ลิ่นไอเกลือ ณ บ่อเกลือ จ.น่าน
“เมื่อบ่อเกลือ ไม่ได้มีแค่เกลือ แต่มีกลิ่นไอเกลือด้วย”
อำเภอบ่อเกลือ เป็นอีกหนึ่งอำเภอในจังหวัดน่าน ที่มีอากาศดีตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเช้า ช่วงกลางคืน จะมีอากาศเย็นสบายไปจนถึงหนาวจัด และในฤดูหนาวนั้นจะหนาวเย็นทั้งวัน หนาวถึงขั้น ในบางวันสามารถเกิด เหมยขาบ หรือ แม่คะนิ้ง ได้เลยทีเดียว
เมื่อพูดถึงบ่อเกลือ แน่นอนว่าจะต้องนึกถึง “บ่อเกลือสินเธาว์” มหัศจรรย์เกลือภูเขาแห่งเดียวในโลก!!
เกลือสินเธาว์
เกลือสินเธาว์ ใช้น้ำที่ค้นพบว่ามีรสเค็มกว่าน้ำปกติทั่วไป ซึ่งมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ลักษณะเป็นน้ำผุด จึงมีการทำบ่อน้ำเอาไว้ ปัจจุบันบ่อน้ำที่นำน้ำมาต้มเกลือนั้นจะเป็นบ่อปูนครอบบ่อไม้เดิมไว้ ขอบบ่อสูงขึ้นมาประมาณ 2 เมตร มีเสากระโดงโยงเชือกและอุปกรณ์ตักน้ำในบ่อขึ้นมาพักไว้ในโอ่ง
แล้วจึงนำมาต้มให้ตกผลึก จากนั้นตักใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือกระทะให้สะเด็ดน้ำ ชาวบ้านละแวกนี้จึงมีอาชีพจากการต้มเกลือสินเธาว์จำหน่ายด้วย
เมื่อนำน้ำมาต้มจนตกผลึกกลายเป็นเกลือสินเธาว์แล้ว จะทำการแยกส่วนของดอกเกลือที่เป็นผลึกใหญ่อยู่ด้านบน และเกลือปกติที่มีความละเอียดมาก สีขาวบริสุทธิ์ รสชาติเค็มไม่มาก แตกต่างจากเกลือทะเล สามารถนำมาประกอบอาหารได้ หรือนำมาขัดตัว แช่เท้าก็ได้เช่นกัน
หรือจะลองชิมไข่ต้มเกลือแบบนี้ก็ดูเข้าที นำไข่ไก่ไปต้มในน้ำที่ใช้ต้มเกลือ ออกมามีรสชาติเค็มปะแล่มเล็กน้อยแถมยังออกมันๆด้วย ได้อรรถรสไปอีกแบบนะคะ
เที่ยวบ่อเกลือ
นอกจากเกลือสินเธาว์แบบต่างๆที่วางจำหน่ายกันแล้ว เมื่อเดินเข้ามาด้านใน จะพบสะพานไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยผลน้ำเต้าละลานตา
เดินข้ามสะพานมาแล้วจะพบกับเพลิงไม้หลังคามุงจาก เป็นแถวยาว ซึ่งเป็นร้านค้าของชุมชน จะคึกคักมากในวัน เสาร์และอาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาก็ยังคงมีบางร้านนำของมาวางขายอยู่ สินค้าที่ขายกันส่วนใหญ่ก็คือของพื้นบ้าน ตามฤดูกาล อย่างเช่น มะต๋าวหรือลูกชิด มีทั้งแบบอบน้ำผึ้ง แบบต้มน้ำเชื่อม และแบบสดๆ หรือจะเป็น มะหลอด (สลอดเถา, หมากหลอด, บะหลอด, ส้มหลอด) ผลไม้ป่าที่พบมากในแถบภาคเหนือและอีสาน ผลสุกจะมีสีแดงคล้ายผลมะเขือเทศ มีรสเปรี้ยวอมฝาด มีเมล็ดด้านในคล้ายเมล็ดมะปราง ลองกินกับเกลือสินเธาว์แล้วอร่อยมาก หมูปิ้งมะแขว่นก็มีนะคะ มะแขว่นคือสมุนไพรชนิดหนึ่ง รสชาติเผ็ดร้อนคล้ายพริก นิยมทานมากทางภาคเหนือ ใช้ใส่อาหารประเภท ลาบ น้ำพริก แกงต่างๆ
ลำน้ำมาง
ในชุมชนแห่งนี้ มีลำน้ำไหลผ่านอยู่ตลอด ในลำน้ำจะมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถมองเห็นตัวได้เนื่องจากน้ำในลำน้ำค่อนข้างใส สามารถซื้ออาหารปลามานั่งเล่นไปให้อาหารปลาไปได้เพลินๆค่ะ
และถ้ามองดูในลำน้ำดีๆ จะเห็นกระทะขนาดใหญ่วางอยู่ใต้น้ำหลายใบ เราเองก็สงสัยจึงได้ไปหาคำตอบมาจากชาวบ้าน ทราบมาว่า กระทะที่เห็นอยู่นั้น คือกระทะที่ใช้ต้มเกลือสินเธาว์นั่นเอง หลังจากที่ต้มเกลือจนตกผลึกหมดกระทะแล้ว จะนำกระทะมาวางไว้ในน้ำโดยการหงายขึ้นเหมือนตั้งบนเตาปกติ แล้วให้น้ำที่ไหลในลำธารค่อยๆชะล้างเกลือให้หลุดออกไปจากกระทะเอง ไม่ต้องออกแรงขัดเลย ซึ่งถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านอีกอย่างที่ดูเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ไปเลยล่ะค่ะ
วัดบ่อหลวง
ในชุมชนมีวัดที่เป็นศิลปะแบบไทย คือ วัดบ่อหลวง สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2308 โดยชาวบ้านที่ย้ายถิ่นฐานมาจากเมืองโยนก (เชียงแสน) เดิมชื่อว่าวัดสุทธาราม ตั้งอยู่บนแม่น้ำมาง ปัจจุบันวัดบ่อหลวงได้รับการบูรณะพัฒนามาโดยตลอดจากชาวบ้านในชุมชนบ้านบ่อหลวง
ร้านอาหาร กลิ่นไอเกลือ
ย่านนี้มีคาเฟ่หรือร้านเครื่องดื่มอยู่หลายร้าน แต่จะมีร้านที่เป็นทั้ง คาเฟ่และร้านอาหารอยู่ในร้านเดียวกัน แถมเป็นร้านใหญ่ที่สุดในย่านนี้ นั่นคือ “กลิ่นไอเกลือ”
กลิ่นไอเกลือเปิดมานานถึง 3 ปี เป็นร้านที่อยู่ในย่านบ่อเกลือใต้ ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโรงต้มเกลือสินเธาว์ บรรยากาศของร้านดูโล่งสบาย ซึ่งเป็นชั้นล่างของอาคารสองชั้น ขนาดกว้างขวาง สามารถเปิดพัดลมได้
มีอาหารหลากหลายเมนู เบเกอรี่ ขนมปังรสต่างๆ เมนูเครื่องดื่มร้อนเย็น และกาแฟสด ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ใครมาเที่ยวชมบ่อเกลือสินเธาว์ก็จะต้องแวะมาทานอาหารกันที่ร้านกลิ่นไอเกลือ ยิ่งในเรื่องของรสชาติอาหาร สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการปรุง ทั้งรสชาติและการจัดจาน แต่ละเมนูราคาตามท้องตลาดทั่วไปเลยค่ะ เลือกดูได้จากเมนูนี้เลย
“ชุดน้ำพริกกะปิ” ราคา 150 บาท จัดวางมาอย่างสวยงาม น้ำพริกกะปิรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกะปิอ่อนๆ เปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดแบบพอดีๆ ทานได้ทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบทานเผ็ดเลยล่ะค่ะ มาพร้อมกับเครื่องเคียงสำหรับจิ้มน้ำพริก แตงกว่าสดหั่นแว่น ปลาทูนึ่งทอดทั้งตัวเนื้อแน่น ไข่ชะอมทอดหั่นเป็นสี่เหลี่ยมพอดีคำ มะเขือยาวหั่นแว่นชุปแป้งทอด และผักสลัดสดๆ วางเรียงกันมาพูนจาน
“ฉู่ฉี่ปลาทอด” เลือกได้ทั้งปลาทับทิมและปลาตะเพียน ราคา คิดตามน้ำหนัก ปลาทั้งตัวถูกหั่นเนื้อเป็นชิ้น แล้วนำไปทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน จากนั้นจัดเรียงปลามาในจานตามรูปทรงของตัวปลา แล้วราดด้วยน้ำฉู่ฉี่รสชาติดี
“ไก่ทอดเกลือ” ใช้ส่วนของปีกไก่ เนื้อไก่นุ่ม หนังไก่มีความกรอบกลางๆ ทานแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็ได้รสชาติของความอร่อยมาเต็มๆแล้ว หรือจะจิ้มน้ำจิ้มด้วยก็ยิ่งอร่อยเมื่อทานกับข้าวสวยร้อนๆ
“กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา” จานนี้อาจดูเหมือนธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยจริงๆ อร่อยกลมกล่อมมาก เค็มหวานกลางๆกำลังดี ส่วนกะหล่ำปลีที่ผัดจนสุกหอมแล้วยังมีความกรุบกรอบเบาๆจากความสดของผักอยู่
“กาแฟลาเต้เย็น” ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่ได้ลองลิ้มชิมรสไปคือ ลาเต้เย็น เป็นกาแฟสด บดใหม่แล้วชงให้เห็นๆกันเลย กลิ่นหอมมาก หอมอบอวลตั้งแต่ไปยืนมองตอนชงกาแฟ ชงมาได้รสหวานมันมาก โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟ แต่ดื่มได้ถ้าเป็นสูตรกาแฟน้อย จึงได้ลาเต้หอมหวานมันแก้วนี้มา ดูดไปดูดมาก็ดูดจนหมดแก้วโดยไม่รู้ตัว
ที่พัก กลิ่นไอเกลือ
ถ้าหากได้มาพักผ่อนในชุมชนที่ไม่แออัดวุ่นวาย ไม่อึกทึกครึกโครม แต่กลับมีธรรมชาติและอากาศดีๆให้สูดลมหายใจได้อย่างเต็มปอด มีน้ำใสๆไหลเย็นๆให้ได้ลงเล่น อากาศเย็นตลอดโดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงกลางคืนของทุกวันแม้ไม่ใช่ฤดูหนาว ยิ่งเข้าฤดูหนาวก็จะยิ่งหนาวเย็นแบบที่ไม่ต้องไปอยู่บนภูเขาสูงๆเลย แค่มาอยู่ที่บ่อเกลือ จะสามารถสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
“กลิ่นไอเกลือ” ไม่ได้มีเพียงร้านอาหาร เบเกอรี่ หรือกาแฟสดเท่านั้น แต่ยังมีห้องพักในบ้านไม้ไว้คอยให้บริการอีกด้วย
ห้องพักมีทั้งหมด 5 ห้อง อยู่ชั้น 2 ของบ้านไม้ในตัวอาคารเดียวกันกับร้านอาหาร แต่อยู่คนละล็อกกันค่ะ แต่ละห้องจะอยู่ใกล้กันแต่ไม่ติดกัน และมีพื้นที่ส่วนกลาง ที่ทำเป็นเหมือนห้องรับแขกสไตล์ล้านนา ที่มีโต๊ะ เก้าอี้ ทำจากไม้ มีเบาะรองและหมอนอิงหุ้มด้วยผ้าทอตามแบบของชาวเหนือโดยแท้
แต่ละห้อง พักได้ห้องละ 2 ท่าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบที่เข้ากับบรรยากาศและลงตัวกับบ้านไม้ในชุมชนของชาวเหนือเป็นอย่างยิ่ง ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พัดลมตั้งพื้น และน้ำดื่ม
ส่วนห้องน้ำ จะเป็นห้องน้ำรวม ที่เป็นปูนเปลือยผสมไม้ สะอาดสะอ้าน มีเครื่องทำน้ำอุ่น
ชอบความคลาสสิคอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ กระจกสี ในห้องพักแต่ละห้องรวมถึงห้องน้ำ จะมีหน้าต่างที่ใช้กระจกสี เป็นสีเหลือง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและดูสวยสะดุดตาเป็นอย่างมาก
“กลิ่นไอเกลือ”
ที่อยู่ : เลขที่ 42 หมู่ที่ 1 ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
ราคาห้องพัก : 800 บาท/ห้อง (ช่วง พ.ย. – ม.ค. ราคา 1,000 บาท/ห้อง) รวมอาหารเช้า
เวลาทำการ : ร้านอาหาร 08.00 – 19.00 น.
เฟซบุ๊ก : กลิ่นไอเกลือ
โทร : 086 556 3966
การเดินทางไปบ่อเกลือ
จากในเมือง สามารถใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 ไปทางอำเภอปัว วิ่งผ่านอุนทยานแห่งชาติดอยภูคา (ทางหลวงหมายเลข 1256) ไปลงที่ชุมชนบ้านบ่อหลวง แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปทางบ่อเกลือ ตรงไปประมาณ 100 เมตร กลิ่นไอเกลือจะอยู่ซ้ายมือ ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับป้าย “บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา”
เส้นทางที่ 2 ไปทางอำเภอสันติสุข และวิ่งเข้าบ่อเกลือใต้ (ทางหลวงหมายเลข 1081) แล้วตงขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงบ่อเกลือสินเธาว์ กลิ่นไอเกลือจะอยู่ทางขวามือ
ติดตามบันทึกการเดินทางต่อๆไปได้ที่ :
GowithAmp
https://facebook.com/GowithAmp
GowithAmp
วันพฤหัสที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.14 น.