อยากไปเชี่ยวหลานมานานมากแล้ว ได้มาจริงๆ ในช่วงที่บูมมากแล้ว ทริปนี้มาพักที่แพโตนเตยวันที่ 29-30 เมษายน 2561 ความตั้งใจแรกจะพักแพนางไพรแต่เต็ม สุดท้ายก็ตัดสินใจไปแพโตนเตย แพพักของอุทยานแห่งชาติเขาสกที่ไกลที่สุด
ก่อนเดินทาง ทำอะไรบ้าง?
1. จองที่พักที่เวปอุทยานแห่งชาติ จองที่พักอุทยานแห่งชาติ ลงทะเบียนเปีนสมาชิกก่อน ง่ายๆ ไม่กี่ขั้น
- เลือกอุทยานที่จะไปพัก
- เลือกวันที่เข้าพัก จะแสดงแพพักที่ว่าง เลือกหลังที่อยากพัก ยืนยัน มีใบชำระเงินให้ไปจ่ายที่กรมป่าไม้ หรือ ktb
- ปริ้นใบไปจ่าย เราเลือก ktb เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท ถือใบจ่ายนี้ไปวันเข้าพักด้วย
2. จองรถ ตอนแรกจะไปรถไฟแต่เหลือแค่ชั้น 3 ก็เลยเปลี่ยนเป็น สมบัติทัวร์ จองตั๋วออนไลน์
3. จองเรือไปแพพักด้วยก็ดี เราไม่ได้จองไปยืนรอนานมาก แพโตนเตยไกลไม่ค่อยมีใครยอมไป ลองโทรคุยกับพี่หญิง +66 89 866 8812
วันเดินทาง
เดินทางมาที่สายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี รถออกตรงเวลา รถมาตรฐาน ม1 (ก) สายใต้ไม่มีช่องเสียบ USB นะ ต้องประหยัดแบตมือถือกันเอง และเป็นรถ 2 ชั้นด้วย ของแจกบนรถก็ตามมาตรฐานสมบัติทัวร์ จุดจอดเพื่อกินมื้อดึกที่ทับสะแก ร้านใหม่ สวย ดี แต่เราไม่ค่อยชอบอาหารแบบโต๊ะกลมสามัคคีกินเท่าไหร่นัก อยากให้รถสายใต้สักเจ้าหันมาทำอาหารจานเดียว กินใครกินมันเถอะ
ถึงเวลาขึ้นรถก็หลับต่อ จุดลงรถแจ้งพนักงานไว้ว่าลงที่บริษัทสมบัติทัวร์ อยู่ในเมืองสุราษฎร์ธานีเลย ที่บริษัทฯ มีห้องน้ำและที่นั่งรอสบายๆ พอฟ้าเริ่มสว่างก็ออกเดินมาที่ตลาดเกษตร 2 เป็นสถานีขนส่งรถขนาดเล็ก มาถึงคิวรถยังไม่เปิดก็เลยมาหาของกินที่ตลาดก่อน มื้อเช้าง่ายๆ แต่อร่อย
เดินย้อนกลับมารอคิวรถปิดประตู รถไปเขื่อนเชี่ยวหลานรอบแรก 8:00 น. ราคาคนละ 150 บาท เบอร์ติดต่อตามตั๋วที่ได้มา ขากลับก็โทรให้เข้ามารับได้
รถเต็มทุกที่นั่ง ออกตรงเวลา ถึงเขื่อนเชี่ยวหลานตรงเวลา มาถึงก็ติดต่อเรือที่ชมรมเรือท่องเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน เราแจ้งว่าไปแพโตนเตยแบบค้างคืน ค่าเรือตามป้ายบอกไว้ 3,000 บาท
แจ้งจองเรือเสร็จก็เดินไปซื้อขนมตุนไว้ยามหิว กลับมาก็ยังไม่ได้เรือ เรียกมาหลายคนก็ไม่ยอมไปส่ายหัวกันหมด จนได้คิวพี่หญิงนี่แหละ แกยอมไปให้ พอได้เรือก็มาทำหนังสือเข้าพักอุทยานฯ จ่ายค่าธรรมเนียมอุทยานฯ 40 บาท ใครจะประทับตราใน passport อุทยานแห่งชาติก็ประทับที่นี่ ระหว่างรอคนขับเรือไปเตรียมเรือก็แวะถ่ายรูปกับป้ายและวิวที่ท่าเรือก่อน
เรือพร้อม คนพร้อม ก็ถึงเวลาออกเดินทาง ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือจากท่าเรือไปที่แพโตนเตยเกือบ 1 ชั่วโมง ตื่นตาตื่นใจมาก สนุกมาก
สนุกเกินจนโดนคนขับเรือเตือนว่าอย่าเดินเดี๋ยวเรือล่ม ลมแรง ขับเร็วด้วย และแล้วก็มาถึงแล้ว แพโตนเตย ทำไมถึงชื่อโตนเตย เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเป็นดงต้นเตย
ยื่นใบชำระเงินให้เจ้าหน้าที่ อาหารกลางวัน - เย็น มื้อละ 350 บาทต่อหัว ถ้าสั่ง 2 มื้อคิด 600 บาท ส่วนมื้อเช้าไม่ได้สั่ง เพราะต้องรีบกลับแต่เช้า แจ้งเรียบร้อยก็ไปแพพักกัน
วิวหน้าห้องพักก็จะฟินมากหน่อย หลังสุดท้ายเห็นวิว 3 ด้านเลย
สำรวจห้องน้ำเพิ่งทำใหม่ด้วย ชอบตรงที่มีช่องชมวิว ห้องน้ำสะอาด ไม่เหม็น เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบ่อย
วิวแพโตนเตยจากด้านบนห้องน้ำ
ถึงเวลาอาหารเที่ยง ให้เยอะสมราคา แถมอร่อยมาก รสจัด มีจืดมาตัดด้วย
พออิ่มฝนกระหน่ำหนักมาเลย ไม่ได้ไปถ้ำเพชรที่อยู่ไม่ไกล ลมแรงพัดหลังคาแพพักเสียงดังเลย
ตกหนักเกือบ 3 ชั่วโมงก็หยุด ถึงเวลาลงน้ำกัน
ไปกระโดดจุดกระโดดน้ำ และออกพายคายัค ขออภัยภาพสั่นและเอียงมาก ใช้เข่าหนีบกล้อง action camera ระหว่างพายคายัค เกรงจนเป็นตะคริว
เกือบ 2 ชั่วโมงในการแช่น้ำและทำกิจกรรมทางน้ำอย่างสนุกสนาน มื้อเย็นโต๊ะคนไทยก็จะอาหารรสจัดหน่อย อาหารเติมได้ไม่อั้น ยกเว้นปลา
พออิ่มก็กลับไปเอาอุปกรณ์มาขอชาร์จไฟได้ พี่เจ้าหน้าที่น่ารัก ใจดี และฝรั่งทั้งหมดก็เล่นไพ่แบบเอาสนุกไม่กินเงินกัน เพราะที่นี่ไม่มีสัญญาณมือถือ ทีวีเสียพอดี ก็จะเงียบๆ หน่อย คืนนี้เพลียจากการเดินทางและกิจกรรมทางน้ำหลับตั้งแต่หัวค่ำ
เช้าวันรุ่งคืน เสียงธรรมชาติรอบตัวดังก้องมากๆ ประทับใจที่สุด
มีหมอกรอบๆ ด้วย อากาศดีมากๆ
มื้อเช้าเราแค่จิบกาแฟ แต่พี่ๆ ใจดีให้ชิมแพนเค้กฟรีๆ ด้วย
ส่วนของฝรั่งจะเป็นแพนเค้กกับกล้วยหอม
8:30 ถึงเวลาต้องลาจากแพโตนเตยแล้ว 1 คืนท่ามกลางธรรมชาติ ไร้สัญญาณมือถือ มีแต่เสียงธรรมชาติดังก้องรอบตัว อาหารอร่อย ห้องน้ำมีกระจกชมวิวได้ด้วย เป็นคนไทยโต๊ะเดียวท่ามกลางฝรั่ง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ดูแลดีมาก จะหาโอกาสกลับไปพักอีก ระหว่างทางกลับก็จะมีหมอกและเมฆลอยต่ำด้วย
ึ
ไม่นานก็ถึงเขาสามเกลอ ไฮไลต์ของการมาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน
เรากับเขาสามเกลอ มีแค่รูปเดียวเท่านั้น ไฮไลต์ที่มัวแต่ถ่ายวิวจนลืมตัวเองไป
ไปต่อถึงเวลาเข้าฝั่งแล้ว ฟ้าก็ใสขึ้นเรื่อยๆ
น้องคนขับเรือที่พาเราไปแพโตนเตย และพาชมเขาสามเกลอ
ด้วยความเร่งรีบหรือด้วยอะไรไม่รู้ หางเสือหลุด คนขับต้องกระโดดลงไปดูแล้วเปลี่ยนหางเสือไป 2 อันแล้วสุดท้ายเราต้องโดนถ่ายเรือขอติดเข้าฝั่งด้วย วิวประตูระบายน้ำเขื่อนและสันเขื่อนจากเรืออีกลำที่อาศัยเขามา
พอถึงฝั่งเราก็ขึ้นรถตู้ที่จอดรอเลย โทรจองตั้งแต่ตรงเขาสามเกลอแล้ว จบทริปเขื่อนเชี่ยวหลานด้วยหลากหลายอารมณ์ ทริปต่อไปสมุยกับหมู่เกาะอ่างทอง เที่ยวทั้งจืดและเค็มเป็นปลาสองน้ำกันเลย
ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่:
IG: prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 04.34 น.