BLISSFUL BALI | เที่ยวบาหลี 4 วัน 4 คืน ทั้งเกาะ ทะเล เขา วัด และ โรงพยาบาล
ไหนๆจะไปทั้งทีก็ต้องเก็บให้ครบ Nusa Penida, Ubud, Amlapura, Canggu, และ Kuta เก็บหมด ตั้งแต่ ที่ท่องเที่ยวยันทริปไปโรงพยาบาลบาหลี 555
เริ่มต้นแบบรวบลัด : ต้องทำอะไรบ้างก่อนไปบาหลี ~
1 ) Transportation เราจองรถ ให้มารับส่งสนามบิน จาก KLOOK สบายๆ ถูกมากและไม่ต้องกลัวโดนโกง
2) Rental car (คนละ 1000 บาท) เราสามารถเลือกที่ให้มาส่งและรับรถได้ ซึ่งดีและถูกมาก แต่ข้อเสียคือถนนที่บาหลีขับยาก ถ้าไม่ขรุขระ หรือชัน ก็วุ่นวายมาก มอเตอร์ไซค์ขับแบบ ปาดจากทุกด้าน
3) SIM ของ KLOOK มาส่งพร้อมตอนมารับเราจากสนามบิน แต่….ใช้ที่อื่นนอกจาก Kuta แทบไม่ได้ สัญญาณแย่มากกกกก ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร
4) โรงแรมเราจองจาก Booking.com ไม่ค่อยมีปัญหา จ่ายเงินที่โรงแรมได้เลยอีกต่างหาก แลกเงินเตรียมไว้ให้พร้อมก็พอ
5) ถ้าจะไป Nusa Penida แนะนำทัวร์ของ Discovernusapenida.com ราคา $70 ต่อคน แพงหน่อยแต่คุ้มมากรวมทุกอย่าง (รถรับส่ง, เรือ, ไกด์และรถส่วนตัวพาทัวร์ที่เกาะ, อาหารกลางวัน, ขนม, น้ำดื่ม, อุปกรณ์ดำน้ำตื้น, ผ้าขนหนู) ไกด์ดีและ นางยังเป็นคนช่วยชีวิตเราไว้ 555
Schedule แบบคร่าวๆ ซึ่งเราไปช่วง 16–20 April 2018
พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า~
DAY 1 Bangkok — Bali — Nusa Penida Island
เราออกเดินทางกันที่จากดอนเมือง เป็นเวลา 1 ทุ่ม ด้วย AirAsia ไปถึง Bali ก็เกือบตี 1 ซึ่งเวลาที่นี้เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง รถของ Klook ก็มารอรับและพาเราไปส่งยัง H-ostel ที่พักแรก ที่เรานอนแค่ 5 ชั่วโมงก็ Check out และ รอคนจากทัวร์เกาะ มารับตอน 6.30 AM
คนขับรถพาเราไปยังท่าเรือและ ให้เราทานข้าวเช้ากันที่ร้านตรงท่าเรือ ซึ่งเปิดอยู่ร้านเดียว ดีที่ว่าเรามาถึงกลุ่มแรก เลยไม่ต้องรอนาน หลังจากเราทานคือโต๊ะเต็ม พนักงานก็มีคนเดียวอีกต่างหาก เนิบสุดๆไปเลยเจ้าค่ะ~
หลังจากนั่งเรือประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเกาะ Nusa Penida เราก็จะเจอไกด์มารอรับ ซึ่งนางชื่อ กาแด(เท่าที่ฟัง) กาแดกับคนขับรถ พาเราไปเที่ยวรอบๆเกาะ ซึ่งถนนเเย่มากกกกกกกก ขับเองไม่ได้แน่นอน ทั้งขรุขระและเป็นเลนเดียว แต่มีรถส่วนตลอดเวลา 555 กาแดบอกว่าเกาะเพิ่งเปิดมา สาม ปี ยังไม่ได้พัฒนาอะไรมากหนัก
กาแดพาเราไปยัง Angel Billabong ซึ่ง….ในรีวิว คนลงไปว่ายน้ำถ่ายรูปกันอย่างสวยงาม
ตอนเราไปน้ำขึ้น ทำให้ว่ายไม่ได้ แต่กาแดบอกว่า สามารถ ลงไปถ่ายรุปข้างๆได้ เราและเพื่อนสาวก็เลยลงไป เพื่อนให้หนุ่มๆถ่ายให้ แต่แล้ว…..
อยุ่ๆคลื่นก็มาแบบหนักมาก ติดๆกันๆ กาแดรีบบอกให้เราลุก และไปหลบตรงที่ปลอดภัย.. แต่ กาแด คงลืมนึกไปว่า เรากับเพื่อนนั่งอยู่บนหินที่คมมาก ลุกไม่ทันเจ้าค่ะ…ไม่ทันเลยจริงๆ TT_TT
ขณะที่ลูกคลื่นลูกใหญ่กำลังมา ตอนนั้นเริ่มเป็นนาทีชีวิต เรากับเพื่อนกำลังรีบก้าวเข้าไปหลบ แต่ไม่ทัน กาแดจับแขนเราไว้แน่นมาก เพราะเราลอยเกือบจะไป ไปตรงอ่าวที่เป็นหินคม (ซึ่งกาแดมาบอกทีหลังว่า มีอุบัติเหตแถวนี้เยอะเหมือนกัน อ้าวววว) หน้าแข้งเราฟาดกับหินเต็มๆ แต่ก็เดินไปหลบกันได้ทัน… (คนแถวนั้นหนีกันหมด น่ากลัวมากจริงๆ)
เลือดเราไหลออกมาจากกางเกง วินาทีนั้นก็เจ็บแต่แบบ อารมณ์ไม่อยากให้เป็นอะไรมากกว่า เพราะเราเพิ่งมาวันแรกเอง… แต่ก็ตามคาด เข่าเปิดเห็นข้างใน กาแดนางก็รีบไปหาชุดปฐมพยาบาลมาให้เรา กับเพื่อนที่เท้าเลือดออก
ถึงตรงนี้…ทำแผลเสร็จ เราก็ใจดีสู้เสือไปเดินต่อที่ Broken Beach ที่อยู่ใกล้ๆ ถามว่าเจ็บมั้ย มันก็เหมือนจักรยานล้ม แต่เรากับเพื่อนแบบสู้อ่ะ เสียตังมาเยอะ 5555 (กาแดบอกให้รอไป ร.พ. ตอนกลับฝั่งดีกว่า เพราะที่นั้นไม่มี..)
Broken Beach เป็นสถานที่ๆ สวยมาก ถึงขั้นว่า งงกับธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเลยละ
หลังจากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ Kelingking Beach ที่สามารถเดินลงไปได้ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง สวยมากกกกกกกก เห็นจากข้างบนเลยว่า ทรายขาวมาก แต่เค้าบอกว่าเดินยาก และสภาพขาเราไม่น่าจะไปไหว 5555 ได้แต่ถ่ายรูปไปแบบเศร้าๆ
พอถึงตอนนี้เราก็พัก ทานข้าวบนร้านในเกาะ ที่รวมอยู่ในทัวร์แล้ว ใครมาแนะนำปลาทอดนะจ้ะ อร่อยมาก กินกับน้ำจิ้มบาหลี ที่เหมือนอาจาดอันนี้ ขอเพิ่มได้ด้วย :)
ที่สุดท้ายที่ กาแด พาไป คือ Crystal bay ที่สามารถดำน้ำตื้นได้ที่หาด แต่เราก็ลงไม่ได้ตามเคย เลยปล่อยให้หนุ่มๆเค้าไปเล่นกัน ส่วนเรากับเพื่อนนั่งเม้าท์มอยกับ กาแด ที่หาด 555 พอถึงเวลา กาแด พาเรามาส่งที่ท่าเรือ พร้อมกับเก็บเงิน เราจึงให้ทิป กาแดไปด้วย และขึ้นเรือกับมาถึงฝั่งก็ บ่าย สี่แล้ว … หลังจากรับรถเช่าที่ให้มาส่งที่ท่า ได้เขาแนะนำโรงพยาบาล Sanglah General Hospital มา เพราะว่า บริการดี และคุ้มราคา
หลังจากเดินเข้าห้องฉุกเฉินอย่างองอาจ ก็หน้าซีดเพราะหมอบอกว่า ต้องเย็บนะจ้ะ พอทำเรื่องเสร็จ เราก็ได้หมอ 5 คนมาเย็บแผลไป คุยกับเราไป ซึ่งเขาก็ดูแลดีนะ ถึงจะมีความคล้าย ร.พ.รัฐที่ไทย แต่ก็พูดดีและทำอะไรเร็วมากๆ ค่าเสียหายทั้งหมดของเราอยู่ที่ประมาณ 1600 บาท เท่านั้นนนนนนนนนนน
เราทั้งสี่คน หมดสภาพจากโรงพยาบาล ขับรถไปยัง Uluwatu เพราะจองโรงแรมไว้ใกล้กับ ร้าน Single fin แต่สุดท้ายก็ นอค เพราะเรื่องราวมากมาย ได้ไปแค่กินข้าวที่ Outside corner (ซึ่งเสต็กหมูอร่อยมากกกกกกกก) เท่านั้น เสียใจ~~
DAY 2 Uluwatu — Ubud
เนื่องจากเมื่อวานเป็นวันสุดผจญภัย วันนี้เราก็เลยขอชิวๆ ตอนเช้า ไปวัดลิงชื่อดังของ Uluwatu ที่มีวิว สามารถมองเห็น Pagoda บนหน้าผาได้จากอีกฝั่ง ที่นี้มีความร่มรื่นและ เก่าแก่มาก เวลาเข้าสถานที่แบบนี้ของบาหลี เขาจะให้แต่งตัวเรียบร้อย และมีโสร่งให้ ที่วัดนี้เราต้องเดินระแวงลิงที่นี้กันหน่อยเพราะตั้งแต่เข้าวัดมาก็เห็นลิงขโมยของแบบไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่ขวดน้ำ แว่นกันแดด ถุง อะไรอีกมากมาย แถมมันไม่กลัวคนด้วยนี้สิประเด็น =_=
เราขับรถย้อนขึ้นเพื่อจะไป Ubud แวะกินข้าวที่ร้านข้างทาง ซึ่งที่นี้ร้านอาหาร (Warung) จะมีไม่กี่แบบคล้ายๆกัน ส่วนใหญ่เป็น ข้าวยำ และไปเจอร้านกาแฟ ชื่อ BGS cafe เข้าโดยบังเอิญ และเนื่องจากที่นี้ขายของ Surf งานดีๆ จึงมารวมตัวกันที่นี้ค่ะคุณขาาาาาา กาแฟที่นี้ก็ดีมากๆอีกต่างหาก เราเลยนั่งชิว ก่อนจะเดินทางต่อ
พอพูดถึง Ubud เราว่าอย่างแรกๆที่คนนึงถึงคงจะเป็น Bali swing
ซึ่งเรามาเจออันใหญ่ ที่ราคาแพงมากๆ เพิ่งเห็นว่าอีกอันอยู่ข้างๆก็ตอนเข้าไปข้างในแล้ว ฮือๆ
ซึ่งเราจ่ายกันคนละ $35 รวมทุกอย่างแล้ว บุฟเฟต์ อาหารท้องถิ่นที่ไม่อร่อย และถ้าไม่เล่นเข้าไปเป็นเพื่อนอย่างเดียวค่าอาหารก็ $10 แล้ว ข้างในมี Swing 4 อัน มีความสูงและหวาดเสียวต่างกัน แต่วิวดีมากๆอันนี้ยอมรับ.. รวมถึงมี รังนกหลายๆอันที่ให้เราต่อคิวถ่ายรูปได้ ซึ่งคนจีนเยอะมากกกกกกกกกก แต่ก็เสียตังมาแล้วก็ถ่ายรูปต่อไปค่ะ~~
ที่พักของเราในคืนนี้เป็นที่พักที่สวยและแพงที่สุดในทริป ชื่อ Tejaprana Resort and Spa ราคารวมๆ ประมาณ 7,xxx บาท จองใน Booking.com ค่ะ ซึ่งราคานี้รวมอาหารเช้า นวดฟรี 15 นาที ชุดน้ำชายามบ่าย ห้องที่เราจองเป็น Pool villa ที่มีวิวเป็นป่าของ Ubud ซึ่งสวยมากกกกก และ เตียงก็หันไปทางทิศตะวันออก เราตื่นมาดูพระอาทิตย์ตอนเช้า สวยมากจริงๆ :) แนะนำให้มาเลยค่ะ
ที่ Tejaprana มีข้าวเช้าที่ต้องตื่นมาทานให้ได้ เพราะอร่อยมากกกกกกก มีให้เรื่องหลากหลาย และรสชาติดีมากๆค่ะ มีทั้งอาหารบาหลี และ ไข่ในแต่ละสไตล์ และเป็น All you can eat สั่งได้เรื่อยๆ เริ่ม 7 โมง ถึง 11 โมง เป็น A MUST มากๆนะคะ!!
DAY 3 Amlapura — Tirta Ganga — Heaven’s Gate
วันนี้เราขับรถไปยัง Amlapura เพื่อจะไปที่ Tirta Gangga หรือ บ่อปลาที่เป็นสวนสาธารณะ เราสามารถเดินเล่นถ่ายรูป ให้อาหารปลาได้ และมีบ่อปลาสำหรับเราไปว่ายน้ำได้อีกต่างหาก ซึ่งที่เราตื่นตามากๆ คือ การที่น้ำเค้าสะอาดมากๆ จนเห็นถึงก้นบ่อ และยังดูเป็นธรรมชาติ เหมือนไม่ใช่บ่อปลาทำขึ้น
ต่อจากบ่อปลาเราก็บขับขึ้นเขาสูงมากกกก ซึ่งตรงสามารถเห็นภูเขาไฟเป็น background เป็นอีกหนึ่ง landmark ของบาหลี นั้นก็คือ Pura Lempuyang หรือ ประตูสวรรค์ นั้นเอง
การได้ขึ้นไปตรงนี้ คือสวยมากจริงๆค่ะ เหมือนเราอยู่ใกล้กับท้องฟ้าแค่เอื้อม :)
คืนนี้เราข้างกันที่แถว Seminyak เพื่อดูย่านนี้ยามค่ำคืน โรงแรมที่เราพักคือ Grandmas hotel และนางก็มีร้านอาหารกึ่งร้านเหล้าชื่อ Miura ซึ่งอาหารอร่อยมากกกกก โอยเฉพาะ ไก่สะเต๊ะ และ ซี่โครงหมู แถมที่เด็ดไปกว่านั้นคือ…Cocktail ดีและเข้มมากเช่นกัน หึๆ
DAY 3 Canggu — Bangkok
วันสุดท้ายในบาหลี เราเลยขอไปชมโซน Surf กันตั้งแต่เช้า ซึ่งที่ Canggu เต็มไปด้วยร้านเด็ดสองข้างทาง เลือกกันแทบไม่ถูกเลยทีเดียว เราเลยตัดสินใจเลือกร้าน Cocomo Cafe เพราะ มีความคิวท์ๆ ตัดจากร้านอื่นๆ พอสมควร
ต่อด้วยมื้อกลางวันของเรา ที่ Echo House ร้านติดหาด ที่เราสามารถเดินไปสั่ง ซีฟู้ด ได้หลายๆแบบ และยังมีพวกเนื้อต่างๆให้เลือกพร้อมป้ายราคา ที่นี้เขาย่างและเหมือนทาขมิ้นมาอ่อนๆ แต่ของสดและอร่อยมาก ราคาไม่แพงอีกต่างหาก และที่สำคัญตั้งแต่มาที่บาหลี ที่นี้แช่เบียร์ได้เย็นสุด 5555 ซึ่งเบียร์ Bintang ถ้าใครไม่ชอบรสธรรมดา แนะนำ เลมอนและส้ม แอลแค่ 2 % กินชิวๆริมหาด ดูคนเล่น surf เพลิ๊นเพลิน
หลังจากหนังท้องตึงก่อนหนังตาจะหย่อนเราก็แวะ ถ่ายรูปกับที่หาดสีดำอันขึ้นชื่อของ Canggu
ที่นี้ค่อนข้างสะอาด และ คลื่นแรงมาก
ก่อนถึงรถก็แวะอีกสักร้านชื่อร้าน Nula bowls เป็นถ้วยกะลาที่มีพวกผลไม้ โยเกิร์ต และ Ganola ทำเองของร้านแต่งมาอย่างสวยงามด้านใน อร่อยแต่แอบแพงไปนิสสสส แต่เอามาถ่ายรูปก็สวยๆอยู่
เพราะเรามีบินตอน ตีหนึ่งกว่า เราเลยเปิด Cara cara Inn โรงแรมที่แสนโด่งดังเพราะสีสันฉูดฉาด เพื่อไว้อาบน้ำและนอนก่อน รถมารับไปสนามบิน ซึ่งที่นี้สวยและน่านอนพักมาก จนคิดว่าถ้าครั้งหน้ามา ก็คงพักที่นี้ทีเดียวก็พอ 5555
สรุป~
บาหลีเป็นที่เที่ยวที่ให้ได้หลายๆอารมณ์ ทั้งผจญภัย ทั้งชิวๆ ทั้งหรูหรา และ ติดดินสุดๆ ไปเที่ยวรอบนี้ นอกจากเจ็บตัว ตื่นเต้น เรายังได้รู้สึกถึงการพักผ่อนแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่นอนดูวิวก็ทำให้รู้สึกสบายใจสุดๆแล้ว คนที่นี้ใจดี และ ช่วยเหลือเราเยอะมาก สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆ ไปครั้งหน้าสัญญาจะไม่เจ็บตัว จะได้ไปดำน้ำกับเขาบ้าง 55555
Perfectto photo
วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.53 น.