รีวิว : วันหยุดสุดสบายที่สิกขราพลาโช่ รีสอร์ท บางแสน

..เมื่อหน้าร้อนกลับมาอีกครั้ง หนีไม่พ้นที่ต้องเสาะหาที่เที่ยวที่พักไม่ทะเลก็น้ำตก แต่หน้าร้อนทีไรน้ำตกน้ำไม่ค่อยจะมีน้ำ เลยจำเป็นต้องหาที่พักติดทะเลใกล้ๆกรุงเทพนี้แหละ ก่อนที่ร่างกายจะละลายไปกับคลื่นความร้อน แต่บังเอิ๊ญวันที่ไปฝนกลับตกหนักตั้งแต่เช้าซะงั้น หลังจากที่ร้อนมาหลายวัน แต่ก็มิได้นำพา...ทริปนี้จะพาไปชมที่พักสวยๆแถวๆ ชายหาดทะเลบางแสนกันสักหน่อย เพียงแค่ขับรถขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งตรงยาวมาถึงชลบุรี เลยตลาดหนองมนมาประมาณ 7 กิโลกลับรถหน้ากองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 ขับรถต่อไปอีกประมาณกิโลนึงชิดซ้ายเข้าซอยสุขุมวิทที่ 22 ไปจนเกือบสุดซอยที่พักจะอยู่ด้านขวามือชื่อว่า "สิกขราพลาโช่รีสอร์ท"ลักษณะของตัวรีสอร์ทเป็นตัวตึกสีเหลืองอ่อนสบายๆ ดูเงียบสงบราวกับเป็นที่สัปปายะ มีที่จอดรถกว้างขวาง มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

ห้อง Junior Suite

หลังจากทำการ check in เสร็จเรียบร้อยทางพนักงานพาไปส่งยังห้องพักซึ่งตั้งอยู่หัวมุมชั้น 4 ขนาด 50 ตรม.เป็นห้อง Junior Suite เปิดประตูเข้ามา ก็พบกับความแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่เห็นเตียงตั้งอยู่กลางห้องหันหน้าไปทางระเบียง จนต้องเปิดกระจกบานเลื่อนไปดู ก็ไม่มีอะไร ตรงระเบียงจะมีอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่งไว้นอนแช่ชมวิว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องพักของตึกอีกหลังนึง มองลงไปจะเห็นสระน้ำด้านล่าง วิวทะเลจะอยู่เยื้องไปด้านซ้าย อาจจะเป็น designe ของห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องมีครบครัน ตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็เป็นของดีมีเกรดอยู่

ห้อง Deluxe

หลังจากสำรวจห้องพักของตัวเองแล้ว ทางพนักงานเลยพาชมห้องอื่นๆในรีสอร์ทด้วย เพราะวันที่เข้าพักมีผมอยู่ห้องเดียว (ส่วนใหญ่ผมมักท่องเที่ยวในวันธรรมดา) ห้องต่อไปคือห้อง Deluxe ขนาด 30 ตรม.เป็นห้องที่เล็กสุดของรีสอร์ท แต่ก็ดูน่ารัก และก็กว้างมากพอสำหรับพัก 2 คนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกจะเหมือนกันทุกห้อง

ห้อง Deluxe Pool Access

ห้องนี้เป็นห้อง deluxe เหมือนกันแต่ขนาดใหญ่กว่าคือ 35 ตรม.และมีเตียงเสริมสำหรับพักได้ 3 ท่านและจะพิเศษตรงมีสระน้ำตรงระเบียงห้องพัก เพียงแค่เลื่อนบานประตูออกไปก็โดดลงน้ำได้เลย

ห้อง Grand Family Sea View

ห้องนี้ขนาด 60 ตรม.ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็นห้องสำหรับครอบครัวมีเด็กๆมาด้วย ภายในห้องจะมีชั้นลอยอีกชั้นเป็นห้องสำหรับเด็ก และตรงระเบียงสามารถมองเห็นวิวทะเลได้

ห้อง Beach Front Villa

ห้องนี้จะอยู่บริเวณด้านหน้าของชายหาด เป็นห้องขนาด 120 ตรม.เป็นห้องชุด มีทั้งห้องรับแขกและห้องนอนแยกกัน มีระเบียงหน้าบ้านที่ติดกับชายหาด ออกไปนอนเล่นบนเตียงหน้าบ้านพัก และสัมผัสกับลมทะเลได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ตรงระเบียงยังมีสระน้ำเล็กๆส่วนตัวอีกด้วย

ห้อง Grand Beach Front Villa

เป็น้หองชุดขนาดใหญ่ที่สุดถึง 250 ตรม.อยู่ติดกับห้อง Beach Front มีพื้นที่ชายหาดส่วนตัวร่วมกัน ภายในบริเวณชั้น 1 มีมุมห้องนั่งเล่น มุมทานอาหาร กว้างขวางสะดวกสบายสุดๆ ชั้นสองจะเป็นห้องนอนมีระเบียงออกไปชมทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ หาดด้านหน้าก็สามารถลงไปเดินเล่นชิลๆช่วงเย็นๆยามน้ำลด โดยเฉพาะยามอาทิตย์ตกจะสวยมาก แต่เสียดายวันที่ไปฟ้าครึ้มทั้งวัน

ห้องอาหาร Chef de plago

เป็นห้องอาหารที่มีทั้งอาหารไทย ยุโรป อิตาเลียน ญี่ปุ่น และอาหารฟิวชั่นต่างๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารฮาลาล ไว้บริการอีกด้วย เย็นวันนั้นตั้งใจจะนั่งชิมอาหารริมชายหาดชมวิวพระอาทิตย็ลับขอบฟ้าไปอย่าสวยๆก็มีอันต้องพับแผน เดินคอตกเข้ามานั่งในห้องอาหาร เพราะฟ้าเธอช่างเน่าเหลือเกินหลังจากที่ฝนตกมาเมื่อเช้าทำให้อากาศครึ้มทั้งวัน ก่อนอื่นขอ Blue Sapphire Cocktail มาดื่มให้ลืมเธอสักแก้วก่อน เออ..แฮะ รสชาติมันนุ่มกินลื่นดี ไม่เหมาะกับสายเถื่อนๆอย่างเรา จากนั้นลองเป็น Moctail ที่ไม่มีส่วนผสมของ alcohol ดูบ้างมีชื่อว่า Mango Sticky Rice แปลตรงๆเลยคือข้าวเหนียวมะม่วง ไม่แน่ใจถามเด็กอีกครั้งคำตอบคือเหกมือนเดิม คงจะเอามาปั่นทำอะไรสักอย่างแต่รสชาติออกมาก็ดีเหมือนกัน

เครื่องดื่มไปแล้ว มาลองอาหารคาวกันบ้าง จะรวบรัดไปถึงอาหารเช้าเลย เป็นซูชิกระทะร้อน เสต็กหมูสันใน และห่อหมกทะเล ผัดกระเพราหมูไข่ดาว american breakfast รสชาติโดยรวมคิดว่า chef ที่นี่มีฝีมือทำอาหารใช้ได้เลย โดยเฉพาะห่อหมกทะเลรสชาตินัวมาก ส่วนกระเพรากินแล้วความรู้สึกรู้เลยว่าแตกต่างจากร้านทั่วไป

มาดูบรรยากาศห้องอาหารกันบ้างมีทั้ง indoor และ outdoor บรรยากาศสบายๆ พนักงานก็ take care ลูกค้าดี มีเพลงฟังสบายๆระหว่างรับประทานอาหารอีกด้วย

ชายหาดช่วงเช้าและเย็น

ผมมาถึงรีสอร์ทในช่วงเย็น พอทันเห็นดวงอาทิตย์รำไรยังไม่ทันตกน้ำก็ลับก้อนเมฆหายไปแล้ว ท้องฟ้าเน่ามาก ไหนๆก็มาแล้วถึงจะไม่เห็นแสงดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าสวยๆ ก็มโนเอาโดยใช้โปรแกรมแต่งภาพช่วยดึงสีขึ้นมาหน่อย บรรยากาศช่วงเย็นสุดแสนจะโรแมนติกมากๆ ชายหาดไร้ผู้คน ลมทะเลพัดเบาๆ นั่งจิบเครื่อวดื่มย้อมใจไปกับวิวเบื้องหน้าแค่นี้ก็ฟินแล้ว

ช่วงเช้าบรรยากาศเงียบสงบ น้ำขึ้นมาเต็มที่ เดินเล่นชายหาดมองเห็นหอยตัวเล็กๆอยู่เต็มไปหมด ภาพในอดีตก็ผลุดขึ้นมาว่า สมัยก่อนที่เรามาเที่ยวบางแสนเห็นแม่ค้าจับพวกหอยพิม เล็กๆแบบนี้ไปดองแช่น้ำปลาวางขายอยู่เต็มไปหมด ถึงแม้อดีตจะผ่านมาเนิ่มน่าน แต่ก็ทำให้รู้ว่าบางแสนไม่เคยขาดหอยเลย ><! เดินสักพักอดใจไม่ไหวน้ำทะเลสีเขียวมรกตเชื้อเชิญให้ลงไปแหวกว่าย เลยไปเปลี่ยนชุดลงไปเล่นน้ำระลึกความหลังหน่อย

สระว่ายน้ำ

หลังจากลงไปดำผลุดดำว่ายโต้คลื่นอยู่หน้าชายหาดแล้ว มาต่อที่สระว่ายน้ำของรีสอร์ทสักหน่อย เนื่องจากทั้งรีสอร์ทมีห้องผมอยู่ห้องเดียวที่เข้าพักจึงไม่ต้องกังวลใดๆ เล่นน้ำกันอย่างเต็มที่

บรรยากาศภายในรีสอร์ท

หลังจากเก็บของออกจากห้องพักเพื่อทำการ check out เลยเก็บภาพบรรยากาศภายในบริเวณรีสอรท์มาฝากเป็นการส่งท้ายสักหน่อย ภาพรวมของรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง และไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวย่านบางแสนเลย ส่วนที่ท่องเที่ยวเดี๋ยวจะมา update อีกกระทู้นึงเพราะที่เที่ยวเยอะจริงๆแถบนี้

สิ่งอำนวยความสะดวกเมื่อเข้าพัก