โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น…..ชื่อนี้ที่ไม่ได้มีแค่ที่พัก

ชื่อนี้ที่ได้ยิน มา นาน นม แต่ไม่มีโอกาสได้ไปกับใครเขาสักที

วันนี้เลยมีโอกาสได้ไปทำความรู้จัก > > > โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น < < < สัก ก ก ที

"ทำไมใครๆ มาแล้วก็หลงใหลที่นี่" คำถามนี้ได้ยินมาตลอด วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

มีคนเเคยบอกไว้ว่า หากเราเที่ยวแบบไม่มีแพลน เราจะมีความสุขและประทับที่สุด

ดังนั้น ในการมาเที่ยวครั้งนี้ เลยไม่หาข้อมูล ไม่อ่านรีวิว ใดๆ ทั้งสิ้น

ตัดสินใจ ไป เที่ยวดะ เมื่อถึงถิ่น พร้อมแล้ว ไป เที่ยว กัน เถอะ 1 2 ซั่ม ไปกัน

เป็นไงละ!!! มาถึงก็เขียว ส ด ชื่ น น น น น

โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น ตั้งอยู่ในตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ได้ท่องเที่ยวสัมผัสกับธรรมชาติ เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

มีส่วนร่วมต่อการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ

......................................................................................................................................................................................................

ค่าใช่จ่าย : 1-2 ท่าน คิดท่านละ 600฿ หาก 3 ท่านขึ้นไป คิดท่านละ 500฿

เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ คิดราคา 250฿

*** กรณีชาวต่างชาติ คิดราคารท่านละ 700฿ ***
ราคานี้รวมที่พัก/อาหารเย็น/อาหารเช้า

กิจกรรมที่นี่เหมาะสำหรับ ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน

ข้อปฎิบัติ งดใช้เสียงดังหลัง 3 ทุ่ม

การติดต่อ : 0884957738 พี่แหม่ม หรือ FB:โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

เดินทางง่าย สะดวก ค้นหา GPS วิ่งตามไปเลย

......................................................................................................................................................................................................

การมาเที่ยวในครั้งนี้ อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า เรามาเพราะงาน งานจริงๆๆๆ เราได้รับเกียรติอย่างสูงจากสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความอนุเคราะห์แก่พวกเรามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่ง โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น เป็นอีก 1 กรณีศึกษา

>>>> กิจกรรมทั้งหมด <<<<

1. ชมฟาร์มรักรู้เศรษฐกิจพอเพียง
2. เก็บตะวัน ณ ชายทุ่ง
3. กิจกรรมบายศรี ผู้เฒ่าผูกข้อมือ
4. การแสดงชุดลิเกก้อมผู้สูงอายุ
5. การแสดงของเด็กและเยาวชน
6. ทอฝ้าใต้ถุนบ้าน
7. ตุ๊กตาบาร์โหน (บ้านตาวงค์)
8. ผ้าหมักโคลน
9. ทดลองทำข้าวเปิ๊บ
10. รับอรุณยามเช้า

การเดินทาง : ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถส่วนตัว เส้นทาง แพร่-ศรีสัชนาลัย

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

ถึงแล้ว ว ว ว ว ว

ภาพแรกที่เห็น >>>>

ร้านข้าวเปิ๊บล้มยักษ์ สถานที่แรกที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว

แต่…ครั้งนี้ด้วยมาเพราะงาน…ดังนั้น “เรื่องกิน” โปรดพักไว้ก่อน ฮ่า ๆ ๆ ๆ

นอนหลับมาตลอดทาง ลงจากรถด้วยอาการมึนเบลอ

ขอเพิ่มพลังให้สมองตื่นซะหน่อย (เมื่อกี้บอกขอพักเรื่องกิน สุดท้ายก็จบที่ของกิน)

>> ชื่อร้านไม่แน่ใจ แต่ขอเรียก ร้านกาแฟสั่นระฆัง ไม่สั่น สั่งไม่ได้น้า

(เท่าที่สังเกตน่าจะเป็นร้านเดียวในบ้านนาต้นจั่น)

สมองตื่นแล้ววววว ไปกันต่อ แม่เสงี่ยม รอต้อนรับ…..

แม่เสงี่ยม เป็นประธานกลุ่มท่องเที่ยวโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จะบอกว่า ใครมาที่นี่ ต้องแวะมาคุยกับแม่นะ แล้วจะได้ความรู้ + ความฮา ความบันเทิง กลับไปเพียบ ขนาดกลับมายังอยากกลับไปคุยกับแม่อีกเลย แม่คุยสนุกมากกก

ที่นี่จะเน้นความเป็นธรรมชาติ วิถีชีวิต วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชุมชน ขนาดแก้วน้ำ ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเลย ไม่ใช่แค่แก้วนะ น้ำนี่ น้ำอัญชันมะพร้าวอ่อน ไม่หวานเกินไปหอม อร่อย

นอกจากน้ำสมุนไพร เข้าหน้าร้อน น้ำแข็งใสก็ดับร้อนได้เป็นอย่างดี ดูภาชนะซะก่อน เก๋ไก๋ ต้องบอกใครๆๆ

หลังจากที่ฟังแม่เสงี่ยมเล่าที่มาของกลุ่มเรียบร้อย เราไปกันต่อ พาหนะที่ใช้ในการเดินทางในครั้งนี้ นี่คงเป็นซิกเนเจอร์ ของที่นี่เลยก็ว่าได้

รถอีแต๊ก แต่ก แต่ก แต่ก แต่ก

สถานที่ต่อไป >>>> ฟาร์มรักรู้เศรษฐกิจพอเพียง” ฟาร์มแห่งนี้มันเกิดมาจากความรักจริงของเจ้าของฟาร์ม มาถึงฟาร์มปุ๊บ มีเจ้าตัวนี้รอต้อนรับ ขอบอกว่า น้องเค้าบ้ากล้องที่สุดดดดดด ไม่เชื่อดูภาพน้องนาง

เจ้าช่าง เล่นกล้อง ไม่รู้จักกาลเทศะ งานการพิกลพิการทำไม่รู้ความ ไม่เอาการเอางาน ขี้คร้านตัวเป็นขน ดีแต่นั่งชม้อยชายตา น่ารำคาญ ประโยคพี่หมื่นก็มา.....

ฟาร์มรักรู้เศรษฐกิจพอเพียง เราจะได้เรียนรู้การเกษตร แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ชีวิตแบบพอเพียง

นี่คือ > > > ผู้ดูแลฟาร์มแห่งนี้ สวนทั้งสวน มาจากน้ำเหงื่อที่ไหลรินของน้องทั้งน้าน ฟาร์มแหล่งนี้

สมาชิกอีก 1 ตัวของฟาร์มแห่งนี้ เสียดายที่มาครั้งนี้ไม่ได้ลองทานไข่เค็มสูตรเด็ดของฟาร์ม หากใครไปฝากลิ้มลองความเด็ดแทนด้วยนะคะ

หลังจากนั้น เราได้เคลื่อนย้ายไปส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ส่วนนี้เป็นโซนธรรมชาติ ทุ่งนาเขียวขจี ตอนนี้มีสะพานไม้ไผ่ ที่ชาวบ้านช่วยกันลงไม้ลงมือ สร้างขึ้นมาเพื่อนักท่องเที่ยว

วันนี้มีหลากหลายคณะ เราจึงชมความงามบริเวณนี้พอแล้ว ไว้รอบหน้าจะมาเก็บภาพบนสะพาน สัญญาเราจะมาอีกครั้ง....

ถึงช่วงเวลาแห่งความสนุกนแล้ว เชิญรับชมภาพกันได้เลยยยยย

กับข้าวมื้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าเด็ด เมนูที่ต้องลอง คือ ลาบคั่ว มันลำขนาด ลำแต้ลำว่า ขอเพิ่มไป 4 จาน

ถ้วยเล็กตรงกลาง สืบมาว่า คือ น้ำพริกซอกไข่ ป๊าดโธะ มันอร่อยกว่าหน้าตา

จริงๆ กับข้าวของที่นี่ อร่อยมากกกค่ะ ให้ 10 เต็ม 10 เลย

มื้อนี้อิ่มจนต้องหากิจกรรมย่อยอาหารให้เกลี้ยง

ในระหว่างที่ทานข้าว จะมีกลุ่มเยาวชนเล่นดนตรีไทย กินข้าวเคล้าเสียงดนตรี มันดีจริง จริ๊งงงง

อิ่มกันแล้ว ผู้สูงอายุจะมาผูกข้อไม้ข้อมือ เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นประเพณีสู่ขวัญ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมให้แก่ชุมชน และเยาวชนรุ่นต่อไปได้เป็นอย่างดี อนุรักษ์ประเพณีไม่ให้สูญหาย

กรรมที่ช่วยย่อยได้ดี ก็คือ มาฟังผู้สูงอายุเล่นลิเกก้อม เป็นการร้องลิเกแบบสั้นๆ
แต่แอบเเซ่บอย่าบอกใคร แม่ๆ ร้องกันได้แซ่บที่สุด ท่าเต้นนี่ BKK ก็สู้ไม่ได้นะคร้า เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายตอนที่แม่ๆ เต้น นอกจากนี้มีรำวงที่ให้ผู้มาพักได้ร่วมกิจกรรมด้วยกันก่อนอำลา เพื่อพักผ่อนเก็บแรงสำหรับวันพรุ่งนี้

/////////////////////////////////////////////

เช้าวันนี้ พวกเราตัดสินใจ ตื่นเช้ามว๊ากกก 04.30 น. เพื่อไปรับอรุณยามเช้า ซึ่งพี่บอย (เจ้าของที่พักโฮมสเตย์) ได้ติดต่อไกด์และรถนำเที่ยวไว้ให้แก่พวกเรา ไกด์มารับคณะของพวกเราถึงหน้าบ้านพัก ตรงเวลาเป๊ะ

พร้อมออกเดินทาง ช่วงเวลานี้ เงียบดีจริงๆๆ มองไปทางไหนก็มืดสุดดดด

จุดชมพระอาทิตย์ยามยาม คือ ดอยต้นไฮ ระยะทางเดินทาง 800 เมตร แต่..... 800 เมตรที่ว่า

มันเหนื่อยสุด ด ด วันนี้โชคไม่เข้าข้างพวกเรา เลยไม่ได้รับแสงอรุณยามเช้าที่สวยงาม

แต่ยังมีความฟิน ที่อยากแนะนำ นั่นก็คือ ดื่มกาแฟจากกระบอกไม้ไผ่ แต่ตอนนี้ท้องมันร้อง กาแฟก็เอาไม่อยู่

โชคดีที่ไกด์นำเที่ยวได้เตรียมมาม่ามาเผื่อพวกเราด้วย

มันก็จะพิเศษตรงที่ถ้วยใส่มาม่านี่แหละ.........

บรรยากาศยามเช้าที่พวกเราได้รับ แม้ว่าวันนี้ท้องฟ้าจะไม่เป็นใจ

เส้นทางที่ขึ้นมาก็จะประมาณนี้ ช่วง 100 เมตรสุดท้าย จะล้านิดๆ ปวดน่องหน่อยๆ แต่รับรองขึ้นไปแล้ว รอบหน้าก็จะตัดสินใจขึ้นไปอีก

ดูพระอาทิตย์เสร็จแล้ว กลับบ้าน พี่บอยได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราเยอะมาก เห้นแบบนี้บอกแล้วว่าคุ้มสุดคุ้ม แต่เสียใจที่กินกันไม่หมด มันเยอะ อิ่มจนไม่สามารถเอาอะไรใส่เพิ่มเข้าไปได้อีกแล้ว

กินอาหารเช้าเรียบร้อย เราอาบน้ำ เตรียมเก็บกระเป๋า

พร้อมออกทัวร์ในชุมชน ซึ่งพี่บอยเป็นไกด์นำทางให้พวกเรา L e t's GOOOO

ที่แรก สะดุดตามากที่สุด คือ >>> บ้านอชิ <<< เป็นบ้านพักสำหรับรับรองนักท่องเที่ยว หากไม่ได้พักที่นี่ สามารถแวะมาถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย

สถานีต่อไป ไปชมภูมิปัญญาท้องถิ่น การทำตุ๊กตาบาร์โหนของคุณตาวงค์ แม้ตอนนี้จะไม่มีคุณตาแล้ว

แต่ลูกของท่านได้รับทอดภูมิปัญญาไว้

เต็มอิ่มด้วยความรู้ ไปรับพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ใกล้จะสิ้นเดือนแหละ เผื่อเราจะมีดวงทางด้านนี้

ภูมิปัญญาของบ้านนาต้นจั่นที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ผ้าทอ ผ้าหมักโคลน

กองทัพต้องเดินด้วยท้องเมื่อสมองอิ่มแล้ว เราต้องเพิ่งกำลัง

พลาดไม่ได้ เมื่อมาสุโขทัย ต้องกินข้าวเปิ๊บ

หมี่แบ ที่ต้องลอง

จุดเด่นของหมี่แบยายเครื่อง พิเศษที่หมูแดงแผ่านหญ๊ายยยยย

จบแล้วสำหรับทริปนี้ โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชน แหล่งท่องเที่ยวที่ช่วยอนุรักษ์สืบสานประเพณี องค์ความรู้ ภูมิปัญญาของผู้เฒ่าผู้แก่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มาครั้งนี้

เอาจริงๆๆ ตอนนี้ยังไม่อยากกลับเลย อยากพักต่อ มาที่นี่แล้ว รู้สึกเหมือนได้มาพักบ้านญาติ

แล้วจะกลับมาพักผ่อนที่บ้านญาติหลังนี้อีกครั้ง

>>> โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น <<< ชื่อนี้ ไม่ได้มีแต่ที่พัก

ขอขอบคุณ สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ให้พวกเรามาร่วมท่องเที่ยวในครั้งนี้

ขอขอบคุณ พื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร ที่ร่วมดูแลฟื้นฟูอนุรักษ์สิ่งดีๆกับชาวบ้าน และช่วยผลักดันให้เรามีรีวิวสถานที่แหล่งนี้

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ รีวิวแรก อาจจะไม่ดีต้องขออภัยด้วยนะคะ