เริ่มต้นเดินทาง 23 พ.ย. 2558
วันแรกสำหรับการเดินทางไปเที่ยวภูกระดึงหลังจากเดินเท้าจากที่ทำการอุทยานด้านล่าง เดินแบกเป้หนักประมาณ 11 กิโลกรัมโดยเป็นการทดสอบการเดินขึ้นภูที่มีน้ำหนักถ่างด้านหลังซึ่งปกติแล้วจะมีบริการหาบขึ้นไปแต่ขาขึ้นขอทดลอง หลังจากเดินทางตั้งแต่ 7 โมงเช้านิดหน่อยถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณบ่ายนิดๆ กางเต้นท์และเดินทางต่อไปดูพระอาทิตย์ตกกับพี่ ซึ่งเป็นเสมือนเพื่อนใหม่ ปกติได้เจอเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันอีก 6 คนแต่วันนี้เดินทางไปดูที่ผาหมากดูกเพียงแค่ 2 คนเท่าเท่านั้นระหว่างทางเจอเจ้านี่ครับแมงมุมซึ่งปกติไม่ได้ใหญ่แบบนี้นะนี่คือภาพซูมจากกล้อง ไม่กล้าที่จะวางเหรียญเปรียบเทียบเพราะกลัวจะวิ่งหนีเสียก่อน


เดินทางจากจุดกางเต้นท์ตามเส้นทางสบายๆปรมะมาณ 2 กิโลเมตรระหว่างทางเจอป่าสนและต้นไม่อื่นๆ เส้นทางเดินสบายลักษณะดินทรายมีหินโผ่ให้เห็นตลอดระยะเส้นทางเดินต้องระวังแนะนำรองเท้าผ้าใบปกติแล้วการมาดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกนั้นสามารถที่จะเช่ารถจักรยานได้ในราคา 60 บาทซึ่งใช้สำหรับมาที่ผาหมากดูกเท่านั้นหากต้องการไปที่อื่นหรือผาหล่มสักก็ต้องเช่าทั้งวันราคาจะแพงกว่าแต่หากมีกลุ่มหรือมีเพื่อนเดินก็ได้บรรยากาศดีนะ


ด้านบนภาพที่มองเห็นจากผาหมากดูนั่นคือภูเรือซึ่งจะมองเห็นไม่ชัดเพราะว่ามีซึ่งหากอากาศแจ่มใสสามารถที่จะมองเห็นได้ชัดกว่านี้อย่างแน่นอนซึ่งหลายคนอาจจะไม่ค่อยสนใจจุดนี้เพราะว่าตอนนี้สิ่งที่ทุกคนนั้นต้องการจะดูคือพระอาทิตย์ลับทิวเขาไกลทางทิศตะวันตก


สำหรับภาพด้านบนไม่ใช่เงาของต้นไม้จริงนั่งถ่ายภาพซ้อนระหว่างที่รอพระอาทิตย์ตก ระหว่างนั่งอากาศก็เช่นสบายสำหรับต้นหนาวประมาณ 13-15 องศาซึ่งยิ่งค่ำอากาศก็ยิ่งหนาวสำหรับคนที่มาเที่ยวชมที่นี่ต้องเตรียมพร้อมเรื่องไฟฉายและเสื้อกันหนาวหรือเสื้อแขายาวกางเกงกายาวและแต่สะดวก นั่งบนลานหินใกล้ๆขอบหน้าผาโล่งสบายวันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ที่จุดนี้มีร้านค้า มีห้องน้ำให้ด้วยนะสำหรับใครที่อยากไปผาหล่มสักมาตามเส้นทางนี้ได้สำหรับวันรุ่งขึ้นเหมาะสำหรับปั่นจักรยานหรือเดินตามแต่สะดวก


สองภาพด้านบนเป้นส่วนหนึ่งในหลายสิบภาพดวงอาทิย์ตกซึ่งวันนี้แม้ว่าจะมีเมฆพอสมควรแต่สำหรับกล้องที่สามารถซูมได้ระยะไกลก็สามารถที่จะออกมาให้เห็นดังภาพแน่นอนว่าสำหรับคนถ่ายต้องชอบและประทับใจแต่สำหรับคนอ่านอาจจะคิดต่างได้นะเพราะแต่ละคนนั้นชอบมุมมองแตกต่างกันออกไป ถ่ายเสร็จหากไม่รีบกลับก็นั่งเล่นถ่ายต่อไปเรื่อยๆได้เพราะการเดินทางกลับหากมีเพื่อนเที่ยวด้วยกันแม้คุณจะเที่ยวคนเดียวเหมือนกันกับเราหาเพื่อระหว่างทางชวนมาดูและเที่ยวจุดอื่นได้ นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเที่ยวคนเดียวอาจจะแค่คนเดียวเมื่อออกเดินทางและระหว่างทางจนถึงแหล่งท่องเที่ยวได้เพื่อนเพิ่มอีกเยอะ



เช้าแล้วเข้าสู่เช้าวันใหม่วันที่สองสำหรับการเที่ยวภูกระดึงคนเดียว เช้านี้พามาชมบรรยากาศภูกระดึงยามเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น จุดที่น่าชมที่สุดและบรรยากาศก็ไม่ทำให้ผิดหวังซึ่งต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพราะต้องไปกับเจ้าหน้าที่เท่านั้นและหากไม่มีเจ้าหน้าที่คุณตื่นสายห้ามไปโดยลำพังเด็ดขาดเพราะจะเกิดอันตรายจากสัตว์ป่าได้ ภาพบรรยากาศยามเช้าที่นี่วันนี้หมอกลงเยอะมากพอสมควรจนบดบังวิวด้านล่างและเมฆหมอกเยอะแบบนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่ได้ภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ชัดเจนมากนัก สำหรับจุดนี้ไปกัน4 คนมาจากคนละที่และมีอีก 3 คนเพิ่มเติมเป็น 7 คนสำหรับวันนี้ 7 คนนี้เดินทางเที่ยวด้วยกันทั้งวันไม่มีภาพทั้ง 7 คนนะ


หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่บอกให้กลับได้ก็เดินต่อไปยังลานพระพุทธรูปและเดินทางกลับที่พักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับประทานอาหารเพื่อเดินทางเที่ยวต่อซึ่งวันนี้จะไปยังเส้นทางน้ำตกและไปยังผาหล่มสัก ทั้งวันแบบนี้ไม่น่าจะเหนื่อยเพราะอากาศดี ออกซิเจนเยอะ เรามาดูภาพระหว่างทาง ดอกไม้ป่าสวยงามตามแบบฉบับพื้นที่ราบสูง อากาศดี ยามเช้ายังสดใส


บรรยากาศจุดแรกของจุดเที่ยวที่น่าสนใจคือน้ำตกถ้าใหญ่แม้ว่าฝนจะไม่ตกแต่ก็ยังมีน้ำไหลใช้ชุ่มชื้นและบรรยากาสก็เหมาะมากสำหรับการเที่ยวในหน้าหนาว ซึ่งใบเมเบิลยังคงไม่แดงในช่วงนี้มีเพียงไม่กี่ใบเท่านั้น


ระหว่างทางเดินต่อไปยังน้ำตกเพ็ญพบก็จะเจอกับหลากหลายความสวยงามแม้กระทั่งใบใม้ดอกไม้ที่ร่วงลงจากต้นระหว่างทางรอวันเหี่ยวและสลายกลายเป็นปุ๋ยก็ยังสวยงามอย่างเช่นในภาพนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นดอกอะไรแต่น่าจะเพิ่งร่วงมาไม่นานนัก


ระหว่างทางไปสระอโนดาดยามบ่ายแสงแดดส่องแสงสะท้อนกับทุกหญ้าที่อยู่ไกลๆดูสีทองอร่ามได้เช่นเดียวกัน


เดินไปผาหล่มสักนั้นมีเส้นทางหลากหลายทาง ซึ่งหากว่าคุณเองต้องการที่จะเดินไปเส้นทางปกติหรือต้องการเดินไปยังผาเหยียบเมฆ ก่อนก็ได้สำหรับใครที่ต้องการเลือกแวะพักเพื่อทานข้าวเอาเองที่ผาเหยียบเมฆนั้นมีร้านค้าให้คุณแวะพักแต่เส้นทางไปจะผ่านทุ่งหญ้ามีเส้นทางเดินชื้นแฉะนิดหน่อยแต่หากเข้าหน้าหนาวเต็มที่น่าจะไม่ชื้นแฉะแน่นอนแต่ถือว่าเส้นทางก็สบาย จากนั้นเดินทางไปผาหล่มสักได้ภาพบรรยากาศเหล่านี้มา แม้ว่านักท่องเที่ยวจะไม่เยอะมากแต่ก็หามุมยากพอสมควร


ด้านล่างพันธุ์ไม้ที่บ้านเราก็มีแต่สถานที่แตกต่างก็ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ก็น่าสนใจดีแม้ว่าจะไม่แปลกตาเลยก็ตาม


การเดินทางและค่าใช้จ่าย
เดินทางจากจังหวัดตรังโ้วยรถไฟเที่ยว กันตัง-กรุงเทพฯ ราคาตั๋วนอนชั้นบน 645 บาท
ลงสายใต้ต่อแท็กซี่เหมาไปหมอชิตสอง 100 บาทปกติไม่น่าจะถึงราคานี้
รับตั๋วที่จองไว้กับภูกระดึงทัวร์ราคา 345 บาทไปกลับ 790 บาท
รอรถออก 3 ทุ่มกว่าแต่ออกจริง 4 ทุ่ม รถออกจากหมอชิตแวะที่ชัยภูมิและอีกที่ไม่แน่ใจนะ
ถึงผานกเค้าประมาณเกือบหกโมงเช้าถือว่าพอเหมาะ
เดินทางไปภูกระดึงจากผานกเค้า
-รถสองแถวนั่งก่อนเลยเดี๋ยวก็มีคนมาแชร์หากครบ 10 คนคนละ30 หากไม่ถึงก็300/จำนวนคนที่นั่งซึ่งเราได้ 10 คนพอดีจ่าย 30 บาท
ค่าเข้าอุทยานรอประมาณ 7 โมงเช้าจะเปิดทำการและหากจองเต้นท์ ถุงนอน ก็แจ้งได้ที่นี่หรือว่าหากจ่ายเงินมาแล้วล่วงหน้าก็นำหลักฐานแสดงได้ที่นี่เหมือนกันต่อแถวหากไม่เยอะใช้เวลาไม่นาน
-ไปวันธรรมดา20
-วันหยุด 40
เราไปวันธรรมดา 20 บาทครึ่งราคา
เดินไปด้านหลังจะมีจุดสำหรับลงชื่อขึ้นภูและมีจุดฝากสัมภาระแต่ไม่ต้องจ่ายเงินนะจะมีขั้วราคารายละเอียดไปจ่ายด้านบนเมื่อสัมภาระเรามาถึง กิโลกรัมละ 30 บาท
การเดินทางขึ้นภู
การเดินทางขาขึ้นหลายคนอาจจะสงสัยทำไมไม่มีภาพรายละเอียดให้ดู เราอยากจะให้คุณนั้นได้เลือกเดินทางแบบไม่ทราบเส้นทางมาก่อนหรืออาจจะไม่ต้องสนใจเพราะว่าจะมีความสนุกและน่าตื่นเต้นมากกว่า ซึ่งหากว่าคุณเองต้องการดูก็หารายละเอียดได้ไม่ยาก การเดินทางค่อนข้างจะเหนื่อยพอสมควรซึ่งมีจุดพักหลากหลายอยากให้คุณสัมผัสในวันเดินทางเองมากกว่านะ ซึ่งระยะเวลาสำหรับการเดินทางประมาณ5-6 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่ายราคาอาหารด้านบน
-อาหารตามสั่งจานละ 60ขึ้นไปถามว่าแพงไหมไม่แพงเลย เพราะเยอะมากและสามารถทานได้ไม่แตกต่างจากอาหารปกติทั่วไปที่เราทานกัน
-น้ำเปล่าขวดเล็ก 25 บาท ราคาเหมาะสมเพราะต้องจ้างหาบขึ้นมา
-น้ำเปล่าขวดใหญ่ 50 บาท ราคาเหมาะสมเพราะต้องจ้างหาบขึ้นมา
ราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อระยะทางไกลจากจุดกางเต้นท์ซึ่งก็สมเหตุสมผลดังนั้นสำหรับการเดินทางไปเที่ยวแต่ละจุดก็พกเงินติดตัวไปด้วยยิ่งเป็นแบงค์ย่อยหรือเหรียญน่าจะดีเพราะจะได้ไม่ต้องรอตังค์ตอนเพราบางครั้งร้านค้านั้นอาจจะไม่สะดวกเพราะลูกค้าเยอะหากเจอแบงค์ใหญ่ก็จะหาตังค์ทอนลำบาก

จุดที่น่าสนใจสำหรับการกางเต้นท์สำหรับคนที่นำเต้นท์ไปเองนอนคนเดียว เลือกบริเวณที่จัดไว้ให้ซึ่งเลือกได้ตามความสะดวกแต่หากจะให้ดีก็ใกล้กับต้นสนใหญ่ใกล้กับร้านค้าแรกหรือร้านค้าที่2

สิ่งที่อาจจะเลี่ยงแล้วแต่ยังเจอเสียงดังจากเต้นท์ข้างๆซึ่งครั้งนี้ก็เจอเช่นเดียวกันซึ่งเลยเวลา 4ทุ่มยังมีการส่งเสียงตอนแรกคิดว่าจะไม่ใกล้กับใครแต่มีกลุ่มที่มาทีหลังมาเป็นกลุ่มใหญ่

การเดินทางลงจากภูกระดึง
-ใช้เวลาเร็วกกว่าขาขึ้นเล็กน้อยเพราะลงเนินก้าวเท้าได้เร็วกว่า แนะนำหากคุณเดินเที่ยวจนเมื่อ ปวดเท้าเป้จ้างหาบน่าจะดีกว่านะแม้ว่าขาลงจะเบาแต่จะได้ทำเวลาได้ดีขึ้นหากจองตั๋วเที่ยวบ่ายไว้แต่สำหรับเราจองเที่ยวดึกดังนั้นไม่ใช่ปัญหาออกจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเกือบ 10 โมง

รอรถกลับกรุงเทพฯใช้เวลาพอสมควรสามารถหาอะไรทานได้แถวผานกเค้า นั่งรอใกล้ป้อมตำรวจผานกเค้ามีนักท่องเที่ยวอื่นๆอีกเยอะที่กลับวันเดียวกันดังนั้นไม่ต้องกังวลแต่ดูเที่ยวรถของเราให้ดีเพราะจะได้ไม่พลาดเที่ยวการเดินทางสำหรับท่านที่ต้องการจะเดินทางถึงหมอชิตเช้าพอดีก็เลือกเที่ยวออกจากเมืองเลยประมาณ 3-5ทุ่มน่าจะดี
-ถึงหมอชิต 5 โมงกว่าๆ ต่อรถแท็กซี่ไปสายใต้ใหม่ 101 บาท
-ซื้อตั๋วเที่ยว 7 โมงเช้ากลับตรัง 540 บาทถึงตรัง3 ทุ่มครึ่ง

เพื่อนใหม่ที่นี่ +6

ติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวคนเดียว

หรือแฟนเพจ เพจเรา


ความคิดเห็น