กลับมาจากเที่ยวสดๆร้อนๆ เมื่อ 28-31 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ผิวยังไม่ทันหายดำเลย พอว่างปุ๊บเลยมารีวิวปั๊บ เพราะไม่งั้นดองรีวิวอีกแน่ ดองจนไม่ได้รีวิวไปหลายทริปแล้ว คราวนี้เป็นมัลดีฟท์ ที่เราอยากไปมานานมากแล้ว แต่เพราะราคาก่อนที่จะมีข้อมูลนั้น หลายหมื่น เลยแบบ โอ๊ยๆ เสียดายตังค์จังเลย อยากไปทำไงดี

อะ พอดีมีตั๋วโปรแอร์เอเชียมาใช่ไหม จองเลยค่ะ เพื่อนคนอื่นไม่ไปไม่สน เหลือ 2 คน ตุ๊ดกับชะนีอีก 1 นาง ก็จอง ได้ราคาไปกลับมาที่ 6,030 บาท โอ๊ย ราคาดีงามมาก ไม่ Add-on อะไรทั้งสิ้น แบกกระเป๋าขึ้นเครื่องก็ได้

ได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว เราก็มาวางแผนหาที่พัก ตอนแรกก่อนหาข้อมูล คิดว่าที่พักกับการเดินทางแพงแน่ๆ แต่พออ่านรีวิว โอ๊ยเธอ มีถูกเพียบ ไม่นอน Water Villa ก็ได้ นอนแบบตามเกาะชาวบ้านงี้ วางแผนเสร็จสรรพ ออกมาตามแผนนี้เลย



ฝากกระทู้เก่าหน่อยครับ

1.รีวิว ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน ตามประสาครับ : http://pantip.com/topic/32090888

2.เวียดนามใต้ไม่ไปไม่รู้ แต่ถ้ารู้อาจไม่อยากไป : http://pantip.com/topic/33104901

3.รีวิว เที่ยวอุบลราชธานี คนเดียว ฉบับตุ๊ดสู้แดด : http://pantip.com/topic/33575529

4.ไปเที่ยว Okinawa 3 วัน 2 คืน แบบสั้นๆ ประหยัดๆ ตามประสาคนวันลาหมด : https://pantip.com/topic/37223799



ก่อนบินก็เตรียมเช็คอินล่วงหน้า เช็คได้แต่ขาไป ขากลับไม่ได้ บอกต้องไปเช็คที่สนามบินมัลดีฟท์เอง เออๆก็ได้ เช็คแค่ขาไปพอ แต่นี่ก็เช็คผ่านคอมฯไม่ได้อีก ต้องเช็คผ่านมือถือแล้วไปปริ้นท์ตั๋วที่ตู้ KIOSK เมื่อถึงวันบิน ไปปริ้นท์ตั๋ว อ้าว ต้องไปเช็คอินอีกอยู่ดี ถึงแม้ไม่โหลดกระเป๋าก็เหอะ แต่แจ้งน้องฝึกงานเลย เขาพาไปแถวที่แค่เช็คตั๋วแค่นั้น ดังนั้นเผื่อเวลาขาไปด้วยนะจ๊ะ หรือถ้าคนอื่นปริ้นท์แล้วไปได้เลยก็ดีใจด้วย นี่น่าจะแต้มบุญน้อย ติดขัดไปหมด

ขึ้นเครื่องก็บินไปยาวๆเลยจ้า 4 ชั่วโมงครึ่ง ตอนลงก็ลงไม่ได้บินวนไปอีก 10 นาทีจะอ้วกแตกตาย แต่วิวนอกหน้าต่างสวยมาก ตามรูปบนเลย และตอนแรกอ่านรีวิวมาว่าจะมีแจกใบ ตม. บนเครื่อง แต่สายการบินไม่แจกใบ ตม. ต้องลงมาเอาที่สนามบิน velana เขียนตรงนั้น คนเยอะอีก วุ่นวายมาก แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ออกมาปุ๊บ ด้านขวาเดินไปซื้อซิมได้เลยจ้า ของ Ooredoo มีหลากหลายราคา นี่กลัวไม่พอ ซื้อ 15GB 7 วัน ราคา 22$ อืมเอาเรื่องอยู่ แต่ขอบอกเลยถ้าใช้คนเดียวนี่มากไปจริงๆ ซื้อแบบ 3GB ก็พอ

ด้านซ้ายเป็นธนาคารแลกเงินก็แลกไป 40$ ได้มา 600 รูฟียา และเดินเลยไปด้านหน้าจะเจอตู้ขายตั๋วเรือไปเกาะเมือง Male ซึ่งบอกเลยอีสนามบินนี้ ป้ายเป้ยอะไรก็ไม่มีบอกนัก ถามใครก็งง อาศัยอ่านรีวิวมา แต่ถ้าใครพักโรงแรมที่มีรถหรือเรือมารับ เขาก็จะถือป้ายรอเลย สบายหน่อย นี่เดินมาหาท่าเรือเอง ตู้ขายตั๋วอยู่แถว เบอร์เกอร์คิงนะจ๊ะ ซื้อตั๋วตกคนละ 1$ ราคาโอเค เดินข้ามถนนเล็กๆมา เจอท่าเรือ โอ๊ยน้ำใสมากค่ะคุณ

แต่ยืนถ่ายรูปแป๊บเดียวเขาก็ต้อนขึ้นเรือเลย แถมกระเป๋าไม่ให้เราถืออีก พ่อคุณเด็กเรือจะยกเอง เอาเลยจ๊ะพ่อ เอาที่สบายใจนะ เอาตั๋วให้เขาแล้วก็ขึ้นเรือไปเกาะ Male กันเลย

ซึ่งเราจะไปเกาะ Maafushi เราก็ต้องไปขึ้นเรือที่ Male เนาะ สนามบินก็เกาะนึง Male ก็เกาะนึง เห็นเขากำลังทำสะพานเชื่อมเกาะ Male กับสนามบิน ต่อไปอาจไม่ต้องนั่งเรือแล้วก็ได้

นั่งมาประมาณ 20-30 นาที ถึงฝั่งเกาะ Male แล้ว คือสนามบินกับเกาะเมืองนี่คนละเกาะกันเนาะ แล้วพวกเราจะเรียก Taxi ไปท่าเรือ ที่จะไปเกาะ Maafushi ซึ่งก็ต้องไปท่าเรือ Villingili Ferry Terminal แต่คุณคะ การจะเรียกแล้วขึ้นเลยนี่ไม่ได้นะคะ ควรบอกปลายทางแล้วถามราคาก่อน ซึ่งเจอแต่เรียกราคา 5$, 10$ มองซ้ายขวาเอาไงดี เจอน้องคนไทยที่นั่งข้างกันบนเครื่องบิน มาเที่ยวกับแฟนต่างชาติ เลยติดสอยห้อยตามเขาไปท่าเรือด้วยกัน 4 คน 4$ โอ๊ยได้ค่ะ ไปๆ ไปทางเดียวกัน หารกันเนาะ แล้วแฟนน้องเขาก็ชวนแท็กซี่คุย จ้าถูกคอจ๊ะ ขับรถพาวนดูเมืองอีก โอ๊ย ลุงคนขับไม่ต้องใจดีก็ได้ค่ะ รถลุงก็ไม่ได้แอร์เย็นนะคะ ลมจะจับ

พอถึงท่าเรือ หาเงินที่แลกมาไม่เจอ ตกใจ ค้นอยู่นาน จนไปเจอในพาสปอร์ต ใจหล่นมาก กลัวหาย ก็ซื้อตั๋วไป Maafushi คนละ 22 รูฟียา ถ้าเป็นเงินดอลล่าร์ก็ 2 คน 3 ดอลล่าร์นะ อันนี้จ่ายรูฟียาถูกกว่านิดนึง เรือไป Maafushi มีวันละรอบเวลา 15:00 น. ตกแล้วตกเลย อย่าพลาดนะคะ

ไม่งั้นก็ต้องหาสปีดโบ้ทไปเองค่ะ ตอนนั้นดูเวลา หืม บ่ายโมงครึ่งเอง เดินไปดูบ้านเมืองเขาหน่อยละกัน อ่อเวลาที่มัลดีฟท์ ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมงนะคะ ปรับเวลาดีๆ เดินๆไปก็ต้องร้องอุทานว่าโอ๊ย!!!! การจราจร ยุ่งเหยิงเป็นสายไฟกรุงเทพฯพันกันเชียว หลบรถดีๆนะ รถพร้อมชนเราตลอดเวลา นี่ก็เดินมาหาซื้อน้ำ เจอร้านค้าเล็กๆ ร้านนึง เออมีขนมของไทยด้วย โก๋แก๋งี้ ได้น้ำกับมันฝรั่งแผ่นมาตุนเป็นเสบียงเอาไว้

ก่อนจะกลับไปท่าเรือเจอน้องคนไทยที่มากับแฟนเดินหา Wifi เพราะมีปัญหาเรื่องบัตรกดเงิน ต้องติดต่อกลับไปยังไทย ซึ่งร้านแถวนั้นแม้แต่ร้านกาแฟยังไม่มี Wifi เลยจ้า เราเลยให้แฟนของน้องต่อ Hot spot จากเครื่องเราไป ใช้ติดต่อเรื่องบัตรจนกดเงินได้ ยามอยู่ต่างแดนก็ช่วยเหลือกันไปค่ะ คนไทยด้วยกัน

พอได้เวลาก็ขึ้นเรือ กันไป บนเรือมีน้ำมีขนมขายด้วยนะ นั่งไปยาวๆ เลยชั่วโมงกว่าๆ แต่ จุดแรกที่จอดคือเกาะ Gulhi อย่าเพิ่งลงนะคะ เพราะของเราคือเกาะถัดไป Maafushi ค่ะ ก็นั่งต่อมาถึงเกาะ ประมาณ 16:30 น. ได้ เจอคนมาถือป้ายต้อนรับเต็มไปหมด แต่ดูดีๆนะคะ Arena นี่มีหลาย Arena มาก ของเรา Arena Lodge Sky ก็ไปตามป้ายเลย มีคนมารับแล้วเข็นกระเป๋าไปให้เรา ถ้าใครยังไม่แลกเงินรูฟียามา ก็ฝากน้องเข็นกระเป๋าไปแลกได้นะ เข้าที่พัก เจ้าหน้าที่ก็แจกแจงรายละเอียด บอกแผนที่ในเกาะ ตรงไหนใส่บิกินี่ได้ โรงแรมอยู่ตรงไหน ประมาณนั้น ได้ใบพร้อมแพ็คเกจทัวร์ต่างๆ มา เราก็เลือกแล้วแจ้งเขาไป ว่าพรุ่งนี้เราจะไป Half Day Adventure Tour และอีกวันจะไป Day Visit : Adaaran Prestige Vadoo Resort เขาก็จะแจ้งเวลาว่าวันพรุ่งนี้เจอกัน 9 โมงนะ เราก็โอเค เก็บของไปเดินเที่ยว อ่อ รีสอร์ทมีรายการทัวร์ให้เรา ราคาเรือแบบสปีดโบ้ทด้วย ลองดูเลยตามนี้ครับ ขอเขามา

ก็เดินเที่ยวไปช่วงด้านชายหาดของเกาะ ที่เขาบอกว่าลงเล่นน้ำแบบใส่บิกินี่ได้ เดินถ่ายรูป ดูทะเลกันไป

เราเดินจากรีสอร์ทไปแถวๆ Arena Beach นะครับ

และมื้อเย็นของเราวันนี้ ก็ไปสะดุดตากับร้านบุพเฟ่ต์ ร้านนึง ตกหัวละ 15$ เราเลย เอาร้านนี้ละกัน น่าจะโอเค อาหารโอเคครับ ใช้ได้ รสชาติกลางๆ พอรับได้กับราคา นั่งกินกับบรรยากาสแสงเทียน สายลมทะเล ช่างโรแมนติกเชียว เสียดายมากับชะนีพี่ มองหน้ากันแล้วฟินไม่ลง 555 เสร็จแล้วก็กลับเข้านอนพักผ่อนเตรียมลุยวันรุ่งขึ้น

เช้ามาต้องมาจ่ายเงินค่าทริปที่จองไว้ คือจอง Half Day Adventure Tour ไปดำน้ำ ดูโลมา คนละ 25 $ กับทริป One Day ที่เราจองไว้ซะแพง คือคนละ 150$ (มีแบบธรรมดาที่ 85-110 $ ) ก็มี แต่เราเลือกสปาด้วย เอามาให้หมดมีทำอะไร เอามา เกินงบที่ตั้งไว้แล้ว แต่ช่างมัน

อะพอรวมแล้วก็ 350$ ก็จะจ่ายเงินอะเนาะ ซึ่งอีพนักงานโรงแรมพูดอิ๊งค์รัวมาก อ ด ฟังไม่เคยทันซักรอบ และตอนจ่ายความซวยก็มา ไม่รับแบงค์เก่า แบงค์ขาด แบงค์มีรอยขีดข่วน แบงค์เปื้อน แบงค์ยับค่ะ แล้วอีพี่ชะนีที่มาด้วย แลกแบงค์แบบที่กล่าวมาล้วนเลยค่ะ นี่ก็ควักหมดทุกแบงค์แล้ว บัตรเครดิตไม่ได้เอามา เพลียสุด เงินอยู่ในบัตร ATM ง่อยๆที่ทำอะไรไม่ได้ จนต้องเอาเงินรูฟียาที่แลกมารวมๆจ่ายไป โอ๊ยได้ แต่แล้วไง เหลือเงิน 8$ กับอีก 300 รูฟียา(15 รูฟียา=1 $) มองหน้าพี่แล้ว เอาไงดีๆ เลยขอให้เพื่อนโอนเงินเข้าบัตรเดบิตกสิกรไทยให้ และเดี๋ยวกลับจากทัวร์ค่อยไปกดเงินมาใช้ละกัน อะโล่ง เรื่องแรกผ่านไป

รอจะไปขึ้นเรือทัวร์ หืม เปลี่ยนเวลานัดค่ะ ลากยาวจาก 9 โมงไปเกือบ 10 โมง ก็มีคนพาพวกเราเนี่ยไปรวมกับคนจากโรงแรมอื่น แจกผ้าเช็ดตัว ให้เลือกชูชีพ Snorkel พอได้มา ชูชีพขาดอีกค่ะ เลยไปเปลี่ยน พนักงานนางบอกเหลือแต่ตัวเล็กๆ ตัวใหญ่อย่าง จขกท.ไม่น่าใส่ได้ นี่มองแรงใส่แล้วบอกนางว่า เอามา เราจะใส่ รมณ์เสีย

ได้ชูชีพมานั่งเรือ แจกน้ำคนละขวด พาไปจุดดำน้ำจุดแรก คนดำน้ำตื้นไม่เป็น เธอควรมีตีนกบค่ะ อีนี่ไม่ไปหยิบมาตอนแรก คิดว่าเกะกะ โอ๊ยว่ายไปเอาขาตีน้ำไปจนถ้ามีอี๊ อี๊คงฉีกไปแล้ว แล้วไงอีกรู้ไหม ตุ๊ด ไม่มีคนสนใจ เด็กเรือสนใจแต่ชะนี ยิ่งแบบชะนีพี่ที่ไปด้วยกัน เด็กเรือนางจูงมือประกบเลยค่ะ พาว่ายไปสวยๆ คือแบบคุณน้องคะ สนใจตุ๊ดด้วย เราว่ายน้ำไม่แข็ง แถมเด็กเรือนางมีการบอกว่าถ้า You ว่ายไปที่ลึก ตรงผิวน้ำดำๆ You ดูแลตัวเองนะ I ไปช่วยไม่ได้ I ช่วยได้แต่ตรงน้ำตื้น OK นะ ค่ะ!!! OK ก็ OK กูว่ายเองก็ได้ อี snorkel นี่ก็ใช้ยาก ต้องปิดหน้าปิดจมูกหายใจไม่ออก คือเราไม่เคยใช้ไง นี่ต้องอมอีท่อหายใจ โอ๊ยไม่รู้อมมาไม่รู้กี่คนละ แต่นึกในใจ ทีอย่างอื่นยังอมกันมาหลายคนยังอมต่อได้ เช่นที่เป่าแอลกอฮอลล์ 555 เลยเออๆ ใช้ไป ขอบอกการดำน้ำตื้นไม่ใช่ทางเราจริงๆ ขอผ่านค่ะ แต่น้ำใสมากๆ ดูจากคลิปเลย

เสร็จดำน้ำจุดแรกก็ไปดำน้ำตื้นจุดสอง จุดนี้ปลาเยอะมาก นี่ก็ว่ายด็อกๆแด็กๆ ตามประสาไป สวยดี แต่ไม่มีกล้องใต้น้ำ เลยไม่มีรูปให้ดูนะคะ แนะนำไปดูด้วยตาตัวเองจะงดงามที่สุด (พยายามหลอกคนอื่นไปสำลักน้ำกับเรา 555)

ต่อจากดำน้ำ ไปดูฝูงโลมา โอ้โห เกิดมาเพิ่งเห็นฝูงโลมาเยอะกับตามากขนาดนี้ จุดนี้นั่งบนเรือถ่ายรูปโลมาไปนะคะ ใครอย่าเผลอกระโดดตามพวกโลมาไปละ คือ น่ารักมากพวกนางว่ายกระโดดไปมา บางตัวมีกระโดดบิดตัวโชว์ด้วย รู้งานจริงๆ อันนี้ ฟิน ชอบ น่ารัก

จุดสุดท้าย มากินอาหารกลางวันที่ Sand Bank จุดนี้เป็นเหมือนทะเลแหวกอะ เป็นเกาะทรายเล็กๆ ขึ้นมากลางทะเล สวยมาก ลงไปเล่นน้ำถ่ายรูปเพลินเลย และทางน้องๆพนักงานบนเรือ ก็เอาน้ำมาแจกคนละกล่อง ข้าวอีกคนละกล่อง เป็นผัดมาม่ากับไส้กรอกแดงดินประสิว และไก่ อ่อๆ มีสลัดให้มาตักเอาด้วย เรารับได้ ไม่คิดมาก หิว กินไป ชมวิวทะเลไป ดีงามค่ะ ขยะก็ทิ้งใส่ถุงที่เขาเตรียมมานะคะ ไม่ต้องร่อนกล่องโฟมไปกลางทะเลเนาะ


และเรื่องสุดพีค คือ อิฉัน ก็คือ กระแดะอยากถ่ายรูปโดยยืน กับนั่งในน้ำแบบอารมณ์สวยๆ คลื่นซัด โอ๊ย อ ด ไอโฟนร่วงลงน้ำ เคสที่ใส่มาเปียกน้ำแยกออกเป็น 2-3 ส่วน นี่พังมาก เรานี่แทบกรีดร้องให้โลมาและปลาทั้งทะเลมัลดีฟท์รับรู้ถึงความสะเทือนใจของเรา หยิบมือถือขึ้นมาแบบจะร้องไห้ อุตส่าห์มาทริปประหยัด ต้องมาเสียเงินค่าซ่อมไอโฟนใช่ไหม จะเป็นลม จากหมื่นห้า กลายเป็นเสียรวมๆ สามหมื่นเลยทีนี้ แล้วไง ใช้โทรศัพท์ไม่ได้ นอยด์แ-ก ไม่มีโทรศัพท์กับไม่มีสามี นี่ขอเลือกไม่มีสามีนะ พังมาก บรรลัยมันเข้าไปอีก ตอนนั้นจะบ่ายสองแล้ว ทัวร์เลยพากลับ เรานี่นั่งซึมตลอดทาง ฮือ และนี่คือรูปสุดท้ายที่ไอโฟนถ่ายได้ก่อนจมลงน้ำทะเลมัลดีฟท์ เมิงมาจมไกลบ้านมากค่ะ

และก็คือซ่อมไม่ได้ พังค่ะ เพลีย ร้องไห้

หลังจากผ่านจนกลับมาถึงที่พัก จะไปกดเงินที่เพื่อนโอนมาให้ มีคนกดอยู่ และยืนกดกัน 6-7 คน ยืนอยู่ครึ่งชั่วโมง จนทนไม่ได้ละ กลับมานอนก่อน ไม่มีแรงไปเดินเที่ยว ยังสะเทือนใจกับโทรศัพท์ตกน้ำอยู่ นอนจนค่ำๆ เลยจะออกไปหาข้าวเย็นพร้อม ไปกดเงินอีกรอบ โอ๊ยบรรลัยค่ะ บัตรเสียบไม่เข้า รูเล็กไป นี่นอยด์เข้าไปอีก ต้องเดินไปหาข้าวกินพร้อมเงิน 8 $ กับ 300 รูฟียา(15 รูฟียา=1 $) ก็คิดว่าเอาร้านไหนดีๆ จนมาเจอร้านบุพเฟ่ต์โรงแรม Kaani คนละร้านกับเมื่อวาน บุพเฟ่ต์ 2 คน ราคา 25 $ เลยขอเอาบัตรเดบิตรูดละกัน พนักงานนางก็ไล่ให้ไปกินก่อนค่อยมารูดทีหลัง เราบอก You ต้องรูดเดี๋ยวนี้ เดี๋ยว I ไม่มีจ่ายนะ ไม่รู้รูดได้ไหม นางเลยรูดให้แบบงงๆ เอาบัตรลากฟึ้บ แคร่กๆ เสียงสลิปออกมา หันมามองหน้าพี่ รอดแล้ว ใช้อีบัตรเดบิตนี้รูดได้ สบายใจ กินไป รสชาติ เพลียมาก ไม่อร่อยเลย ร้านเมื่อวานอร่อยกว่า นี่ก็กินไป เสียดายเงินไป วันนี้ไม่ใช่วันของเราจริงๆ ตั้งชื่อทริป มัลดีฟท์กับวันพักผ่อนดีดี และความ-ัปรีย์ที่ฉันเจอละกัน ฮือ นอน พังพินาศมากวันนี้

30/01/2561 วันนี้เราซื้อ Day Visit ไปยัง Adaaran Prestige Vadoo ซึ่ง มีหลากหลายราคาแล้วแต่ Deal นี่ตอนแรกจะเอา 110$ แต่พี่อีกคนอยากสปาเหลือเกิน เลยอัพเป็น 150$ สปาบ้าอะไรแพงนัก อะซื้อมาแล้ว ก็ตามนัด และเหมือนเคย นัดเรา 7:35 น. กว่าจะได้ออก ล่อไปเกือบ 9 โมง เพลียใจมาก

มาถึงท่าเรือก็มีคนจากโรงแรมต่างๆ มาขึ้นเรือ จุดหมายไปที่เดียวกับเรา ก็ สปีดโบ้ท พาวิ่งฉิวไปถึงที่หมาย น้ำใสมากตอนทางเข้า สวยงาม อะพอลงก็เอาสายรัดสีน้ำเงินมารัดแขนบ่งบอกว่ามาเที่ยวชมนะ เข้าไปแถวห้องพักไม่ได้ ห้าม!!!

จนท. ก็บอกตารางทั้งวันว่ามีไรบ้าง พาไปดูว่าข้าวกลางวันตรงไหน ซุ้มน้ำตรงไหน ถามว่าฟังทันไหม? ไม่ คือคน ประเทศนี้รัวลิ้นอะไรเร็วขนาดนั้น นี่ต้องไปถามชะนีน้อยนางนึง นางก็ยกมือถือให้ดู 8 วิ แล้วเดินจากไป โอ๊ย คงจำได้ทันมั้ง นี่ไม่ได้มางานจับมือ BNK48 นะ ให้เวลา 8 วิ เลยต้องไปขอมาดูใหม่ เดินไปมีคนฟิลิปปินส์มาถามตารางเราอีก ซึ่งภาษาง่อยมาก เรานะง่อยไม่ใช่เขา พอเสร็จ อ้าวไหนละสปาของฉัน เลยเดิน ถาม จนท. เออค่ะ ลืมเราจริงๆด้วย จนท. ต้องโทรเช็คกับโรงแรมของเราว่าเราเอาสปาด้วยเหรอ พอรู้ ก็พาไปสปา อีคนในสปาก็ไม่รู้อีกว่าเราซื้อแพ็คเกจสปามา ทำงงๆ นี่เราต้องวีนให้ได้มาซึ่งแพ็คเกจสปาราคาแพง สุดท้ายนางจึงนัดมาทำตอน 11:00 น.

พอได้เวลาสปาแล้ว ก็ตรงไปซุ้มน้ำ ที่เธอสั่งได้ตลอดเลยตั้งแต่ 9:00-17:00 น. จะเหล้า จะน้ำ จะไวน์ สั่งไปเลยค่ะ จะ-เมาตรงนั้นก็เรื่องของเธอ อ่อ นางจะแจกผ้าเช็ดตัวให้คนละผืนนะ ถือไป ประโยชน์ของผ้าเช็ดตัวเลย คือ เอาไว้จองที่ เก้าอี้เกือบทุกตัวในโรงแรมรอบหาดรอบเกาะ จะจองด้วยผ้าเช็ดตัว ดังนั้นหาที่ได้วางเลยค่ะ เดี๋ยวเสียม้า ไม่มีที่นั่ง

และสรุปการมาเที่ยวรีสอร์ท คือ การเอาเรามาปล่อยเกาะนั่นเอง ถ่ายรูปวนไป เล่นน้ำวนไป เข้าสระว่ายน้ำได้ จะทำไรก็เรื่องของเธอ นี่ก็เดินถ่ายรูปไปซิ -น้ำอีก -ให้คุ้ม ฉี่สามสิบแปดรอบได้ พอ 11 โมง ไปทำสปา โอ๊ย จะให้แก้ผ้าทำห้องเดียวกับชะนีพี่ เลยต้องบอกนางขอแยกห้อง แต่บอกเลยสปาดีงามมาก ลงออยเป็นน้ำมันหมู เพลินเลยค่ะ ไม่ทิปนะคะจ่ายมาแพงแล้ว พอเสร็จกินข้าวเที่ยง อันนี้อาหารดีงาม ปลา เนื้อ ไก่ แต่ไม่มีหมู หมึก กุ้ง นะคะ มาทะเลไม่ได้กินกุ้ง กะหมึกเลย อะของหวานก็ดีงาม ไอศกรีม เค้ก โอเคผ่านค่ะ

ช่วงบ่ายนั้นเราเริ่มเมาไวน์ละ เพราะน่าจะดื่มไปเป็นขวดได้ ว่ายน้ำไหวไหม ไม่ค่ะ กลัวจมตาย แล้วหาดของรีสอร์ทนี้ คือเหมือนหักลงทะเลเลย ไม่ค่อยลาดลง แถมวิวมองไป เจอเกาะกลางทะเลกำลังขุดทราย ไม่สวยเลย แต่รอบรีสอร์ทคือสวยงามมากจริงๆ

ตกบ่ายมีจิบน้ำชา โอ๊ยแม่ผู้ดีอังกฤษ ดื่มชา กับแซนวิช คัสเทร่า แถมด้วยไส้กรอกแดงโง่ๆชุบแป้งทอด ดีใจมาก ไส้กรอกที่คุ้นเคย อร่อยนะว่าไป

5 โมงเย็นกว่าๆ พาไปให้อาหารปลา ปลากระเบน ปลาฉลาม เขาบอกเบบี้ๆ เบบี้ค่ะ เลี้ยงให้มา-ฉันใช่ไหม


เสร็จสรรพนั่งเรือกลับที่พัก คือบอกเลยมันชิวมากวันนี้ เกาะเล็กเดินไม่ทันตดหายเหม็นรอบเกาะละ น้ำก็ใส จะดำน้ำ จะทำไร ทำไปเลย เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ สัญญามีเงินจะมาอีก

วันนี้เป็นวันเดินทางกลับแล้ว ตื่นมาแต่เช้าเลย เครื่องบินเราจะกลับเวลา 12:30 น. ดังนั้นเราจึงจะกลับไปสนามบินด้วยเรือหวานเย็นเราซึ่งมีเที่ยวเดียวและจะออกเวลา 7:30 น. ก็เก็บของออกมารอทานอาหาร วันนี้ดีใจมาก มีไส้กรอกแดงดินประสิวที่เราคุ้นเคยมาด้วยพร้อมผัดมาม่า นี่ปลาบปลื้มกับอาหารในราคาห้องพักประมาณนี้ แถมพ่อบ้าน และพนักงานเฟรนด์ลี่สุดๆ ลากกระเป๋ามาส่งท่าเรือด้วย นี่สวยและรวยมาก ทิปไปคนละ 1 ดอลล่าร์ โดยลืมไปว่าตัวเองเหลือแบงค์ใหม่แค่นั้น หึหึ สวยและรวยไม่ถูกเวล่ำเวลา

และค่าเรือทำไง ใช้เงินรูฟียาซิคะ เหลืออยู่ 2-3 ร้อยรูฟียา ตอนจ่ายค่าเรือ มีกระเป๋าเรือเดินมาเก็บ เอาเงินไป 60 รูฟียา โกงป่ะเนี่ย ขามาแค่ 44 รูฟียานะ เลยจะวีนคนเก็บเงินแต่เมื่อมองร่างกำยำ ผิวสีแทน และหนวดเคราแล้ว จ่ายก็ได้ เราไม่สู้คน ระหว่างนั่งเรือ มีอีป้าโพกหัว ด้านหลัง สะกิดยิกๆ ถามว่าเรามาเที่ยวเหรอ เป็นคนจีนเหรอ ซึ่งดูท่าแล้วน่าจะขอเงิน เลยหลับใส่แม่ม โลกมันสอนให้เราร้าย เราต้องระแวงทุกอย่าง ทั้งๆที่จริงเราเป็นคนอ่อนโยน อ่อนไหวมากๆ

อะพอถึงท่าเรือ อ้าวน้องคนไทยกับแฟนฝรั่งที่เจอวันแรก นางบอกนางจะพักต่อที่ Male อีกคืน แต่พวกเราจะกลับไทยละ ลางานนานกว่านี้ คงได้ไปกินแกลบแถวกรมจัดหางาน แต่ไงละจะเรียกแท็กซี่จะไปท่าเรือไปสนามบิน ซึ่งบอกเลยการจราจรที่นี่ ขวั่กไขว่ไปมา ต้องหาจังหวะแย่งชิงรถจากบรรดานักท่องเที่ยวและหลบรถที่สวนไปมาดีๆ พอได้รถแท็กซี่ขั้นแรกบอกที่ไปและถามราคาก่อนเลย ถ้าแพงอย่าไปค่ะ นี่ขามา 2 ดอลล่าร์ (30 รูฟียา) วันนี้เรียกได้ 40 รูฟียา ขึ้นเลยค่ะ พร้อมยกมือบ๊ายบายนักท่องเที่ยวคนอื่น ใครเร็วใครได้ค่ะ

ถึงท่าเรือ ไปซื้อตั๋วเรือไปสนามบิน ค่ะ เป็น 40 รูฟียาไปอีก ขามากูแค่ 30 รูฟียา นี่เชื่อราคาอันไหนได้บ้างคะ? ค่าเงินขึ้นลงเป็นคลื่นน้ำเชียว อะพอถึงสนามบิน ก็ยังเช้าอยู่ มีเวลาอีกเกือบ 3 ชั่วโมง นี่รีบกลัวตกเครื่อง ก่อนเข้าก็จะหาไรกินซะหน่อย เห็นร้านอาหารไทย อุ๊ย อยากกินชาเย็น โอ๊ย ราคา 14 ดอลล่าร์ ชาจากเทือกเขาอัลไตหรือไร เทค่ะ ไม่กิน กินแดรี่ควีน 2 ดอลล่าร์พอ

สำหรับสนามบินนี้อีแอร์เอเชีย เช็คอินล่วงหน้าไม่ได้นะคะ ต้องเอาใบจองที่นางส่งมายื่นผ่านประตู คือเข้าประตูแล้วออกไม่ได้นะ ตัดสินใจให้ดี จะกินอะไรจะทำอะไรทำก่อน เพราะเข้าไปมีร้านอาหาร 2-3 ร้าน ซึ่งแพงมาก เข้าไปก็ไปเช็คอินเอาตั๋ว และนั่นไงมีชั่งกระเป๋าค่ะ เกินทั้งคู่ แต่พ่อหนุ่มกราวน์ใจดี ยกนิ้วโป้งให้ ผ่าน กราบขอบพระคุณ แบกกระเป๋าไปเช็คคนออกชั้นสองแบบงงๆ เช็คเสร็จก็ผ่านสแกน ซึ่งน้ำทั้งขวดก็หลุดมาค่ะ 555 มาถึงดิวตี้ฟรีเล็กๆ ซึ่งของแพงมาก ไม่ซื้อของฝากมา กะมาหาที่นี่ แต่ทุกคนควรพักค่ะ พวงกุญแจง่อยๆ อันละ 160 บาท พ่องงกันเลยทีเดียว เลย ซื้อชาแทนค่ะ แพงไหม ก็แพงค่ะ แต่เป็นชาจากศรีลังกา ซึ่งคุณภาพดี ซื้อได้ โอเค

แล้วอีแอร์เอเชีย ตอนแรกจะออก 12:30 น. ดีเลย์ค่ะ นี่นั่งลุ้น ให้คุกกี้ทำนายกันอยู่นาน จนมันขึ้นเลื่อนไป 13:30 น. และก็หิวข้าวไง เลยไปซื้อเบอร์เกอร์กิน ซื้อเสร็จ เครื่องจะออก ต้องเทน้ำโค้กทิ้ง ยัดเฟรนฟรายซ์ร้อนๆ ให้หมดถุง แล้วแบกเบอร์เกอร์ขึ้นเครื่องไป จะกินก็ไม่กล้า เลยซื้อน้ำบนเครื่องกับ โอนิกิริซะหน่อย แล้วถึงเอาเบอร์เกอร์มากิน แต่บอกเลย อีโอนิกิรินี่ ดึงทีหลุดเป็น 5 ส่วน นี่ ต้องดูดถุงแทะถุงเอา ปิดท้ายทริปก็ทำร้ายเราทุกเม็ดเลยเนาะ จบรีวิวด้วยค่าใช้จ่ายละกัน ตามนี้ บางอย่างตัดเองได้นะ โดนเฉพาะ สปา พอค่ะ แพง ไม่น่าหลวมตัวเชื่อพี่เลย สรุปถึงจะเจอปัญหาเยอะ แต่ก็ยังรักทริปนี้นะ สนุก ทะเลสวย ชอบค่ะ

อ่อราคาลืมรวมค่าซิม และค่าไอโฟนจมน้ำเข้าไปนะคะ T-T

ความคิดเห็น