ดาวสวยมากๆ คืนนี้ ผมรำพึงกับตัวเองหลัง มองภาพที่กดเสร็จหมาดๆจาก หลังกล้อง ...
ตอนนี้ท้องฟ้าเงียบสงบ มองออกไปที่ทะเล มีแสงสีเขียวจากหลอดไฟ ที่ชาวเรือใช้ในการเล่นเอาล่อเอาเถิดจับปลาหมึกอยู่ที่ขอบฟ้า ...
ถอยเวลากลับไปเมื่อเดือนเศษๆที่ผ่านมา ในค่ำคืนนึงขณะที่กำลังเงยหน้ามองดาวบนฟ้า…ตอนนั้นเวลาล่วงเลยมาจะ 3 ทุ่มแล้ว
หากเป็นที่กรุงเทพฯเวลานี้ผม หรือคนกรุงหลายๆคน อาจจะกำลังติดอยู่บนท้องถนนขณะกลับบ้าน หรืออีกหลายๆครอบครัวกำลังเตรียมรอชมละครช่องโปรดกันถ้วนหน้า...
แต่กลับกันตรงที่ว่า..ตอนนี้ เวลานี้ ผมกับพาครอบครัวหนีมานอน เก็บภาพดาวบนฟ้าอยู่ที่สมุย ในบรรยากาศที่สวยและงดงามไปด้วยแสงไฟริมหาดที่กำลังแข่งกับแสงดาวระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า
ถูกแล้วครับขณะนี้ผมกำลังพาคุณๆย้อนเวลากลับไปยังช่วงเวลาสำคัญของครอบครัว one22 ในสถานที่แสนพิเศษ กับคนพิเศษสุดตลอดกาลของครอบครัวของเรา “เด็กยักษ์ตัวน้อยๆ" เที่ยวนี้เรามีโอกาสได้แวะไปเที่ยวหลายวันทำให้มีโอกาสสัมผัสรีสอร์ทดีๆจากทริบนี้ถึง 2 รีสอร์ท และ Peace Resort คือ 1 ในนั้นที่ทำให้ครอบครัวเราได้กลับมาอีกครั้ง
ทริบนี้จะพาทุกๆคนกลับไปยังรีสอร์ทที่ผมพึ่งได้รู้จักพบเจอเมื่อตอนปลายๆปีที่ผ่านกับ Peace Resort Samui ทำให้เวลาพาเรากลับมาเจอกันอีก ขอเชิญตามเด็กยักษ์ และครอบครัวของเรามาเที่ยวรีสอร์ทและร้านอาหารสุดโรแมนติกที่สุดแห่งนึงของสมุยกันครับ Sea Wrap Restaurant แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงกลับมา…
https://www.facebook.com/likeone22
ฝากแนะนำตัวกับทุกคนตรงนี้เผื่ออาจจะอยากรู้จักกันมากขึ้น แวะเวียนมาเที่ยวด้วยกันได้ที่นี่เลยครับ
รีวิวที่นี่ครั้งแรก พร้อมรายละเอียดการเดินทาง สามารถตามไปดูกันที่นี่นะครับ http://pantip.com/topic/31676367
การเดินทาง
รอบนี้เราเลือกใช้บริการสายการบิน Boutique Airline Bangkok Air ที่มีบินตรงจาก กรุงเทพฯไป สมุยมากกว่า 10 เที่ยวต่อวัน คุณสามารถเลือกช่วงเวลาได้มากมายจริงๆ ตอนที่เข้าไปดูเที่ยวบินตอนแรกเห็นแล้วก็ต้องตกใจว่าสมุยเป็นที่นิยมเที่ยวไม่แพ้ ที่เที่ยวอื่นๆทั่วประเทศของเราเลย ข้อดีที่สุดแน่นอนก็คือการบินตรงที่ประหยัดเวลา หากใครอยากใช้เวลาพักผ่อนให้ได้เต็มที่นี่ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการไปยังเกาะสวรรค์แห่งนี้
และในภาพเด็กยักษ์ตัวน้อยๆ กำลังหัดถ่ายภาพ(เหมือน)จริงจังมาก เห็นแล้วก็ชื่นใจ จับกันตั้งแต่เด็กโตขึ้นจะได้เก่งๆนะคร้าบบ
ผ่านด่านเรียบร้อย GO! GO!
เดินมาจนถึงทางเข้าสังเหตุ JFlag ที่โปรโมทการทำ Boarding Pass ผ่าน mobile เป็นอะไรที่เท่และรวดเร็วดีมาก กับการทำ Boarding Pass ผ่านมือถือกันเลยนับว่าสะดวกและรวดเร็วดีจริงๆ ทันสมัยมากครับ
เข้ามาก็เจอพี่หมีตัวใหญ่ยักษ์นั่งรอให้มาแวะทักทายเก็บภาพกันได้เลย
เราเลือกบินเที่ยวค่อนข้างสายหน่อยทำให้มีเวลาชิลลอยู่ที่สนามบินและเข้า Lounge ของ Bangkok แอร์ได้
แวะมาที่ Lounge จะไม่ให้มาเจอ สิ่งนี้ของสายการบินคงไม่ได้ ถือเป็น ข้าวต้มมัดในตำนานไปแล้ว
นั่งเล่นกันพักใหญ่ก็ได้เวลาไปขึ้นเครื่องกันแล้วครับ เที่ยวนี้เราบินลำเล็ก แต่การบริการก็นับว่าไม่แตกต่างจากลำใหญ่แต่อย่างใด
หนูน้อยดูจะสนุกสนานเพลิดเพลินกว่าพ่อแม่เยอะเลย เมื่อเค้าได้นั่งเครื่องบินสมใจอยาก
อีกอย่างที่ขอชมคือเมือเป็นเด็กๆขึ้นเครื่อง เค้าก็ใส่ใจและรู้ใจดีทีเดียวมีสมุดภาพสติ๊กเกอร์ให้เด็กๆแปะถือเป็นกิจกรรมที่ดึงความสนใจของเด็กๆได้ดีมากทำให้การเดินทางสำหรับเด็กๆไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
และที่ช่วยให้การเดินทางครบครันคือ อาหารครับ และอย่างที่เห็นมีมือเด็กยักษ์ซนๆ กำลังหมายมั่นปั้นมืออยู่เชียว
วิวจากนอกหน้าต่างวันนี้เมฆก้อนนี้น่ารักมาก อากาศดีตลอดการเดินทางทีเดียว
และวิวเดียวกันนี้ทำให้กิจกรรมบนเครื่องระหว่างครอบครัวก็เกิดขึ้นได้ เมื่อมีโจทย์ ก็มีคำตอบให้หนูน้อยหายสงสัย
ถือเป็นเวลาครอบครัวดีๆ ที่คนที่มีเวลาน้อยนิดที่จะได้อยู่กับครอบครัวควรคว้าไว้กันครับ
ผ่านระยะเวลามาชั่วโมงนิดๆเราก็มาแตะสนามบิน
สมแล้วที่เป็นสนามบินที่เคยได้ยินมานานแล้วว่าสวยที่สุดแห่งนึงของบ้านเรา บรรยากาศกลื่นอายทะเลลอยมาเตะจมูกตั้งแต่ได้เห็นกันเลย น่ารักมากๆครับ
ที่ Peace Resort Samui จริงๆเป็นโรงแรมที่สองที่เรามาพัก แต่ผมอยากหยิบที่นี่มาเล่าให้ทุกๆคนฟังก่อน เหตุผลมีแน่นอน ขออุบไว้ท้ายๆรีวิว แล้วจะเข้าใจโปรดติดตามกันต่อนะครับ
มาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆหวานกำลังดี เป็น Welcome Drink
เด็กยักษ์ดูสนใจกับ สิ่งของต่างๆ มากมาย พ่อละชอบที่หนูสนใจสิ่งต่างๆรอบๆ การพาเค้ามาเที่ยวเดินทางก็เพื่อให้เค้าได้เปิดประสพการณ์โลกกว้างที่ไม่มีในโรงเรียนไหนสอนได้แบบนี้ละครับ
หลัง Check in วันนี้เราเข้าพักห้อง Beach Front Villa No.1 ข้อดีที่สุดคือติดหาดห้องแรกหน้าหาดเลยครับเดินจากห้องไม่ถึงสิบก้าวลงชายหาดได้เลย
ห้องพักเราเคยเห็นกันแล้วเมื่อคราวก่อนหนนี้เข้าพักกันเลย ห้องกว้างและใหญ่สบายๆ มีอุปกรณ์ต่างๆครบถ้วน เช่นความบันเทิงก็เป็น LCD TV+ DVDเตียงก็เป็น King Size นอนกันสามคนพ่อแม่ลูกได้สบายๆ
ห้องน้ำห้องท่ากว้าง และแยกส่วนเปียกแห้งได้ดี ชอบตั้งแต่หนก่อนที่ได้เข้ามาชมแล้วละครับ หนนี้ได้พักจริงๆบอกเลย ติดใจสุดๆ 555
หน้าห้องมีเตียงและศาลาให้นั่งชมวิวหน้าหาดกันได้
มาดูหน้าหาดกันนิดนึงหน้าห้องมีเตียงไว้ให้อาบแดดกันได้ มีรั้วต้นไม้ปลูกให้เห็นอาณาบริเวณกันไว้กันความส่วนตัวได้
แม้ไม่มากแต่ก็เพียงพอให้รู้สึกสบายๆ ชอบที่นี่ตรงต้นไม้เยอะเนี่ยละ
หน้าหาดก็ร่มรื่นน่านั่งน่านอนเล่น มีเงาไม้ให้พักผิง นอนเล่นได้ทั้งวัน
เอาละมาเที่ยวนี้ที่ติดใจอีกอย่างคืออาหารครับ นับเลยว่าเป็นอีกที่ๆ อาหารโรงแรมอร่อยจริงๆ
สำหรับ Sea Wrap Restaurant ถือเป็นห้องอาหารริมหาดบ่อผุด ที่สวยงามไม่แพ้ใครบนเกาะนี้เหมือนกันนะครับ
มาถึงร้อนๆ แบบนี้ สั่งน้ำมะพร้าวน้ำหอมมา หอมหวานอร่อยหายร้อน เพราะเค้าแช่เย็นมาทั้งลูกกันเลย
เริ่มกันที่เมนูแรกถือเป็นออเดริฟก่อนด้วย สะเต๊ะครับอร่อยมากเนื้อแน่นกัดได้เต็มคำดี
เมนูเด็ก จริงๆไม่ใช่ชื่อนี้แต่เพราะสั่งข้าวผัดมาให้เด็กนั้นเอง ข้าวผ้ดอร่อยครับ ผัดได้ร่วนหอมอร่อยกำลังดีเลย
ต้มยำกุ้ง ตอนสั่งเราสั่งรสชาติแบบไทยๆไปเป็นการกำชับเพิ่มซึ่งก็ได้ดังคิดแซ่บดีมาก
มาถึงเมนูสุดโปรดของเราเลย กุ้งราดซอสมะขาม อร่อยมาก อร่อยสุดๆ กุ้งตัวใหญ่กรอบกินได้ทั้งตัวทีเดียว
ยิ่งเสริฟกับข้าวสวยร้อนๆน่ะ โอ้วว น้ำลายจะไหลอีกรอบแล้ววว
นี่ก็เป็นเมนู Signature ของที่นี่เช่นกัน ขาเป็ดส่วนสะโพกราดมาด้วยซอสสูตรทางร้านรสชาติอมเปรี้ยวหวาน ที่สำคัญเนื้อไม่เหนียวครับเอาช้อนจิ้มลงไปเนื้อหลุดติดออกมาเลย
ขอปิดท้ายขบวนด้วยแกงเผ็ดเป็ดย่างครับ เครื่องเทศที่ใช้โรงแรมทำเองโดยเชพใหญ่เป็นคนคิดค้นทำสูตรขึ้นมา อยากจะบอกว่า อาหารไทยที่ห้องอาหาร Sea Wrap รสชาติดีมาก มิน่ายิ่งหากเป็นเวลามื้อค่ำด้วยแล้วคนแน่นใช้ได้เลยครับ
อย่างที่เคยรีวิวไปครั้งแรก ที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ใช้ได้ กับขนาดห้องมากกว่า 100 ห้อง
อิ่มกันดีไปเดินย่อยอาหารกันสักนิดครับ รอบๆช่วงเวลาที่เราเข้าไปอากาศดีเหลือหลายมาก
แต่ที่ๆ เป็นข้อดีมากคือ การดูแลต้นไม้ที่ใส่ใจและร่มรื่นแบบมองไปทางไหนก็สบายตาด้วยสีเขียวของพันธ์ไม้ต่างๆ
และทีเด็ดผมว่าคือสระทรงโค้งขนาดกว้างใหญ่น่าดำผุดดำว่าย
หนนี้ขนทั้งบ้านมาพักผ่อนจึงได้ใช้เวลาเยอะกับการอยู่และใช้บริการได้เต็มที่จริงๆ
อากาศดีน่าโดดน้ำเหลือเกิน
อากาศดีอะไรๆก็ดี ถ่ายภาพก็มีความสุขเหลือๆครับ
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ต้องกลับมาพักที่นี่อยู่ตรงช่วงเย็นเนี่ยละครับ การจัดโต๊ะก็มีปรับเปลี่ยนเป็นสำหรับ Dining แล้วเช่นกัน
มาดูอาหารค่ำกันบ้าง
หอยนิวซีแลนด์น่ากินมากชิมแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงอร่อยไม่แพ้หน้าตา
เสริฟพร้อมไวน์ขาว
ตกแต่งมาสวยงามมากดูน่ากินน่าถ่ายรูปนะครับ
เมนูถัดมาเป็น รวมกริลล์ เซ็ทใหญ่อันนี้ยิ่งน่ากินมากก
เสริฟพร้อมไวน์แดง เข้ากันดีทีเดียว
ใกล้ๆ
จานนี้ขออภัยผมจำไมได้แล้วว่าเป็นซุปอะไรรู้แต่รสชาติโอเค ครับทุกเมนูพิธีพิธันใส่ใจในการทำสูงมาก
ถัดมาเป็นเนื้อครับ จัดแต่งสวยงามทุกจานจริงๆ เชพจัดได้ดีมาก
วางมาบนถาดหินภูเขาไฟ รักษาความร้อนของอุณภมิได้ทั้งร้อนและเย็น
ใครรักเนื้อไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง
ตบท้ายกันด้วยของหวาน เป็นไอศครีม เสริฟพร้อมกับเครื่องเคียงหลายอย่างอร่อยๆ ทั้งนั้นครับ
ตกเย็นหน้าหาด Sea Wrap Restaurant ที่เราเห็นกันเมื่อกลางวันได้ถูกเปลี่ยนเป็นบรรยากาศ Beach Dining Restaurant สุดโรแมนติกไปแล้ว
และที่สุดพิเศษ ก็คือตรงหากทรายที่มีการทำ เป็น Sand Dining Table ซึ่งนี้ละคือ Hilight ของที่นี่เลย
การขุดและถมทรายขึ้นมาทำเป็นโซฟาและโต๊ะ น่าทึ่งดีนะครับ
ยิ่งบรรยากาศดีๆ อากาศเป็นใจในระดับวันนี้...
วิวทะเลที่แสนสงบ และโรแมนติก...เดี๋ยวค่ำๆมาต่อนะครับ ขอแว๊บไปรับเด็กยักษ์ก่อนน้าาาากลับมาต่อกันครับใกล้ๆแล้ว
....................................
มุมไหนๆก็สุดแสนฟิน
มีโคมไฟ และเชิงเทียนล้อมทั้งสี่ด้าน เพื่อสร้างความโรแมนติก
ผมหมุนมุมถ่ายอยู่ตรงนี้เยอะเชียวล่ะ
มีไวน์พร้อมเสริฟ
ทุกอย่างสวยงามจนกดเก็บภาพไม่หยุด แขกทีเดินผ่านไปมาล้วนแล้วแต่ติดใจอยากนั่งกันทุกคน
เช่นคู่นี้เดินมาถึงอยากให้ช่วยถ่ายภาพให้เค้าหน่อย ผมก็ไม่ติดแต่อย่างใด ดูน่ารักดีนะครับเค้ามาจากยุโรบมีลูกชายวัยเด็กมาด้วย ดูน่ารักมากครับ
บรรยากาศยามเย็นรอบๆ ดูสวยงามมาก
โต๊ะที่เหลือจะใช้ Bean Bag หนังขนาดใหญ่ให้นั่ง ให้นอน ล้มทับกันได้เลย
ยิ่งค่ำยิ่งสวยแสงค่อยๆ จางไปพร้อมกับดวงตะวันที่ล่วงหน้าไปพักใหญ่แล้ว
หรืออยากจะ Dinner ใต้แสงเทียนก็สามารถจัดกันได้เลย
วันนั้นมีงานแต่งงานพอดีเลยมี Set ที่นั่งคู่แบบนี้ไว้ด้วยซึ่งหากคุณต้องการทางโรงแรมก็สามารถจัดไว้โรแมนติกกันได้
สวยงามน่านั่งมาก
บรรยากาศโรแมนติกเกินคำบรรยาย ดูภาพกันเอาเองได้เลยครับ
ผมวนเวียนเก็บภาพแถวๆนี้เยอะเลย แต่ถึงเก็บภาพขนาดไหนก็ไม่ลืมคนสำคัญทั้งสองที่ผมเตรียมสิ่งพิเศษเพื่อเค้าเอาไว้
วันนั้นเป็นวันเกิดของเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัวเรา ตั้งแต่วันมาผมแกล้งรับปากแม่จ๋าไว้ว่าจะเตรียมซื้อเค้กไว้ให้
แต่พอมาถึงก็ทำเป็นติดนู้นนั้นนี่จนถึงวันนี้สุดท้ายก็บอกไปว่าซื้อให้ไม่ทัน แม่จ๋ามีงอนเล็กๆ แต่…
เมื่อเวลามาถึงผมเตรียมการกับโรงแรมไว้สุดท้าย เสียงเพลง แฮ๊บปี๊เบริด์เดย์ทูยู้วววว …ดังขึ้น เด็กยักษ์ถึงกับงงเลย
เมื่อทุกคนรุมล้อมหนูน้อยคนนึงก็อึ้งไปกันใหญ่
เมื่อหนูน้อยเริ่มอมยิ้ม(รู้ตัวแล้วว่าเค้ามาเซอร์ไพรส์)ก็ทำให้ผมและแม่จ๋ามีความสุข
สิ่งเล็กๆเหล่านี้ที่รีสอร์ททำให้ครอบครัวเล็กๆในวันเกิดของคนสำคัญที่สุดของเรา ทำให้เรามีความสุขมาก
และ..แม้เด็กน้อยในวัยครบ 3 ขวบพอดิบพอดีอาจจะยังไม่เข้าใจได้ทั้งหมด แต่เชื่อสิครับเมื่อวันที่เค้าโตมากกว่านี้แล้วกลับมาดูภาพและเรื่องราวในวันนี้ ก็คงจะทำให้เค้ารู้ว่าคนที่อยู่รอบตัวเค้า รักเค้ามากมายขนาดไหน
วันนั้นก่อนจะหลับไปเด็กน้อยพูดกับเราว่า พ่อก็รักหนู แม่ก็รักหนู …สั้นๆแค่นี้ก็ทำให้หัวใจคนเป็นพ่อและแม่เปี่ยมสุขได้แล้วละครับ
ถึงตรงนี้หลังเด็กน้อยหลับไปผมจึงออกมาเก็บภาพประทับใจในวันที่อากาศแสนแจ่มใสทั้งกลางวันและกลางคืน …ก่อนที่ค่ำคืนสุดท้ายที่สมุยจะลาจากผมไป ระหว่างที่กำลังเก็บภาพนั้นอยู่ๆ ก็มีเสียงเพลงที่แสนคุ้นเคยล่องลอยมาจากร้านอาหารข้างๆอย่างเหมาะเจาะพอดีจริงๆ
เนื้อเพลงท่อนฮุกที่ว่า…
คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตนาการถึงหน้าเธอ
ละเมอไปไกล มองไม่เห็นเป็นดาว
จันทร์ที่ดูสดใส นั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า
หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์…. มาใส่ใจ
เพลงคืนที่ดาวเต็มฟ้า ของปราโมทย์ วิเลปะนะ ลอยมา..
ทำให้ผมหยุดถ่ายภาพไว้เท่านี้ก่อน…เพื่อกลับไปพักและนอนอยู่ใกล้ๆกับคนที่รักถึงสองคนนอนรอผมอยู่ในห้องนั้นเอง …
คืนนี้ราตรีสวัสดิ์กันตรงนี้นะครับ
ตี 5.30 น.
ผมตื่นเช้าอีกวันอย่างกระปรี้กระเป๋า เหมือนใจและร่างกายไม่อยากให้วันเวลาผ่านไปเร็วนัก ผมออกมาเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้า ชายหาดบ่อผุดเช้าๆสวยและแสนสงบ
หน้าหาดตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มเผยโฉมที่ริมหุบเขากันแล้ว แสงแรกของวันใกล้จะโผ่ลขึ้นมาแล้ว
ที่กลางทะเลมีเรือยอร์ชหรูทอดสมออยู่กลางทะเล ทะเลยามเช้าดูนิ่งสงบไปกันได้ดีกับท้องฟ้าสีหวานๆ
หลังจากกำลังก้มๆเงยๆเก็บภาพที่ชายหาด อยู่ๆก็มีมือเล็กๆมาสะกิดหลังผมเอาสะดุ้งกันเลย …เด็กยักษ์ตื่นแล้ววว
วันนี้ตื่นเช้ามากเป็นพิเศษ จนผมแปลกใจ หันมาถามแม่จ๋าบอกว่า เค้าตามพ่อมาไง
เช้าสุดท้ายในเกาะสวรรค์แห่งนี้ยังมีเรื่องราวอบอุ่นในใจให้ผมอีกจนได้
เมื่อความสุขที่ได้เห็นคนที่เรารักอยู่ตรงหน้าในบรรยากาศแสนสวยงามขนาดนี้ …
หมดสงสัยแต่อย่างใด ว่าทำไมที่นี่ถึงถูกชาวต่างชาติขนานนามว่าเกาะสวรรค์ทะเลใต้ของไทย …
ไม่ใช่เพราะมันมีชายหาดสวยที่สุด …
ไม่ใช่เพราะน้ำทะเลใสที่สุด…
ไม่ใช่ใดๆทั้งนั้น แต่…เป็นเพราะมันทำให้เวลาที่ผ่านมาตลอดหลายๆวัน สร้างความทรงจำที่แสนดีและสวยงามให้กับครอบครัวของเราต่างหาก
สมุย…แล้วเราคงได้พบกันอีก หวังว่าคงไม่ต้องลาแล้วลาเลยกันนะ
ขอบคุณ Peace Resort Samui กับการต้อนรับกลับมาอีกครั้งอย่างอบอุ่น และแสนประทับใจ ทั้งอาหารและห้องพักแสนสบาย
ณ.ตอนนี้ผมคงต้องขอกล่าวลากับเพื่อนๆพี่ๆทุกคนไปด้วยภาพที่เก็บเกี่ยว บันทึกไว้ในความทรงจำไปอีกแสนนาน
ขอลาด้วยภาพสุดท้ายของครอบครัวเรา แล้วพบกันใหม่ ที่ไหนสักที่ในโลกสีฟ้าแห่งนี้ครับ .
Piyapong Chantong
วันพฤหัสที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.32 น.