"จันทบุรี"

หนึ่งในเมืองต้องห้าม...พลาด อย่างที่ใครๆก็รู้กันว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย

และมีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา น้ำตก โฮมสเตย์ และอาหารอร่อยอีกมากมาย

วันนี้เราคงไม่ได้มาลงรายละเอียดของแต่ละสถานที่มากเท่าไหร่นัก เพราะคงจะมีคนรีวิวไว้มากมายแล้วล่ะ

เอาเป็นว่าทริปนี้ได้มีโอกาสไปทำบุญด้วย เที่ยวด้วย มีเวลาเพียง 2 วัน 1 คืน ก็พยายามจัดสรรสถานที่ในแบบของเรา ที่อยากจะมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้เป็นไกด์ไลน์ เวลาไปเที่ยวก็แล้วกันเนอะ

---

เริ่มต้นการเดินทางด้วยการไปทำบุญกันก่อน ที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏค่ะ

ปี 2561 นี้เปิดให้ขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. - 17 มี.ค. 2561 ก็เลือกไปตามกำลังศรัทธากันนะคะ

ถึงแล้ว เส้นทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ ลุยกันเลย

มาถึง ณ จุดนี้ ก็ไปซื้อบัตรขึ้นรถ 4WD เพื่อขึ้นไปยังลานพระสีวลี ในราคาคนละ 100 บาทต่อเที่ยว

หลังจากรถพามาจอดถึงลานพระสีวลีแล้ว เราจะต้องเดินเท้าเพื่อขึ้นไปยัง รอยพระพุทธบาทพลวง และหินรูปบาตรคว่ำ อีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร

โอเค ลุย...

เดินไป พักไป เรื่อยๆจะได้ไม่เหนื่อยมาก

ระหว่างทาง ก็ได้แต่ถ่ายภาพจากมือถืออ่ะนะ

เพราะการแบกกล้องมาด้วย จะเป็นภาระให้เราเหนื่อยมากขึ้น อิอิ

เริ่มขึ้นที่สูงแล้ว เห็นหมอกบางๆด้วยใช่มั๊ยล่ะ

จริงๆวันที่ไปนี่ขึ้นไปตอน 11 โมงหน่อยๆ แต่โชคดีเป็นของเราที่วันนี้ไม่ร้อนเลย

ไม่มีแดดให้เราได้หงุดหงิดใจเลย การเดินขึ้นเขาก็เลยทำให้มีแต่ลมและละอองหมอกอ่อนๆมาปะทะหน้า

เย็นสบายมากกกกก

ในที่สุดเราก็มาถึง รอยพระพุทธบาทพลวง และหินรูบบาตรคว่ำ

ถึงจุดนี้ จะมีเจ้าหน้าที่บอกขั้นตอนให้ทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง

หลังเสร็จภารกิจบนนี้ เราก็เดินทางลงในเวลาไม่ถึง 10 นาที

ทำไมมันช่างต่างกับขาขึ้นแท้ ขาลงนี่แทบจะวิ่งลงเลยเชียว อิอิ

ถ่ายคลิปตอนนั่งรถ 4WD ขาลงมาให้ดูกันเล็กน้อยค่ะ หวาดเสียวดี

หลังจากลงมาจากเขาเราก็เช็คอินเข้าที่พักก่อน ก่อนออกไปหาอะไรทานกัน

มาจันทบุรีมีร้านอาหารทะเลแนะนำ ราคาไม่แพงแต่อร่อย ก็ขอแนะนำ ร้านนภาท่าแฉลบเลยค่ะ

เมนูที่ต้องห้ามพลาดก็คือ ปลาพล่า

เสร็จจากทานอาหารแล้ว ก็มุ่งหน้ากลับเข้าเมืองไปสักการะศาลหลักเมืองจันทบุรีกันค่ะ

สถานีต่อไปของเรา ก็คือ ชุมชนริมน้ำจันทบูร และโบสถ์พระแม่มารีอาฯ

เรามาถึงซะเย็นเลย โบสถ์ปิดซะแล้ว ก็ได้แต่ชมภาพด้านนอกกันไปนะเรา

เวลาเจอแสงเย็นสวยๆ ที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยเช่นกัน

เดินต่อไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานนิรมล ไปยังชุมชมริมน้ำจันทบูร

ชุมชมริมน้ำที่มีเสน่ห์มากมาย

ความคลาสสิค ที่มีคู่กันเสมอกับชุมชนเก่าริมน้ำ

และในซอกหลืบเล็กๆ ในชุมชนแห่งนี้ก็มีดอกหญ้าสวยๆแบบนี้ด้วยนะ

และมุมมหาชน ที่พลาดไม่ได้

พอหอมปากหอมคอ สำหรับวันแรก

ไปดูกันว่าวันที่ 2 ของทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเยือนที่ไหนในจันทบุรีบ้าง

เริ่มต้นของวัน ก็พาไปรับความสดชื่น ความเขียวกันก่อน

ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน อ่าวคุ้งกระเบน

เส้นทางเดินก็จะเขียวๆ หน่อย ร่มไม้เขียวๆช่วยลดความร้อนของอากาศได้เป็นอย่างดี

อนุสรณ์ หมูดุด เจ้าแห่งคุ้งกระเบน

ตอนนี้ก็คงเหลือเป็นเพียงอนุสรณ์

หอดูนก เดินขึ้นไปรับลมกันข้างบนหอดูนกกันดีกว่า

วิวข้างบนมันก็จะสวยๆแบบนี้แหละ

เรือคายัคก็มีบริการให้พายเล่นนะ

ได้รับความสดชื่นไปเต็มปอดแล้ว เราก็พร้อมจะลุยไปสถานีต่อไปรึยัง

ที่นี่คือ ชุมชนชาวประมง เจดีย์บ้านหัวแหลม

พิกัด อยู่ใกล้กับจุดชมวิวเนินนางพญา

จอดรถได้ตรงที่จอดจุดชมวิวเนินนางพญา แล้วเดินเท้ามายังทิศตรงข้าม

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอชุมชมเล็กๆแห่งนี้แหละ

การออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ก็จะทำให้เราได้ไปเห็นสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยทำ

สิ่งที่เราไม่เคยเป็น สิ่งที่เราไม่เคยเห็น ความแปลกตา และวิถีชีวิตที่แตกต่าง

จะทำให้เราเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นนะ เราคิดแบบนั้น

สิ่งนี้ก็คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ติดมากับแหอวน เป็นสิ่งที่เกินความต้องการของชาวประมง

ก็เลยถูกแยกออกมากองไว้ต่างหากแบบนี้แหละ

หลังจากแวะเวียนไปทักทายพี่ๆชาวประมง กับขอถ่ายรูปนิดหน่อย

ก็ได้เวลาไปชมเป้าหมายของเรา "เจดีย์บ้านหัวแหลม"

ที่นี่ไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ แต่อาจจะไม่ค่อยมีคนนำมาให้ชมมากกว่า

อย่างที่ป้ายประวัติของ เจดีย์บ้านหัวแหลม หรือ เจดีย์กลางน้ำ บ้านหัวแหลม บอกไว้

ว่าเจดีย์น่าจะถูกสร้างขึ้น ตามความเชื่อ และเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมงในสมัยนั้น

เจดีย์ถูกสร้างไว้บนโขดหิน กลางน้ำ ดังนั้นจึงต้องมีสะพานเชื่อมต่อความศรัทธาของชาวบ้านและผู้คนที่มากราบไหว้ อย่างที่เห็น

พักยกสักครู่ กินหนวดปลาหมึกย่างกับน้ำจิ้มแซ่บๆกันก่อน

และเป้าหมายสุดท้ายของพวกเราในทริปนี้ ก็คือ จุดชมวิวเนินนางพญา นั่นเอง

ปิดท้ายกับถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนเลียบทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก

ภารกิจทริปทำบุญด้วย เที่ยวด้วย กับจันทบุรี ดีต่อใจ ก็เสร็จสิ้นแล้วค่ะ

ยังมีอีกหลายๆสถานที่ในจังหวัดจันทบุรี ที่น่าสนใจ แต่กับเวลา 2 วัน 1 คืนคงไม่พอ

ไว้มีโอกาส จะไปให้ครบเล๊ยย

---

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆสำหรับทริปนี้

1. ค่าที่พัก 850

2. ค่าน้ำมันรถ 2,500

3. ค่าอาหารเย็น 1 มื้อ 500

รวม 3,850 บาท หาร 3 คน เฉลี่ยคนละ 1,283 บาท

---

======== ออกไปเจอโลกกว้าง ออกไปตามหาหัวใจ ออกไปสัมผัสเมืองไทยด้วยกัน =======

== ขอขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่าน และติดตามด้วยนะคะ==

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า