เขาว่ากันว่า "การเดินทาง" ไม่ว่าจะเดินทางไปด้วยตนเองหรือเดินทางด้วยสายตา ก็ถือได้ว่าเป็นการเดินทางทั้งสิ้น

การเดินทางวันนี้ ข้าขอมาที่ "อยุธยา" เมืองเก่าของเราแต่ก่อน บ้านเกิดตามทะเบียนบ้านของข้าเอง

ออเจ้าทั้งหลายโปรดตามมากันเถอะ

สถานที่แรกขอตามรอยแม่การะเกด มาที่ ‘วัดไชยวัฒนาราม’

วัดไชยวัฒนาราม ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2173 โดย สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นบนที่ที่เป็นบ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา แต่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือนครละแวกโดยจำลองแบบมาจาก ปราสาทนครวัด วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบต่อมาหลังจากนั้นทุกพระองค์ จึงได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชสมัย เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสิ้นพระชนม์ก็ได้ถวายพระเพลิงที่วัดนี้ ก่อนกรุงแตก พ.ศ.2510 วัดไชยวัฒนารามถูกแปลงเป็นค่ายตั้งรับศึก หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งให้ร้างเรื่อยมา บางครั้งมีผู้ร้ายเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกตัดขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย แต่ในปี พ.ศ.2530 กรมศิลปากร จึงได้เข้ามาอนุรักษ์จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2535

ที่นี่เปิดทุกวันนะคะ ตั้งแต่ 08.00–18.00 น.

ซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ป้อมทางเข้าหน้าวัดได้เลยค่ะ ราคาคนไทย 10 บาท ต่างชาติ 50 บาท

วัดที่ 2 "วัดมหาธาตุ"

วัดมหาธาตุเป็นวัดที่เก่าแก่และมีประวัติที่ไม่แน่ชัด บางบอกปี พ.ศ.1917 บางบอกปี พ.ศ.1927 อย่างไรก็ตาม ได้ใช้เวลาก่อสร้างไปเป็นจำนวนมาก

ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระปรางค์เคยพังลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ ปรางค์ของวัดเดิมสร้างด้วยศิลาแลง แต่จะด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ จึงยังมิได้ซ่อมแซมให้คืนดีดังเดิมในรัชกาลนั้น ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงบูรณะใหม่ รวมเป็นความสูง 25 วา แต่ก็ได้พังทลายลงมาอีกรอบในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำกำลังทหารไปช่วยกันสร้างยอดพระปรางค์ด้วยไม้สักและได้สถาปนาให้เป็นพระปรางค์ประจำชาติ และพระปรางค์วัดมหาธาตุก็ยังคงอยู่ที่นั้นตลอด

จุดสนใจของวัดมหาธาตุคือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปี ที่ปกคุลมด้วยรากไม้

วัดที่ 3 "วัดใหญ่ชัยมงคล"

เดิมชื่อ "วัดป่าแก้ว" หรือ "วัดเจ้าไท" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร จุดเด่นของวัดได้แก่ "เจดีย์องค์ใหญ่" ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2544

ไหว้พระที่วัดใหญ่ชัยมงคลเสร็จ ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ถ้าใกล้ๆ วัดใหญ่ ก็แนะนำร้านนี้เลยค่ะ

"ร้านขนมจีนต้นก้ามปู" อยู่หน้าวัดใหญ่ชัยมงคลเลยค่ะ

ร้านขนมจีนต้นก้ามปู เป็นร้านอาหารไทยสไตล์ล้านนา ที่ยกเอาบรรยากาศทางภาคเหนือตอนบนมาไว้ที่นี่

ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 08.00 – 21.00 น. ที่ตั้งร้าน : 43/34 หมู่ 2 ถนนอโยธยา ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรสอบถามได้ที่ 081 428 5777

ทานของคาวกันอิ่มแล้วก็ไปต่อกันที่ของหวานต่อเลยค่ะ

"บ้ า น ข้ า ว ห น ม" " คาเฟ่ข้าวหนมไทยโบราณ ณ กรุงศรีอยุธยา "

คาเฟ่เล็กๆที่แฝงตัวอยู่ในกรุงเก่า บริการเครื่องดื่มกาแฟและขนมหวานโบราณ

“ข้าวหนม” เป็นคำโบราณ

เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่ผสมกันมาแล้ว

คือ ข้าวหนม กับ ข้าวนม

ข้าวหนม นั้นเข้าใจว่าเป็นข้าวผสมกับน้ำอ้อย น้ำตาล

โดยคำว่า หนม แปลว่า หวาน

อย่าง ข้าวหนม ก็แปลว่า ข้าวหวาน

“ข้าวหนม” เรียกสั้นๆ เร็วๆ จึงเพี้ยนเป็น คำว่า “ขนม” ไป


บ้านข้าวหนมตั้งอยู่ที่ : 2/10 ถนนอู่ทอง ต.หอรัตนไชย พระนครศรีอยุธยา เบอร์โทร : 097 921 9465 เปิดตั้งแต่ 08.00 – 19.00 น. ผ่านไปผ่านมา ก็แวะนั่งทานขนมหวาน ดื่มกาแฟชิวๆกันได้นะคะ

ความคิดเห็น