แน่นอนว่าการมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั้นสำหรับใครหลายๆท่านการมาเที่ยวแล้วต้องจ่ายค่าที่พักที่สูงอาจจะเป็นอะไรที่ไม่ได้สะดวกกระเป๋าเงินมากสักเท่าไหร่หรือว่านักเดินทางท่านไหนสนใจอยากจะลองหาประสบการณ์ที่ที่แปลกใหม่กว่าที่คนทั่วไปทำอยู่ก็เป็นไปได้ สำหรับการมาพักโฮลเทลของผมคราวนี้เพราะต้องการประหยัดค่าโณงแรมในโตเกียวก่อนที่จะไปจ่ายแพงๆในโรงแรมเรียวกังออนเซ็นแบบดีที่นอกเมือง ซึ่งปีนี้ไปเที่ยวกันที่ ภูมิภาค Tohoku ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือโตเกียวเป็นต้นไปจนถึงจังหวัด Aomori

พูดถึงโรงแรมแคปซูลนะครับถือว่าเป็นที่พักราคาประหยัดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีงบน้อยหรืออาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการบริการหรือความสะดวกสบายมาเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในดินแดนที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากจะมาท่องเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิตและเป็นประเทศผู้ริเริ่มโฮลเทลสไตล์นี้ขึ้นมาเป็นชาติแรกอีกด้วย

วันนี้ผมพามาลองนอน Hostel ที่ Okubo Station ซึ่งเขาว่ากันว่าเป็นย่าน Korea Town ซึ่งก็จริงมีร้านอาหารเกาหลีมากมาย รูปดาราเกาหลีเยอะแยะไปหมดตามร้านต่างๆ

จองที่พักนี้>>>> https://goo.gl/FTEmXK

เดี๋ยวเรามาเริ่มดูกันตั้งแต่ Lobby ของที่พักแห่งนี้กันก่อนเลยนะครับ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 8 สไตล์การตกแต่งค่อนข้างเรียบง่ายสวยงามครับ

ที่นั่งพักของผู้เข้าพักอยู่ด้านหลัง Lobby นี้โดยมีกำแพงอันนี้กั้นอยู่เราสามารถเดินโอบเข้าไปได้เลย ก็มาเจอแบบนี้เป็นที่นั่งสำหรับผู้เข้าพักหรือผู้ที่กำลังจะเข้าพัก โดยมีปลั๊กไฟไว้ให้ใช้บริการด้วยสำหรับโต๊ะนั่งเข้ามุมเหล่านี้

การเช็คอินจะเปิดตอน 13:00 น. อ่ออีกเรื่องนึ่งที่นี่ถึงแม้ว่าท่านจะจองมา 3 คืนแล้วอย่างผมแต่พอเราไปเช็คอินที่พักกลับแจ้งว่าพรุ่งนี้ต้องมา Check out ก่อน 10 โมงแล้วเช็คอินใหม่ตอน 13:00 ของอีกวันแต่ข้าวของที่ใส่เอาไว้ในล็อกเกอร์สามารถตั้งไว้อยู่แบบนั้นได้เลย เดี๋ยวจะมีรูปล็อกเกอร์มาให้ดูด้วยนะครับ

หันมาทางด้านซ้ายมือสักหน่อย จะเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นฝรั่งนั่งรอเวลาเช็คอิน

ลิฟต์ก็จะแบ่งเป็นชั้นๆของผู้หญิงและผู้ชายนะครับ ของผู้ชายก็ตามนี้เลย แล้วก็มีลิฟต์ที่ใช้ขึ้นลงอีกอยู่ตรงกลาง

หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วนะครับเราก็จะได้รับบัตรเป็นกระดาษที่เป็น QR CODE เพื่อมาเปิดล็อกเกอร์ ซึ่งหน้าตาของล็อกเกอร์เป็นแบบนี้นะครับ มีสองขั้นชั้นบนคือชั้นไว้ใส่รองเท้าชั้นล่างก็กระเป๋าเดินทางซึ่งใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ พร้อมไม่แขวนเสื้อมาให้สองอันในตู้ชั้นล่าง

ในล็อกเกอร์เค้าจะมีถุง Amenity มาให้เราด้วยนะครับแบบนี้เลยพร้อมชุดนอน 1 ชุด

อาบน้ำเสร็จแล้วขึ้นมาชั้น 8 เพื่อมาเขียนรีวิวอันนี้ต่อให้เสร็จ

มาดู ห้องน้ำกันบ้างครับ มีจำนวนเยอะเลยครับตอนแรกก็กังวลว่าเวลาใช้ห้องน้ำให้การอาบน้ำจะไม่เป็นส่วนตัวแต่พอเอาเข้าจริงคนก็ไม่ได้เยอะในเวลาเดียวกันขนาดนั้นนะครับ ดังนั้นอันนี้การันตีว่าใครที่เขิลหรือรู้สึกไม่ค่อยสะดวกจะใช้ห้องน้ำรวมให้คลายความกังวลนี้ไปได้เลยนะครับ ห้องน้ำสะอาดพวกยาสระผมครีมอาบน้ำทางที่พักเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดีครับ เพื่อนๆเตรียมแค่โฟมล้างหน้ามาก็ได้ครับ

ความรู้สึกของการเข้าพัก โดยรวมแล้วค่อนข้างประทับใจการบริการของพนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ทุกคนไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ที่นอนวัสดุทำจากไฟเบอร์มั้งทำให้พอห้องข้างๆเคาะโดนกำแพงอะไรแบบนี้จะทำให้เราได้ยินเสียงแล้วเวลาไปแตะต้องต้องกำแพงก็ทำให้เกรงใจห้องข้างๆด้วยเหมือนกันนะครับ ห้องน้ำโอเคครับไม่น่ากลัวแบบที่จินตนาการแต่ห้องน้ำของสาขานี้อยู่ชั้น 7 ห้องนอนอยู่ชั้น 4 ก็อาจจะหงุดหงิดนิดๆ สุดท้ายผมได้มิตรภาพที่ดีระหว่างการเข้าพักพบเจอคนมากมายครับอันนี้ถือว่าดีมาก ได้มีโอกาสคุยกับคนต่างๆชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันในทัศนะต่างๆ

—————————

วิธีเดินทาง ใช้รถไฟ JR สาย Yamanote line สีเขียวอ่อน แล้วมาลงที่สถานี Shin okubo ออกจากสถานีเลี้ยวขาวเดินมาเรื่อยๆก็จะถึงสัก 2 นาทีถึงโรงแรม Nine Hours Hostel Shinjuku แล้วครับ

Website : tps://ninehours.co.jp/en/

ที่อยู่ 169-0073 Tokyo Prefecture Shinjuku-ku, Hyakunin Cho 1-4-15 Japan

Google map – 9 Hours Capsule hotel – Shinjuku

ให้คะแนน

ความสะอาด 9.5/10 มีเลอะนิดๆแต่ไม่น่าเกียจ

ความสะดวกสบาย 8/10 ไปห้องน้ำทีต้องขึ้นไปชั้น 7

ทำเลที่ตั้ง 10/10 หาของกินง่ายนะครับ

พนักงาน 9.5/10 ประทับใจ

กระทู้ต่อไปเป็นเป็นร้านอาหารที่ต้องลองถ้าใครขี้เกียจไปหากินอะไรไกลๆ ………….เดี๋ยวทำเสร็จเอาลิงค์มาแปะให้นะครับ

—————————————————————————————–

ติดตามแฟรงค์ได้ที่ Facebook Fanpage

Facebook :Pondanai sjm

Youtube: Frankgital

Instagram: frankgital

จองที่พักนี้>>>> https://goo.gl/FTEmXK