เก็บกระเป๋าแล้วตามเรามาให้ไว คราวนี้พวกเราจะพาไปรู้จักกับที่พักที่พึ่งจะเปิดใหม่ได้ไม่นานมานี้ เพราะซีซันนี้เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการมาเที่ยวทะเลมากๆ เรียกได้ว่าเกาะกูดกำลังเนื้อหอมเลยหละ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใครบนเกาะนี้ และความเงียบสงบรวมถึงยังมีความดิบและวิถีชวิตของชุมชนเก่าๆยังคงมีอยู่ แถมทะเลก็สวย ใส น้ำน่าเล่นมากๆ จึงไม่แปลกที่ใครหลายๆคนเล็งเกาะนี้ไว้อันดับต้นๆในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือแม้กระทั้งวันลาพักผ่อนของตัวเอง
ซึ่งครั้งนี้เรามีโอกาสได้กลับมาที่เกาะกูดกันอีกครั้ง แล้วดันไปเจอที่พักที่มีคนกำลังพูดถึงในเฟสบุ๊คค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว จะรอช้าอยู่ใย มุ่งหน้าไปที่พักเพื่อขอสัมผัสกันสักหน่อยว่ามันจะดีอย่างที่หลายๆคนพูดไว้รึเปล่า
ก่อนอื่นขอฝากเพจการเดินทาง ท่องเที่ยว รีวิว ไว้ในอ้อมกอดกันก่อนนะครับ
https://www.facebook.com/wanderaroundthailand
ข้อดีของที่พักนี้ก็คือ อยู่ติดกับหาดเลยครับ ซึ่งเป็นหาดที่มีความเงียบสงบมาก ผู้คนไม่พลุกพล่าน แถมน้ำทะเลก็ใสน่าลงเล่น มีต้นมะพร้าวสูงๆล้อมรอบ อารมณ์เหมือนพาตัวเองมาเที่ยวบาหลี เพราะการตกแต่งและออกแบบรีสอร์ทมันทำให้เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
โดยมีห้องพักให้เลือกทั้งแบบมีPool และห้องพักแบบธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าการมาพักผ่อนครั้งนี้เราต้องเลือกห้องแบบมี Poolแน่นอน รวมๆแล้วดูน่ารักและเก๋ดีนะ ที่สำคัญบริเวณรอบๆยังไม่มีรีสอร์ทอื่นเลย ทำให้หาดที่นี่ดูสงบและเป็นส่วนตัวสุดๆ
สำหรับคนที่เคยมาเที่ยวเกาะกูดก็จะรู้ๆกันอยู่แล้วว่าการเดินทางมาต้องใช้เวลาค่อนข้างพอสมควร เราเองก็เดินทางมาเกือบครึ่งวัน ตากแดดตากลมจนเพลีย แต่พอเจอกับ Welcome Drink เท่านั้นแหละ สดชื่นขึ้นมาทันที ฮ่าๆ
ส่วนภายในห้องพักก็ตกแต่งได้โดนใจมากๆ มาในแบบสไตล์แบมบู และที่นอน หมอน ผ้าห่ม มาในแนวของสีผ้ามัดย้อม เข้ากับบรรยากาศของความเป็นทะเล
ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนๆภายในห้อง ก็จะมีการจัดวางสิ่งของต่างๆที่ดูน่ารักกิ๊บเก๋พอตัว
ลืมบอก..ว่าห้องพักของเราเป็นห้องพลูหมายเลข1 คือเป็นห้องแรกสุดเลยครับ เป็นห้องที่อยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำและหาดมากที่สุด แต่ก็อาจจะดูไม่ค่อยจะส่วนต้วสักเท่าไหร่ เพราะเป็นมุมใครๆก็ต้องเดินผ่านเวลาจะลงไปหาด แต่ทางรีสอร์ทได้แก้ไขด้วยการนำต้นไม้มาปลูกบริเวณด้านหน้าแล้ว อีกไม่นานห้องนี้ก็จะดูเป็นส้วนตัวแล้ว
ทางเดินระหว่างบ้านพักก็จะเป็นกำแพงไม้ไผ่ที่สานต่อๆกันแบบนี้ครับ
สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นอะไรที่พวกเราชอบมาก เป็นสระที่ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายครับ แต่เนื่องด้วยเป็นสระที่ไม่มีอะไรมากั้นระหว่างเรากับทะเล สามารถว่ายน้ำไปและมองวิวไปได้แบบชิลๆ หากมองขึ้นฟ้าเราก็จะเห็นยอดของต้นมะพร้าวอยู่เต็มไปหมด ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนบนเกาะจริงๆ
ส่วนห้องอาหารสไตล์เก๋ๆก็จะอยู่ริมสระว่ายน้ำพอดี คงประมาณว่า..ทานข้าวเสร็จก็ถอดเสื้อแล้วกระโดดลงน้ำได้ทันที ฮ่าๆ
และที่ทำให้เราชอบมากไปกว่านั้นก็คือการเสริฟอาหารมาในภาชนะที่ดูเก๋ไก๋มั๊กๆ
ดูสิเธอ น่าทานเป็นที่สุด ก่อนจะกินก็ต้องเปิดฝาที่คลุมออกก่อน เก๋จนอดใจไม่ได้ที่จะแชะภาพก่อนกิน
ต้มยำกุ้งเสิร์ฟมาในถ้วยที่ทำมาจากกะลา
โดยเฉพาะข้าวเหนียมมะม่วง เราเองก็ไม่คิดว่าจะถูกเสิร์ฟมาในรูปแบบเดียวกันกับเมนูอื่นๆ น่ารักจนไม่อยากจะกินเลย ฮ่าๆ
ส่วนอาหารเช้าก็ทานที่เดียวกันกับอาหารเย็นเลยครับ ตั้งแต่7โมง จนถึง 10โมงเช้า
เมนูอาจจะมีไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ แต่รสชาติดีนะเธอ โดยเฉพาะไข่กะทะที่มีทั้งแบบไทยและแบบต่างชาติ
ตอนเช้าบรรยากาศที่นี่คือดีมาก ได้ออกมานั่งดูทะเล ฟังเสียงคลื่น ท่ามกลางชายหาดที่เงียบสงบ เป็นอะไรที่รู้สึกผ่อนคลายไม่ใช้น้อยเลยหละ
บรรยากาศดีแค่ไหน ถามใจของเจ้าตัวนี้ได้ อิอิ
เดินเล่น เอาหน้าปะทะลม ก็ฟินไม่แพ้กัน หาดโล่งราวกับว่าเป็นหาดส่วนตัวเลยครับ
ที่รีสอร์ทนอกจากจะมีเปลให้นอนเล่นบนริมหาดแล้ว ในทะเลก็มีเปลให้นอนเล่นถ่ายรุปด้วยนะเออ
อาหารเที่ยงของเราดูดีมั้ยแกรรร ข้าวน้ำพริกปลาทู เค้าเสิร์ฟมาแบบน่ารักอีกแล้วว
ตามด้วยสลัดสำหรับคนที่รักสุขภาพ ที่มาพร้อมกับภาชนะเก๋ๆตามคอนเซ็ปของรีสอร์ท
ข้างรีสอร์ทจะมีคลองๆนึงที่เชื่อมระหว่างทะเลกับชุมชนริมคลอง ขนาดคลองน้ำข้างรีสอร์ทยังใสเลยครับ
ป็นอีกหนึ่งการเดินทางไกลเพื่อมาพักผ่อนที่คุ้มค่ามากๆอ่ะ ใครจะบอกว่าเกาะกูดมันไกลก็ตามเหอะ แต่พวกเรามองว่า ความสวยงามมันมักจะอยู่ในที่ไกลๆเสมอ หากใครกำลังมีแพลนจะชวนแฟนมาเที่ยวเกาะกูด และมองหาที่พักชิคๆแบบนี้อยู่ รีบจองแล้วเก็บกระเป๋ามาเที่ยวที่นี่กันเถอะ
อย่าลืมเข้าไปกดติดตามเพจน้อยๆของเราด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/wanderaroundthailand
เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของที่พักได้ที่เพจนี้เลยนะครับ
https://www.facebook.com/restseakohkood/
Freelance บ้าเที่ยว
วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.22 น.