หน้าฝน ...คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้พาตัวเองออกไปสูดอากาศ สัมผัสไอหมอก ท่ามกลางวิวภูเขา ได้เห็นต้นไม้ ต้นหญ้าสีเขียวๆ เอาหละ งั้นออกไปเที่ยวกัน
ไปไหนดีหละ ที่ไหนยังไม่เคยไป.. ^0^
"อุทยานแห่งชาติแม่เมย" จ.ตาก สถานที่ที่หลายคนเห็นว่าเป็นแค่ทางผ่าน เพราะแค่คิดถึง ระยะทาง,การเดินทาง,เวลา ฯลฯ เชื่อว่าหลายๆคนคงคิดในใจว่า ไปที่อื่นกันก่อนดีไหม 5555+
แต่ใครจะรู้ว่าที่นี่แหละ เป็นอันซีนทะเลหมอกเมืองไทยอีกที่หนึ่ง ที่น่าไปเยือนสักครั้ง ว่าแล้วก็ตามไปเที่ยวกันเลยดีกว่า
การเดินทางคร่าวๆ
- สำหรับใครที่ขับรถไปเอง ไปทางเส้นทาง กทม-ตาก ก่อนถึง จ.ตาก จะมีทางแยกซ้ายเพื่อไปแม่สอด-ท่าสองยาง - แม่สะเรียง ตามทางหลวง 105 ถนนเป็นเส้นทางราดยางตลอด ขับง่าย ไม่ชันมาก มีการก่อสร้าง(ที่ยาวนานหลายปี 555+) แถวแม่สอดเป็นช่วงๆ ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังนะคะ
จากปากทางถึงที่ทำการอุทยานฯ ต้องขับรถเข้าไปอีกประมาณ 11 กม. ทางช่วงนี้เป็นทางชันขึ้นเขา โค้งหักศอกเยอะมาก (รถเก๋งสามารถขึ้นได้)
เราใช้เวลาขับรถจาก กรุงเทพฯ ถึงอุทยานฯ ประมาณ 10 ชม.ระยะทางทั้งหมด 632 กม. ค่ะ (โอ๊ว.. มายก๊อดด 555+)
- สำหรับใครที่ไม่สะดวกขับรถมา ก็สามารถนั่งรถโดยสารกรุงเทพ-แม่สอด มาได้ค่ะ แล้วมาต่อรถแดง แม่สอด-แม่สะเรียงที่ บขส แม่สอดได้เลย รถแดงจะจอดที่หน้าปากทางเข้าอุทยานค่ะ หลัวจากนั้นก็ โบก โบก โบกก ไปที่อุทยาน
ดูสิ เห็นภูเขาลูกนั้นไหม ขอแวะเก็บภาพนิดนึง ^^
และๆๆๆ แล้ว เราก็ถึงที่ทำการอุทยานนนน (ทำเสียงแอคโค่ว ตื่นเต้นนิดนึง 555+)
ค่าเข้าอุทยานทั้งหมด 170 บาท
- ค่ารถ คันละ 30 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน คนละ 30 บาท
- ค่ากางเตนท์ คนละ 40 บาท
ป้ายบอกระยะทางทั้งหมด เห็นมั้ย ไม่ได้โม้นะ
จุดชมวิวต่างๆ
ม่อนต่างๆ ในอุทยานที่เป็นจุดชมทะเลหมอก และ ที่กางเตนท์ จะมี 4 ที่
- "ม่อนครูบาใส" อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดกางเตนท์และจุดชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นที่สวยค่ะ ที่นี่เหมาะแก่การกางเตนท์ เพราะลมไม่แรง และสามารถชมทะเลหมอกได้ชัดเจนตอนเช้า
- "ม่อนพูนสุดา" อยู่ห่างจากม่อนครูบาใสเพียง 200 เมตร สามารถชมทะเลหมอกได้เหมือนกัน แต่อาจไม่สวยเท่าที่ม่อนครูบาใส และลานกางเตนท์เล็กกว่าม่อนครูบาใส
- "ม่อนกิ่วลม" เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่สวยที่สุดเลยค่ะ ม่อนกิ่วลมอยู่บนความสูง 940 เมตรจากระดับน้ำทะเล มองเห็นทะเลหมอกปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง มียอดเขาสูงต่างๆ โผล่พันสายหมอก วิวที่ม่อนกิ่วลมสวยมากและลานกางเตนท์กว้างมาก เป็นอีกม่อนที่น่ากางเตนท์มากก
(ทั้ง 3 ม่อน รถสามารถเข้าจอดถึงที่ได้เลย และปลอดภัยค่ะ พี่เจ้าหน้าที่ใส่ใจนักท่องเที่ยวดีมากๆๆ)
- "ม่อนปุยหมอก" เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก การเดินทาง จากตัวอุทยานต้องขึ้นไปอีก 3.8 ก.ม.ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง และต้องพักค้างแรม 1 คืน
หากใครต้องการขึ้นไปที่ม่อนปุยหมอก อาจต้องฟิตร่างกายหน่อยนะคะ เพราะ3.8 ก.ม.นี้ เป็นทางชันและขึ้นเขาอย่างเดียว มีทางราบและลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ป้ายบอกระยะทางไปจุดชมวิวต่างๆ
ที่พัก
ที่อุทยานมีลานกางเต๊นท์ให้บริการหลายจุด หรือถ้าใครไม่ชอบนอนเตนท์ ที่อุทยานก็มีบ้านพักให้บริการ
ส่วนเรา คืนนี้ขอกางเตนท์ที่ทำการอุทยาน ตอนเช้าค่อยขับรถขึ้นไปถ่ายรูป เพราะสะดวกเรื่องห้องน้ำ ส่วนทั้ง 3 ม่อน(ม่อนครูบาใส ม่อนพูนสุดา ม่อนกิ่วลม) ก็มีห้องน้ำนะคะ (แต่ไม่มีน้ำ,,ผ่างง 5555+)
ลืมบอก วันที่เราไป มีเตนท์เราเตนท์เดียวเลย ...ส่วนตั๊ว ส่วนตัวว
บนที่ทำการอุทยานไม่มีร้านขายอาหารนะคะ ต้องเตรียมอาหารไปเอง หรือ แวะซื้อที่ร้านหน้าปากทางเข้าอุทยานได้เลย
ลานกางเต๊นท์ที่ที่ทำการอุทยานสะดวกมากค่ะ แบ่งเป็นล้อคๆ แต่ละล้อคจะมี โต๊ะสำหรับนั่งเล่น และไฟทางให้
ห้องสุขาและห้องอาบน้ำ สะอาด น้ำไหลแรงดีค่ะ (ที่สำคัญ ไม่มีตุ๊กแก !! 555+)
ห้องน้ำเพิ่งสร้างใหม่เอี่ยมเลยค่ะ ,,โอ๊ยย.ปลิ้มม
บริเวณที่ทำการอุทยานจะมีลำธารเล็กๆ ให้นั่งชิลๆได้
คืนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อนนะคะ (ขาเริ่มเปลี้ยยยย) zzZZ
เช้าแล้วว ขับรถขึ้นไปชมวิวแต่ละม่อน
เส้นทางขับง่าย ชิลๆ ต๊ะต่อนยอน ไปเรื่อยๆค่ะ
ระหว่างทาง จะเจอวัว ควาย ที่ชาวบ้าน เลี้ยงปล่อยให้เดินในอุทยาน
ขับระวังไปชนพี่ๆเค้ากันนะคะ 555+
น้ำตกแม่ระเมิง น้ำตกเล็กๆ จุดแวะนั่งพักกินลมชมวิว อยุ่ระหว่างม่อนพูนสุดากับม่อนกิ่วลม
ต้องจอดแวะกดชัตเตอร์ตลอดทางเลยค่ะ วิวสวยจริงๆ
ใกล้ๆม่อนกิ่วลม จะเจอน้ำตกชาวดอย แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 500 เมตร
พี่วัวหันมามองกล้องนิดนึง
วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า (อยู่ดีๆเพลงนี้ก็ขึ้นมา 5555+)ุ่
ถึงแล้วว ม่อนกิ่วลม เราว่าม่อนนี้เห็นวิวได้กว้าง และสวยมากค่ะ
แค่นั่งมองวิวอย่างเดียวก็ฟินแล้วว
มองมุมไหนก็สวย ^^
และทั้งหมดนี้คือทริปสั้นๆ ที่เราเลือกเดินทางมา เพื่อมาเห็นด้วยตา มาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เรียนรู้สถานที่ใหม่ๆ
และสิ่งที่เราได้รับ คือ "แม่เมย" เป็นอีกตัวเลือกสำหรับใครที่ชอบภูเขา ชอบป่า ชอบหมอก อยากให้มาสัมผัสด้วยตัวเอง อาจจะระยะทางไกลและใช้เวลาการเดินทางนานสักหน่อย แต่สิ่งที่ได้มัน คุ้มค่าจริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^
สุดท้าย ขอฝากเพจน้องใหม่ Traveler :: แอบหนีเที่ยว https://www.facebook.com/traveleraepneeteaw/
ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
Netilug Nay
วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.21 น.