สถานที่เที่ยวอันดับต้นๆ สำหรับหน้าร้อนคงหนีไม่พ้นทะเล

เราก็เป็นคนหนึ่งที่เห็นฟ้าใสๆ เเดดจ้าๆ ก็อยากออกไปเที่ยวทะเลกับเค้าบ้าง โจทย์การเที่ยวทะเลในครั้งนี้ คืออยากเห็นทะเลน้ำใสๆไม่ไกลกรุงเทพฯ คิดไปคิดมาหวยออกที่ เกาะขาม ว่าจะไปหลายครั้งเเต่ไม่มีโอกาสสักที

ที่ว่าไม่ไกล เพราะเกาะขาม อยู่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีนี่เองค่ะ เป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ภายใต้การดูเเลของกองทัพเรือ จะเปิดเกาะให้เที่ยวในเดือน กันยายน -เมษายน เเละเปิดเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ เเละวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้นค่ะ

ดังนั้นคงพอเดากันได้ใช่ไหมว่าคนข้ามไปเที่ยวเกาะขามนั้นเยอะทีเดียว

เอาล่ะค่ะ เยอะยังไง เราจะไม่ย่อท้อต้องไปให้ได้

วิธีซื้อตั๋วมี 2 ทาง คือ โทรจอง หรือจะ walk in ก็ได้ค่ะ รายละเอียดตามรูปด้านล่างเลย

เรารีบโทรจองตั๋วที่สำนักงานเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 เลือกจองตั๋วเที่ยว 8.30 น.เจ้าหน้าที่เเจ้งว่าให้มารับตั๋วประมาณ 07.00 น.


อาล่ะตั๋วได้เเล้ว เตรียมตัวเเพ็คกระเป๋าเเล้วออกเดินทางกันค่ะ

เราออกเดินทางเเต่เช้าตรู่วันเสาร์ เพื่อให้ไปถึงที่จุดรับตั๋วให้ทันเวลา

ส่วนจุดรับตั๋วนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่าอยู่บริเวณประตูทางเข้ากรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบค่ะ

เรามาถึงเกือบๆ 07.00 น. คนต่อคิวกันยาวเเล้ว เห็นเเล้วมึนเลยค่ะ เดินไปเเบบงงๆ หาจุดรับตั๋วสำหรับคนโทรจอง ขนาดโทรจองนะคะ ยังต้องยืนต่อคิวรับตั๋วยาวเลย

ได้ตั๋วเเล้วค่ะ Smiley

ราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 250 บาทต่อคน (รวมค่าเดินทางไป-กลับ เเละเรือท้องกระจกชมปะการัง)

เสร็จเเล้วมารอขึ้นรถเพื่อไปจุดขึ้นเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอ คิวต่อขึ้นรถก็ยาวเหมือนกันค่ะ ก้มมองนาฬิกา ตายล่ะนี่เเปดโมงนิดๆเเล้ว ดูเเถวรอขึ้นรถในรูปสิค่ะ ไม่ทันรอบเรือ 8.30 น. เเน่ๆค่ะ ขนาดมาถึงก่อนเวลาที่เจ้าหน้าที่เเจ้งนะคะเนี่ย

สารภาพเลยค่ะว่าจุดนี้มีท้อนิดๆ เเต่ก็ปลอบใจตัวเองว่ามาถึงขนาดนี้เเล้วสู้โว้ยยย นึกถึงน้ำทะเลใสๆเข้าไว้

พอลงจากรถ เจ้าหน้าที่ให้เรารอเรียกคิวขึ้นเรือ ยืนตากเเดดรอที่บริเวณนี้นานพอสมควรค่ะ โชคดีนะคะที่บางทีฟ้าครึ้มบ้างไม่งั้นเกรียมเเน่ๆ

ถามว่าที่ร่มๆเเถวนั้นไม่มีเลยเหรอ ขอตอบตามนี้นะคะ

1. ที่ร่มมีค่ะ เเต่ด้วยจำนวนคนที่เยอะมากทำให้ไม่เพียงพอค่ะ

2. พอเจ้าหน้าที่เรียกคิวเเล้วเค้าจะให้มายืนรอตรงสะพานเรียงเเถว

ซึ่งระยะเวลาที่ยืนรอค่อนข้างนานเหมือนกัน เเละตรงนั้นไม่มีที่ร่มเลยค่ะ

ในที่สุดมีเสียงตะโกนมาว่า เดินมาขึ้นเรือได้เลยครับ โอ้ยน้ำตาจะไหลได้ไปเที่ยวเกาะเเล้ว

เเหมเรือสีชมพูสดใสมากค่ะ

ได้ขึ้นเรือประมาณ 10.00 น. นั่งเรือไม่นานมาก จำได้ว่าน่าจะไม่เกิน 40 นาทีค่ะ ก็ถึงเกาะเเสมสารเเล้ว

เดินขึ้นโป๊ะตรงเข้ามาเลยค่ะ

ก่อนจะไปทำกิจกรรม เจ้าหน้าที่ขอให้มาฟังข้อมูลเกี่ยวกับเกาะขาม เเละจุดที่เล่นน้ำได้ พร้อมอธิบายกิจกรรมเเละกฎต่างๆบนเกาะค่ะ

ก่อนจะไปชมทะเลสวยๆ เราเดินสำรวจของกินก่อน ดูเเล้วมีเยอะใช้ได้ สบายใจเเล้วไปเดินสำรวจเกาะกันค่ะ


จุดถ่ายรูป หลายๆคนน่าจะเเวะถ่ายตรงนี้เยอะค่ะ ถ้าใครจะเช่าอุปกรณ์สำหรับ snorkel จะอยู่ใกล้ๆตรงนี้ล่ะค่ะ ทริปนี้เราไม่ได้ดำน้ำ ตั้งใจมาเดินเที่ยวเก็บบรรยากาศเท่านั้น


ดำ snorkel สามารถดำตรงหน้าหาดได้เลยนะคะ

บนเกาะขามมีกิจกรรมอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะพายเรือคายัค เดินขึ้นไปจุดชมวิวผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติ นั่งเรือท้องกระจกชมปลา ใครชอบเเบบไหนเลือกทำได้เลยค่ะ

เท่าที่เห็นส่วนมากจะมาเที่ยวเป็นครอบครัวเเละกลุ่มเพื่อน ตรงหน้าหาดคนหน้าเเน่นเลยทีเดียวค่ะ

เราเดินไปเรื่อยๆเพื่อไปยังสะพานไม้

เป็นอีกจุดที่สวยมากๆ น้ำใสสุดๆค่ะ

เห็นเรือท้องกระจกเเล่นอยู่ไกลๆ

เดินมาถึงท้ายเกาะ มองไปทางไหนก็เป็นสีเขียวสีฟ้าไปหมด บริเวณนี้ไม่สามารถเล่นน้ำได้นะคะ



เดินเพลินเแป็ปเดียวเที่ยงเเล้วค่ะ เราตัดสินใจว่าจะกลับเที่ยวเรือรอบ 13.30 น.

เพราะเท่านี้ก็บรรลุจุดประสงค์ที่อยากมาเกาะขามสำหรับเราเเล้วค่ะ

เราเดินมารอเรือกลับตรงบริเวณโป๊ะที่ลงเรือค่ะ ปรากฎว่ายังไม่ถึงเวลาเเละเรือท้องกระจกมีคิวพอดี เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเปล่าๆไปล่องเรือท้องกระจกดูปลาดีกว่าค่ะ กระจกจะติดอยู่ที่ท้องเรือ เห็นปลาเเละปะการัง ชัดบ้างไม่ชัดบ้างค่ะ เเต่ก็สนุกดี

ล่องเรือท้องกระจกเสร็จ เรือใหญ่มาถึงพอดี Bye Bye เกาะขาม

พอกลับมาถึงฝั่ง เเฟนทำตาอ้อนวอนขอเเวะ เพอคูล่าฟาร์ม ไอ้เราเห็นว่าอยู่ใกล้ขับออกไปก็ผ่านอยู่เเล้วเลยเอ๊าไปก็ไป ขอเเอบเมาท์นิดนึงว่าแฟนมาพัทยา สัตหีบทีไร ต้องขอเเวะตลอดค่ะ มาหลายรอบมากหลับตาเดินยังได้เลยค่ะ

ขับมาเเวบเดียวเกินสิบนาทีถึงเเล้วค่ะ (ใครมาไม่ถูกใช้ google map นำทางมาได้เลย) ค่าเข้าชม 20 บาท ที่นี่เปิด 09.00-15.30 น.

เพอคูล่าฟาร์มเป็นฟาร์มปลาการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เค้าเพาะปลาการ์ตูนเองได้ด้วยนะคะ เเละยังมีปลาทะเลอื่นๆที่ทางฟาร์มเลี้ยงไว้ให้ดูด้วยค่ะ

เด็กน้อยดีใจได้มาเที่ยวฟาร์มปลาการ์ตูน

น่ารักไหมค่ะ

จริงๆเเล้วปลาการ์ตูนไม่ได้มีเเต่ส้มขาวเเบบที่เราเห็นในเรื่อง Finding Nemo เท่านั้นนะคะ อย่างในรูปเป็นปลาการ์ตูน naked ค่ะ

จุดถ่ายรูป เด็กๆน่าจะชอบค่ะ

เดินไปตามลูกศร

ออกมาจะเจอบ่อที่เค้าเพาะปลาการ์ตูนไว้ค่ะ

เราเคยมาซื้อปลาการ์ตูนที่นี่ เค้าให้มาเลือกที่บ่อนี้ค่ะ ลืมบอกไปว่าที่บ้านเลี้ยงปลาทะเล นั้นเป็นสาเหตุว่าทำไมเเฟนถึงชอบมาเที่ยวที่นี่

เดินมาเรื่อยก็จะผ่านบ่ออีกหลายบ่อ ในเเต่ละบ่อมีปลาหลายชนิดค่ะ

เจ้าบลูเเทงค์ก็มี


ตัวนี้เรียกว่า Emperor Angelfish เป็นอีกตัวที่เราชอบมาก


เจ้าสามตัวนี้คือ Longfin Bannerfish ค่ะ


มาตรงนี้ต้องหยุดเเวะถ่ายรูปทุกครั้ง ชอบบ้านสีๆที่อยู่กลางทะเลค่ะ


ดูจนจุใจเเล้ว เราขับรถตรงไปพัทยาใต้ ซอย 10 เพื่อเช็คอินที่พักคืนนี้ " ณุศบาพัทยา " พอมาถึงสวยเหมือนในรูปเลยค่ะ

ณุศบาให้คำนิยามตัวเองว่า " Boutique Culture Villa" เคยอ่านเจอในบทสัมภาษณ์ว่า

"ด้วยความเชื่อในความงามของการผสมผสานทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอกของ ณุศบา พัทยา จึงเป็นสไตล์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวทั้ง ตะวันตก อาหรับ จีน และไทย "

เมื่อเข้ามาจะเจอสระว่ายน้ำก่อนเลยค่ะ เป็นอีกมุมที่คนมาถ่ายรูปเยอะมาก

เราได้พักห้องนี้ค่ะ

เปิดเข้ามาต้องร้องว้าว ที่ว้าวเพราะด้วยราคานี้ได้ห้องเเบบนี้ คุณภาพเกินราคาค่ะ

สามารถออกมานั่งชิลล์ที่ระเบียงได้ ถึงไม่มีวิวทะเล เเต่ด้วยบรรยากาศตกเเต่งเเล้วทำให้รู้สึกมองไปทางไหนก็สบายตาค่ะ

ตรงนี้เป็นส่วนทานอาหาร เเละเคาน์เตอร์สำหรับเช็คอิน-เอาท์

ขนมที่เห็นสามารถหยิบทานได้ตลอดนะคะ

พักผ่อนสักพักได้เวลาออกไปทานข้าวเย็นเเล้วค่ะ เราจองโต๊ะไว้ที่ " Silver Lining Pattaya " หนึ่งเหตุผลที่เลือกร้านนี้เพราะอยากนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่หาดวงศ์อมาตย์ค่ะ

Silver Lining อยู่พัทยาเหนือ ซอยนาเกลือ 18 ร้านจะอยู่ในพื้นที่เดียวกับ

Zire Wongamat Condominium ถึงเเล้วขับเข้ามาจอดรถในคอนโดได้เลย จะมีพนักงานของทางร้านรอรับลูกค้าอยู่ค่ะ

เราจองโต๊ะไว้ริมหาดเลยค่ะ

ตรงนี้เป็นส่วนที่นั่ง outdoor ริมหาด ถ้าใครร้อนสามารถนั่งส่วนที่เป็นห้องเเอร์ได้นะคะ ตกเเต่งสวยเหมือนกัน


เเละนี่คือโต๊ะที่จองไว้ค่ะ

ระหว่างนั่งรออาหารก็ชมบรรยากาศชายหาด เเละพระอาทิตย์ค่อยๆตกดิน

อาหารที่นี่จะเน้นอาหารญี่ปุ่นเป็นหลัก




เเต่ก็มีอิตาเลียนเเละไทยด้วยค่ะ


พอมืดพนักงานจะมาจุดเทียนให้ เเละมีดนตรีสดมาเล่นด้วยนะคะ

เรานั่งสักพักรู้สึกง่วง คงเพราะด้วยติ่นเเต่เช้าเเละอยู่กลางเเดดหลายชั่วโมง ถึงใจจะอยากนั่งต่อเเต่ร่างกายประท้วงให้กลับไปนอน

สรุปเเล้วร้าน Silver Lining สำหรับอาหารเเล้ว เราเฉยๆนะคะ เเต่ถ้าบรรยากาศต้องบอกว่าเป็นอีกร้านที่มีบรรยากาศดีมากในพัทยา

เช้าวันที่สอง เราตื่นมาเเต่เช้าเพื่อมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ ภาพสระว่ายน้ำที่ลงไปก่อนหน้านี้ก็ถ่ายตอนเช้า เลยไม่ติดคนค่ะ

อีกสิ่งที่เราชอบมากเวลาถ่ายรูปคือเเสงเเละเงาของเหล็กดัด ไม่รู้เพราะอะไรถึงชอบ รู้เเต่ว่าเห็นเเล้วอดถ่ายไม่ได้

ชอบลายกระเบื้องทั้งหมดของที่นี่

สำหรับอาหารเช้าที่นี่จะให้เลือกค่ะว่าอยากทานอะไร มีอยู่ 3 เมนู คือ ข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ เเละข้าวต้มปลา เเละจะมีไข่ดาวไส้กรอกให้คนละชุด ส่วนขนมปังเเผ่น เเละขนมไทย สามารถหยินทานได้ทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ ขอบอกว่าขนมไทยอร่อยเลยทีเดียวค่ะ

ก่อนกลับพนักงานให้ขนม น้ำเรากลับมาด้วย เเถมบอกอีกว่าหยิบขนมในตู้เย็นไปได้นะคะ เราประทับใจ ณุศบา มากจริงๆ นอกจากที่พักตกเเต่งสวย ทั้งสะดวกสบาย พนักงานยังบริการดี มีความเอาใจใส่มากๆ เวลาเราจะเทียบว่าอะไรดี หรือคุ้มค่าไหม เราเทียบจากจำนวนเงินที่เราจ่ายไป เรากล้าพูดได้เลยว่า ณุศบา คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากๆค่ะ

ทริปเกาะขามของเราจบลงเเค่นี้ค่ะ สำหรับเกาะขาม เราว่าเป็นเกาะที่มีน้ำสวยใส การเดินทางจริงๆเเล้วไม่ลำบากนะคะ เเต่ด้วยจำนวนคนที่เยอะมาก ทำให้ติดขัดบ้าง ส่วนถ้าใครต้องการความสงบเเละความเป็นส่วนตัว เกาะขามก็ไม่ตอบโจทย์เหมือนกันค่ะ

ส่วนตัวเราสักครั้งหนึ่งมาให้เห็นกับตาว่าใกล้กรุงเทพฯ ก็มีทะเลสวยๆ ไม่เเพ้ภาคใต้ เราว่ามันก็คุ้มค่ากับการมาเที่ยวเกาะขามค่ะ สำหรับปีนี้เกาะขามยังเปิดให้เที่ยวได้ถึง 1 พฤษภาคม

ใครไม่ทันรอบนี้รอใกล้ๆปลายปีเปิดเกาะอีกรอบเเล้วมาเที่ยวเกาะขามกันนะคะ

สามารถดูข้อมูลเกาะขามเพิ่มเติมได้ที่

https://www.kohkham.com/index.php


ความคิดเห็น