หลังจากยืนลุ้นว่าเราจะได้ขึ้นรถไฟขบวนไหนจากสถานีอิดะคิโสะเพื่อเดินทางไปยังสถานีคิชิ (Kishi) ปลายทางถัดไป หลังจากนั่งรถไฟของเล่น (Omocha) ในธีมสีแดงมาแล้ว
ในที่สุดรถไฟที่เคลื่อนตัวออกจากโรงเก็บก็เป็นขบวนที่เรารอคอยแม้ว่าเราทั้งสองคนจะไม่ใช่ทาสแมว แต่ก็อยากขึ้นขบวนนี้เป็นที่สุด รถไฟขบวนนี้มีหูเสียด้วย! เอาใจคนรักแมวสุดๆ ค่ะ รถไฟเจ้าเหมียว “ทามะจัง” มาแล้ว
รถไฟขบวนนี้เป็นอีกหนึ่งสายที่นำรถไฟ EMUs (Electric Multiple Units) ซีรีย์ 2270 มาปรับโฉมตกแต่งเป็นลวดลายวิ่งบนเส้นทางระหว่างสถานีวาคายามา (Wakayama) กับสถานีคิชิ (Kishi) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้สามารถฟื้นตัวจากสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเลิกกิจการ
รถไฟขบวน Tama Densha ออกแบบตู้โดยสารภายนอกให้มีหน้าตาคล้ายแมว ตัวรถตกแต่งด้วยลายการ์ตูน “ทามะจัง” ทั้งด้านนอกและด้านใน มีที่นั่งหลากหลายดีไซน์ เบาะที่นั่ง วอลเปเปอร์ ก็พิมพ์เป็นลวดลาย “ทามะจัง” นอกจากนั้นยังติดสติ๊กเกอร์ตามกระจก ป้ายผ้าต่างๆ ที่แขวน เรียกว่ามีให้เห็นทั่วขบวน ด้านในยังมีห้องสมุดขนาดเล็กที่มีหนังสือเกี่ยวกับแมวให้อ่าน แม้แต่เจ้าแมวโดเรมอนยังมีโอกาสได้ร่วมขบวนเพราะเป็นแมวกับเขาเหมือนกันโดยจะมีตู้ที่รวบรวมทุกสิ่งเกี่ยวกับโดเรมอนไว้ และหากสังเกตดีๆ แม้แต่บนพื้นรถยังมีรอยเท้าแมวเลยด้วย ช่างเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ
รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟที่เหมาะกับทาสแมวเป็นที่สุดค่ะ เหล่าทาสแมวควรหาโอกาสมาอยู่ในบรรยากาศที่มีแต่แมว “ทามะจัง” ทุกตารางนิ้วแบบนี้สักครั้งค่ะ แล้วเราจะรู้สึกเลยว่าในร่างกายที่เป็นผู้ใหญ่ของพวกเรานี้หัวใจยังเป็นเด็กกันทั้งนั้น
ไม่ใช่แค่เราคนไทยสองคนที่เมื่อขึ้นขบวนรถได้ก็เดินเก็บภาพรถไฟสายแมวอันแสนน่ารักกันอย่างสนุกสนานราวกับย้อนวัยเยาว์อีกครั้ง ทั้งหนุ่มสาว ผู้ใหญ่ชาวญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้แตกต่างจากเราเลย ไม่มีใครอายเด็กๆ กันสักคน รถไฟเดินทางถึงสถานีปลายทางเมื่อไรไม่รู้ตัวกันเอาเลย
สาเหตุที่เราจะเดินทางมาลงที่สถานีคิชิ (Kishi) เพราะจะมาหานายสถานีกันค่ะ แล้วที่นี้เราจะรู้กันล่ะค่ะว่า “ทามะจัง” ที่หนูเล็กพูดถึงคืออะไรกันนะ แล้วจะได้รู้กันค่ะ
ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักสถานีแห่งนี้จากนายสถานีหญิงสุดแสนน่ารัก “ทามะจัง” ที่เริ่มต้นจากการบอกเล่าแบบปากต่อปากจนเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวทาสแมวทั้งหลายต่างอยากเดินทางมาพบ มาทักทาย ได้ยลโฉมนายสถานีหญิงสักครั้ง ทำให้การรถไฟท้องถิ่นสาย Kishigawa ที่พบภาวะขาดทุนกลับมาพ้นวิกฤตได้ในที่สุด
“ทามะจัง”เป็นแมวจรจัดเพศเมียที่เจ้าของร้านชำที่อยู่ใกล้สถานีเก็บมาเลี้ยง วันหนึ่งได้นำทามะจังใส่ตะกร้ามาวางไว้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วของสถานีคิชิผู้โดยสารที่เห็นก็นำไปเล่าขานกันปากต่อปากถึงความน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้พอเหล่าทาสแมวทราบข่าวก็พากันเดินทางมาจากทุกสารทิศ เวลานั้นรถไฟสาย Kishigawa ซึ่งชาวบ้านใช้น้อยลงอยู่ เนื่องจากมีการตัดถนนเส้นใหม่แล้วชาวบ้านหันไปใช้รถยนต์มากขึ้น รถไฟกำลังประสบภาวะขาดทุนก็กลับมามีรายได้มากขึ้น ยิ่งเมื่อสำนักข่าวต่างประเทศนำเสนอข่าวเจ้าเหมียวทามะ ยิ่งทำให้มีรายได้มาสู่เมืองวาคายามาเพิ่มมากขึ้นมากนับพันล้านเยน ดังนั้น จึงได้มีการทำพิธีแต่งตั้งทามะจังให้เป็น “Super Master Station” หรือสุดยอดนายสถานีประจำสถานีคิชิตั้งแต่บัดนั้น
หน้าตาของ "ทามะจัง"
ทามะจังมีเครื่องแต่งกายประจำตำแหน่งนายสถานี สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว มีตารางปฏิบัติงานเหมือนพนักงานคนอื่นๆ ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องมาโดยตลอดจนถึงปี ค.ศ.2012 ด้วยอายุที่มากขึ้น การรถไฟวาคายามาจึงได้แต่งตั้งนายสถานีคนใหม่ขึ้นมาคอยช่วยต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งนายสถานีคนใหม่ชื่อ “นิทามะ” (Nitama) หรือทามะรุ่นที่ 2 ทั้งสองช่วยกันหมุนเวียนทำหน้าที่จนกระทั่ง “ทามะจัง” จากไปในปี ค.ศ.2015 มีอายุรวม 16 ปี 2 เดือน หรือเทียบเท่าคนอายุ 80 ปีเลยทีเดียวค่ะ นับว่าแข็งแรงมากๆ เลย
เพราะเป็นที่ทำงานของนายสถานี สถานีนี้จึงมีความพิเศษ นั่นคือ อาคารสถานีเขาทำเป็นรูปแมวเหมียวสุดแสนน่ารัก
อาคารสถานีคิชิ
ด้านหน้าสถานี
ส่วนภายในสถานีจะมีพิพิธภัณฑ์ทามะจังขนาดเล็กๆ ร้านขายของที่ระลึกที่สามารถเลือกซื้อของที่ระลึกที่เกี่ยวกับทามะจังได้หลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักซึ่งแน่นอนค่ะเขาตกแต่งในธีมแมวทั้งร้าน
ร้านขายของที่ระลึก
และที่สำคัญคือผู้โดยสารทุกคนจะได้พบกับนายสถานีตัวจริงในห้องทำงานพิเศษ สามารถไปถ่ายรูปคู่กับนายสถานีก็ได้ แต่ “ห้ามใช้แฟลช” โดยเด็ดขาดค่ะ
โฉมหน้านายสถานี "นิทามะ"
เราใช้เวลาอยู่กับสถานีอันแสนน่ารักแห่งนี้นานพอควร เพราะแค่จะถ่ายรูปกับนายสถานี “นิทามะ” ก็ต้องใช้เวลาต่อคิวนานพอดูทีเดียว ใครๆ ก็อยากถ่ายภาพค่ะ แต่สุดท้ายแล้วเมื่ออารมณ์ความเป็นเด็กหมดลงก็ได้เวลาเดินทางกลับค่ะ รอบนี้โดยสารรถไฟของเล่นกลับมายังวาคายามา อารมณ์ตื่นเต้นลดลงบ้างแล้ว
เมื่อมาถึงชานชาลาที่ 9 ก็ไปหารถไฟกลับมาโอซาก้า เล่นเอาฟ้ามืดเลยค่ะ
แต่อย่างไรก็นับเป็นวันที่ได้ปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวให้ได้ออกมาโลดแล่นบ้าง ก็สนุกดี
ว่างๆ แวะไปทักทายกับพี่ใหญ่และหนูเล็กกันได้ค่ะที่ https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
Piyai&Noolek
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09.26 น.