ไปน่าน ต้องไปให้ถึง ปัว

24-26 Feb 2018 | 3 Day 2 Night


สำหรับการเดินทางครั้งนี้เป็นการไปน่านในรอบ เกือบ 7 ปีได้มั้ง

Day 1 : Start

ผู้ร่วมเดินทางไปกับเราครั้งนี้กับแก๊งค์ จำนวน 4 คน เราเลือกเดินทางโดยรถทัวร์

โดยขาไปใช้บริการนครชัยแอร์ กทม - น่าน ค่าเดินทาง 544 บ.

  • ออกเดินทางเวลา 20.15 น. ถึง ประมาณเกือบ 6 โมงเช้า (เดินทางประมาณ 10 ชม.)
  • บนรถมีข้าวให้ 1 กล่อง มี ขนม น้ำ และนม ให้กิน
  • ที่นั่ง plus class 32 ที่ (เบาะนวดได้) และ นอนหลับสบายตลอดการเดินทาง
  • มีหนังให้ดู เพลง เกมส์ มาพร้อมหูฟัง
  • เดินทางถึงตัวเมืองน่าน ลง บขส. เวลาประมาณ 6 โมงเช้า รวมเวลาเดินทาง เกือบ 10 ชั่วโมง

Day 2 : Travel

น่าน (Lanna-Nan)

จังหวัดน่าน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของภาคเหนือของไทย เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญๆ ในอดีต เช่น เมืองวรนคร เวียงศีรษะเกษ และ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่สำคัญนั้นคือ "แม่น้ำน่าน "

  • หลังจาก 4 สหาย นั่งรถยาวนานรถจอดปลายทางที่ บขส. เมืองน่าน ซึ่งถึงค่อนข้างเช้ามากกกก
  • ที่ บขส. สามารถเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปลงฟันแต่งตัวที่ห้องน้ำได้ ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด ไม่คิดเงิน
  • เราเดินออกมาจาก บขส. เลี้ยวซ้ายเดินตามถนน จะเจอร้านต้มเลือดหมูอร่อยๆ อยู่ร้านนึง เราแวะเข้ามาทานได้เหมาะเป็นข้าวเช้า และถ้าไม่อยากกินต้มเลือดหมู เดินไปอีกนิดจะเจอตลาดเช้าค่ะ
  • บริเวณตลาดเช้าสามารถแวะซื้อของที่ตลาด เพื่อใส่บาตรตอนเช้าได้
  • เวลาเช้า ๆ บ้านเมืองค่อนข้างเงียบสงบ รถไม่ค่อยเยอะ สามารถเดินตามริมถนนเปิด Google Map แล้วเดินไปยังจุดสถานที่สำคัญในตัวเมืองได้ ระยะไม่ได้ไกลกันมาก
  • ส่วนมากจุดสำคัญในเมืองก็จะเป็นวัดเป็นส่วนมาก เรากับเพื่อนก็เปิด Map เดินไปวัดเช่นกัน
  • (ตามหัวข้อทริป เหมารถสองแถวเที่ยว แต่รถยังไม่มา กับเพื่อนเลยเดินรอรถสองแถว ได้นัดไว้ 08.30 น. แต่บังเอิญมาถึงไวไปหน่อย)

ต่อจากนี้ก็จะพาทุกท่านไป จุด Check in สุดฮิด 10 สถานที่ ใน จังหวัดน่าน

ตลอดการเดินทางในครั้งนี้คือ "เหมาสองแถวเที่ยว"

1. จุด Check in แรกวันนี้ คือ " วัดศรีพันต้น "

วัดศรีพันต้น ที่มาวัดนี้เป็นวัดแรกเพราะว่า ส่วนมากค้นหาใน Google จะขึ้นชื่อและเดินจาก บขส. น่าน มาถึงไว ค่อยข้างใกล้ๆ กันนั่นเอง ..

  • วัดนี้ จุดสังเกตจะมีวิหารที่สวยมากเป็นสีทอง
  • มีจิตรกรรมปูนปั้นที่สวยมาก โดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันได
  • ประวัติที่ได้อ่านมา จิตรกรรมปูนปั้นที่เราเห็นกันนี้ เป็นการปั้น โดยช่างชาวน่าน
  • เดินเข้าไปในวิหารก็จะเห็นการเขียนภาพลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้า และประวัติกำเนิดเมืองน่านค่ะ
  • จากที่เดินสำรวจวัดไม่ใหญ่มากเดินแป๊บเดียวก็ครบทั้งวัดแล้วค่ะ



  • เดินออกมาข้างนอก (ตามภาพด้านล่าง) จะเป็นโรงเรือบ้านศรีพันต้น

  • ถัดมาภายในวัด "พระกัจจายนะเถระ วิหารสังฆจายวัดศรีพันต้น" เป็นองค์ที่มีขนานใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดน่านค่ะ
  • ความเชื่อ ถ้าต้องการขอพรเกี่ยวกับโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ สติปัญญา ความงามและความมีเสน่ห์ ต้องมาขอพรกับ พระกัจจาย ค่ะ (ความเชื่อส่วนบุคคล)


2. จุด Check in " ร้านกาแฟภูพยัคฆ์ "

ร้านภูพยัคฆ์ เป็นร้านกาแฟค่อนข้างเล็ก แต่ก็เป็นอีกร้านที่ขึ้นชื่อของเมืองน่าน เพราะว่า เป็นร้านชองโครงการหลวง ส่วนมากในร้านก็จะมี ของฝากจากที่เป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง
ที่ตั้ง : ตรงนี้จะเป็น สาขาปั๊มเซลล์ ในเมือง น่าน , เปิดทุกวัน เวลา 7:30–18:00 น.
รสชาติของกาแฟ : รสชาติอร่อยดี ก็ถือว่ากลาง ๆ
ราคาของกาแฟ ก็ราคาปกติทั่วไป 30-40 ฿



ถ้ามาร้านนี้ต้องลองเมนู กาแฟภูพยัคฆ์ เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน
ภายในร้านมีที่ให้นั่งทาน ลูกค้าภายในร้านเข้าออก ค่อนข้างเยอะ



3. จุด Check in " ซุ้มลีลาวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ "

อุโมงค์ลีลาวดี หรือ จำปาลาว มองดูจะเป็นแถวเรียง ขยายกิ่งก้านโค้งเข้าหากัน คล้ายๆ อุโมงค์ต้นไม้ เป็น 1 ใน Unseen Thailand ของน่าน ตั้งอยู่ ถ.ผากอง ตรงข้ามกับวัดพระธาตุช้างค้ำใกล้กับวัดภูมินทร์


ในพื้นที่เดียวกันก็จะเป็นที่ประทับของ เจ้าผู้ครองนครน่าน เรียกว่า “หอคำ” ที่ปัจจุบันกลายเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แต่เราไม่ได้เข้าไปดู .. แต่ไปอ่านมา เห็นว่า ภายในเป็นที่จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุต่างๆ ส่วนมากก็จะเป็น สิ่งสำคัญที่สุดคือ "งาช้างดำ" ถ้าใครมีโอกาสได้มาเที่ยวก็อย่าลืมเข้าไปดูนะคะ เสียดายมากเราไม่ได้เข้าไปดู

ตรงบริเวณนี้เรียกว่า "วัดน้อย" (ภาพด้านล่าง)
วัดน้อยเป็นวัดที่เล็กที่สุดในโลก (อันนี้น้อยจริงๆ ตอนแรกคิดว่าเป็น ศาลเจ้า ) แต่ไม่ใช่ที่นี้เรียกว่า "วัดน้อย" มีตำนานเล่าขานกันมาว่า พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63 ได้กราบบังคมทูลถึงจำนวนวัดในเมืองน่านต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ปรากฏว่านับจำนวนเกินไป 1 วัด จึงทำให้ต้องสร้างวัดน้อย ขึ้นมาเพื่อให้ครบตามจำนวนที่กราบทูลนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : วัดน้อย (จังหวัดน่าน) - วิกิพีเดีย , ค้นหา Google ได้


เพื่อนๆ ถ้าไปเที่ยวแล้วหาที่จอดรถ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสามารถจอดรถได้ และ สามารถเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งจะเป็น " วัดภูมินทร์ "



4. จุด Check in " วัดภูมินทร์ "

วัดภูมินทร์ ผากอง ตำนานภาพ “กระซิบรัก ดั่งก้องโลก” หรือ “เสียงกระซิบบันลือโลก” แต่จริงๆ เป็น

ภาพ “ปูม่าน ย่าม่าน” และเป็น วัดคู่บ้านคู่เมืองชาวน่าน วัดตั้งอยู่ในเมืองน่าน เยื้องๆ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ


ประวัติ (เกร็ดความรู้)

  • วัดภูมินทร์ได้สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2139 เป็นวัดหลวงเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครอง เมืองน่านนั้นเป็นผู้ที่ได้สร้างขึ้น หลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี
  • ชื่อของวัดเป็นชื่อของเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ "วัดพรหมมินทร์" ผู้สร้างวัด แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็น "วัดภูมินทร์"
  • โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันประตูไม้ทั้งสี่ทิศ แกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนา

  • ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย 4 องค์ บนฐานชุกชีหันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้ง 4 ทิศ (ตามภาพด้านล่าง)
  • เพื่อนๆ ลองสังเกตหน้าองค์พระ 1 ใน ทั้งสี่ทิศ จะมีเพียงทิศเดียวที่มีใบหน้ายิ้มแย้มมากว่าทั้ง 3 ทิศที่ ถ้าเราได้กราบขอพระยังทิศนั้นแล้วจะได้สมปรารถนาตามที่ตั้งใจไว้ (เป็นความเชื่อที่เล่ามา)

ภาพวาดฝาผนัง ปู่ม่าน ย่าม่าน เป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อสมัยโบราณ ส่วนภาพด้านล่างเป็นภาพการสทนากัน โดย คำกลอนภาษาคำเมือง ที่แต่งขึ้นมาสำหรับภาพนี้ ว่าไว้ว่า

“ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”
สถูปเจดีย์พระมาลัยโปรดโลก จะเป็นเจดีย์ที่อยู่ด้านนอก เดินเข้าไปดูด้านใน จะเป็นรูปปั้นจำลองนรกสำหรับคนที่ทำบาปว่าจะได้รับผลกรรมแบบไหน เพื่อเป็นการย้ำเตือนใจให้เราอย่าทำผิด

  • ถัดมาก็จะเป็น " ศาลเจ้าพ่อเจตบุตรโหมิทร์" เป็นเจ้าเมืองน่านตั้งแต่ปี พ.ศ. 2139 ต่อจากพระญาหน่อคำเสถียรไชยสงครามพระบิดา

จริง ๆ ในตัวเมืองก็มีวัดค่อยข้างเยอะใครที่ต้องการมาไหว้พระ แนะนำเข้าไปอ่านข้อมูลตามลิ้งนี้ 9 วัดสวย น่าน ทำบุญ ไหว้พระ http://travel.trueid.net/detail/1ZzdNoGkny1

สถานที่ต่อไป .. นั่งรถสองแถวจาก ต.ในเวียง มุ่งหน้าไปต.ดู่ใต้ แต่ก็ยังอยู่ในเขต อ.เมืองน่าน ขับรถไปตามเส้นทาง ถนนหมายเลข 1025 ระยะทาง จาก วัดภูมินทร์
ไปประมาณ 3.5 กม. ก็จะถึงวัดพระธาตุเขาน้อย นั่นเอง



5. จุด Check in " วัดพระธาตุเขาน้อย "

วัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน เป็นวัดราษฎร์ จุดเด่น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย นั่นเอง

ประวัติ (เกร็ดความรู้)

วัดได้สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 บนดอยเขาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน

  • ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท
  • สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ รัชกาลที่ 9 ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

  • องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่อ อิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในได้บรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องจากตั้งอยู่บนยอดดอย



6. จุด Check in " วัดศรีมงคล (ก๋ง) อ.ท่าวังผา "

วัดศรีมงคล (ก๋ง) วัดจะตั้งอยู่ที่ ต. ยม อ.ท่าวังผา จ.น่าน ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 40 กม. เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2395 พระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือ หลวงปู่ก๋ง

สำหรับการเดินทาง จากน่านตัวเมืองน่านมุ่งหน้าไปอำเภอท่าวังผา ประมาณ 40 กม. เส้นทาง 101(1080) จะเข้าเขตอำเภอท่าวังผา แต่แนะนำให้ตั้งการเดินทางจาก google maps ดีกว่า เพราะมีการทำถนนหลายสายแนะนำให้ศึกษาเส้นทางดีๆก่อนออกเดินทาง แต่ถ้าเช่ารถสองแถวในพื้นที่ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะคนขับรถคุ้นเคยเส้นทางค่ะ

บริเวณลานชมวิว ทางวัดได้จัดทำเป็นซุ้มและจุดชมวิวให้ถ่ายภาพค่อนข้างหลายจุด รวมถึงภายในวัดก็มีร้านกาแฟ ร้านค้า ร้านขายของฝาก

ส่วนบริเวณชมวิว เพื่อนๆ สามารถเดินลงไปถ่ายภาพ ได้จะมีการทำทางเดินไว้ให้ค่ะ ส่วนตัวคิดว่า มีทัศนียภาพสวยมาก มองเห็นทุ่งนา และ ทิวเขาของดอยภูคา แต่เดินลงไปถ่ายรูประวังหน้ามืดก็เป็นได้ เพราะแดดแรงมากค่ะ

บริเวรด้านล่างตรงจุดถ่ายภาพตรงนี้ พื้นไร่จะเปลี่ยนไปตามฤดู ถ้าไปถูกช่วงดอกทานตะวันบานก็จะได้ภาพอีกความรู้สึก ภาพทุ่งนาก็จะอีกความรู้สึกค่ะ


7. จุด Check in " ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ โฮมสเตย์ อ.ปัว "

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ โฮมสเตย์ ( บ้านผาเก๊าะน้ำกูน) ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 129 บ้านหัวน้ำ ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน หลังจากเดินทางเหนื่อยมาทั้งวัดตรงนี้จะเป็นจุด พักผ่อน เราว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักที่เหมาะ ไปสูดโอโซน มองวิว มองทุ่งนากว้าง อารณณ์แบบหนีกรุงแล้วไปพักได้เต็มอิ่ม
  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08:00-18.00 น.
  • สโลแกนหลักๆ ของฟาร์มเห็ด เป็นจุดพักผ่อน เพราะในฟาร์มมีทั้ง อาหาร กาแฟ และของว่าง Location เหมือนประหนึ่งว่าเราได้กินข้าวพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
  • ส่วนบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ทุ่งนาป่า และลำธารแบบชนบทของ อ.ปัวและ มองเห็นเทือกเขาดอยภูคา
  • เพื่อนๆ สามารถเดินทางจากตัว อ.ปัว เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ส่วน อ.ปัว จะห่างจากตัวอำเภอเมืองน่านประมาณ 60 กม.

  • เมนูส่วนใหญ่ของทางร้านจะเน้นไปทางเมนูเห็ดทั้งหลาย เนื่องจากที่นี่ คือ ฟาร์มเห็ดที่ผลิตเชื้อเห็ดที่ใหญ่ทันสมัย

เมนูอาหารแนะนำ : พิซซ่าเห็ด 140 บาท ชุปครีมเห็ด 50 บาท ยำแหนมเห็ด 90 บาท ต้มยำเห็ดยานางิ 90 บาท ตุ้มแซบไก่บ้าน 120 บาท แกงเห็ดใบยานาง 80 บาท และ เห็ดออรินจิผัดกุ้ง 130 บาท เป็นต้น

  • ส่วนตัวเราชอบ Pizza เห็ดมากอร่อยมาก และ ผักโขมอบซีสเห็ดเมนูนี้ก็อร่อย ใครที่ได้ลองมาทานแนะนำต้องสั่งทานค่ะ

  • ร้านอาหารของฟาร์มจะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ , ต้นไผ่จะค่อนข้างเยอะ
  • สามารถนั่งทานรอบๆ บริเวณบ้านไม้ได้ บรรยากาศ ลมพัดเย็น
  • ฟรี WiFi สามารถบริการตัวเอง หยิบแก้วน้ำ ช้อน/ซ้อม เองได้เลยค่ะ


8. จุด Check in " ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ อ.ปัว "

ถ้าได้มาถึงอำเภอปัว อีกจุดที่ขาดไม่ได้ ที่เพื่อนๆ จะต้องแวะมาจิบเครื่องดื่ม กาแฟ และบรรยากาศสไตล์ไทลื้อพื้นบ้าน ที่ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ของร้านลำดวนผ้าทอ ตั้งอยู่ที่ ต.ศิลาแลง อ.จังหวัดน่าน

ร้านกาแฟนี้เป็นของร้านลำดวนผ้าทอ จะเป็นร้านขายของที่ระลึกและผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณ ร้านลำดวนผ้าทอตั้งติดถนนหาไม่ยาก บริเวรร้านมีที่จอดรถแต่คนแวะเที่ยวร้านค่อนข้างเยอะ

ความรู้สึกส่วนตัวสำหรับรสชาติของกาแฟ หรือ เครื่องดื่มต้องปรับปรุง รสชาตไม่ได้อร่อยมากราคาไม่แพงมาเป็นราคาทั่วไป แต่ส่วนมากที่นักท่องเที่ยวแวะเข้ามาจุดเด้นอยู่ที่ มุมนั่งดื่มกาแฟเป็นกระท่อมมุงด้วยหลังคาจาก ตั้งอยู่ริมนาข้าว มองเห็นวิวภูเขา ซึ่งตรงนี้เราชอบเลย



ด้านหน้าร้านแยกเป็นส่วนๆ ด้านหน้าก็จะเป็นช๊อปผ้าทอ ส่วนพื้นที่ด้านหลังร้านจะ เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟบ้านไทลื้อ บรรยากาศโดยรวมของร้านตกแต่งตามสไตล์ของชุมชนชาวไทลื้อผสมล้านนา


Day 3 : Last Day

วันสุดท้ายของการอยู่น่าน

9. จุด Check in " น้ำตกศิลาเพชร อ.ปัว "

น้ำตกศิลาเพชร ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านป่าตอง ต.ศิลาเพชร อ. จ.น่าน อ้างอิงจากวิกิพีเดีย น้ำตกเกิดจากลำน้ำย่าง มีทั้งหมด 3 ชั้น มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำตกเหมาะแก่การเล่นน้ำและมีน้ำไหลตลอดปีนั่นเอง แต่วันที่ไปน้ำค่อนข้างน้อยมาก อากาศร้อน

สำหรับการเดินทาง ถ้าเพื่อน ๆ ตั้งใจมุ่งหน้ามาจากตัวเมืองน่าน ก็จะห่างจากตัวเมือง ประมาณ 71 กม. การเดินทางต้องมีรถส่วนตัว หรือ เหมาสองแถว เท่านั้น ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 สายน่าน-ปัว ก่อนถึงอำเภอปัว ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 แต่ถ้าจากตัวอำเภอปัวไปก็ไม่เกิน 20 กม.

ก่อนจะเดินมาถึงตรงนี้ด้านหน้าจะเป็นร้านค้าขายของกิน เช่น อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ส้มตำ เป็นต้น ก็จะเป็นคนในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ราคาก็ไม่แพงมากเท่าๆกับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป


บรรยากาศระยะทางเดินขึ้นไปหาน้ำตก ป่าไม้ข้างๆ ตามทางเดิน รู้สึกเย็นสบายไม่ค่อยร้อนมาก

น้ำตกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ลักษณะมีน้ำจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกัน เป็นลำน้ำผ่านโขดหิน ซึ่งไม่ใช่น้ำตกที่ตกจากที่สูงๆ ตามที่บอกตอนต้นช่วงนี้เราไปน้ำค่อนข้างน้อยมาก เลยแค่ได้เอาเท้าแช่น้ำ

น้ำตกค่อนข้างเป็นที่รู้จัก และเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมทั้งในและต่างถิ่น เดินขึ้นไปก็จะแอบเห็นน้องๆ เด็กๆในพื้นที่มาเล่นน้ำกัน นั่นเอง


10. จุด Check in " ชมวิวข้างทาง ด้านหลังดอยภูคา อ.ปัว "



ตลอดทั้งการเที่ยวน่านของเราเดินทางโดยการ เหมา รถสองแถวขับเที่ยวตลอดทั้งทริป
สามารถติดต่อ เช่ารถ รวมทั้งถามราคา ได้ที่ Tel : 089 835 6884 พ่อสมบัติค่ะ


หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ
Please forgive any error mistakes.
THANK YOU
ฝากติดตามรีวิวได้ที่ : https://www.facebook.com/skip.trave
ความคิดเห็น