หลายครั้งที่เราตั้งคำถามกับตัวเอง

ว่าทำไมคนที่เราอยากให้เค้าเกิดมาเพื่อเรา..เขาถึงไม่อยากอยู่กับเรา

หลายครั้งที่เราคาดหวัง...แต่ตามมาด้วยความผิดหวัง

ทำไมความรักถึงดึงเราออกจาก comfort zone ของตัวเองได้

แต่ไม่เคยพาเรากลับมาอยู่ที่เดิมได้เลย

ทุกครั้งที่ผิดหวัง..ความรักไม่เคยเยียวยาจิตใจ

มีแค่เรา..ที่ต้องลุกขึ้นมารักและเห็นคุณค่าของตัวเองอยู่ทุกครั้งไป



วันนี้จะพาไปเที่ยว จ.น่าน และภูลังกาค่ะ แต่เปิดมาด้วยความดราม่า เพราะรักไม่สมหวังของ จขกท.



เรากลัวที่จะรัก แต่เรายังอยากมีความรัก



แปลกดีเหมือนกันนะคะ



ทริปนี้ไปเดินทางกันช่วงกลางเดือนกันยายนค่ะ

เป้าหมายของเราคือได้ไปเห็นทุ่งนาเขียวๆสุดลูกหูลูกตา

เห็นตามเว็ปท่องเที่ยวต่างๆมาเยอะ ในที่สุดวันนี้ก็เป็นของเรา



ฤดูกาลท่องเที่ยวจ.น่าน แนะนำให้มาช่วงเดือน กย. - ตค. นะคะ เป็นฤดูทำนา จะเขียวไปหมด สวยและฟินมากๆ



เราเดินทางจากกรุงเทพ โดยสายการบิน air asia ลงสนามบินน่าน การเดินทางสะดวกเพราะสนามบินอยู่ในเมืองค่ะ



เช่ารถ ได้น้อง vios คู่ใจ พาเราไปได้ทุกที่ที่มีทาง



เริ่มทริปจากในเมืองน่าน ด้วยข้าวซอยชื่อดัง ร้านต้นน้ำ อยู่ติดกาดเมืองน่านและใกล้ๆกับวัดภูมินทร์ค่ะ อร่อยมาก แนะนำให้มากิน



เข้าไปไหว้พระวัดภูมินทร์ ด้านในจะมีภาพฝาผนังชื่อดัง "ปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรักบันลือโลก"

เราชอบดอกไม้ที่ใช้ไหว้พระมาก



ส่งโปสการ์ดความหมายดีๆ มีแค่คำว่าคิดถึง แค่นี้คนรับก็คงจะดีใจแล้ว แต่กับบางคน..คงไม่อยากแม้แต่จะรับมันไป

เรามุ่งหน้าต่อไปทาง จ.พะเยา เพราะวันนี้จุดหมายคือ "ภูลังการีสอร์ท หรือ ภูลังกาบ้านสวน"



ระหว่างทางที่ทำเราแทบไม่กล้าละสายตา



ภูมิประเทศเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุด ที่เต็มไปด้วยหมอก ต้องขับอย่างระมัดระวัง เปิดกระจกสูดไอหมอกไป



พอใกล้ถึง จะเจอวิวนี้ระหว่างทาง มันสวยจนสะกดให้เราต้องหยุดชื่นชม แม้รู้ว่าไม่นานเราจะต้องจากกันไป แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ได้มองเห็นความงามของกันและกัน มันก็คงจะคุ้มแล้ว



บางครั้งที่เราออกเดินทาง เราไม่รู้ว่าทางข้างหน้าเป็นยังไง รู้แค่ว่ามันเสี่ยงที่ต้องไป รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด แต่ก็ยังอยากเดินทางไป เพราะรู้ว่าปลายทางมันสวยงาม หอมหวานเหลือเกิน

แต่เราลืมคิดไปว่าพอถึงกลางทาง ถนนอาจจะพัง หมอกอาจจะบังจนไปต่อไม่ได้...



จุดชมวิวถ้ำสะเกิน ช่วงที่มีหมอกลงหนา สวยมากเกินบรรยาย



จุดชมวิวบางจุดไม่มีชื่อ เราไม่รู้ประวัติความมา แต่พอได้ลองเข้าไปดูมันช่างสวยเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ต้องโบกมือลา เพราะมันไม่ใช่ที่ของเรา



"ภูลังการีสอร์ท หรือ ภูลังกาบ้านสวน"



รู้จักสถานที่นี้จากเพจท่องเที่ยวและกระทู้ท่องเที่ยวจนภาพติดตาและอยากมาด้วยตัวเองซักครั้ง

บ้านพักทุกหลังบรรยากาศดี หันออกไปเห็นวิวผาช้างน้อย

อากาศก็แสนดี มองไปทางไหนก็เขียวชุ่มชื่นหัวใจไปหมด

ธรรมชาติบำบัดจิตใจเราได้กีเหมือนกันนะ



วันที่ท้องฟ้าเปิด ถ้าเราได้มานอนกุมมือ มองดาวด้วยกัน มันคงจะดีนะ



เค้าบอกว่าบางครั้งที่นี่ก็มีทะเลหมอกเที่ยงคืน ถ้าเราโชคดีอาจจะได้เจอ แต่เราคงโชคร้ายไปหน่อย รอเที่ยงคืนก็ยังไม่มา

แต่อย่างน้อย ตีห้าทะเลหมอกก็มา อาจจะจริงที่คนที่เกิดมาเพื่อเรา เค้ารอเราอยู่ เหมือนที่ทะเลหมอกรอมาเจอเราตอนตีห้าวันนี้ มาช้ากว่าที่คิดไว้ซักหน่อย แต่ก็คงต้องมาสักวันสิเนอะ



สีม่วงที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

แต่งหน้าด้วยแสธรรมชาติ ^^



อาหารเช้าเป็นข้าวต้มและกาแฟร้อน

วิวแบบนี้เพิ่มความอร่อยไปอีกหลายเท่าตัว

อีก Signature ที่สำคัญของภูลังกาคือร้านนี้



"Magic mountain"



เดินจากภูลังการีสอร์ทไม่ไกล เป็นคาเฟ่ที่วิวดีมากที่หนึ่ง



เมนู signature ที่เราจำชื่อไม่ได้ แต่ยังจำรสชาติได้ น้ำแดงหวานๆกับกาแฟรสขม ที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่กลับเข้ากันได้ดี ต่างกับเราที่เข้ากันไม่ได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ปรับให้เข้ากันได้เลย หรือเราไม่ควรจะมาพบกันตั้งแต่แรก...



ขนมปัง กาแฟที่นี่อร่อยดี เจ้าของร้านดูใส่ใจและเป็นกันเองดีค่ะ



ลานช่างภาพสำหรับนักล่าหมอก ^^



"ปัว"



ชื่อที่หลายคนคงคุ้นเคย

ถ้าบอกใครว่าจะมาดูวิวทุ่งนาที่นี่ หลายคนคงทำหน้างงๆ

ตามมาด้วยคำถามว่าแถวบ้านก็มีให้ดูไม่ใช่หรอ?

แต่ถ้าได้มาเห็นด้วยตัวเองซักครั้ง คงต้องเปลี่ยนใจ



วิวหลังวัดภูเก็ต ทุ่งนาสีเขียว เป็นระเบียบ รายล้อมด้วยวิวภูเขา อยากให้มาดูด้วยตาซักครั้ง เราว่ามันดีนะ



"ร้านลำดวนผ้าทอ"



"ตานงค์โฮมสเตย์"

เราแวะมากินกาแฟ แล้วพบว่าเป็นที่พักที่ดีมาก วิวสวยมาก ถ้าจองทันแนะนำให้เลือกค่ะ



มีทางเดินไม้ไผ่ให้เดินผ่านทุ่งนา มีศาลารับลมเย็นๆให้นั่งพักและชมวิว



และที่พักของเราคืนนี้ "ปัวกู๊ดวิว"

ห่างจากตัวอ.ปัวประมาน 7 กม. เป็นที่พักเปิดใหม่ ตอนที่ไปยังต่อเติมอยู่ แต่วิวดี เจ้าของน่ารักเป็นกันเองมากค่ะ



"อุทยานแห่งชาติดอยภูคา"



ตามหาถนนลอยฟ้าในตำนาน เส้นทาง อ.ปัว - บ่อเกลือ



ระหว่างทางมันสวยมาก เราทุกคนตั้งใจดูว่าตรงไหนที่เรียกถนนลอยฟ้า หลายครั้งที่เราจอดรถแต่พบว่ามันยังไม่ใช่ หลายครั้งที่เราท้อใจว่าอาจจะมาผิดทาง แต่ในที่สุด เราอดทนและตั้งใจ จนได้เจอถนนลอยฟ้าที่เราอยากเจอ



อาจจะเหมือนความรักครั้งนี้ ที่มันยังไม่ใช่ เราแค่ยังไปไม่ถึงถนนที่เราต้องการ เค้าอาจแค่ผ่านมาทำให้ใจเต้นแล้วก็จากไป ก็แค่นั้น



แต่จริงๆแล้ว มันก็สวยงามไม่น้อยไปกว่าจุดหมายปลายทางเลย



ถนนลอยฟ้า



"จุดชมวิว 1715"

จุดที่สูงสุดของ อท.ดอยภูคา หมอกไหวเวียนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา หมอกไม่มีวันอยู่ที่เดิมได้ตลอดไป...



ทริปน่านจบแล้ว ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตรงนี้

รายละเอียดอาจไม่มาก ใครสนใจตามรอยสามารถสอบถามได้นะคะ



อย่างน้อยการนั่งทำกระทู้วันนี้ก็ลดความฟุ้งซ่านของคนโดนเทไปได้มากเลย



เราพยายามประคับประคองความรักมากเกินไป

จนทำทุกอย่างพัง และลืมไปว่า

"ความรัก มันไม่ต้องใช้ความพยายาม"

ฝากติดตามเพจท่องเที่ยวเล็กๆของเราด้วยนะคะ https://www.facebook.com/eatfortravel/ :)

กลิ้งไปเที่ยว

 วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.19 น.

ความคิดเห็น