สายกินอึด กินถึก กินทน พลาดไม่ได้กับ Market Style Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร Panorama @Crowne Plaza Bangkok Lumpini Park (โรงแรม คราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ลุมพินี พาร์ค) ซึ่งที่นี่เขาก็ได้รวบรวมเมนูอาหารหลากสไตล์จากหลายประเทศมาให้พวกเราได้เลือกชิม แต่ที่เด่นๆเลยก็จะเป็น ไทย-จีน-ญี่ปุ่น ซึ่งสามารถทานได้เต็มที่ในเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม ตั้งแต่ 12.00-15.00น. โดยราคาอยู่ที่ 999 ต่อท่าน ไม่แพงเลยสำหรับโรงแรม 5 ดาวอย่างที่นี่
ในวันนี้เราเลือกนั่งที่โซนระเบียงติดหน้าต่าง จากตรงนี้ทำให้เราสามารถมองวิวสวยๆจากชั้น 23 ได้ ดีงามมาก !! บรรยากาศก็จะชิวๆหน่อย ในส่วนของไลน์อาหารก็จะอยู่ด้านใน ห้องอาหารที่นี่กว้างมาก สมชื่อเขาเลยล่ะ ลองไปดูบรรยากาศคร่าวๆกันค่ะ
ด้วยธีม Market Style ทำให้ไลน์อาหารที่นี่มีหลากหลายมากๆเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากอันไหนก่อน แถมดูน่ากินทุกอย่าง แต่ด้วยภาพลักษณ์ ก็เลยขอตักมานิดหน่อย เบาๆสวยๆ5555+
Recommended
- พวกติ่มซำ เป็ดย่าง หมูกรอบ หมูแดง ซึ่งอยู่ในไลน์อาหารจีนที่มาจากห้องอาหาร Xin Tian Di (ซินเทียนตี้) ภายใต้การควบคุมของเชฟกะทะเหล็กอย่างเชฟแลม ก๊ก เวง นั่นเองค่ะ
- สะเต๊ะปิ้งย่าง ปกติเราก็จะคุ้นเคยแต่หมูสะเต๊ะกันใช่ไม๊ แต่ที่นี่นำเนื้อสัตว์หลายชนิดมาทำสะเต๊ะให้เราได้ลองทานทั้งหมู ไก่ เนื้อ ปลาหมึก ปลา รวมถึงหอยด้วย ทุกอย่างหมักมาแบบเข้าเนื้อ ทำให้ไม่ต้องทานน้ำจิ้มก็อร่อย
- ไลน์อาหารญี่ปุ่นอย่างอุด้ง เทมปุระกรอบๆ และเทปันยากิปรุงสดๆ ทำออกมาได้ดีมาก รสชาติเข้มข้น สามารถเลือกเนื้อสัตว์ที่เราชอบได้เลย อ้อ..มีโรลปลาไหลด้วยนะ
- พาสต้าต่างๆ สามารถระบุได้ว่าเราอยากทานซอสแบบไหน เชฟจะทำให้เราเดี๋ยวนั้นเลย ทีเด็ดเลยคือคาโบนาร่ากับสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา ปรุงมาจัดจ้านรสชาติถูกปากคนไทย
นอกเหนือจากที่แนะนำมา อาหารอื่นๆก็อร่อยนะคะ กินเล่นกันเพลินไปเลย ระหว่างทานก็จะมีน้องพนักงานถือหาบขนมไทยมาให้เลือกด้วย :)
มาพูดถึงเครื่องดื่มและของหวานบ้าง ที่นี่เครื่องดื่มจะรวมอยู่ในราคาบุฟเฟ่ต์แล้ว (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) พวกน้ำหวาน น้ำชง ชาไทย ชาเขียว เราสามารถสั่งได้เลย (แอบเห็นว่าชาเขียวที่นี่ใช้มัชฉะด้วย) โดยเชฟก็จะชงน้ำให้เราเดี๋ยวนั้น หวานมากหวานน้อย บอกเชฟได้เลยค่ะ ส่วนของหวานก็มีทั้งเค้กรวมถึงขนมไทย ส่วนที่เรารีบพุ่งเข้าไปหาเลยคือข้าวเหนียวมะม่วง จัดหนักกันไป แต่เรื่องราวยังไม่จบเพราะเรายังไปต่อที่ไอศครีมโฮมเมดของโรงแรม เราชอบตรงที่มันเป็นรสที่ไม่ใช่ว่าเบสิคแบบวนิลลา แต่มีทั้งทุเรียน ลิ้นจี่ ใบเตยและแก้วมังกร การนั่งทานอาหารที่นี่ 3 ชั่วโมงแล้วไม่คลานกลับบ้านนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย อิ่ม จุก มาก
มาถึงในส่วนที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เห็นห้องอาหารที่มีโซนนี้เท่าไหร่นัก นั่นก็คือ Kids zone ซึ่งมีของเล่นและโทรทัศน์สำหรับคุณหนูๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ เพราะเขาจัดมุมไว้ให้รวมถึงมีโต๊ะอาหารที่อยู่ติดกัน สามารถทานไปดูแลเด็กๆไปได้ด้วย ในส่วนของราคานั้น เด็กอายุ 5-11 ปี จ่าย 500 บาท แต่ถ้าไม่ถึง 5 ขวบก็ฟรีเลยค่า ไม่เสียเงิน
ถ้าใครกำลังมองหาบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเราว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีอันนึงเลย เพราะนอกจากอาหารที่มีให้เลือกทานหลากหลายแล้ว พนักงานเองก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้บริการและให้ข้อมูลดีมากๆค่ะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกวันอาทิตย์ ห้องอาหารนี้ก็ยังมีธีมอาหารอื่นๆให้มาเลือกทานกันด้วยนะ อย่างเช่น
- Mussel Night ทุกเย็นวันศุกร์ ที่เสิร์ฟหอยแมลงภู่ตัวใหญ่จากออสเตรเลียโดยเสิร์ฟเป็นคอส ในราคา 949 บาทเน็ท ซึ่งราคานี้รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
- Seafood Night ทุกเย็นวันเสาร์ บุฟเฟต์อาหารทะลจัดเต็มในราคา 1,499 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮล์)
ห้องอาหาร Panorama ตั้งอยู่บนชั้น 23 ของโรงแรม สำหรับการเดินทางก็สะดวกมากๆ ใครมารถส่วนตัวสามารถขับตามแผนที่ในลิ้งค์นี้ได้เลย https://goo.gl/maps/Bva2NFn312u
ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะ สะดวกที่สุดคือการนั่ง MRT มาลงที่สถานีสีลม (ทางออก 2)แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามนิดนึง (มองจากสะพานจะเห็นตัวตึกโรงแรมแล้วแหละ) หรือใช้ BTS มาลงที่สถานีศาลาแดงแล้วเดินตามทางเชื่อมมาทางแยกศาลาแดงก็จะข้ามไปลงที่ฝั่งโรงแรมเหมือนกัน
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ฝากติดตามทั้งใน readme ::https://th.readme.me/id/imonit.story
และเพจในเฟสบุ๊คด้วยนะคะ :: https://m.facebook.com/imonit.story/
แล้วเจอกัน,,
I'm on it
วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.06 น.