ช่วงที่อากาศเมืองไทย ร้อนจนแบบว่าควรกลัวตายมากกว่ากลัวดำแบบนี้ ใครที่คิดจะเที่ยว ก็คงต้องนึกถึงทะเลมาก่อนแน่ๆ
วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำอีกหนึ่งทะเลใกล้ๆบรรยากาศดีดี ไม่ต้องข้ามเกาะ สำหรับพวกที่เวลาว่างน้อยๆอย่างเรามาแนะนำกัน
กับที่นี่เลย อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง
การเดินทางมาที่เขาแหลมหญ้า ถ้าจะให้อธิบายสั้นๆ คือ เปิด Google Mapแล้วขับตามมาเลยครับ
ถ้าอธิบายยาวหน่อย ก็คือ ขับบนถนนสุขุมวิท ไปทางจันทบุรี จนถึงสี่แยกตะพง แล้วเลี้ยวขวาไปตามป้ายหาดแม่รำพึง ขับเรียบหาดไปเรื่อยๆ สังเกตขวามือจะมีป้ายของอุทยานอยู่
หรือใครที่มีรถส่วนตัว ง่ายๆเลยคือขึ้นรถตู้สาย กรุงเทพฯ – บ้านเพ (ที่สถานีขนส่งเอกมัย) บอกคนขับว่าลงทางเข้าอุทยานฯเขาแหลมหญ้า
มาถึงแล้ว เราก็ว่าจะนอนพักกายพักใจสักคืน เตรียมเต็นท์ เตรียมถุงนอนมาเองเรียบร้อย เราเลยไปติดต่อที่ที่ทำการอุทยานเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมกางเต๊นท์แค่คนละ 30 บาท สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมเต็นท์กับชุดเครื่องนอนมาเอง ที่นี่เค้าก็มีให้เช่านะ
มีน้องลิงมารอต้อนรับด้วย
สำหรับใครที่ไม่ได้เตรียมเต็นท์กับชุดเครื่องนอนมาเอง ที่นี่เค้าก็มีให้เช่านะ
ใครที่จะมาเที่ยวหรือจะมานอนค้างที่เขาแหลมหญ้านี้ ไม่ต้องกลัวจะอดตายหรือหาของกินลำบากนะครับ
ที่นี่เค้ามีร้านค้าสวัสดิการ ร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ไว้คอยให้บริการอยู่แล้ว
เอาล่ะ...เล่าข้อมูลของที่นี่กันพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่เราจะพาไปดูความสวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าแห่งนี้กันแล้ว ตามมาๆ....
มาเริ่มกันที่ท่าเรือเขาแหลมหญ้า
ตรงนี้ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้ากันเลยก็ว่าได้ ใครมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกันตรงนี้
จุดที่คนส่วนมากจะถ่ายรูกกันก็หนีไม่พ้น สะพานไม้ที่ทอดยาวไปในทะเล และศาลาน้อยๆ ที่ตั้งอยู่สุดปลายทาง
หรือใครจะมองว่าเป็นประภาคารก็แล้วแต่ จะถ่ายวิวหรือถ่ายคนคู่วิวก็สวยดีทั้งคู่
นอกจากทะเลแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย แต่ก็นะ...หน้าร้อนแบบนี้ เดินป่าแห้งๆมันก็เลยหมดแรง ไม่ได้เก็บรายละเอียดตรงนี้เที่ไหร่
กลับมาที่ทะเลกันดีกว่า ย้อนกลับมาตรงสะพายชนท่าเรือเมื่อกี้ ทางขวาจะมีเส้นทางให้เราเดินเล่นริมทะเลชิลๆ
ริมทะเลที่เขาแหลมหญ้านี้ส่วนใหญ่จะเป็นหิน มีจุดที่เล่นน้ำได้บ้างไม่ได้บ้าง
จุดไหนที่ดูท่าจะเดินลำบากหน่อย เจ้าหน้าที่ของอุทยานยาก็จะทำสะพานทางเดินไว้ให้
ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีหาดทรายขาวๆสวยๆ แต่หินพวกนี้ก็ทำให้สวยไปอีกแบบนึง
จุดพีคของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าแห่งนี้ ก็อยู่ที่สุดทางนี่แหละครับ
ปลายทางที่เป็นภูเขาหินและหญ้า ตามชื่อเขาแหลมหญ้า แถมมีแนวหินภูเขาไปที่ซ้อนกันเป็นแนวดูแปลกตา สวยงาม
วิวตรงนี้สวยจนทำให้ความเหนื่อยจากการเดินมาหายหมดเลย
ตอนกลางวันว่าวิวสวยแล้ว อยากให้ดูว่าตอนพระอาทิตย์ตกตรงนี้จะสวยแค่ไหน
แสงสุดท้ายที่ปลายท้องฟ้า ช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ณ จุดๆนี้คนชอบถ่ายรูปอย่างผมก็กดชัตเตอร์รัวๆเลยจร้า
เดินกลับจากจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก มันก็จะมืดๆหน่อย ก่อนจบวันนี้เลยขอถ่ายภาพน้ำทะเลนิ่งๆยามเย็นไว้อีกสักใบสองใบละกัน
วันต่อมา...
ตื่นมาตั้งแต่ตี 3 (ตื่นมาทำไมก็ไม่รู้!!)
จริงๆกะว่าจะตื่นมาถ่ายรูปดาว รูปทางช้างเผือกนั่นแหละครับ แต่ก็ลืมดูว่าวันที่ไปนี่มันพระจันทร์เกือบจะเต็มดวงเลยนี่หว่า
แต่ไหนๆตื่นมาแล้ว ก็นั่งยาวๆรอแสงเช้าสวยๆ ส่งท้ายทริปเขาแหลมหญ้าไปเลยแล้วกัน
ท่าเรือเก่าตรงนี้ ถือว่าเป็นมุมมหาชนในตอนเช้าของเหล่าคนชอบถ่ายรูปที่มาเที่ยวที่เขาแหลมหญ้านี้
ลากสปีดชัตเตอร์ เก็บแสงเช้าได้แป๊บนึง
พระอาทิตย์ดวงโตๆก็โผล่ขึ้นมาให้เราเห็น
ภาพพระอาทิตย์ในยามเช้าของที่นี่สวยจัง เราว่าสวยไม่แพ้ที่ไหนๆในเมืองไทยที่เราเคยไปเลยล่ะ
ถือเป็นการปิดท้ายทริปที่สมบูรณ์แบบเลย
สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลบรรยากาศดีดีสักที่ ที่ไม่ต้องข้ามเกาะ ไม่เน้นเล่นน้ำ แต่แค่ต้องการเสพบรรยากาศและภาพสวยๆ
เราอยากให้ลองมาที่นี่กันนะ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด
แล้วคุณอาจจะติดใจเหมือนเรา
สุดท้าย...
ขอบคุณทุกคนที่อ่าน และชมภาพรีวิวนี้มาจนจบนะครับ
ครั้งต่อไปถ้าเราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ไหนที่น่าสนใจ บรรยากาศดีดี ภาพสวยๆ จะเก็บความทรงจำนั้นมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันใหม่
ส่วนใครที่อยากจะติดตามการเดินทาง และภาพถ่ายจากการเดินทางของเรา ก็เข้าไปกดไลค์ได้ที่แฟนเพจ Journey Gallery
( http:// www.facebook.com/journeygallery)
กันได้เลย
ขอบคุณ และ บ๊าย บาย จ้า
Journey Gallery
วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.07 น.