สวัสดีค่า หลังจากรีวิวทริปน่านไปเกือบครึ่งปี เพิ่งได้ฤกษ์เขียนรีวิวใหม่ 5555
วันนี้จะมารีวิวทริปไปเช้าเย็นกลับ ที่เขื่อนป่าสักฯนั่นเองงง จริงๆรีวิวที่นี่ก็มีเยอะ แต่ก็อยากแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปมาเอง อิอิ
มาเริ่มกันเล้ย
ทริปนี้แน่นอนว่าไปรถไฟค่ะ ขบวนนำเที่ยวพิเศษของการรถไฟ ที่จะเดินทางจากสถานีหัวลำโพง กรุงเทพ ไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ จ.สระบุรี โดยจะเปิดช่วงพ.ย. ไปจนถึง ก.พ. ปีถัดไป วันที่เราไป 25 ก.พ. ถือว่าเป็นเที่ยวสุดท้ายของรอบนี้พอดี
การจองตั๋ว สามารถจองล่วงหน้าได้นานสุด 60 วันค่ะ โดยใช้ชื่อ-นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จองคนเดียวในการโทรจองกับการรถไฟ ทริปนี้ตอนแรกจะไปกัน10กว่าคน สุดท้ายเหลือผู้รอด 7 คน 555555
ตั๋วยาวม้ากกก
1 เบาะ / 2ที่นั่งนะคะ เพราะคนเทเยอะที่เหลือเลยสบาย นั่งไปคนละเบาะ 5555
รถไฟออกจากหัวลำโพงเวลา 7.10 น. ระหว่างทางจะแวะรับผู้โดยสารระหว่างทางด้วยค่ะ ใครบ้านใกล้แถวไหน ถ้าสะดวกขึ้นสถานี้ตามนี้ก็ขึ้นได้ ขากลับก็เช่นกัน
รูปเสิร์ชจากกูเกิลนะคะ
อันนี้คือรายละเอียดการเดินทางที่พี่เจ้าหน้าที่จะแจกบนรถไฟค่ะ มีทั้งเวลา+แผนที่เขื่อน ด้านหลังเป็นรายละเอียดขบวนพิเศษขบวนอื่น
ใครกลัวหิวไม่ต้องกังวลค่ะ บนรถไฟมีอาหาร น้ำ ขนมขายเหมือนรถไฟขบวนปกติเลยค่ะ ไปทานบนรถไฟก็ได้ ราคาปกติทั่วไปเลย ไม่แพงค่ะ
ไอติมจากสถานีอยุธยา 5 บาท พี่ในทริปบอกหวานมาก ฮ่าๆ
ชมวิวระหว่างทาง
หลังจากออกเดินทางมาเรื่อยๆจนถึงสระบุรี เราก็มาถึงจุดไฮไลท์ของทริปค่ะ นั่นคือรถไฟลอยน้ำนั่นเองงง
เป็นแลนด์มาร์คที่ครั้งหนึ่งควรมาจริงๆค่ะ คือมันเจ๋งมาก อยู่บนรถไฟ แต่มองออกไปหน้าต่างซ้ายขวาเป็นน้ำฟีลลอยน้ำจริงๆ นี่มันวอเตอร์เซเว่น!! (มุขแฟนวันพีซ อิอิ)
ความโชคร้ายคือท้องฟ้ามัวมาก สีเดียวกับน้ำเลยT^T เสียใจ
เค้าจะจอดให้เราถ่ายรูปที่นี่ 30 นาทีค่ะ ก็ลองจากรถไฟไปถ่ายหัวขบวน ถ่ายรางรถไฟได้ แต่คนเยอะมากกกกก ก็ต้องแย่งชิงพื้นที่ถ่ายรูปเอา -..-
ครบ 30 นาที รถไฟออกจากที่นี่ จะไปจอดที่สถานีโคกสลุง อ้อ เกือบลืมค่ะ ระหว่างทาง หลังจากที่รับผู้โดยสารครบทุกสถานีแล้ว ก่อนถึงจุดรถไฟลอยน้ำ จะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่มาจับสลากแจกของขวัญของแต่ละโบกี้ด้วย เป็นเสื้อกับแสตมป์ของการรถไฟ มี 3 รางวัล พวกเราได้แสตมป์มาด้วย อิอิ
แสตมป์รางวัล
พอมาถึงสถานีโคกสลุงเค้าจะจอดให้พักเข้าห้องน้ำ และซื้อของฝาก 20 นาทีค่ะ ของฝากจะเป็นพวกผัก ผลไม้ราคาถูกมากๆ เราได้มะขามเทศมาฝากแม่ โลละ 50 บาทเอง แต่ลืมถ่ายรูปปป
สถานีโคกสลุง
คนก็จะเยอะๆหน่อย
เสร็จจากที่นี่ ก็ไปสถานีปลายทางค่ะ เขื่อนป่าสักนั่นเองง
เราจะมาแวะทานอาหารที่นี่กัน เรามีเวลาเที่ยวที่นี่ประมาณ 3 ชม.ค่ะ รถไฟจะออกจากที่นี่เวลา 15.30 น. เดินออกมาก็จะมีตลาดประชารัฐ แต่ตลาดของค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักผลไม้เช่นกัน เดินเข้าไปอีกหน่อยจะมีจุดให้ขึ้นรถราง แต่พวกเราหิวกันแล้วก็เลยแวะทานข้าวที่ศูนย์อาหารกันก่อน
ศูนย์อาหารจะมีพวกอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ส้มต้ม ประมาณนี้ค่ะ เราสั่งส้มตำกัน
รสชาติพอทานได้ค่ะ 55 ให้คะแนน 7/10
เสร็จแล้วก็เดินๆๆ ไปหอชมวิว
เจอป้ายเตือน 5555555 คือร้อนมากกกค่ะ ต้องเดินไปถึงชั้น 8 แล้วตอนที่ไป ไม่มีไฟ ทำให้ลิฟต์ไม่สามารถใช้ได้ รวมทั้งแอร์ พัดลม คิดสภาพว่าไปอยู่ในห้องกระจกบนตึกสูง8ชั้น ในตอนบ่ายที่แดดเปรี้ยงแบบสุดๆ ณ ตอนนั้นขอบอกว่าแทบไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป55 เพราะหายใจไม่ทัน ไม่มีอากาศระบาย รีบลงอย่างไว เข้าใจแล้วทำไมต้องติดป้ายเตือน ฮ่า
รูปจากบนหอคอย ถ่ายแบบลวกๆมาก ถ้าอากาศดีๆคือต้องชิลมากแน่ เพราะข้างบนยวิวสวยมากค่ะ
เดินลงจากหอคอยเข้ามาข้างในเขื่อนค่ะ จริงๆที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์เขื่อนป่าสักกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำด้วย แต่ไม่ได้เข้าไป เราเช่าเสื่อผืนละ 20 บาท มาหาที่นั่งรับลมริมเขื่อนค่ะ
สวัสดีเจ้าหมา
ตรงนี้ก็มีอาหารบริการนะคะ ถ้าใครมา แนะนำให้เดินมาหาข้างในดีกว่า มันสบายกว่าข้างนอก อารมณ์ปิกนิกเลย อ้อ ห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดนะคะ
เราทานข้าวกันแล้ว เลยปาร์ตี้น้ำแข็งไสแทน
นอนพักริมเขื่อนชิลๆจนหมดเวลาเลยค่ะ ก็เดินไปขึ้นรถไฟกลับบ้านกัน
บ๊ายบาย ป่าสักฯ
จบแล้วค่า One day trip ไปเช้าเย็นกลับ มาแบบชิลๆ นั่งรถไฟสบายๆในวันที่เบื่อกรุงค่ะ อิอิ
ค่าใช้จ่ายทริปมีแค่ค่าตั๋วรถไฟ 270 บาท ที่เหลือค่ากินส่วนตัวเลย
ส่งท้าย 1 แนะนำสำหรับคนที่อยากมานะคะ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้านานๆหน่อยค่ะ ตั๋วเต็มไวมากๆ จองก่อนไปอาทิตย์นึงนี่โอกาสได้ตั๋วแทบไม่มีค่ะ อีกอย่างคือมาช่วงธันวาจะดีมากๆค่ะ เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว จะมีลมหนาวแบบสบายๆ ตอนเรามาเริ่มเข้าหน้าร้อน คือแดดแรงมากๆ
ส่งท้าย 2 ที่เขื่อนป่าสักฯ ตอนเย็นจะอากาศดีมาก แสงเย็นก็สวยมากๆ ถ้ามีโอกาส ก็ลองมาเที่ยวตอนเย็นๆดูนะคะ พักใจพักปอด ของแอบแปะรูปจากสันเขื่อนทริปเก่า ชอบบรรยากาศที่นี่มาก : )
เจอกันใหม่รีวิวหน้าน้า สวัสดีค่า^^
ว่างแล้วไป(havetimethengo)
วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 18.58 น.