง 9:00 เบ็ตเสร็จรวมกว่า 400 สาย
สุดท้ายก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่จนได้
แอบได้ยินปลายสายว่า 2 คนสุดท้าย
ไม่รู้จริงเปล่าแต่ดีใจไปแล้ว ฮ่าๆ
จัดการบอกชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์
และเลขบัตรประชาชน ทางสายเรียบร้อย
เจ้าหน้าที่ก็จะบอกให้เราส่ง Email บัตรประชาชนไปให้
ก็ทำตามเจ้าหน้าที่ไปครับ
เอ่า!! แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแล้ว
เจ้าหน้าที่เค้าจะตอบ Email กลับมาครับภายในวันถัดไป
ปีนี้จองได้ครั้งละ 5 ท่านเท่านั้นนะครับ
2 เตรียมตัว
>>>>> สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเขาช้างเผือก
1 จอง ให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง และถือบัตรประชาชนตัวจริงไป
2 ต้องเดินทางกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานเท่านั้น ค่าใช้จ่าย 2500 บาทต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน
(คิดเหมาทั้งหมด 250 ต่อคนครับ)
3 มีลูกหาบ ให้บริการเหมา 1300 บาทต่อ 30 กิโลกรัม เกินกิโลกรัมละ 50 บาทขาเดียว
4 ห้องน้ำหลุม ไม่พูดเยอะ ทิชชูเปียกเป็นทางออกที่ดี
5 เดินเท้า 8 กิโลเมตร ไปจุดกางเต๊นท์ + 600 จุดชมวิว
6 ไม่มีร้านค้า ต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มไปเอง 3 มื้อ (เที่ยง-เย็น-เช้า)
7 นอนเต๊นท์ เท่านั้นถ้าจะขึ้นเขาช้างเผือก
8 แดด มันจ้ามากก เพราะ 60% ของการเดินทางเป็นกลางแจ้ง เตรียมน้ำให้พอ
9 ถุงมือ เวลาเดินขึ้นจุดชมวิวต้องจับลวดและเชือก
10 DTAC ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่เข้าเขตทองผาภูมิ ใช้ได้อีกทีจุดกางเต๊นท์ AIS ชนะ
11 เสื้อผ้า ไม่มีห้องอาบน้ำแล้วเอาไปทำไม เหงื่อไงครับมันจะเหม็นสุดยอดมากเลย
12 เที่ยวให้ครบ เอาให้คุ้ม เขาช้างเผือก - อีต่องปิล๊อค - เขาช้างเผือก - น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
13 รองเท้าผ้าใบกับใจสู้ๆก็พอ น้องเอ็มได้กล่าวไว้
3 เดินทาง 399โค้ง - เนินช้างศึก - อีต่องปิล๊อค - เขาช้างเผือก - น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
>>>>> 399 โค้ง <<<<<<
บอกตรงๆครับว่ามาครั้งนี้รู้แค่ว่าจะไปเขาช้างเผือก
ต้องผ่านอิต่องปิล๊อค ก็เท่านั้นเอง
หารู้ไม่ ว่ามีโค้ง 399 โค้งรออยู่ๆๆ ก็ขับกันเมามัน
และมึนหัวไม่น้อย โค้งทุกสี่เมตร T T
ความสมบูรณ์ถนนก็ 90% ครับมีหลุมบ้างนิดหน่อย
ขับรถด้วยความระมัดระวังครับ
ผมออกเดินทางด้วยรถยนต์จากกรุงเทพฯประมาณ 10:00
ใช้เส้นทาง หมายเลข 323 เป็นหลัก ขับรถตรงยาวๆ
แนะนำเติมน้ำมันช่วงกาญจนบุรีให้เต็ม
เพราะช่วงอำเภอทองผาภูมิสังเกตุว่าไม่ค่อยมีปั๊มเท่าไหร่
>>>>> อช.ทองผาภูมิ <<<<<<
ขับเรื่อยๆพักเรื่อยๆ ผมมาถึง อช.ทองผาภูมิ 17:00
ก็เลยลงไปสอบถามข้อมูลที่กางเต๊นท์
ว่ามีจุดไหนบ้าง เจ้าหน้าที่แนะนำดีครับ
ก็มีที่ อช.ทองผาภูมิ อ้อมกอดแห่งขุนเขา เนินช้างศึก
ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดี ก็เลยตัดสินใจขับมาต่อ
กะว่าจะไปดูที่เนินช้างศึกก่อน จะไปดูพระอาทิตย์ตกด้วย
ก็เลยขับรถต่อมาอีกครับ ระยะทาง 8 กิโลเมตร
เส้นทางก็มีหลุมหนักพอสมควร
พอมาถึงที่แรกจะเจอปากทางหมู่บ้าน
แต่ยังไม่ใช่โซนที่เค้าถ่ายภาพกันนะครับ
ถ้าหมู่บ้านอิต่องต้องมีสระน้ำหน้าหมู่บ้านครับ
เส้นทางก็จะผ่านน้ำตกจ๊อกกระดิ่น
แต่ไม่ได้แวะ เพราะเปิดให้เข้า 8:00-17:00
ตรงดิ่งไปเนินช้างศึกเลย
>>>>> เนินช้างศึก <<<<<<
ถึงเนินช้างศึกก็เกือบมืดและคนเยอะมากครับ
ที่จอดรถก็แทบไม่มีครับ ขึ้นไปก็ทำใจแล้วว่าแค่กลับรถ
แต่โชคดีมีรถลงเขาพอดีก็เลยได้จอดแวะถ่ายภาพ
บรรยากาศดีมาก น่ามาเที่ยวครับ
ปล.ไม่มีอาหารขายครับ
พอเสร็จจากเนินช้างศึกก็แวะไปต่อที่บ้านอิต่อง
แต่ไม่มีที่จอดอีกแล้ว ก็เลยมาหาข้าวกินที่ปากทางมู่บ้าน
เป็นร้านเล็กๆครับ ข้าวไข่เจียวซักจานก็ฟินแล้ว
สุดท้ายก็ตัดสินใจวนกลับไปกางเต๊นท์ที่ อช.ทองผาภูมิ
เนื่องจากว่ายังไงพรุ่งนี้เช้าก็ต้องมาลงทะเบียนเช้า
ผมมาวันที่ 1.1.2561 ฟรีค่าเข้าค่าจอดรถครับ
แต่ก็เสียค่ากางเต๊นท์คนละ 30 บาท
แล้วก็จ่ายค่าเข้าเขาช้างเผือกอีกผมจำรายละเอียดไม่ได้
แต่ว่าผมมาสองคนจ่ายไป 170 บาทเป็นของวันถัดไป
4 ลงทะเบียนก่อนขึ้นเขาช้างเผือก
การลงทะเบียนใช้เอกสารเป็นบัตรประชาชนตัวจริง
ของแต่ละคนครับ แล้วก็บัตรเข้าอุทยานที่ซื้อที่มา
เริ่มให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 6:00 - 9:00
ช่วงที่ลงทะเบียนก็จะได้กรอกเอกสาร
และจ่ายค่าเจ้าหน้าที่ โดยคิดจากคนทั้งหมด 60
ต่อเจ้าหน้าที่ 5 คน ดังนั้นจึงเฉลี่ยค่าใช้จ่าย
=(2500x5)/60 = 209 บาท แต่เก็บจริง 250 บาท
เผื่อคนที่มาไม่ถึง 60 คนครับ สามารถรับส่วนต่างคืนได้
เจ้าหน้าที่ก็จะเย็บบัตรเข้าอุทยานเข้ากับกระดาษ
โดยเราต้องเก็บเอกสารนี้ไปใช้อีกทีที่ทางเข้า
อีกข้อหนึ่ง ไม่ให้ลงทะเบียนล่วงหน้านะครับ
ต้องมาที่นี่เท่านั้นสอบถามเจ้าหน้าที่แล้วนะครับ
เสร็จการลงทะเบียนก็มุ่งหน้าไปที่บ้านอิต่อง
ก่อนถึงผมแวะหาข้าวเช้ากินและซื้อสเบียงอาหาร
ที่ปากทางหมู่บ้านครับ
เจ้าหน้าที่นัดเราไว้เวลาตั้งแต่ 8:00 เป็นต้นไป
วันนี้หาที่จอดรถที่บ้านอิต่องยากมากครับ
เพราะคนมาเที่ยวเยอะ เพราะไปไหนก็มีแต่ป้ายห้ามจอด
และพื้นที่ค่อนข้างน้อยครับ
พอได้ที่จอดแล้วก็จะแบ่งสองกลุ่มครับ
>>>>> 1 กลุ่มจ้างลูกหาบ
ให้ไปที่ศูนย์ป้องกันภัยประจำหมู่บ้าน
ลูกหายจะใส่เสื้อวินสีส้มดูง่าย ค่าใช้จ่ายเหมา 1300
ต่อ 30 กิโลกรัมต่อลูกหาบหนึ่งคน
ถ้าไม่ถึงก็รวมๆกับคนข้างๆดูครับ
ลูกหาบเค้าจะดูแลดีมากครับกางเต๊นท์ให้เรียบร้อยเลย
>>>>> 2 แบกของขึ้นเอง
ซึ่งบอกได้เลยครับมันมาก ฮ่าๆไม่เชื่อลองดู
สามารถที่จะไปรอที่สามแยกทางขึ้นได้เลยครับ
โดยการเดินตรงผ่านตลาดจนเจอป้ายทางเข้า
ซึ่งเป็นสามแยกพอดีเป๊ะ ถ้าเจอป้ายนี้แปลว่า
คุณมาถูกทางแล้ว
5 แปดกิโลเมตร เขาช้างเผือก
เตรียมตัวให้พร้อม เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
ร้องเท้าที่ไม่ลื่น หมวก ที่สำคัญที่สุดคือน้ำดื่มครับ
พกไปให้พอ และเป็นขวดเล็กจะดีมากเพราะหยิบได้ง่าย
ติดเกลือแร่ไปผสมน้ำด้วยก็ได้
เพราะต่อจากนี้ไปคือการ เดินตากแดดครับ ฮ่าๆ
เจ้าหน้าที่จะพาเราทางไกลไปเหมือนหมู่ลูกเสือสำรอง
ตอนแรกๆก็ยังเป็นกลุ่มอยู่ ซักพักก็จะเริ่มทิ้งระยะ
กันไปเรื่อยๆครับตามกำลังของแต่ละคน
เดินไปซักพักจะถึงจุดตรวจบัตรเข้าอุทยานครับ
ถ่ายรูปตามธรรมเนียมครับ
ทางเดินก็จะเป็นขึ้นลงเขาลูกเล็กแบบที่ค่อยๆ
ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ข้างทางเป็นหญ้าสูงตั้งแต่เข่าถึงหัว
บางช่วงเป็นทางชันมากๆ เดินอย่างระมัดระวังด้วยครับ
วันนี้ได้น้องเอ็มมาเป็นผู้นำทางครับ
เดินเขาครั้งแรกก็เขาช้างเผือก
เส้นทางมีจุดให้พักตั้งแต่สี่กิโลขึ้นไปครับ
โดยจะมีป้ายบอกเป็นจุดๆไป
ใช้เวลาเดินทางตามมาตรฐานครับ 4 ชม
ปล. ทางแยกทุกทางมาบรรจบกันครับ
แนะนำคำเดียวเลยว่า "เดินทางที่ไม่ชัน"
ยอดเขาที่เป็นเป้าหมายวันนี้
6 จุดกางเต๊นท์ และห้องน้ำ
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความสุข
กับแสงแดดที่แรงกล้าแล้ว เราก็จะมาถึงจุดกางเต๊นท์
มาถึงก็หาทำเลเหมาะๆกางเต๊นท์ได้เลย
พักกับแบบชิคๆ 1 ห้องนอน 3 ห้องน้ำกันเลยทีเดียว
ดูภาพตัดสินใจกันเองครับ ว่าไหวไหม
พอถึงแนะนำว่าเปลี่ยนชุดแล้วตากเลยครับ
เพราะคืนนี้คิดว่าไม่น่าจะมีคนได้อาบน้ำแน่นอน
7 สันคมมีด และความสูง 1,249 เมตร
มาถึงจุดที่ทุกคนรอคอยจะมาเจอสักครั้ง
นั้นก็คือสันคมมีด ที่เรียกว่าได้เสียวสุดใจ
เนื่องจากจุดนี้จะต้องปีกผาเพื่อขึ้นไปสู่จุดยอดเขา
กับทางเส้นทางเดินบนสันเขาที่กว้างไม่ถึงเมตร
จับอะไรได้ก็พยายามจับไปนะครับ เจ้าหน้าจะประกาศ
เพื่อเรียกคนที่อยากจะขึ้นไปได้เตรียมตัว
ส่วนเวลานั้นแล้วแต่เจ้าหน้าที่ครับ
ของผมขึ้นไปประมาณ 15:40 เดินแถวเรียงหนึ่ง
ดูจากภาพก็รู้ครับ ไม่เหนื่อยเลยซักนิด ฮ่าๆ
อาหารเย็นคืนนี้คือ ขนมปังและปลากระป๋อง
และน้ำพริกปลากระป๋อง กินแต่พออยู่
คืนนั้นเป็นคืน Super moon พอดี สว่างวาปทั้งคืน
ขากลับผมตื่นมาประมาณ 6:40
จริงๆแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะลมแรงมาก
เก็บเต๊นท์แปรงฟันล้างหน้าเตรียมของเดินทางกลับทันที
ทีแรกก็คิดว่าไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น
เพราะว่าทิศทางของเขานั้นมันตรงกับตะวันออก-ตกพอดี
เลยคิดว่าไม่เห็นแน่นอน
แต่ช่วงสายๆ อาทิย์ก็ออกมาซะงั้น ก็กดชัตเตอร์รัวๆไป
ออกเดินทางจริงๆก็ 7:30 เดินช่วงเช้าจะดีกว่าครับ
เพราะแดดจะได้ไม่ร้อนมากแวะ
พักทุกจุดกินข้าวไปเรื่อยๆครับ
เติมพลังเพราะแบกของแล้วเหนื่อยมากครับ
สำหรับขากลับเดินง่ายกว่ามากครับ
เพราะส่วนใหญ่จะเป็นขาลง
ใช้เวลา 3:30 ชม ก็ถึงแล้วครับ
ขากลับบนี่ท่องอยู่อย่างเดียวเลย "โคลาๆ "
สามารถไปรับใบประกาศณียบัตรได้ครับ
แต่ผมไม่ได้ไปรับเลยไม่รู้แน่นอน
แต่พี่เค้าบอกว่าไปเอาที่เขาเย็น
8 อิต่องปิล๊อค
พูดถึงอิต่องปิล๊อคเล็กน้อย เป็นหมู่บ้านเล็กๆมีโฮมสเตร์
และบรรยากาศของขุนเขา
สามารถเดินเท้าจากหมู้บ้านไปเนินช้างศึกได้
มีแผ่นไม้ที่ทุกคนเขียนข้อความลงไป
และมีน้ำกลางหมู่บ้าน ชิคเนอะ
ปล.ไม่มีภาพเนื่องจากเซฟทับแล้วหายหมดเลย
9 น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
จัดว่าเป็นแพ็คแก๊จ เพราะมาที่นี้สามารถเที่ยว
ได้ทั้งเขา หมู่บ้าน และน้ำตก
ซึ่งถ้าเดินเขาช้างเผือกมาคิดว่าสามารถใช้บัตรเข้าอุทยาน
ยื่นให้เจ้าหน้าที่ได้เลยไม่ต้องซื้อใหม่
แน่นอนครับเดินเขามาก็ต้องอาบน้ำ
ไม่มีที่ไหนดีเท่าที่นี้แล้วครับ
แต่ขอบอกเลยว่าน้ำเย็นเฉียบ
10 เงิน
ค่าน้ำมัน+ทางด่วน ----------925
ค่าอาหารช่วงขึ้นเขา --------338
ค่าอุทยาน วันแรก ( 110 ) -----0
ค่ากางเต๊นท์ -----------------60
ค่าอุทยาน วันขึ้นเขา --------170
ค่าเจ้าหน้าที่ ---------------500
อาหารทั้งหมด -------------855
ของฝาก -------------------130
>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 2978
หารสองก็ตกคนละ 1489
เขาช้างเผือกขึ้นชื่อเรื่องจองยาก ก็ยากจริงๆครับ
จุดชมวิวเส้นทางการเดินทางถือว่ายอดเยี่ยมครับ
มาทีเดียวได้เที่ยว 3 ที่เลย
ภาพมาไม่ครบ เพราะเซฟภาพจาก iphone ทับ Canon
ชื่อและเลขที่รันมาทับกันพอดีอะไรมันซวยขนาดนั้น
#บางทีมันก็แค่มาถึงสุดทางแล้วก็เดินกลับแหละครับ แต่เราก็ยังมากัน เอ็มได้กล่าวไว้
#แต่ก็พี่มาถึงแล้วเด้ออ ฮ่าๆ
#ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวครับ
#Gtrip
สามารถเลี้ยงกาแฟครีเอเตอร์ผ่าน Ko-fi ผ่าน Link ด้านล่าง เพื่อเป็นกำลังใจครับ
ฝากเพจจ้า https://www.facebook.com/Gtrip9/
GIFT9 เลขเก้าไม่ออกเสียง
วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 22.25 น.