โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง วิถีการเรียนรู้แบบพอเพียง…



เมื่อครั้งผมไปตระเวนทัวร์ทั่วราชอาณาจักร นางรอง ผมมีโอกาสที่ดีงาม ได้ไปสัมผัสไปเรียนรู้ ไปรับรู้เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ “โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง” มีอะไรดีงั้นเหรอ ก็จะมาบอกกล่าวเล่าให้กันฟังเนอะ

เรื่องราวการท่องเที่ยวนางรอง https://th.readme.me/p/15332

โรงเรียนโดยทั่วๆไปต้องมี อาคารเรียน มีเสาธงชาติ มีครูใหญ่ มีครูน้อย มีภารโรง มีนักเรียน มีหนังสือ มีดินสอ…และมีอะไรอีกหลายๆอย่าง แต่ที่นี่ โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง ไม่ได้มีเหมือนหลายๆโรงเรียน



ที่นี่มีความฝัน มีความตั้งใจ มีแรงศรัทธาที่แปรเปลี่ยนเป็นการแบ่งปันความรู้สู่เด็กๆ ด้วยวิถีแบบพอเพียง เข้าถึงหลักการใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ มีเท่าไหร่ใช้เท่าที่มี มีมากก็เก็บออมไว้ใช้ยามไม่มี สอนให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบผู้ให้มากกว่าผู้รับ…

โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง ของครูลี่ คีตา วารินบุรี อยู่บ้านถาวร อำเภอเฉิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์



ครูลี่ คีตา วารินบุรี


เราเจอครูลี่ พร้อมเด็กๆ กับทุ่งนาไกลสุดตา ในทุ่งนามีวัวมีควายกำลังเล็มหญ้า มีหนองน้ำขนาดใหญ่ มีแปลงผักเกษตร นี่คือ “โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง” เราถามครูลี่ว่า มันคือยังไงเหรอ คือถามแบบขอให้เล่าตั้งแต่แรกเลยแล้วกัน…




นี่คือ…โรงเรียน


ครูลี่เป็นคนที่นี่เกิดที่นี่ หลังจากการไปเรียนรู้รู้จักโลกกว้างมาช่วงชีวิตหนึ่ง ก็ถึงเวลากลับถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองนอน กลับมาพลิกฟื้นผืนดินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน กับเด็กๆในหมู่บ้าน ต่อยอดไปสู่เด็กๆจากที่อื่นเข้ามาเรียนรู้ หาประสบการณ์จากผืนแผ่นดินแห่งนี้


ผืนดินแห่งนี้ เกิดจากความตั้งใจจะให้เด็กๆในชุมชน สำนึกรักในวิถีของธรรมชาติ เรียนรู้การดำเนินชีวิตแบบเพียงพอ ปลูกฝังให้รู้จักการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่อยู่รอบๆตัว ไม่ต้องมีตำรา ไม่ต้องมีการสอบแข่งขัน ไม่มีการบังคับให้ใส่เครื่องแบบ ใช้ชีวิตให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อ…เป็นการสรุปความอย่างย่อ ให้พอเข้าใจ ในข้อความของการสื่อสารระหว่างเรากับครู



ห้องเรียนธรรมชาติ…

โลกของการแข่งขันในวันปัจจุบัน ใครเร็วกว่า ใครฉลาดกว่า ใครมีทุนมากกว่าย่อมฉกฉวยความได้เปรียบ แม้บางครั้งคนเหล่านั้นอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ด้วยสภาพสังคม สภาพแวดล้อม ก็มีบางที่มันนำพาตัวเราไปสู่จุดนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ



ด้วยความตั้งใจของครูลี่ ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง ถ้าให้เปรียบเทียบเรียบเรียงก็คงคล้ายเหมือน โรงเรียนทางเลือก ที่ในทุกวันนี้เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้น มีวิธีการสอนที่ไม่ต้องมีตำราเรียน ไม่ต้องมีเครื่องแบบ ไม่พึ่งพาเทคโนโลยี…

ผลผลิตเปรียบเสมือนใบเกรด ที่ย้อนกลับคืนสู่ชุมชน…


แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปสำหรับโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง คือ สภาพความเป็นจริงของโรงเรียน มันไม่ใช่การสร้างขึ้นเพื่อดำรงอยู่ แต่มันคือการดำรอยู่ก่อนแล้ว เรามีหน้าที่ที่จะเรียนรู้ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผสมผสานความรู้สึกนึกคิดในรูปแบบปัจจุบัน และสืบต่อไปยังรุ่นต่อรุ่น โดยไม่นำพาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ผืนดินแห่งนี้…


อีกเรื่องที่เราชอบมากๆ คือการนำดนตรีเข้ามาเป็นสื่อกลางในการส่งสารสาระ ด้วยความเป็นเด็ก การจะใส่สี ตีตาราง วางแบบแผนให้เด็กๆที่จะเติบโตนั้น มันค่อนข้างง่าย ไม่ยากเหมือนไม้ยามแก่ การใส่ดนตรีเข้าไปในชีวิต จิตวิญญาณของเด็กน้อยย่อมเหมือนการใส่ความอ่อนโยนเข้าไปในจิตใจของเด็กๆเหล่านั้น ธรรมชาติกับดนตรีคือ ดีงาม…






จริงๆผืนดินแห่งนี้ ไม่ใช่สิ โรงเรียนแห่งนี้ยังคงขาดแคลนบางสิ่งอย่าง ในวาระและโอกาสที่มีเข้ามา ครูลี่และน้องๆก็ออกตระเวนหาทุนด้วยการเล่นดนตรีบ้าง ทุกๆสิ่งตอบแทนก็ย้อนกลับมาที่ชุมชน ที่โรงเรียนแห่งนี้…


ท้ายสุดสุดท้ายต้องขอคารวะ ครูลี่ ยอดคนยอดครู ปราชญ์ชาวบ้านคนนี้ไม่ได้ ครูมาถูกทางแล้ว แม้หนทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะผ่านมันไปไม่ได้ ก็ขอให้แนวทางนี้ได้เดินต่อไปให้ยาวนานที่สุด…

ความคิดเห็น