ถ้าจะพูดถึงอาหารชาตินิยมอย่างหนึ่งของประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ถ้าจะไม่นึกถึง "ผัดไทย" เห็นทีจะไม่ได้ ผัดไทยแม้นจะเพิ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวมาได้ไม่นาน แค่สมัยของจอมพล ป. พิบูลย์สงครามเท่านั้น แต่ก็ทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติสำเริง สำราญ ด้วยรสชาติที่ครบรส จนติดอกติดใจ มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

เรียกได้ว่า หนึ่งในภารกิจที่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยต้องมาทำ คือ กินผัดไทย แต่จะได้กินผัดไทยแบบออริจินัล หรือฟิวชั่นนั่นก็แล้วแต่ แต่ที่ศรีราชาแห่งนี้มีร้านหนึ่งที่ย้ายภูมิลำเนาจากกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรมาพำนักพักพิงอยู่ที่นี่ คือ ผัดไทยป้าใบ (บางโพ) สาขา ศรีราชา

เมนูหลากหลาย

ผัดไทยป้าใบ (บางโพ) สาขา ศรีราชา ร้านนี้ เป็นรุ่นหลานแล้วค่ะ ด้วยหล่อนมาศึกษาหาความรู้อยู่ระแวกศรีราชาแห่งนี้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็เลยสร้างครอบครัว และสร้างธุรกิจเป็นของตนเองเสียทีนี่เลยให้รู้แล้วรู้รอด

บรรยากาศในร้าน

ร้านผัดไทยป้าใบ (บางโพ) นี่ก็หาไม่ยากนะคะ อยู่ติดถนนสุขุมวิทเลย ตรงข้ามปั๊มเอสโซ่ หน้าวัดเขาพุทธโคดม ร้านใหญ่เห็นง่าย ชัดเจน เมนูก็มีหลากหลาย ให้เลือก ทีแรกว่าจะเลือกผัดไทยเบค่อน แต่พอเหลือบไปเห็นผัดไทยปูเท่านั้นหละค่ะ เปลี่ยนใจทันที

สั่งอาหารเสร็จก็ขอเขาเดินเข้าไปสำรวจในครัว เพราะทางร้านก็ทำเป็นครัวเปิดอยู่แล้วก็เลยไม่ได้ห้ามปรามอะไร เราก็แค่บอกกล่าวกับเขาหน่อยว่าขอดูแล้วถ่ายภาพหน่อยนะคะ เขาก็ยินดีให้เราเข้าไปบันทึกภาพได้สบา ๆ เพราะครัวค่อนข้างกว้างขวาง และมีการแบ่งพื้นที่เป็นส่วน ๆ ดูสะอาดสะอ้าน ไม่รกเละเทะเหมือนร้านอื่น ๆ ที่มักจะเจอเศษเส้นผัดไทยเกลื่อนกลาด

ส่วนของครัวไฟปรุงผัดไทย

ส่วนของ Deep fired เรียกซะหรูเลย เตาทอดน่ะหละค่ะ

และแล้วเมื่ออาหารที่เราสั่งทำท่าจะมาถึงด้วยสัญญาณเตือนระดับสิบ คือ ถั่วงอกดิบ และมะนาว มาเสิร์ฟรอที่โต๊ะ เราจึงกลับมานั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวที่โต๊ะรออาหาร

ผัดไทยกุ้งสดเส้นแก้ว

เมื่อเมนูแรกของเรามาเสิร์ฟ เราก็เห็นความพิเศษของพัดไทยที่นี่ เพราะเขาใส่กากหมู กับมะม่วงฝอยมาด้วยค่ะ สอบถามทางเจ้าของร้านว่า "กากหมู" นี่ประหนึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน จะหาร้านผัดไทยที่ยังใส่กากหมูมาให้กินแก้มนั้นแทบไม่มีแล้ว แล้วกากหมูนี่ไม่อมน้ำมัน เคี้ยวกรุบกรอบเพลิน ๆ ยิ่งกินกับเส้นผัดไทยที่มีรสชาติจัดจ้านด้วยแล้ว จัดว่าเด็ด

ส่วน "มะม่วงฝอย" นั่น เจ้าของตอบอย่างไม่อายว่า มันให้รสเปรี้ยวทดแทนความเปรี้ยวของมะนาวที่มีราคาแพงได้ แถมยังได้ความแปลก เก๋ และเป็นปัจเจกอีกด้วย เราลองคลุกกับผัดไทยกินดู ได้ทั้งรสเปรี้ยว ได้ทั้งกลิ่นหอมของมะม่วง และรสสัมผัสที่แปลกแตกต่างไปจากการเคี้ยวเส้นอย่างเดียว ถือว่าผ่านค่ะ

พูดถึงส่วนประกอบจนเกือบลืมเมนูหลักไปเลย จานนี้ ชื่อว่า ผัดไทยกุ้งสดเส้นแก้ว ที่เห็นเส้นใส ๆ นั่นไม่ใช่วุ้นเส้นแต่อย่างใด แต่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำมาจากถั่วเขียว จึงให้สีสันสดใส และเส้นใหญ่แบบเส้นเล็ก ความเหนี่ยวหนึบหนับของเส้นแก้ว ที่ซับเอารสชาติของเครื่องปรุงไว้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งทำให้การกินนี่สนุกและอร่อยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพบกับกากหมูกรอบ ๆ ในปาก

ผัดไทยไส้กรอก

จานต่อมา เป็นผัดไทยไส้กรอก ผัดไทยของร้านป้าใบนี้ ใช้เส้นจันทน์เป็นเส้นผัด ซึ่งให้คุณสมบัติที่ความเหนียวนุ่ม และเนียนของตัวแป้ง แน่นอนที่สุดเมื่อคลุกเคล้ากับน้ำซอส และเครื่องปรุงต่าง ๆ แล้ว ย่อมซับเอารสชาติและความอร่อยเอาไว้ได้มาก รสเค็มนำ หวานตาม เปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดหน่อย ๆ เรียกได้ว่าครบรส

แต่ถ้าไม่ทานเผ็ด ก็สั่งแบบไม่เอาพริกได้ ทางร้านจะล้างกะทะให้ก่อนเพื่อไม่ให้ติดรสเผ็ดไปที่อาหาร เผื่อว่าเด็กทานจะได้ไม่เผ็ดร้อน จานนี้เหมาะกับเด็กน้อย และผู้ใหญ่ที่ชอบไส้กรอกค่ะ

ผัดไทยไร้เส้นเนื้อปู

จานต่อมา ของเราเอง เราเลือกผัดไทยไร้เส้นเนื้อปู ทางร้านก็โรยเนื้อปูมาให้แบบไม่เสียดายของ จานนี้แม้นจะไม่มีเส้นแต่ก็มีถั่วงอกดิบกรุบ ๆ มาให้เคี้ยวเพลิน ๆ แต่อย่างไรก็ดี ส่วนตัวแล้ว มีเส้นดีกว่าค่ะ พอมันไม่มีเส้น มันก็เลยไม่มีอะไรซับความอร่อยของเครื่องปรุง เพราะตัวถั่วงอกเองก็ช่วยได้แค่ให้ความกรุบกรอบแบบถั่วงอกเท่านั้น

พระเอกของจานนี้เลยตกเป็นของกากหมูที่สามารถซับรสชาติความอร่อยได้เป็นอย่างดี หากเราเอามาคลุกปรุงร่วมเข้าไป แถมเนื้อปูที่ให้มาก็ให้รสชาติความเป็นปูที่ไม่ใช่วิญญาณปูได้เป็นอย่างดี ค่อยสมกับมากินที่เมืองติดทะเลหน่อย

สนนราคามื้อนี้ของเราไม่ถึง 200 บาท แต่กินอิ่มกันจนพุงกาง แน่นอนค่ะ ถ้าผ่านมาแถวนี้ ก็จะแวะมากินผัดไทยร้านนี้อีกแน่นอน